Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /home/idomy/domains/vlovepeugeot.com/public_html/forum/Sources/Load.php(249) : runtime-created function on line 3

Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /home/idomy/domains/vlovepeugeot.com/public_html/forum/Sources/Load.php(249) : runtime-created function on line 3
 สอบถามเรื่องหม้อน้ำ
 
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน 2024 เวลา 16:24:25

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  มีปัญหา /สอบถาม /ให้คำแนะนำ รถยนต์ peugeot แต่ละรุ่น
| |-+  30X
| | |-+  สอบถามเรื่องหม้อน้ำ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สอบถามเรื่องหม้อน้ำ  (อ่าน 4348 ครั้ง)
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« เมื่อ: วันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2015 เวลา 19:30:49 »


เป็นเครื่อง sri ครับ  น้ำลดอาทิตย์ละประมาณ 1 ลิตร แต่รถไม่มีอาการผิดปกติเรื่องความร้อน  สีน้ำมันเครื่องปกติ  น้ำหม้อน้ำปกติไม่มีสิ่งใดเจือปน ใช้งานได้ปกติ  ไม่ทราบว่าปกติหรือไม่ครับ  เพราะไม่มีระบบหม้อพักน้ำ ขอบคุณครับ   อะไร
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
Maxz-EBC Brakes
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,720



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: วันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2015 เวลา 20:07:05 »


หม้อน้ำเดิมๆ ถ้า 306 405 มันเป็นหม้อพักในตัวอยู่แล้ว ลองเช็คฝาหม้อน้ำก่อนครับ สปริงมันอาจจะล้าจนกักความดันไม่อยู่แล้ว
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ตัวแทนจำหน่าย
ผ้าเบรค จานเบรค EBC จากอังกฤษ
กรอง K&N แท้
ผลิตภัณฑ์หล่อลื่น Amsoil / Liqui Moly
กรองน้ำมันเครื่อง WIX
ติดต่อ Max (Authorised Dealer)
อื่นๆ -> Moty's Oil / Brembo OEM



Facebook : EBC Brakes Authorised Dealer-Nonthaburi หรือ พิมพ์ว่า @MaxEBCBRAKES ครับ

รายละเอียด จิ้มตรงนี้ ->>> http://www.vlovepeugeot.com/forum/index.php/topic,36
COCO
สิงห์ปริญญาเอก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 401


« ตอบ #2 เมื่อ: วันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2015 เวลา 20:07:38 »


ฝาหม้อน้ำยังใหม่ สภาพดี?
ตาน้ำข้างเสื้อสูบไม่รั่ว?
ลองเติมคูลแลนท์ดูครับ เอาแบบสีเขียวสีฟ้าน่ะ
จะพบรอยรั่วง่ายดี ว่าน้ำไปไหน

สุดท้าย ยังไม่พบ  เปิดฝาสูบบดวาล์วเคยไหมครับ
น๊อตฝาสูบเคยเช็คไหมครับ
ถ้ายัง ทำสักทีหนึ่ง อาการน้ำหาย น่าจะจบครับ

______
COCO
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
AB NORMAL
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,299


« ตอบ #3 เมื่อ: วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2015 เวลา 07:20:01 »


 ดูด้านหลังเครื่องด้วยนะครับ อาจมีการรั่วซึม ต้องดูหลายๆจุดครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
natthakit2005
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 24


« ตอบ #4 เมื่อ: วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2015 เวลา 07:46:25 »


เป็นเหมือนของผมเลย เวลาสตาร์ทจะมีน้ำไหลออกจากหม้อน้ำเล็กน้อย ขับไป 2 - 3 วัน จะต้องเติมน้ำเป็นลิตร ปรึกษากับช่าง ช่างบอกว่าน่าจะเป็นประเก็นลูกสูบเสื่อม ทำให้มีลมเข้าแล้วไปดันน้ำในหม้อน้ำออกมา...กะว่าจะเอาไปเข้าอู่ตรวจละเอียดแล้วครับ และอีกอย่างเวลาขับรถตอนแดดร้อน ๆ แอร์จะตัดไปเลย ต้องดับเครื่องรอแป๊ปแล้วสตาร์ทรถใหม่ แอร์ถึงจะใช้งานได้ ครัชแอร์เปลี่ยนได้ประมาณปีเศษ ๆ ช่างแอร์แถวบ้านบอกว่าต้องเปลี่ยนรีเลย์แอร์เป็นของญี่ปุ่นพร้อมเดินสายไฟเพิ่มถึงจะหาย เกี่ยวกันไม๊ครับ...ช่วยแนะนำด้วยครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
kla_2000
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 337


