vlovepeugeots.com - Please Ctrl+DBookmark Now!

vlovepeugeots Webboard


ขอความช่วยเหลือปัญหาเปอโยต์ 306 ค่ะ
ปัจจุบันใช้รถเปอโยต์ 306 SRIA เครือง 1800 ซีซี ปี 1997 เกียร์ออโต้นะคะ (ตอนซื้อเป็นรถใหม่นะคะ) ใช้มาได้เกือบ 5 ปีเต็มแล้วค่ะ มีปัญหาดังนี้นะคะ
1. รถอืดเร่งไม่ขึ้นค่ะ ช่วงสตาร์ทรถ เปลี่ยนเกียร์จาก P หรือ N + เบรคมือ เป็น D เหยียบคันเร่งเพื่อจะออกตัว เกียร์ 1 จะลากยาวมากๆ กว่าจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ 2 น่ะค่ะ
มักจะเป็นแทบทุกครั้งที่สตาร์ทรถ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ครั้งแรกของวัน หรือการใช้รถหลายๆ ครั้งในวันเดียวกัน สาเหตุไม่น่าจะเกิดจากการที่เครืองเย็น ต้องอุ่นเครื่องก่อนใช่ไหมคะ
2. รถเร่งไม่ขึ้น สั่น และกระตุกมากๆ เวลาจอดติดไฟแดงเมื่อเปลี่ยนเกียร์จาก N เป็น D เพื่อออกรถค่ะ ถูกบีบแตรไล่บ่อยๆ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรคะ บางครั้งสั่นมากๆ จนเครื่องดับเลยค่ะ ไม่ได้เหยียบคันเร่งอะไรเลยนะคะ แค่เข้าเกียร์ D เฉยๆ
3. รถจะกระตุกเมื่อเปิดไฟเลี้ยว หรือไฟหรี่ หรือไฟหน้า มันจะเป็นที่ระบบไฟหรือเปล่าคะ
อาการทุกอย่างเคยแจ้งศูนย์แล้ว แต่ไม่สามารถแก้ไขใดๆ ได้ ศูนย์บอกว่าเป็นที่เกียร์ ต้องถอดทั้งหมดส่งเข้าศูนย์ที่กทม. (ลืมบอกไปว่าดิฉันอยู่เชียงใหม่นะคะ) ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ 5 หมื่น และจะใช้เวลา 1 เดือนเป็นอย่างน้อย ดิฉันก็เลยไปหาอู่ข้างนอกทำให้ ช่างเขาว่าเป็นที่ระบบไฟ จ่ายไฟไม่พอ ไม่แน่ใจว่าช่างทำอะไรให้บ้างนะคะ เพราะไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลย ช่างบอกว่าเปลี่ยนอะไหล่บางตัวในเกียร์ออโต้ และเปลี่ยนสายคิดดาวน์ อาการรถดีขึ้นบ้างเล็กน้อย สั่นและกระตุกน้อยลง และไม่สั่นจนเครื่องดับอีก แต่ตอนนี้ผ่านมาได้ประมาณ 3 เดือน อาการทุกอย่างกลับมาอีกแล้วค่ะ ไม่อยากเอาเข้าอู่ข้างนอกเหมือนเดิมเพระช่างแก้ไม่หายขาด และไม่อยากเอาเข้าศูนย์เพราะศูนย์เชียงใหม่ปฏิเสธมาแล้วว่าทำไม่ได้ ต้องถอดเกียร์เข้ากทม. อย่างเดียว และว่าเป็นที่เกียร์สาเหตุเดียวค่ะ
ขอคำแนะนำว่าเป็นเพราะอะไร ต้องแก้ไขเปลี่ยนอะไหล่อะไรบ้างคะ หรือพอจะแนะนำอู่ข้างนอกที่เชียงใหม่ที่สามารถแก้ไขอาการดังกล่าวให้ด้วยค่ะ
(ตั้งกระทู้เดียวกันนี้ในพันทิพย์แล้วมีคนแนะนำให้มาเว็บนี้ค่ะ)
โดยคุณ : ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ - ICQ : - [ 16 ก.ค. 2545 , 13:16:39 น. ]

ตอบ
คุณ 505 man คุณสิงห์เฒ่า คุณ 8 ช กรุณาตอบคำถามให้ด้วยครับ เพราะรู้สึกว่าถ้าหากไปซ่อมกลับช่างที่ไม่รู้จริง ผมว่าบานปลายแน่ คุณรอสักครู่เพื่อนๆ ก็จะมาแน่นำเองครับ
โดยคุณ : เฮง [ 16 ก.ค. 2545 , 14:05:36 น.]

