ต้องลองดูนะครับ
1.น้ำหาย หลังจากขับมาระยะทางยาว ในเมือง ไม่มีจุดรั่วซึม หลังจากเครื่องเย็น เปิดดูฝาหม้อน้ำ ว่า ภายในหม้อน้ำ มีคราบน้ำมันเครื่อง ปนอยู่หรือไม่ ถ้ามี แปรว่า มีการรั่วซึมจากหม้อน้ำ เข้าไปปน ใน ห้องเครื่อง อันตรายครับ เพราะ อาจจะมีส่วนใดของเครื่องยนต์ ผุกร่อน ทำให้ น้ำหล่อเย็น เข้าไปในระบบเผาไหม้ได้ ถ้าไม่มี ผก็อาจจะเป็นเพราะ พัดลมระบายความร้อนไม่ทัน น้ำระเหยออกมาเป็นไอความร้อน หายไปเองครับ
2.เกจ์วัดความร้อน เวลาเราเร่มใช้ น้ำยังไม่ร้อน ครับ เลยอยู่ขีดแรกๆ แล้วพอ ความร้อนมันเพิ่มขึ้น มันก็ค่อยๆ ขึ้นตามความร้อนของน้ำครับ ส่วนที่บอกว่า หลังจากที่จอด แล้ว ขับต่อ ทำไมเข็มขึ้นที่ขีดกลางเลย
อันนี้เพราะความร้อนสะสม ยังคงอยุ่ภายในหม้อน้ำครับ เลยทำให้ขีดวัด ยังคงแสดงอยู่ระดับนั้น
3.มีพัดลมระบายความร้อน ของหม้อน้ำ เดิมๆเลยตอนที่ได้รถมา ผมเห็นมีพัดลม 2 ชุด
1 เป่าด้านหน้ารังผึ้งแอร์
2.พัดลมเครื่อง เป่าตามรอบที่เร่ง
มีเพื่อนสมาชิก นำพัดลมของ Volvo 11 ใบ มาใส่ที่หน้าแผงรังผึ้ง ความร้อนของหม้อน้ำลดลง แอร์เย็นขึ้น
แต่จากที่ผมดัดแปลง ในปัจจุบัน ความร้อนผมขึ้นเต็มที่ แค่ 1/2 เกจ์ครับ
ผมนำแผงรังผึ้งแอร์ ยัดไปอยู่ใต้คานหน้า เอาพัดลมเครื่องออก หาแผงหม้อน้ำ (ผมใช้ของ ST191) มาใส่ จะมีพัดลมติดหม้อน้ำเดิม 1 ตัว ให้หาพัดลมหม้อน้ำของ Mitsubishi lancer มาใส่
เพราะจะมีขนาดบาง จะได้หลบแกนพัดลมเครื่องได้ด้วย
ส่วนระบบไฟฟ้า ต้องให้ช่างไฟเค้าจัดการให้ครับ บอกว่า ติดรีเลย์ + เทอร์โม
ให้พัดลมทำงาน 2 Step
step 1 ทำงานพร้อมคอมแอร์ คือถ้าขับรถไม่เปิดแอร์ พัดลมไม่ทำงาน
step 2 ทำงานเมื่อความร้อนขึ้นระดับ 95 องศา อันนี้ จะมีตัวคอยล์ควบคุม คอยล์ตัวนี้ ติดมากับชุดหม้อน้ำ ตอนซื้อต้องบอกก้วยว่า เอาทั้งเทอร์โท และคอยล์ (ไม่รู้เรียกถูกมั๊ย ที่เป็นแท่งเซรามิคเหลี่ยมๆ ขาวๆ) อาจจะกินไฟมาหน่อย ถ้าแบตอยู่ที่ 60-70 อาจจะต้องปรับเป็น 75 - 100 เวลาเปลี่ยนแบตครั้งต่อไป
ทำตามนี้ ความร้อนคงที่ เสียงก็เงียบกว่าเดิม 20-30% ครับ
แล้วถ้าแอร์ไม่เย็น ก็หาพัดลมไฟฟ้า แบบป่าเข้า ตัวบาง มาเสริมที่หน้าแผงแอร์ 1 ตัวครับ