« ตอบ #5 เมื่อ: วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2015 เวลา 08:39:26 »


น่าจะมีรั่วแล้วหละ ฮีตเตอร์ตัดออกยังครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
40 ha
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 958


« ตอบ #6 เมื่อ: วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2015 เวลา 10:14:00 »


มันรั่วครับ แต่อาจมองไม่เห็น ถ้าเปลี่ยนฝาหม้อน้ำแล้ว ลองใส่น้ำยาหม้อน้ำ แล้วดูคราบ เวลารั่วแบบซึม ๆ มันจะมีคราบให้เห็น   
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #7 เมื่อ: วันพุธที่ 04 พฤศจิกายน 2015 เวลา 10:37:20 »


- ฮีตเตอร์ตัดออกไปแล้วครับ แปลงเป็นเทอร์โมสตรัทแบบญี่ปุ่น
- ฝาหม้อน้ำเช็คอย่างไรครับ 
- น้ำยาหม้อน้ำผมใช้สีเขียวครับ

จุดสังเกต
- ลองสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้เปิดฝากระโปรงดู ไม่พบน้ำรั่วออกทางฝาหม้อน้ำ / ท่อน้ำต่างๆจากแผงหม้อน้ำ / ตัวเครื่อง  ยกเว้นหลังเครื่องมุมอับสังเกตลำบากครับ
- พบคราบตะกรันสีชมพู(แต่น้ำยาผมสีเขียว) บริเวณกระเปาะข้างหม้อน้ำที่มีฝาเติมน้ำหม้อน้ำ แต่ตะกรันนี้มีมานานแล้วและไม่ได้มีปริมาณเพิ่มขึ้น  และไม่พบน้ำรั่วหรือซึมในขณะติดเครื่อง
- น้ำจะหายไปประมาณ 1 ลิตร  ต่อการใช้งานประมาณ 200 km สำหรับการวิ่งแบบในเมือง  แต่ถ้าวิ่งแบบทางไกลต่อเนื่อง  น้ำหาย 1 ลิตร ต่อการใช้งานประมาณ 300km



* IMG_20151102_193958 re400.jpg (95.84 KB, 400x300 - ดู 648 ครั้ง.)

* IMG_20151102_194022 re400.jpg (87.38 KB, 300x400 - ดู 558 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
40 ha
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 958


« ตอบ #8 เมื่อ: วันพุธที่ 04 พฤศจิกายน 2015 เวลา 11:24:59 »


นั่นล่ะครับรั่ว น้ำยาพอแห้งจะเป็นผงสีขาว มันไม่ได้เพิ่มขึ้นเพราะน้ำยาหม้อน้ำเริ่มใสครับ เนื่องจากความเข้มข้นมันลดลงแล้ว เช็ดคราบขาวออกให้หมด เอาแปรงชุบผงซักฟอกปัดออก   แล้วจะเห็นจุดที่มันซึมครับ ส่วนใหญ่เกิดจากตะกั่วบัดกรีตรงรอยต่อมันหายไป  เอาอีป๊อกซีี่อุดแทนก็ได้
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
AB NORMAL
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,299


« ตอบ #9 เมื่อ: วันพุธที่ 04 พฤศจิกายน 2015 เวลา 11:35:29 »


ผมว่าไม่นานครับ... อิๆ
น้ำหายเป็นไปได้หลายสาเหตุ ส่วนตัวคิดว่าจุดที่ถ่ายมาไม่น่าจะเป็นปัญหาครับ ถ้ารั่วจุดนี้ ตอนจอดน้ำจะดันออกมา หรือตอนที่เครื่องเย็นจะเป็นรอยซึม เปียกๆ
สาเหตุที่น้ำหายอาจจะมาจากปะเก็นฝาสูบเริ่มผุ ก็เป็นอีก 1 สาเหตุนะครับ เตรียมรับมือไว้ได้เลย หากต้องเดินทางไกล อิๆ

โชคดีครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
blue5968
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 211


« ตอบ #10 เมื่อ: วันพุธที่ 04 พฤศจิกายน 2015 เวลา 12:00:23 »


