www.VlovePeugeot.com - Please Ctrl+D Bookmark Now!

VlovePeugeot.com Webboard


รบกวนพี่ๆ (ไม่จำกัดรุ่นรถนะครับ) ช่วยกันวิเคราะห์ปัญหาเครื่องวูบ+ไฟ K ของ 406D8 หน่อยครับ
คือเริ่มเห็นว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หลายคนเริ่มจะเจอปัญหาเดียวกันก็เลยอยากจะระดมความคิดจากบรรดาพี่ๆ ทั้งหลายอ่ะครับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ใครที่มีอาการเดียวกันช่วยๆ กันเข้ามาตอบหน่อยครับว่าได้เปลี่ยนอะไรไปแล้วอาการเป็นยังไงบ้างจะได้ไม่หลงทางกันไปอีกนะครับ

เกริ่นนะครับ รถผม 406D8 ปี99 ได้มาตอน 110000 โล ตอนนี้วิ่งไป 135000 โลแล้วใช้รถมาประมาณ 1 ปี

อาการ : เครื่องสั่นในขณะรอบเดินเบาอันเนื่องมาจากรอบเดินเบาต่ำไป (อ่านจากไมล์ได้ประมาณ 800 อ่านจาก Diag จะได้ 750) ทำให้บางครั้งเมื่อต้องออกตัวในจังหวะที่คอมเพรสเซอร์แอร์เริ่มทำงานเครื่องจะไม่มีกำลังจนถึงดับไปได้ นอกจากนั้นในบางขณะที่รถติดๆ (ออกตัววิ่งด้วยความเร็วไม่มาก แล้วหยุดสลับต่อเนื่อง) บางครั้งจะมีไฟ Engine (ตัว K) คิดขึ้นมา โดยในบางครั้งจะดับไปเอง บางครั้งยจะไม่ดับเลยจนกว่ารถจะเคลื่อนที่ (จังหวะนี้น่าสนใจครับ เพราะผมลองเปลี่ยน load ของเครื่องยนต์ โดยเข้าเกียร์ว่าง-D หรือปิด-เปิดแอร์ + เบิ้ลเครื่องในจังหวะเกียร์ว่างก็จะไม่ดับ จนกว่ารถจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณหนึ่ง (10-20Km/H) จึงจะหายไป ) หลังจากไฟ K ดับไปเมื่อเร่งเครื่องหรือจอดอยู่อาจจะเจออาการเครื่องสำลัก (รอบเครื่องตกไปถึง 50 แล้วดีดกลับ) บางครั้งดับ

สิ่งที่แก้ไขไปแล้วภายใน 2 ปี (ตั้งแต่เจ้าของเก่าจนถึงผม) : สายพาน Timing + ปั้มน้ำ, หัวเทียน, กรองเบนซิน, วาล์วกักไอเบนซิน, ถังกักไอเบนซิน, สวิตช์ปีกผีเสื้อ BVA, เซนเซอร์ควบคุมแรงดันไอดี, มอเตอร์ควบคุมเดินเบา, ตัดต่อปลั๊กสวิตช์ปีกผีเสื้อ, ทำความสะอาดคอนเน็คเตอร์ทั้งหมด, ล้างท่อไอดี+มอเตอร์เดินเบา+สวิตช์ปีกผีเสื้อ, ตัด CAT ออกเปลี่ยนเป็นท่อพัก (CAT เดิมตัน)

เปลี่ยนศูนย์มา 3 ศูนย์, อู่นอกอีก 2 ที่

สิ่งที่ยังไม่ได้ทำและคาดว่าจะเป็นสาเหตุที่เหลืออยู่ : คอมแอร์ - อาจจะกำลังจะเสียทำให้บางจังหวะฉุดเครื่องยนต์มาก, แบตเตอรี่ใช้มาเกือบ 2 ปี (แต่อาการมันเป็นตั้งแต่แบตยังอายุน้อยๆ อยู่เลย), Oxygen-Sensor เพราะตัวนี้เป็นอุปกรณ์สำคัญเลยที่ทำให้ ECU ตัดสินใจเพิ่มลดส่วนผสม+คุมรอบเดินเบา, Knock Sensor, Ground Wired

