vlovepeugeots Webboard |
406 Update เกี่ยวกับอาการรอบสะดุด
ของท่านอื่นอาจจะเกิดตอนขณะวิ่งก็ได้แต่ของผมเกิดตอนรอบเดินเบา ช่วงเช้าหรือจอดนานๆเท่านั้น โดยทั่วไปทราบกันดีอยู่แล้วว่าเครื่องยนต์มันจะใช้น้ำมันมากช่วงนี้ แต่มันจะเผาไหม้ไม่หมด Peugeot เลยออกแบบให้มีอุปกรณ์ดักจับไอเสียส่วนนี้มาแปรสภาพเพื่อให้เป็นไอดีอีกครั้งแล้วดูดเข้าห้องเผาไหม้ใหม่ ข้อดีคือประหยัดน้ำมันและดีต่อสิ่งแวดล้อม ข้อเสียคืออุปกรณ์มันแพงและดูเหมือนตันง่ายถ้าใช้น้ำมันเบนซินคุณภาพไม่ดี การทำงานถูกความคุมโดย ECU พร้อมเซ็นเซอร์ของเจ้าอุปกรณ์นี้โดยคุณ : Big - ICQ : - [ 14 ก.พ. 2546 , 09:53:16 น. ] |
ตอบ
ข้อมูลที่คุณBigว่ามานี่ เอามาจากที่ไหนหรือครับ เครื่องเบนซินของ 406 มีด้วยหรือครับที่เอาไอเสียมาใช้ใหม่?? ที่รู้มาไม่มีครับโดยคุณ : วันชัย [ 14 ก.พ. 2546 , 20:42:39 น.] |
ตอบ
ที่ 0 บริการแจ้งมาว่ามีอุปกรณ์ตัวนี้ ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ติดกับซุ้มล้อด้านขวาแต่ตำแหน่งแน่ๆเดี๋ยวสอบถามให้ชัดไปเลยอีกทีเพราะตอนเขาแจ้งผมก็เออๆออๆเพราะนึกไม่ออกเหมือนกันว่าเครื่อง 406มันมีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง ผมเองไม่เก่งเรื่องเครื่องยนต์แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะการเอาน้ำมันส่วนเกินหรือที่เหลือจากการเผาไหม้กลับมาใช้ ไม่ใช่เทคนิคแปลกอะไรเพราะทุกยี่ห้อน่าจะมีแล้วเพราะส่วนใหญ่ตอนนี้แข็งขันกันเรื่องความประหยัดแต่ขณะเดียวกันก็ให้สมรรถนะที่สูงกว่าสำหรับรถประเภท คอนซุมเมอร์ ผมมีตำราเกี่ยวกับเครื่องยนต์นิดหน่อยและเก่าแล้ว จะลองเปิดดูว่าเขามีมานานเท่าไหร่แล้ว สำหรับ 406จะลองค้นดูในเน๊ตให้นะครับโดยคุณ : Big [ 15 ก.พ. 2546 , 12:16:35 น.] |
ตอบ
ระบบที่ผมพูดถึงคือ การนำน้ำมันส่วนที่เผาไหม้ไม่หมดมาใช้อีกเขาเรียก EGR (Exhaust Gaz Recirculation) system ซึ่งผมได้รับทราบข้อมูลจากช่างครั้งแรกซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจเช๊ค ผมได้รับแจ้งว่าเป็นตัวนี้ครับที่เสีย แต่ยังไงยังยืนยันว่า EGR ไม่ใช่ของแปลกและเป็นของใหม่อะไรเพราะทุกยี่ห้อน่าจะมีและถูกคิดค้นตั้งแต่ปี 1970 ต้นๆโดย GM เพียงแต่ในรถรุ่นใหม่ๆความซับซ้อนในการทำงานมีมากขึ้นเท่านั้นเองแต่ คอนเซ็ปยังเหมือนเดิมคือ การลดมลภาวะทางอากาศ (วัตถุประสงค์แรกในการคิด EGR) แต่คนคิดดันเห็นประโยชย์ ว่าน่าเสียดายที่ปล่อยให้ไอดีบางส่วนเสียไป