จากประสบการณ์และจากข้อมูลเจ้าของกระทู้เอาเท่าที่เห็นก่อน คราบที่เห็นเป็นการรั่วซึมจะมากหรือน้อยไม่รู้ รู้แต่ว่าซึม อันนี้ต้องไปร้านซ่อมหม้อน้ำครับ และจากรูปที่เห็นฝาหม้อน้ำเป็นของญี่ปุ่นหรือรถทั่ว ๆ ไป ไม่ทราบว่าหม้อน้ำนี้ได้แปลงมาหรือเปล่า หากแปลงมาก็ใช้ฝาหม้อน้ำอันนี้ได้ แต่ถ้ายังเป็นหม้อน้ำเดิม ๆ ฝาหม้อน้ำอันนี้ใช้ไม่ได้นะครับ คอมันสั้นยาวไม่เท่ากับฝาหม้อน้ำ ต้องใช้ของมันโดยเฉพาะ ผมเคยตกม้าตายมาแล้ว ทั้งล้างหม้อน้ำ เปลี่ยนฝาหม้อน้ำของใหม่ (เทียม) ของมือสอง (แท้) น้ำก็ยังดันออก สุดท้ายฝาหม้อน้ำไม่พอดีกันเพราะเจ้าของเดิมแปลงเป็นธรรมดามาแล้ว พอเปลี่ยนเป็นฝาธรรมดาน้ำไม่หายอีกเลย ผมว่าก่อนอื่นยังไงก็ต้องซ่อมหม้อน้ำอยู่ดีก็ล้างหม้อน้ำไปด้วยเลย แล้วให้ร้านดูด้วยว่าต้องใช้ฝาหม้อน้ำแบบไหน  อ้อ ที่พบบ่อยอีก 2 ที่ คือฝาครอบวาล์วน้ำกับ 3 ทางและท่อหลังเครื่อง ลองดูนะครับเผื่อเป็นแนวทาง ถ้าอยากได้ฝาหม้อน้ำแท้มือสองผมมีให้เอาไปลอง หรือจะเป็นของเทียมก็มีให้ลองเช่นกัน ตุ้งตังไม่ต้องพูดถึง ขอให้โชคดีครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
unggoon01
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 40


« ตอบ #11 เมื่อ: วันพุธที่ 04 พฤศจิกายน 2015 เวลา 12:59:08 »


ที่ผมเจอนะครับ 306 เครื่อง 1.8 8vavle
อันแรก ฝาหม้อน้ำ ตรงรุ่นต้องใช้ 1.4 bar แถมที่แปลงมาเป็นทองแดงคอลึกกว่าเดิม (แนะนำว่าใช้หม้อน้ำเดิมๆตรงรุ่นดีกว่าเครื่องได้ไม่ผุเร็ว :สะกดจิต:)
อันที่สอง หลังเครื่องจะผุง่าย เป็นตาน้ำ จะไหลอยู่ใกล้ๆกับน้ำแอร์
อันที่สาม ประเก็นฝาสูบแตก ผุ อันนี้ใช้ไปซักพักน้ำจะดันออกตรงฝา พอจอดรถน้ำจะไหลออก เป็นฟองเพราะแรงอัดเข้ามาผสมกับน้ำในหม้อน้ำท่อน้ำจะแข็งมาก เป็นหนักๆก็ฮีท  :หนาวจัง:
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #12 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 05 พฤศจิกายน 2015 เวลา 11:55:13 »


- หม้อน้ำผ่านการแปลงเป็นทองเหลืองมาครับจากเจ้าของเก่า  เลยไม่ทราบรายละเอียดมากนัก
- ตอนจอดใหม่ๆหรือติดเครื่องอยุ่ ไม่พบน้ำดันออกที่ฝาหม้อน้ำหรือที่ตะเข็บที่พบตระกรันครับ
- สีน้ำมันเครื่องใสปกติ ไม่เป็นนมข้น
- สีน้ำหม้อน้ำเขียวปกติ ไม่มีคราบใดๆเจือปน
- ความร้อน คงที่ที่ 80 ถ้าปิดแอร์วิ่ง 78-79 แม้ขณะน้ำหายไป 1 ลิตรแล้ว ก็ยังคงอุณหภูมิใช้งานตามนี้
- ไม่มีน้ำออกที่ท่อไอเสีย 

  เย็นนี้ว่าจะลองเดินเบา เปิดฝาหม้อน้ำดูลักษณะน้ำหม้อน้ำดูครับ  ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ ก็เหลือจำเลยที่เหลือคือ หลังเครื่อง 3 ทาง  แล้วจะมารายงานให้ทราบครับ