ข้อสังเกต :
- เปลี่ยนหัวเทียนสองเขี้ยวพร้อมสายพาน Timing เมื่อ พค. ปีที่แล้ว อาการไม่เกิดเลย 2 เดือนหลังจากนั้นอาการจะเริ่มต้นที่หลังจาก Start รถเสร็จไฟตัว K จะติดอยู่พักนึงแล้วค่อยดับแทนที่จะดับทันทีหลังจากเครื่องติดเหมือนแต่ก่อน (แต่ไฟจะดับก่อนคอมแอร์ทำงาน)
- หลังจากอาการเกิดรอบแรกก็ออดๆ แอดๆ มาตลอด ล้างท่อไอดี + เปลี่ยนมอเตอร์เดินเบาก็ดีได้อยู่ อาทิตย์เดียว
- เปลี่ยนหัวเทียนเขี้ยวเดียวเมื่อ พย. ปีที่แล้ว อาการหายไป 2 เดือนครึ่งแล้วก็เหมือนเดิมอีก
- ล่าสุดเมื่อต้นเดือน มีค. ปีนี้เข้าศูนย์อีกรอบ พบว่าระยะ GAP ของหัวเทียนห่างมากกว่ามาตรฐาน 0.7 มม ก็ดัดกลับ แต่อาการก็ยังไม่หมด

จากข้อมูลทั้งหมด ผมรู้สึกว่ามันมีความเกี่ยวของกับหัวเทียน คือตอนหัวเทียนใหม่มันจะทำงานสมบูรณ์ แต่ผมต้องเปลี่ยนหัวเทียนทุก 3 เดือนเลยเหรอครับ

เฮ้อ ... ขอบคุณทุกคนที่ทนอ่านจนจบนะครับ ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อละ ที่เหลือก็ขอคำแนะนำแล้วล่ะครับ ไม่รู้จะไปทางไหนต่อแล้ว ชอบ Feeling ในการขับมากเลยครับ แต่พอรถหยุดเนี่ยเหมือนตกนรกเลยต้องมานั่งพะวงเรื่องนี้
โดยคุณ : กานต์ - ICQ : - [ 28 มี.ค. 2005 , 17:47:52 น. ]

ตอบ คนที่ 1
oxegen sensor น่าจะเป็นสาเหตุนะครับ ของผมก็เป็นเหมือนกัน ลองมาหลายอย่างแล้ว มาหายที่ตอนเปลี่ยน ออกซิเจน เซนเซอร์ (เป็นของมือสองซื้อมาพันเดียว) ลองโทรมาคุยกันก็ได้นะครับ 013-736-731
โดยคุณ : พี่น้ำหวานพาเพลิน [ 28 มี.ค. 2005 , 19:46:31 น.]

ตอบ คนที่ 2
ลองดูที่ oxygen sensor ก่อน ถ้าไม่หาย ผมว่าน่าจะเป็นแผงหัวเทียนที่มีคอยล์ติดอยู่ ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า (อาการเหมือนสายหัวเทียนเสื่อม) เท่าที่สังเกตุดู ค่าความต้านทานของหัวเทียนมีผลกับ ecu คือทำให้ไฟ K โชว์ และเครื่องสะดุดที่รอบเดินเบา
ผมเคยเปลี่ยนหัวเทียนความต้านทานต่ำ มีอาการอย่างที่ว่า พอเปลี่ยนเอาหัวเทียน standard ใส่ อาการที่ว่าก็หายไป

และผมเข้าใจว่าแผงหัวเทียนอาจจะเสื่อม ทำให้ความต้านทานผิดไป ecu มันก็คงงงเหมือนกัน ลองหาคันที่ไม่มีอาการแล้วสลับแผงหัวเทียนดู
โดยคุณ : วันชัย - วันชัย [ 28 มี.ค. 2005 , 22:30:10 น.]

