vlovepeugeots Webboard |
ไม่มีใครใช้405griเลยเหรอครับ ช่วยด้วย
สวัสดีครับ ดีใจมากครับที่หาwebนี้เจอซะที อ่านในกระทู้แล้วไม่เห็นมีปัญหาของ405Griเลย ถ้าไงผมขอเป็นคนเปิดซิงถามแล้วกันนะครับ ถามแบบโง่ๆเลยนะครับเพราะว่าไม่รู้จริงๆครับโดยคุณ : เดะ - [ 5 เม.ย. 2545 , 05:56:39 น. ] |
ตอบ
โอ้โฆ มาเช็คข้อความตัวเองพิมพ์ผิดเพียบเลย พิมพ์แบบไม่เลยหน้าดูเลย มันอยากทราบคําตอบเร็วนะครับ ข้อ 2นี่เข็มความร้อนนะครับโดยคุณ : เดะ [ 5 เม.ย. 2545 , 06:01:46 น.] |
ตอบ
ผมขอตอบรวมๆ แล้วกันครับ ผมว่าอันดับแรกคุณเปิดฝากระโปรงแล้วไปดูที่มอเตอร์วัดแรงดันน้ำยาแอร์(ส่วนใหญ่จะเสียตามอายุประมาณ 80,000 Km) จะมีลักษณะเป็นลูกกลมๆ คล้ายกลับมอเตอร์อยู่ติดกับหม้อน้ำด้านตรงข้ามกับฝาหม้อน้ำ คุณลองสังเกตุดูว่ามีคราบน้ำมันจับอยู่รึเปล่า ถ้ามีผมว่ามันน่าจะเป็นสาเหตุของปัญหาเรื่องแอร์และความร้อนเลยล่ะ เพราะว่าเจ้าตัวนี้จะควบคุมสเตปการหมุนของพัดลมจะมีผลต่อระดับความร้อนของเครื่องยนต์(ของผมเพิ่งเปลี่ยนมาจาก 90 ลดลงเหลือ 78-85 โดยประมาณ) และมีผลต่อน้ำยาแอร์เพราะว่าเมื่อมีคราบน้ำมันแสดงว่าเกิดการรั่วของน้ำยาแอร์และน้ำมันคอมเพรสเซอร์แอร์แต่ว่าน้ำยาแอร์จะระเหยไปในอากาศจึงเหลือแต่คราบน้ำมันเท่านั้น ถ้าไม่ได้รั่วจุดนี้คุณต้องให้ร้านเช็คระบบแอร์ทั้งหมดว่ารั่วรึเปล่า ถ้ารั่วไม่ต้องรอให้เสียจนใช้ไม่ได้เพราะคราบน้ำมันที่รั่วอาจจะทำให้ขั้วของมอเตอร์รัดวงจรจนทำให้กล่องสมองคุมแอร์ที่อยู่ในตัวรถเสียหายได้ (ของผมเดี้ยงมาแล้ว) ราคาของมอเตอร์อยู่ที่ 1,600 บาท ร้านไทยธงชัยครับ สามารถเปลี่ยนเองได้จะมีน้ำยาพุ่งออกเล็กน้อย ส่วนเรื่องเบรคเป็นปกติของดิสก์เบรดครับถ้าไม่สบายใจก็เปลี่ยนผ้าเบรคและขัดจานให้เรียบคงจะดีขึ้นครับโดยคุณ : Peugeotlism [ 5 เม.ย. 2545 , 09:56:43 น.] |
ตอบ
เรื่องความร้อนคงผิดปกติไปนิดหน่อยแล้วครับโดยคุณ : 505 man [ 5 เม.ย. 2545 , 10:55:16 น.] |
ตอบ
ขอบคุณทั้ง2ท่านครับที่ช่วยครับ อาการเป็นอย่างที่คุณpeugeotlismบอกครับมีคราบนํามันจริงๆเสาร์นี้จะเข้าอู่ไปเช็คครับ แล้วถังพักนําของหม้อนําหละครับอยู่ตรงไหนแจ้งให้ทราบอีกสักคําถามเถอะครับ ขอบคุณครับโดยคุณ : เดะ [ 5 เม.ย. 2545 , 13:28:48 น.] |
ตอบ
รุ่นนี้ไม่มีถังพักน้ำของหม้อน้ำครับ ว่างๆ ถอดกระจังหน้าออกมาแล้วเอาลมเป่ารังผึ้งแอร์+หม้อน้ำเพื่อไล่ฝุ่นและเศษแมลงออกบ้างก็ดีครับ ช่วยให้สะอาดและระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิมโดยคุณ : สิงห์ทอง [ 5 เม.ย. 2545 , 16:56:25 น.] |
ตอบ
OK. ผมคิดว่าคุณถอดเอาป็นตัวอย่างไปซื้อได้เลยครับคิดว่าชัวร์แล้วล่ะครับ จริงอยู่ที่ตอนนี้มันยังใช้ได้อยู่ ส่วนแอร์ก็ยังมีความเย็นอยู่ (สภาพการทำงานจะไม่สมบรูณ์ 100%หรอกครับ) แต่ว่าถ้าเมื่อไหร่ที่มันลัดวงจรคราวนี้คุณก็จะต้องเสียเงิน 2 ต่อนะครับ ผมแนะนำให้เปลี่ยนมอเตอร์(ทำเองไม่ยากแค่ถอดกับใส่) แล้วไปเติมใน้ยาแอร์ใหม่ ส่วนหม้อน้ำผมแนะนำให้ล้างระบบแล้วเติมน้ำยาหม้อน้ำตามกระทู้ 02627 ครับ ส่วนเรื่องอู่ผมว่าขึ้นอยู่กับความพอใจ แล้วก็อาการที่จะซ่อมนะครับ อย่างบางอู่ราคาจะแพงกว่าที่อื่นสัก 200-300 บาท แต่รับประกันงานซ่อม แล้วก็สะดวกใกล้บ้านก็ไม่น่ามีปัญหาครับ แต่ว่าบางครั้งเราก็ต้องพิจารณาตัดสินใจเองเหมือนกัน อย่างเรื่องกล่องสมองแอร์ของผมถ้าผมทำที่ร้าน.....ผมก็คงจ่ายแพงกว่าที่ผมไปหาซื้อของเองมากว่าเท่าตัว แต่มันก็ธรรมดาครับอู่เขาก็มีภาระที่จะต้องจ่ายหลายอย่างทั้งค่าเงินเดือนลูกน้อง และอื่นๆ อีก แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ผมจะพิจารณาเป็นข้อแรกๆ ก่อนที่จะนำรถซ่อม คือ 1. มีความชำนาญในรถรุ่นนั้นๆมากน้อยเพียงใด(สังเกตุรถที่เข้าซ่อมจอดนานๆ มั้ย กี่คัน) 2. ต้องมีการแจ้งราคาที่แน่นอน 3. สะดวกใกล้บ้านมากที่สุด 4. มีความจริงใจ (บางอย่างไม่เป็นอะไรมากก็ไม่คิดเงิน) 5.เช็คราคาอะไหล่เปรียบเทียบ (พิจารณาตามความเหมาะสม+กำไรม ค่ารถ ให้เค้าบ้าง) ขอให้โชคดีครับโดยคุณ : Peugeotlism [ 5 เม.ย. 2545 , 17:37:38 น.] |
|