ตอบ
คุณฯ
ลองโทรปรึกษาที่อู่พรมประสิทธิ์ ที่นี้เขารับทำเกียร์ออโตโดยเฉพาะ โทร 01 350-6842,
02 319-9633-5
โดยคุณ : 6212 [ 16 ก.ค. 2545 , 15:12:45 น.]

ตอบ
เท่าที่อ่านมารู้สึกว่าปัญหาบางอย่างไม่ได้เกิดจากเกียร์มีปัญหา (เช่น เปิดไฟ แล้วเครื่องกระตุก) ถ้าเป็นที่ระบบไฟจ่ายไฟไม่พอ มันก็คงจะสตาร์ทไม่ติดไปแล้ว
อยากจะแนะนำให้ไปล้างเกียร์แบบ flush and fill ดูก่อนค่าใช้จ่ายประมาณ 3000 บาท
และอยากจะให้เปลี่ยนกรองเบนซิน หัวเทียน กรองอากาศ (ไม่ทราบว่าครั้งสุดท้ายที่เปลี่ยนพวกนี้เนี่ยเมื่อไหร่?)
โดยคุณ : B [ 16 ก.ค. 2545 , 15:23:22 น.]

ตอบ
ข้อ1 และ 2 น่าจะเกิดจากเกียร์ ไม่ทราบว่าถ่ายน้ำมันเกียร์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ ถ้านานมาแล้ว (เกิน 1 ปี) ลองถ่ายน้ำมันเกียร์ก็ดีครับ ถ้าจะลงทุนอีกนิดทำ flush&fill (คือล้างระบบด้วยน้ำยาแล้วจึงเติมน้ำมันลงไปใหม่ - มีที่พวก car care ใหญ่ๆน่ะครับ) ก็ดีครับ ถ้ายังไม่หายอีกคงต้องรื้อเกียร์มาซ่อม ค่าใช้จ่ายในการซ่อมจะประมาณ 2xxxx บาท ขึ้นอยู่กับว่าเสียหายมากแค่ไหน

ส่วนข้อ3 มีความเห็นว่าน่าจะเกิดจากระบบไฟครับ น่าจะเป็นไฟจ่ายไม่พออย่างที่ช่างเขาว่า (แต่ไม่เห็นช่างแก้ไขระบบไฟให้ - ดันมาเปลี่ยนสาย kick down ซะนี่ ???) ลองหาร้านทำไดนาโมที่พอเชื่อใจได้ให้เขาเช็คไฟชาร์จว่าพอหรือไม่ อ้อ อย่าลืมเรื่องพื้นฐานเช่นความตึงของสายพานไดชาร์จด้วยนะครับ ถ้ามันหย่อนก็ทำให้ไฟชาร์จไม่พอได้เหมือนกัน (แต่คุณน่าจะได้ยินเสียงสายพานมัน slip ไปแล้ว)

อย่างไรก็ตามมีจำเลยอีกตัวที่น่าสนใจคือมอเตอร์ควบคุมรอบเดินเบาเพราะมันจะทำหน้าที่ในการปรับชดเชยรอบเดินเบาเมื่อเครื่องยนต์มีโหลดเพิ่ม เช่นการใส่เกียร์ D แล้วเหยียบเบรคค้างไว้ จนถึงการเปิดไฟอย่างที่คุณว่ามา อันนี้วิธีแก้ไขให้ลอง(ให้ช่าง)ถอดออกมาล้างทำความสะอาด(ด้วยน้ำมันเบนซิน)ดูครับ ค่าแรงไม่น่าเกิน 500 บาท
โดยคุณ : สิงห์เฒ่า [ 16 ก.ค. 2545 , 20:03:13 น.]