ตอบ คนที่ 3
ขอเล่าประสบการณ์สดๆ คือ รถ 405GRi เกียร์ธรรมดาลูกสาวผมใช้ขับเกือบทุกวัน ช่วงอาทิตย์ที่แล้วนำมันเกียร์ไหลนองพื้นตอนที่ขับถึงบ้านเพื่อนเขา ต้องให้ช่างไปจัดการแก้ไขถึงที่ เมื่อแก้ไขเรื่องนำมันเกียร์รั่วแล้ว ปรากฏว่าเข้าเกียร์ยากอีก เวลาจะถอยต้องดับเครื่องก่อน บางครั้งก็ยังเข้าไม่ได้ เสียงเครื่องก็ดังผิดปกติมาก ไฟ K ขึ้นตลอด ถึงจะเร่งรอบก็ไม่หาย ต้องซ่อมเรื่องเข้าเกียร์ยากก่อน ปรากฏว่าต้องเปลี่ยน-ยำผ้าครัทช์ พอซ่อมครัทช์เสร็จติดเครื่องทุกครั้งไฟ K จะดับพร้อมกับไฟหน้าปัด ไฟในเก๋งจะติดทั้ง 2 ดวงเวลาไขกุญแจเปิดประตู ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ติด สังเกตุว่าหลังจากได้ซ่อมแซมระบบอะไรก็ตาม ไฟ K จะดับเร็วหลังติดเครื่อง และไฟในเก๋งจะติดดี ส่วนเรื่องไฟ K โชว์ที่หน้าปัดนั้นลูกสาวจะพบน้อยทีสุด ทั้งที่ขับมากที่สุด เขาบอกว่าไม่เคยวิตกไฟตัวนี้เลย คนอื่นขับอาจจะขึ้น แต่เขาขับจะไม่ขึ้นเป็นเพราะเขาพยายามใช้เกียร์ให้สัมพันธ์กับความเร็วรถมากที่สุดก็ได้
- เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนเคยคิดว่าจะต้องเปี่ยนตัว Idle speed motor ก็เพราะไฟ K ตัวนี้และ แต่ก็แก้ไขได้โดยการถอดล้างทำความสะอาดที่ตัว Motor และชิ้นส่วนอื่นๆ ก็แก้ปัญหาได้เช่นเบาดับของเจ้าของกระทู้ครับ
โดยคุณ : 405 i-95 [ 29 มี.ค. 2005 , 08:16:04 น.]

ตอบ คนที่ 4
ฟังอาการแล้วรู้สึกหนาวๆ แม้ยังอยู่ในฤดูร้อน ของที่บ้านก็ซื้อมาปี98 ไมล์แสนสาม ตอนนี้แสนห้ากว่าๆไกล้เคียงกับของคุณกานต์ ก็เริ่มมีอาการแปลกๆ เช่นสตาร์ทเครื่องมีไฟ Kโชว์ ซักสามวิ จึงจะดับ แต่หลังจากได้ระยะเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง มาไฟ Kหายแต่เมื่อสองวันก่อน น้องขับๆอยู่ไฟโชว์แดงพรืด stop น้องเค้าขับเข้าข้างทางแล้วรีบดับเครื่อง ซักพักนึงสตาร์ทใหม่ก็ขับได้เป็นปกติ ยังรอดูอยูว่าจะมีอาการอีกไม๊..เฮ้อลุ้นแบบว่า..หนิดนึง.อ่ะน้าบอย
โดยคุณ : d8มีนบุรี [ 29 มี.ค. 2005 , 08:46:05 น.]

ตอบ คนที่ 5
อาการเดียวกันเลยครับคุณ d8มีนบุรี ที่ว่าไฟ K ติดซัก 3-5 วิค่อยดับ และจะหายไปเมื่อเปลี่ยนสายพาน Timing (แต่ซักพักมันก็กลับมาครับ)

จากที่ทดลองนะครับ ถ้าปลดขั้วแบตออก ทิ้งไว้พักนึงแล้วใส่ใหม่ (Reset ค่า ECU) ไฟ K จะดับทันทีหลังจากเครื่องติดครับ แต่หลังจากนั้นไม่เกิน 2 วัน เค้าก็จะกลับมาหลอกหลอนอีกครับ

พี่ๆ ที่ให้ความเห็นครับ เรื่องคอลย์นี่น่าสนใจมากครับพี่วันชัย แต่เดี๋ยวจะลองคุยกับพี่น้ำหวานดูก่อนว่าออกซิเจนเซนเซอร์หายขาดมั้ย

พี่ๆ คนอื่นๆ ที่พลาดเข้ามารบกวนช่วยให้คำปรึกษาด้วยนะครับ ยังรออยู่
โดยคุณ : กานต์ [ 29 มี.ค. 2005 , 09:09:07 น.]