** Update **
ลองติดเครื่องจนถึงอุณหภูมิทำงาน แล้วเปิดฝาหม้อน้ำทิิ้งไว้ ไม่พบน้ำดันหรือฟองอากาศขนาดใหญ่ พบแต่ฟองเล็กเท่าเม็ดน้ำตาลทรายผิวน้ำกระเพื่อมเล็กน้อยไม่พบคราบอื่นๆ ลองดูตามตะเข็บที่เป็นตะกรันก็แห้งสนิท  อย่างนี้พอจะเดาว่ารั่วแถวหลังเครื่องหรือเปล่าครับ

** Update New **
เมื่อวานลองเอาน้ำฉีดล้างแผงแอร์  แต่น้ำกระเด็นไปโดนคราบตะกรันขาวปนชมพูตามรูป  และปรากฏว่ามันละลายเป็นน้ำสีเขียว!  ซึ่งก็คือสีน้ำยาหม้อน้ำผมเอง  ดังนั้นพอจะทราบแล้วว่ามันซึมตรงไหนครับแต่ก็แปลกมันไม่ซึมให้เห็นตอนใช้งานแล้วมันไปซึมตอนไหนเนี่ย  ขอบคุณทุกท่านมากครับ   หากใครเจอตระกรันสีแปลกไปจากสีน้ำยาหม้อน้ำที่ใช้  โปรดอย่าเชื่อสายตาตัวเอง เอาน้ำราดดูเลยครับ อิอิ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
guyboyz
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 57


« ตอบ #13 เมื่อ: วันอังคารที่ 19 มกราคม 2016 เวลา 14:26:37 »


สอบถามเพื่มครับ เนื่องจากหลังจากที่ได้สอบถามไปก่อนหน้านี้  ก็ได้ฤกษ์ทำการเปลี่ยนหม้อต้อแก๊สระบบดูดใหม่เนื่องจากหม้อต้มน่าจะรั่ว สตาร์ทแก๊สยากมาก กินแก๊ส วิ่งๆมาถ้าเบาเครื่องบางทีก็ดับไปดื้อๆ เลยจัดการเปลี่ยนใหม่โดยช่างอู่ทั่วไปได้เติมน้ำหม้อน้ำให้เต็มระบบใหม่ (แต่ไม่เห็นช่างทำการเปิดจุกไล่ลมตามจุดต่างๆ แค่ติดเครื่องแล้วกรอกน้ำลงไปเรื่อยๆ แล้วก็เอาขวดน้ำมาคว่ำลงสักพักปิดฝาจบพิธี)  แต่พบข้อผิดปกติจากก่อนหน้าเปลี่ยนหม้อต้มดังนี้ครับ

1. พบน้ำดันออกทางรอยรั่วหม้อน้ำตามที่โพสรูปไว้  หลังจากดับเครื่องจอดรถ  ตามด้วยเสียงฟู่ๆ ปุดๆ ของน้ำที่ดันอกตามรอยรั่วนั้นหยดลงพื้นเป้นสาย  ซึ่งก่อนหน้าเปลี่ยนหม้อต้มพบแต่น้ำค่อยซึมแบบเอื่อยๆตามรอยรั่วแบบเงียบๆไม่มีเสียงและปริมาณน้อยมากๆไม่ถึงกับหยดไปที่พื้น
2. ช่วงแรกจะดันออกมามาก  รั่วไหลทิ้งวัดได้ประมาณ 300cc และในการจอดครั้งต่อไปจะรั่วไหลทิ้งในปริมาณที่น้อยลงไปกว่าครั้งก่อนหน้าเป็นลำดับ
3. ไม่พบน้ำดันออกทางฝาหม้อน้ำ

ลองเปิดฝาหม้อน้ำติดเครื่อง พบอาการดังนี้  (ระดับน้ำในกระเปาะอยุ่ประมาณ 3/4)
ช่วงยังไม่ถึงจังหวะวาว์ลน้ำเปิด (temp <70)
- น้ำลดลงไปประมาณ 2 ข้อของนิ้วทันทีที่สตาร์ทเครื่อง
- ผิวน้ำมีฟองอากาศเท่าเหรียญสลึงปุดๆ เล็กน้อย แต่ไม่เป็นแบบน้ำพุ

ช่วงใกล้วาว์ลน้ำเปิด  (temp <88)
- น้ำเพิ่มระดับเอ่อขึ้นมาเรื่อยๆ  แต่ไม่ล้น
- ผิวน้ำมีฟองอากาศลดลงเป็นเม็ดเล็กๆแบบน้ำดือดนิดๆ  และไม่เป็นน้ำพุ