ตอบ
ขอบคุณทุกคำแนะนำนะคะ
ขอชี้แจงปัญหาเพิ่มเติมหน่อยนะคะ เพราะในพันธ์ทิพย์บางท่านบอกว่าอาจเป็นเพราะโอเวอร์ฮีต
รถเคยโอเวอร์ฮีตค่ะ แต่หลังจากเกิดอาการต่างๆแล้ว
หลังจากที่เกิดอาการต่างๆ และอู่ข้างนอกแก้ไขได้แล้ว ดิฉันนำรถไปดอยอ่างขางและประสบปัญหาโอเวอร์ฮีต เมื่อกลับมาก็นำรถไปเข้าศูนย์ ช่างแจ้งว่าพัดลมมอเตอร์เสียไป 1 ตัว ก็ทำการเปลี่ยนใหม่ พร้อมการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์และน้ำมันต่างๆ ดิฉันก็แจ้งศูนย์นะคะว่าอาการเดิมกลับมาอีกแล้วด้วย เพราะคราวที่แล้วศูนย์เองก็ทราบว่าดิฉันเอาไปเข้าอู่ข้างนอก แถมศูนย์เองยังบอกด้วยว่าถ้าช่างที่อื่นทำได้ก็เอาไปให้เขาทำซี แต่คราวนี้ช่างที่ศูนย์ไม่ได้พูดถึงผลที่จะตามมาหลังการเกิดโอเวอร์ฮีตเลยค่ะ ถ้าอาการต่างๆ เกิดจากโอเวอร์ฮีต ทำไมก่อนหน้านี้ก็เป็นทั้งๆ ที่ไม่โอเวอร์ฮีตล่ะคะ แต่ถ้าครั้งหลังเป็นเพราะโอเวอร์ฮีต ทำไมช่างที่ศูนย์ไม่บอกอะไรเลยคะ หรือพวกเขาถือว่าซ่อมไม่เป็นบอกไปก็เท่านั้น
ส่วนเรื่องน้ำมันเกียร์ และน้ำมันต่าง ๆกรองต่างๆ ดิฉันเพิ่งให้ศูนย์จัดการให้ยังไม่ถึง 1 เดือนเลยค่ะ แต่ไม่ได้ flush and fill และทางศูนย์ก็ไม่ได้แนะนำให้ทำ flush and fill ด้วยค่ะ
แต่สรุปว่าอาการทุกอย่างที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากโอเวอร์ฮีตใช่ไหมคะ
สำหรับคุณความเห็นที่ 1 คะ ถ้าดิฉันโทรไปสอบถามช่างอู่ที่กทม. ที่คุณทราบ เขาจะพอบอกได้ไหมคะว่าเป็นเพราะอะไร และควรทำอย่างไร
อันที่จริงก็กะจะขายเหมือนกันค่ะ แต่ก็จำเป็นต้องซ่อมให้อยู่ในสภาพที่ขายได้เสียก่อนด้วย



โดยคุณ : เจ้าของกระทู้ [ 16 ก.ค. 2545 , 21:18:48 น.]