ตอบ คนที่ 6
ไม่รู้ว่าจะใช้ได้เหมือนกันหรือเปล่า Mi 16 ของผมก็เคยเป็นแบบนี้แหละ...รอบเดินเบาสั่นเป็นเจ้าเข้ามันป้วนเปี้ยนแถว ๆ 700-750 รอบ เขย่าจนยางแท่นเกียร์ขาด วิ่งมาเร็ว ๆ แล้วเบรคพร้อมเหยียบครัชเพื่อเปลี่ยนเกียร์เครื่องจะเบาดับทันที เปิ้ลน้ำมันแรง ๆ ก็ดับ วิ่งช้า ๆ เหยียบครัชเปลี่ยนเกียร์ก็ดับ ฯลฯ ...เปลี่ยนหัวเทียนก็แล้ว ล้าง ISC ก็แล้ว เปลี่ยนโมดุลก็แล้ว ซื้อ ISC มาเปลี่ยนก็แล้ว เข้าอู่ไหนก็แก้ไม่ตก ถูกแนะให้เปลี่ยนสายไฟชุดเครื่องก็เอาแต่ก็ไม่หาย สุดท้ายต้องเล่นนอกตำรา...คือผมมาวิเคราะห์แล้วคิดว่าอาการที่พบน่าจะมาจากระบบชดเชยรอบที่ ISC ทำไม่ทันกับความต้องการของเครื่องยนต์ คือเริ่มสังเกตุพบว่าหากถอดปลั๊ก ISC ออกรอบเครื่องจะสูงขึ้น แต่เบาไม่ค่อยลงเพราะลิ้น ISC ปิด อากาศเข้าน้อยรอบจึงสูง หัวใจของมันจึงน่าจะอยู่ที่การควบคุมอากาศให้เข้าน้อยหรือมากให้เหมาะสมกับภาวะความต้องการของเครื่องในขณะนั้น ๆ ไม่น่าจะใช่ระบบไฟ หรือน้ำมันเพียงอย่างเดียว สุดท้ายผมถอด ISC มาแคะเอาซิลิโคนที่ปิดน๊อตตัวตั้งออก คิดว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วพังเป็นพัง....ผมติดเครื่องพร้อมหมุนน๊อตตัวตั้งเข้า ได้ผลแฮะรอบเครื่องสูงขึ้นผมหมุนเข้าจนรอบเครื่องนิ่งที่ 850 รอบ เปิดแอร์ เปิดไฟ ลองเปิ้ล ลองวิ่งช้า-เร็ว ไม่ดับอีกเลย หลังจากนั้นจึงจูนระยะที่เหมาะสมอีกครั้ง แล้วใช้ซิลิโคนหยอดปิดไว้เหมือนเดิม...ทำมาได้ 4-5 เดือนแล้วทุกวันนี้ยังไม่มีอาการนั้นอีกเลย วิ่งดี เบาไม่ดับ ท่อไอเสียไม่ดำ ไม่กินน้ำมันเพิ่ม เสียงเครื่องเบาลง สรุปเลยว่าที่ผมเสียเงินเปลี่ยนไปทั้งหมดร่วมหมื่นไม่ตรงประเด็น สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ.....ปัญหามันอยู่ใกล้ ๆ ตัวแบบเส้นผมบังภูเขาแค่เนี้ยจริงๆ......แต่กรณีของ 406 ผมไม่แน่ใจว่าระบบจะเหมือนกันหรือเปล่า..ลองพิจารณาดูก่อนแล้วกันครับ....
โดยคุณ : DEN [ 29 มี.ค. 2005 , 10:25:51 น.]

ตอบ คนที่ 7
ถ้าเป็ยคอล์ยอย่างที่คุณกานต์สงสัย ช่างที่มงคลเซอร์วิสบอกว่าถอดออกมาแล้วเขย่าจะมีเสียงเหมือนอะไรหลุดอยู่ข้างใน ตัวนี้ช่างเค้าบอกว่าเบิก0ประมาณ20000 เหอๆๆ เอาไว้เป็นคำตอบสุดท้ายดีกว่า
โดยคุณ : โอม - สิงห์d8 [ 29 มี.ค. 2005 , 12:25:28 น.]

ตอบ คนที่ 8
ถ้าเป็นคอยล์ไม่น่าจะมีไฟตัว k (405sri) ขึ้นนะคะเพราะเคยคอยล์เสียมาก่อน แต่เครื่องจะสั่นมากถึงมากที่สุด สะอึกๆ ตลอดเวลา

รถเพิ่งหมดประกันได้ 1 เดือน ก็เลยเอาเข้าศูนย์ แล้วขอความเห็นใจ ได้คอยล์ใหม่พร้อมส่วนลด 80 เปอร์เซ็นต์ จ่ายไปเกือบสองพันบาท ตอนนี้ใช้มา เกือบ 3 ปีแล้ว ยังไม่มีปัญหาอะไร
โดยคุณ : ขาวตุ่น [ 29 มี.ค. 2005 , 12:56:34 น.]

ตอบ คนที่ 9
โอ้ย...ยิ่งหนา...ว ครับคุณโอม. แก้ไขเป็นยังไงรบกวนคุณกานต์ช่วยรายงานให้ทราบกันบ้างนะครับ ของผมตอนนี้ก็ใจตุ๊มๆต้อมๆเหมียนกัน
โดยคุณ : d8มีนบุรี [ 29 มี.ค. 2005 , 12:56:35 น.]