เขาจึงคิดต่อเพื่อให้เอาไอดีส่วนนี้มาใช้แต่โชคไม่ดีที่ไอดีส่วนนี้มันเหลือจากเผาไหม้ครั้งแรกดังนั้นมันจะมีพวกก๊าซอื่นๆเจือปนโดยฉพาะ ไนโตรเจน และ ออกซิเจน(ซึ่งมันจะรวมกันอยู่)ซึ่งก็คือไนโตรเจนออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อากาศเป็นพิษ และไอดี(น่าจะเรียกว่าก๊าซดีกว่า)ส่วนนี้มีอุณหภูมิสูงเพราะเพิ่งผ่านการเผาไหม้ในห้องเผาไหม้มาโดยคุณ : Big [ 15 ก.พ. 2546 , 14:02:54 น.] |
ตอบ
...กระทู้นี้ ความรู้เพียบครับ...โดยคุณ : heinekenian - heinekenian [ 15 ก.พ. 2546 , 14:20:14 น.] |
ตอบ
ผมก็สงสัยเหมือนกันครับ ศูนย์แน่หรือครับโดยคุณ : Ronin [ 15 ก.พ. 2546 , 23:47:19 น.] |
ตอบ
ผมว่าคุณ big คงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ เจ้าระบบที่คุณว่ามา ผมว่ายังไม่มีรถยนต์ยี่ห้อไหนใช้เลยครับในปัจจุบันนี้ แต่ระบบที่รถยนต์ปัจจุบันใช้กันอยู่โดยเฉพาะ peugeot ที่ใช้มาตั้งแต่ 405 SRI, GRI, 406 D8 และก็ 406 EA9 , 307, 206 หรือเรียกง่ายๆก็คือ รุ่นที่มี catalytic converter โดยระบบที่ว่าเขาเรียกว่า evaporative emission control ครับ เจ้าระบบที่ว่า เขาจะเอา ไอน้ำมันในถังมาใช้ครับ แทนที่จะปล่อยให้มันระเหยออกไปเหมือนรถยนต์รุ่นเก่าๆ ผมขออนุญาตคัดลอกคำอธิบายจากหนังสือ haynes มาให้อ่านแล้วก็แปลกันเอาเองนะครับโดยคุณ : วันชัย [ 16 ก.พ. 2546 , 20:30:09 น.] |
ตอบ
เฮ้อ ค่อยยังชั่ว ผมมึนอยู่นานเลย จะหาข้อมูลมั่งก็ไม่มีแหล่งเลย พอบอกว่ากล่องที่อยู่ใต้กันชนหน้า ก็เอะใจแล้วเชียว เพราะ 405 GRi ผมก็มี แถมยังหายไปกับอู่ซ่อมตั่งแต่ปีแรกๆโน่นแล้ว ถึงปัจจุบันไม่มี ก็ไม่ใช้ ขับได้ไม่มีปัญหาครับโดยคุณ : bbb [ 16 ก.พ. 2546 , 22:48:32 น.] |
ตอบ
ไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่นะครับ เท่าที่ทราบ ระบบ EGR ที่ใช้มีอยู่ในเครื่องตระกูล NEO ของ NISSAN ครับพี่วันชัย ( รถของที่บ้านใช้อยู่ครับ)โดยคุณ : ปอ - ปอ [ 16 ก.พ. 2546 , 22:59:31 น.] |
ตอบ
กล่อง BSI นี่ ผมว่ามันแปลกๆคนที่เคยเปลี่ยนไปหนึ่งครั้งแล้วยังมีเสียอีก เปลี่ยนอีก(รถเพื่อนคุณวันชัย) และมาคุณ Bigโดยคุณ : bbb [ 17 ก.พ. 2546 , 00:02:12 น.] |
ตอบ
0 สุรวงศ์ครับแน่ครับที่เขาทำให้ เพิ่มอีกนิด อาการรอบสะดุดจะเป็นตอนเครื่องเย็นเท่านั้น เช่นจอดไว้นานๆวมาสตาร์ท อย่างนี้จะเป็นอาการดังที่ผมกล่าวไม่ใช่เกิดตลอดแม้กระทั่งเครื่องมันถึงช่วงอุณหภูมิทำงานแล้วนะครับโดยคุณ : Big [ 18 ก.พ. 2546 , 11:41:05 น.] |
|