ตอบ
น่าเห็นใจครับ อยู่ถึงเชียงใหม่ พวกเรามีใครอยู่เชียงใหม่บ้าง ช่วยแนะนำหน่อย
สิ่งที่คุณสิงห์เฒ่าแนะนำนั้นน่าจะลองทำดู แต่ถ้าคุณไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์และยังไม่รู้จักช่างที่ซ่อมpeugeot ผมว่าคุณคงแย่แน่ๆ เพราะบางเรื่องบางอย่างต้องรู้ ไม่ยังงั้นคงซ่อมไม่หาย(ช่างต้องรู้และเราก็ต้องรู้ด้วย)
ผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับ 306 ของพี่สาวเรื่องเกียร์เหมือนกัน แกใช้มาก็ปกติดี แต่น้ำมันเกียร์สีเหมือนโอวันติน ผมก็ไม่รู้ก็แนะนำให้ไปเปลี่ยนถ่าย ใช้ได้ไม่กี่วันวิ่งไม่ได้เลย พี่สาวผมเอาไปซ่อมกับช่างvolvo เขาบอกว่าซ่อมได้ไม่น่ามีปัญหา สาเหตุที่น้ำมันเกียร์สีโอวันตินเพราะน้ำเข้า นำเข้าทางสายkick down และ switch start เนื่องจากเมื่อตอนออกรถมาใหม่ๆ รถคันนี้มีปัญหาเรื่องแบตฯ ขี้เกลือหกใส่เกียร์เต็มไปหมด พี่ผมเอาน้ำล้างบริเวณนั้นประจำ เลยทำให้นำเข้าทางที่ว่ามา และช่างvolvo คนนี้เขาก็บอกว่าถ้ามีอาการน้ำเข้าแบบนี้ไม่ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทีเดียว ควรจะถ่ายออกทีละน้อยๆหรือประมาณ 1 ลิตร แล้วใส่น้ำมันใหม่ลงไปผสม ให้ทำแบบนี้ทุกอาทิตย์จนน้ำมันเกียร์เปลี่ยนเป็นสีปกติ ทุกอย่างก็จะเป็นปกติ และเขาก็บอกว่าvolvo460 ก็เป็นแบบนี้แทบทุกคัน และเขาก็ทดลองวิธีที่บอก ไม่ต้องยกเกียร์เลย แต่ถ้าเอาไปflush&fill เขาบอกว่าไม่เกิน 2 อาทิตย์พัง
ก็แปลกดี และทุกวันนี้พี่สาวผมก็ใช้รถอย่างมีความสุข เพราะเสียเงินซ่อมเกียร์ไปเกือบห้าหมื่นและก็เปลี่ยนแบตฯเป็นnationalไม่เอาอีกแล้วboliden เล่าสู้กันฟังนะครับ
โดยคุณ : วันชัย [ 16 ก.ค. 2545 , 21:23:34 น.]

ตอบ
คราวที่แล้วดิฉันจ่ายอู่ข้างนอกไปหมื่นเศษๆ ค่ะ แล้วต่อมาก็ที่ศูนย์อีกหมื่อนเศษๆ (ค่าพัดลมมอเตอร์ ค่าหม้อกรอง ค่าสารพัดน้ำมัน และค่าแรง) จะลองหาอู่อื่นและทำอย่างที่คุณสิงห์เฒ่าแนะนำนะคะ
แต่หวังว่าในนี้คงจะมีผู้รู้แนะนำอู่ดีๆ ทที่ซ่อมเปอโยต์ได้ที่เชียงใหม่บ้างนะคะ
ขอบคุณค่ะ
โดยคุณ : เจ้าของกระทู้ [ 16 ก.ค. 2545 , 21:36:07 น.]

ตอบ
ลองถามคุณพรรณเชษฐ์ดูนะครับเพราะแกเคยอาศัยอยู่ที่ ชม. เบอร์ 01-7168592 ครับ
โดยคุณ : san - san [ 16 ก.ค. 2545 , 22:47:50 น.]

ตอบ
Volvo 460, Peugeot 306, 405 ใช้เกียร์ตัวเดียวกันครับคือ 4HP14
ข้อมูลพี่วันชัยน่าสนใจมาก กำลังคิดจะไป F&F อยู่เหมือนกัน ก่อนหน้านี้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เองทุก ๆ 10,000 กม. ใช้น้ำมัน ATF ของ Esso แต่มีอาการแปลก ๆ คือหลังจากที่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ได้ 3,000 กม. เวลาขับรถถ้าออกตัวเร็วเวลาที่เกียร์เปลี่ยน จาก 1-2-3-4 จะมีเสียงดัง "กึ๊ด" แต่ถ้าไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ เสียงที่ว่าก็จะหายไปสักพักหนึ่ง คือหลังจาก 3,000 กม. แล้วก็กลับมาเป็นอีก ผมสังเกตุอาการอย่างนี้มาสักพักใหญ่ ๆ ก็คิดว่ามันน่าจะมาจากคุณภาพของน้ำมันเกียร์แน่นอน ผมจึงเปลี่ยนยี่ห้อไปใช้ Castrol ซึ่งเป็นแบบ Dexron II เหมือนกันแต่ราคาแพงกว่า Esso ตั้งเท่าตัว แต่หลังจากที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ด้วย Castrol แล้ว เสียงที่เคยดัง "กึ๊ด ๆ " เวลาเปลี่ยนเกียร์ไม่มีอีกเลย
เล่าสู่กันฟังครับ .....
โดยคุณ : B 306 [ 17 ก.ค. 2545 , 07:35:31 น.]