ตอบ คนที่ 10
ผมเช็คราคาอะไหล่แล้วครับ

Oxygen sensor 5,735 (ศูนย์) 5359 ลด15% (เอกชัยเบิกศูนย์)
ชุดแผงคอล์ยจุดระเบิด มี 2 รุ่น (ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องใช้รุ่นไหน เค้าบอกว่าต้องเอาเข้าไปดู) 7,528 กับ 6,018 (ศูนย์) 5500 ลด 10% (เอกชัยเอาเข้ามาเอง)

เหมือนซื้อหวยเลยอ่ะครับ ไม่รู้จะเปลี่ยนอะไรก่อนเลย แพงๆ ทั้งนั้น แถมเปลี่ยนแล้วไม่รู้ว่าจะหายด้วยหรือเปล่า (โทรไปหาพี่น้ำหวานมา พี่เค้าเชียร์เลยว่าOxygen Sensor นี่แหละน่าจะหาย) ท่าทางต้องหาของมือสองมาลองแน่เลย

พี่ๆ คนอื่นร่วมด้วยช่วยเสนอความคิดเห็นด้วยนะครับ
โดยคุณ : กานต์ [ 29 มี.ค. 2005 , 14:28:18 น.]

ตอบ คนที่ 11
ของผม 406 ดี8 ใช้มาตอนนี้ก็ 120,000 กม.ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร เท่าที่ดูก็เปลี่ยนมาจนจะครบแล้ว ตัวการที่เหลือก็น่าจะเป็นอ๊อคซิเจนเซนเซอร์ และ แผงลอยจุดระเบิดนี้แหละ ขอลองจากคันอื่นเอามาใส่ดูก่อน(ถ้าหาได้) น่าจะดีว่าเปลี่ยนทั้งหมดนะครับ เอาใจช่วย...
โดยคุณ : wut - wut [ 29 มี.ค. 2005 , 17:21:00 น.]

ตอบ คนที่ 12
พี่ DEN ครับ ISC ที่ว่าเนี่ยคือ Idle Step Motor ใช่หรือเปล่าครับ คือเท่าที่ดู Step Motor ของผมมันไม่มีส่วนที่เป็น Silicone ปิดไว้เลยอ่ะครับ จะมีที่ใกล้เคียงก็ตัวควบคุมสวิตช์ปีกผีเสื้ออ่ะครับ ถ้าไม่ใช่ตัว Step รบกวนด้วยครับว่ามันคือส่วนไหน อยากลองดูเหมือนกัน ขอบคุณครับพี่

ปล. ใช่ ISC เป็น keyword ในการ search เจอกระทู้ที่พี่ ฤทธิ์ แนะนำเรื่องการเช็คสวิตช์ตำแหน่งสวิตช์ปีกผีเสื้อน่าสนใจครับ แต่ไม่รู้จะหาตำแหน่งบน D8 เจอหรือเปล่า
โดยคุณ : กานต์ [ 29 มี.ค. 2005 , 18:22:13 น.]

ตอบ คนที่ 13
เ ท่าที่ทราบ 406 ไม่เหมือน Mi16 แต่จะเหมือน 405 SRI และเคยได้ยินคุณทอมแกะ stepper motor ออกมาตั้ง ไม่รู้ว่าตั้งได้หรือไม่ และตั้งเพื่ออะไร แต่ ของ 406 รอบเครื่องยนต์ถูกกำหนดโดย ECU ไม่สามารถปรับตั้งได้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้รอบต่ำหรือเดินไม่เรียบน่าจะมาจากสาเหตุอื่นครับ

และที่ผมสงสัยแผงหัวเทียนก็เพราะ 406 ไม่มีสายหัวเทียน แต่ใช้แผงที่ว่านี้เป็นสื่อ และถ้าสื่อมีปัญหามันก็เกิดอาการที่ว่าได้ ที่เดาอย่างงี้เพราะขนาดเปลี่ยนหัวเทียนผิดเบอร์ ยังมีปัญหาเลย ผมไม่รู้วงจรหรือprogrameของ ecu ว่าตั้งค่าความต้านทานการจุดระเบิดไว้ยังไง เวลาหัวเทียนผิดเบอร์ ecu มันก็งง จึงสั่งฉีดน้ำมันผิดไป ขณะมีปัญหา diag อ่านว่า ระบบฉีดน้ำมันมีปัญหา ช่างที่ศูนย์ถึงได้จับเปลี่ยน วาวล์กักไอ กับ canister (ถังกักไอ) แต่ก็ไม่หาย ผมว่าลองระดมความเห็นแล้วก็ลองสลับกับคันอื่นที่ไม่มีอาการดู ทุกอย่างก็จะกระจ่างไปเองครับ
อย่าลองโดยการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ เสียดายตังค์ และก็เสียดายที่ผมขายไปแล้ว ไม่อย่างงั้นได้ลองกันมั่วแน่ๆ เสียดายจัง