ช่วงวาว์ลน้ำเปิด  (temp <89)
- พัดลมหน้าทำงาน speed 1 ทั้ง 2 ตัว
- น้ำลดลงมาก จนเห็นท่อดูดน้ำใต้กระเปาะ 
- ไม่พบฟองอากาศ

ช่วงวาว์วน้ำปิด  (temp <85)
- น้ำดันกลับขึ้นมาที่ระดับเดิมเหมือนตอนที่เริ่มติดเครื่อง (ระดับ 3/4)
- ผิวน้ำปกติ ไม่มีฟองอากาศ มีแต่กระเพื่อมตามแรงสั้นของเครื่องยนต์  และไม่มีสิ่งเจอปน

วนเป็นวัฎจักรอยู่อย่างนี้ ตลอดการเปิด - ปิด ของระบบหม้อน้ำ อยู่ 4-5 รอบ
ลองดับเครื่องโดยไม่ปิดฝาหม้อน้ำ
- น้ำดันกลับมาที่ระดับก่อนติดเครื่อง  คืออยู่ประมาณ 3/4 เหมือนเดิม  ไม่พบน้ำดัน ล้น หรือรั่วออกทางรอยรั่วของหม้อน้ำ หรือฟองอากาศใดๆ

ลองดับเครื่องแบบปิดฝาหม้อน้ำ
- พบเสียงฟุ่ๆ  ปุดๆ ที่รอบรั่วของหม้อน้ำพร้อมน้ำรั่วออกทางรอยรั่วของหม้อน้ำ

 ข้อแตกต่างระหว่างตอนก่อนเปลี่ยนหม้อต้มและหลังเปลี่ยน
- ก่อนเปลี่ยนหม้อต้มพบน้ำซึมออกนิดๆผ่านทางรอยรั่วหลังดับเครื่องโดยปิดฝาหม้อน้ำแม้เติมน้ำเต็มหม้อน้ำ  หลังเปลี่ยนหม้อต้มเติมน้ำเต็มหม้อพักดับเครื่องน้ำรั่วซึมออกมามากตามรอยรั่ว
- ก่อนเปลี่ยนหม้อต้มน้ำในหม้อพักจะหายเร็วมากดังที่ลงรายละเอียดไว้   แต่หลังเปลี่ยนกลับสลับกัน เห็นน้ำรั่วออกมาเยอะขนาดนี้...แต่!!..น้ำแทบจะไม่หายเลย หรือลดลงไปในอัตราที่ช้ากว่าตอนเปลี่ยนหม้อต้มมาก  (วัดจากการเติมน้ำให้เต็มจนถึงฝาปิดหม้อน้ำ)

แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ไม่ว่าจะก่อนเปลี่ยนหรือหลังเปลี่ยน
- หม้อน้ำยังมีรอยรั่วที่รอยต่อของหม้อพักกับแผงหม้อน้ำ  ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ซ่อม
- ความร้อนไม่เคยเกินกึ่งกลาง  ทั้งในขณะวิ่งหรือจอด
- สีน้ำมันเครื่อง /  น้ำหม้อน้ำ เป็นปกติทุกอย่าง
- ไอเสียปกติ  ทั้งแก๊สและน้ำมัน
- เครื่องยนต์ปกติทั้งแก๊สและน้ำมัน  ในแง่ของกำลัง
- เวลาสตาร์รถตอนเช้า  ความร้อนขึ้นช้ามากถ้าวิ่งต่อเนื่อง  ถ้าหยุดติดไฟแดงเมื่อไหร่ความร้อนถึงเข้าใกล้อุณหภูมิทำงานเร็วขึ้น
- อุณหภูมิเวลาใช้งาน ไม่เปิดแอร์วิ่งต่อเนื่อง(ความเร็วประมาณ 70-100)อยู่ที่ 80-82 องศา ถ้าเปิดแอร์  79-80 องศา  วิ่งช้าสัก 20-30 อุณหภูมิก้จะสุงขึ้นอีกหน่อยประมาณ 82-85 องศา

** อยากทราบว่า
1. ระบบระบายความร้อนผมยังปกติมั้ยครับ
2. ที่น้ำรั่วออกมาเยอะตามรอบรั่วกว่าแต่ก่อน  เพราะไล่ลมในระบบไม่ดีหรือเติมน้ำเยอะเกินไปครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!