ตอบ
เป็นจะไดพ่องครับ เอาเข้าอู่บรรจงตี้แนะนำฮื่อหรือยังครับ
โดยคุณ : พรรณเชษฐ205 - เสือป่อง [ 18 ก.ค. 2545 , 17:15:28 น.]

ตอบ
ขอโทษนะคะที่หายไปนานมากๆ เนื่องจากเครื่องคอมเสียส่งซ่อมเพิ่งได้กลับมาวันนี้เองค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆ คำแนะนำนะคะ โดยเฉพาะคุณ San และคุณพรรณเชษฐที่กรุณาแนะนำอู่ที่เชียงใหม่ให้
ดิฉันเอารถไปให้ช่างดูมา 2 อู่ค่ะ คือ อู่บรรจงที่คุณพรรณเชษฐแนะนำ กับอู่สุจินต์ที่เพื่อนคุณแม่แนะนำ ทั้ง 2 ที่บอกเหมือนๆ กันว่ามีปัญหา 2 ระบบ คือ ระบบไฟ กับระบบเกียร์
อู่บรรจงที่คุณพรรณเชษฐแนะนำ ช่างยืนยันว่าเขาสามารถรื้อ สั่งซื้อซื้ออะไหล่ที่กทม. และประกอบได้ ใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน ค่าใช้จ่ายประมาณ 2-3 หมื่นบาทค่ะ
ส่วนอู่สุจินต์ซึ่งเป็นอู่ใหญ่กว่าอู่บรรจงมาก บอกว่าไม่สามารถจัดการเกียร์ออโต้ได้ ต้องส่งเข้ากทม. อย่างเดียว และบอกว่าไม่มีช่างคนไหน อู่ไหนในเชียงใหม่ที่ทำเกียร์ออโต้ได้ด้วย ถ้าทำได้ก็ไม่ดีค่ะ 2 อู่นี้ค่าใช้จ่ายพอๆ กันค่ะ ทั้ง 2 อู่ล้วนแต่เคยเป็นช่างที่ออกมาจากยนตรกิจด้วยกันทั้งคู่ อู่สุจินต์ค่อนข้างมีอายุแล้วค่ะ 50 กว่าๆ แล้วค่ะ บอกว่าทำยนตรกิจมา 17 ปี เปิดอู่ตัวเองมาอีก 13 ปี ส่วนอู่บรรจงช่างจะอายุน้อยกว่าประมาณ 30 เศษๆ
คุณแม่ไปด้วย และเห็นว่าอู่สุจินต์ซึ่งเป็นอู่ใหญ่กว่า และช่างมีอายุ มีประสบการ์ณมากกว่าน่าจะน่าเชื่อถือมากกว่า ก็เลยกะว่าภายใน 2-3 วันนี้จะเอารถไปให้เขาดูแล้วล่ะค่ะ
ถ้าผลเป็นยังไงจะเข้ามาเขียนบอกนะคะ
โดยคุณ : เจ้าของกระทู้ [ 22 ก.ค. 2545 , 19:21:53 น.]

ร่วมเสนอแนะความคิดเห็น....
กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ 
จาก : *
email :
icq :
Username :
Password : สมัครสมาชิก
รูปภาพ :
ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นครับ(ไม่เกิน 50K)

รายละเอียด
*
*

กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