และอีกอย่าง เท่าที่เคยเจอ เรื่อง oxygen sensor ถ้ามีปัญหา ไฟ K มันจะโชว์แว๊บ ๆ ๆ แต่ไม่มีอาการเครื่องสะดุด ยังไงซะก็ลองจากเรื่องถูกๆไปก่อนแล้วกันนะครับ
โดยคุณ : วันชัย - วันชัย [ 29 มี.ค. 2005 , 19:08:08 น.]

ตอบ คนที่ 14
1. ยังไม่พบการตรวจสอบการทำงานของปั๊มเบนซินเลย ผมเคยพบที่เวบ Citroen ว่าเปลี่ยนปั๊มเบนซินแล้วอาการเบาดับหายเลย
2. เมื่อวานนี้อ่านพบในหนังสือ Motor Mart หน้า 26 ฉบับ 1-16 เม.ย. 2548 ว่าลิ้นเร่งของรถ จะเป็นคาร์บู หรือหัวฉีดก็ตาม อาจมีจุดที่แตกที่ฐานทำให้การทำงานของเครื่องยนต์มีปัญหาเช่นเบาดับทั้งเครื่องร้อน และเย็น ลองอ่านดูนะครับ ผมพูดไม่ค่อยถูก
โดยคุณ : 405 i-95 [ 30 มี.ค. 2005 , 07:59:02 น.]

ตอบ คนที่ 15
ด้วยความเคารพครับ....ในความคิดผมสำหรับเรื่อง ECU ที่ปรับรอบเดินเบาเอง ผมว่ามันทำได้ แต่แค่ในระดับหนึ่งตามที่ค่ามาตรฐานถูกเซตมาจากโรงงานเท่านั้น ค่าที่ว่ามาจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งเข้าไปอย่าง Oxygen Sensor Temp Sensor Air Flow Meter เพื่อประมวลการสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของ ECU และหากมี Load เพิ่มขึ้นให้เป็นภาระของเครื่องเช่น เปิดแอร์ ไดร์ชาร์ททำงาน ระบบจะถูกควบคุมด้วย ISC. เพื่อเพิ่มรอบเครื่องยนต์...ทีนี้ผมมาพบว่าการสั่งให้ ISC ทำงานของ ECU มีไม่พอครับ คือสั่งให้เปิดหรือปิดตามระยะหรือองศาที่ตั้งไว้ในโปรแกรมจริง แต่ไม่พอให้เครื่องยนต์ที่เป็นแมคคานิคทำงานได้ไม่สมบูรณ์....จึงลองปรับตั้งให้องศาเพิ่มขึ้นดูและก็ได้ผลตามที่โม้ให้ฟังนั่นแหละครับ....สำหรับ ISC. ตัวนี้เคยเห็นติดตั้งอยู่ใน PG. บางรุ่น...เครื่อง M10 ของ BMW เครื่องของ Hyundai scoop สรุปว่าจะใช้กับระบบของ Motronics นะครับ.....
โดยคุณ : DEN [ 30 มี.ค. 2005 , 10:19:13 น.]

ตอบ คนที่ 16
ขอเสริมอีกนิด
- เพิ่งนึกออกอีกอย่างที่เคยประสบมา เมื่อปลายปี 46 ขับรถไปส่งลูกห่างจากบ้านประมาณ 10 กม.ไปได้ครึ่งทาง ไฟ K โชว์ แต่ก็ขับต่อไปเพราะเคยได้ยินช่างแถวบ้านบอกว่าแฟนเขาใช้ 405GR เอาเทปปิดตรงรูปตัว K เลย อย่าไปสนใจมัน
-ขากลับไฟ K ก็ยังโชว์ ตลอดแต่ใกล้ถึงบ้านปรากฏว่าเครื่องสดุด แล้วดับหน้าหมู่บ่าน เอาแบต ของช่างแอร์มาพ่วง ติดเครื่องได้ แต่ไม่วิ่ง ต้องไปเรียกร้านขายแบต. มาดู เขาบอกว่า แบต. ไม่มีไฟเลย เมื่อดูอายุแบต. แล้ว 1 ปี 10 เดือน ตกลงเปลี่ยนแบต. ตอนนั้นเลย แต่ก็ใช้ได้อีกไม่กี่สิบกีโล ไฟ K ก็โชว์อีก ปรากฏว่าแบต.เสื่อมเพราะไดชาร์ทเสีย ต้องไปซื้อได.จากเชียงกง ราคา 700 บาทมาเปลี่ยน (ของ Nissan ดัดแปลงขานิดหน่อย) แล้วก็ใช้จนทุกวันนี้ ส่วนไฟ K มีปรากฏเป็นบางครั้ง ใช้วิธี Reset อย่างที่พวกเราใช้กันบ่อยๆ ก็ไม่มีปัญหา ลองดูนะครับ
โดยคุณ : 405 i-95 [ 30 มี.ค. 2005 , 13:53:19 น.]

ตอบ คนที่ 17
ขอบคุณทุกๆ ความเห็นครับ เดี๋ยวขอเก็บตังค์ก่อนแล้วจะโยนหัวก้อยครับว่าจะเปลี่ยนอะไรก่อนดี ^-^ แล้วจะมาบอกผลครับ

พี่ๆ คนอื่นใครมีความเห็นเพิ่มเติมช่วยบอกด้วยนะครับ จะตามอ่านอยู่เรื่อยๆ
โดยคุณ : กานต์ [ 31 มี.ค. 2005 , 09:42:20 น.]

ตอบ คนที่ 18
รอฟังผลด้วยครับ ได้ยินเสียงใจมันเต้น ตุ๊บ..ตั๊บ..แพงไม๊...หนอ.
โดยคุณ : d8มีนบุรี [ 31 มี.ค. 2005 , 15:47:43 น.]

ตอบ คนที่ 19
เจ้า D8 ปี99 ของผมพึ่งไปทำมา แรกอาการเหมือนของเพื่อนๆ รอบเดินเบาถ้ามีโหลดอย่างตอนเลี้ยวช้าๆ เครื่องจะวูบดับบ้างไม่ดับบ้าง ไฟK ขึ้นบ่อยๆ บางครั้งรอบจะสวิงตอนเข้าเกียร์ N เลยเอาเข้าที่ NR เครื่อง Diag อ่านค่ามีปัญหาที่ สวิชปีกผีเสื้อ กับเซ็นเซอร์แรงดันท่อไอดี เลยต้องเปลี่ยน สวิชปีกผีเสื้อ6003.90 บาท เซ็นเซอร์อีก3181.50 บาท รวมชุดยางรองแท่นเครื่อง หมดไป 22899 อาการส่วนใหญ่หายไป วิ่งดีขึ้น แต่ได้ของแถมมาคืออาการเข้าเกียร์ถอยหลังจาก N ไป R ไม่ได้คือมันไม่จับต้องเข้าที่P ก่อนถึงจะถอยได้ ช่างบอกว่าสวิชเกียร์สกปรก ลองให้ล้างดูหายแต่วันรุ่งขึ้นก็เป็นอีกทุกวันนี้ยังไปเปลี่ยนเพราะได้ข่าวว่าแพงมาก ใครมีของมือสองสภาพดีๆแนะนำด้วยครับ ปัจจุบันไฟ K ไม่โชว์แล้ว แต่รอบเครื่องยังสวิงอยู่ โดยเฉพาะที่เกียร์ N หรือ P มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ
โดยคุณ : Put [ 1 เม.ย. 2005 , 21:45:19 น.]

ตอบ คนที่ 20
ขอบคุณครับคุณ Put ของผมก็เปลี่ยนมาแล้วเหมือนกันสองตัวนี้ แต่ของผมเปลี่ยนตอนอะไหล่ยังไม่ขึ้น (2 ปีที่แล้ว เจ้าของเก่าเปลี่ยน) + ส่วนสด เลยไม่แพงเท่าของคุณ Put ครับ (ประมาณ 4000, 2000)

แสดงว่าอาการนี้ไม่สามารถแก้ด้วยการเปลี่ยน 2 ตัวนี้แน่ๆ ครับ

เก็บข้อมูลต่อไป ...
โดยคุณ : กานต์ [ 2 เม.ย. 2005 , 11:06:41 น.]

ตอบ คนที่ 21
ของผม d8 ปี99 ไฟkขึ้น วิ่งวูบๆแต่ไม่ดับ ได้เปลี่ยนเซ็นเซอร์แรงดันไอดีที่ nr เหมือนคุณput วิ่งได้ซักพักก้อเป็นอีก กะลังรอเดาเปลี่ยนตัวอื่นดู ถ้าหายจะมารายงานนะคับ
โดยคุณ : โอม - สิงห์d8 [ 2 เม.ย. 2005 , 11:30:54 น.]

ตอบ คนที่ 22
ถามหน่อยครับ ผมD8 เหมือนกัน .... เวลาเราเปลี่ยนอะไหล่ 2 ตัวนี้แล้ว อาการไม่ดีขึ้นเลยหรือครับ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไหล่ 2 ตัวนี้เสียจริงๆ นอกจากเชื่อเครื่องแจ้ง...แล้วกล่องสมองมันจะมีส่วนหรือไม่ครับ...
โดยคุณ : hhh [ 2 เม.ย. 2005 , 20:23:44 น.]

ตอบ คนที่ 23
ของผม D8 ประกอบนอก ก็เคยเป็นครับ เปลี่ยนเหมือนกับที่เจ้าของกระทู้เคยเปลี่ยนครับ รวมไปถึง oxigen sensor ครับ แต่ไม่หาย สุดท้ายไปจบที่พัดลมหน้าเครื่องครับ เพราะว่า รถเคยไปชนหมามา แล้วเปลี่ยนแค่พัดลมแอร์ แต่พัดลมหน้าเครื่องไม่ได้เปลี่ยน กว่าจะหาเจอหมดเงินกับ 0 ไปเยอะ เปลี่ยนไปหลายอย่าง ลองสังเกตดูว่าตอนที่ไฟ K ขึ้นเนี่ย อุณหภูมิประมาณเท่าไหร่ เพราะตอนที่ผมเป็นเข็มมันจะอยู่ตรงครึ่งหนึ่งพอดี ซึ่งถ้าตอนมันปกติเนี่ย ความร้อนมันจะต่ำกว่าครึ่งหนึ่งอยู่พอสมควร ถ้าเป็นอาการแบบที่ผมว่า น่าจะลองดูว่าพัดลมหมุนแล้วลมแรงดีหรือปล่าวนะครับ ผมคิดว่ารถมันจะตัดการทำงานเองเพราะอุณหภูมิสูงแล้วก่อนที่จะดับเครื่องเนี่ยจะเตือนเราโดยการโชว์ไฟ K ขึ้นมา (ตามความเข้าใจของผมเอง) เพราะเคยเอารถเข้าไปที่ศูนย์ใช้เครื่องจับดูก็หาไม่เจอว่าเป็นอะไร บอกได้แค่ว่าส่วนผสมบกพร่อง ช่างก็เลยลองเปลี่ยนหลายอย่างแต่ก็ไม่หาย ไม่รู้ว่าที่ผมเข้าใจนั้นถูกหรือปล่าวนะครับแต่หลังจากที่ผมเปลี่ยนพัดลมเครื่องไปแล้วเนี่ย ไม่เจอปัญหานี่อีกเลยครับ
โดยคุณ : Don - Taxi [ 3 เม.ย. 2005 , 16:46:31 น.]

ตอบ คนที่ 24
ตอบคุณ hhh นะครับ

เครื่อง Diag2000 นั้นไม่สามารถแจ้งได้นะครับว่าอุปกรณ์ตัวไหนเสีย 100% ตัวเครื่องจะรายงานเพียงว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น เช่น

"อัตราส่วนผสมผิดปกติเป็นบางครั้ง องศาต่ำสุด" (อันนี้เป็นอาการของรถผมครับ)

ทีนี้พอได้ข้อความนี้มาก็ต้องมาไล่ครับว่าอุปกรณ์อะไรบ้างที่ทำให้เกิดอัตราส่วนผสมผิดได้บ้าง ซึ่งช่างส่วนใหญ่ถ้าไม่รู้ประวิติรถเลย คือไม่รู้เลยว่าเคยเปลี่ยนอะไรมาบ้าง เค้าก็จะสันนิษฐาน 2 ตัวนี้ก่อน เพราะมันเป็นอุปกรณ์หลักในการควบคุมส่วนผสมครับ

ดังนั้นจึงตอบไม่ได้ครับว่าอุปกรณ์ 2 ตัวนี้เสียจริงหรือเปล่า แต่จากประสบการณ์ที่เห็นในกระทู้นี้ ผมรู้สึกว่าเป็นการเกาไม่ถูกที่คันแน่ๆ ครับ เพราะไม่เห็นใครเลยที่เปลี่ยน 2 ตัวนี้แล้วหาย
โดยคุณ : กานต์ [ 4 เม.ย. 2005 , 09:23:00 น.]



Ending By Admin!!!