สมมติว่า นี่เป็นการทดลองละกันนะครับ
จากการสังเกตพบว่า เวลากลางคืนที่มีอากาศเย็น รถจะวิ่งดี และประหยัดน้ำมันมากกว่ากลางวันที่มีอากาศร้อน ผมเลยสงสัยว่า เพราะมีปริมาณ ออกซฺเจนในอากาศหนาแน่นกว่าหรือเปล่า และ.....
ถ้าผมนำ ออกซิเจน บริสุทธิ์ มาต่อตรงเข้ากับระบบกรองอากาศรถ จะเกิดอะไรขึ้น รถจะวิ่งดีขึ้นหรือเปล่า ? และมันจะมีอันตรายมั๊ยอ่ะครับ
ใน RCW มีการพูดคุยกับเรื่องการเซ็ทรถด้วยวิธีนี้ แต่ไม่มีคนทำ เพราะเห็นบอกว่า อาจจะเกิดการเผาไหม้บางเกินไป จนอาจจะทำให้เครื่องระเบิดได้ ( แต่ในความคิดผม ถ้าเราจ่าย ออกซิเจน ในปริมาณไม่มาก มันก็ไม่น่าจะมีผลเสียนะครับ )

พี่ๆ คิดว่า หลักการนี้จะสามารถนำไปลองทำเล่นได้มั๊ย ( ผมว่าดีกว่าเซ็ท ไนตรัส ) และถ้าเกิดไม่ค่อยสบายก็เปิดออกซิเจน เป่ามันในรถไปเลย สดชื่นๆ

ICQ :

แค่นี้ก็พอแล้วอาร์ต...ยังหาเรื่องเสียเงินอีกแต่ถ้าอาร์ตจะทำก็ดีนะเผื่อดีพี่ๆจะได้เอาอย่างถ้าเวิรค์

ก็กรองเปลือยในรถดูดแต่อากาศร้อน แค่หาวิธีเอาอากาศจากนอกห้องเครื่องมาใช้ไม่ดีกว่าหรือ

ถึงคุณอาร์ต จำได้ไม๊ครับ ที่ผมล้าง oxigen sensor ตามที่คุณอาร์ตแนะนำ ได้ผลครับ ในเมืองได้ 9-10 ก./ลิตรแล้วครับ ขอบคุณครับที่ช่วยแนะนำ ส่วนเรื่องเติม oxigen นี่หมายถึง ozone ใช่ไหมครับ ผมเห็นเพื่อนเขาติด Mi16 เขาบอกว่าเพิ่งติดกำลังสังเกตุการณ์ อยู่แต่ตอนนี้ จะด้วยอุปทานหรือเปล่าไม่ทราบ เขาบอกว่าเวลาออกตัว หรือวิ่งเครื่องยนต์ทำงานเบา ไม่อืด ไม่ตื้อ และที่น่าแปลกใจ ผมเห็นกับตา กล่าวคือรอบลดลงครับ เป็นงงมาก ๆตอนไม่ต่อไฟเครื่องทำ ozone รอบอยู่ที่ 1000 ครับ แต่พอต่อไฟจ่ายให้เครื่อง ozone รอบเครื่องลดลงเหลือ 800-900 และเพื่อนบอกว่า กำลังเครื่องไม่ตก อัตราเร่งดีไม่อืด ( ผมไม่ได้ลองขับ แต่รอบลดลงจริง ) ถ้าเป็นอย่างนี้ จะประหยัดน้ำมันไหมครับ ส่วนจุดที่เขาใส่สายไฟทำ ozone ( เข็ม ) เห็นเพื่อนเสียบไปที่ท่อยางหลังปีกผีเสื้อ 2 จุดซ้าย - ขวาครับ เพื่อน ๆคนไหนมีข้อมูล ลองแชร์ดูบ้างครับ

ก๊าซอ็อกซีเจนเป็นเชื้อเพลิงนะครับ ผมว่าถ้าเกิดเราใช้อ็อกซิเจนเพียวๆ เลยเนี่ยจะไม่ปลอดภัยในครับ
แต่ว่าถ้าเกิดมาจากโอโซนน่าจะไม่เป็นไร หรือใช้วิธีปลูกต้นไม้ในห้องเครื่องไว้ให้มันคายอ็อกซีเจนออกมาดีกว่าครับ ปลอดภัยและดีกับสิ่งแวดล้อมด้วย

จำไม่ค่อยได้ทิ้งเคมีไปนานมากตั้งแต่ม. 6 จำได้เลาๆว่า Ozone ค่าทางเคมีคือ O3 (สูดเข้าไปตายอย่างเดียวครับ) ครับคนละตัวกับ O2 ที่เป็นออซิเจนที่คนและเครื่องต้องการ ปัญหาออกซิเจนบริสุทธิ์คือใครจะควบคุมไม่ให้มันระเบิดเมือ่เจอความร้อนได้ อากาศที่เราหายใจอยู่เข้าใจว่ามี O2 อยู่ในอัตราส่วนที่ต่ำจนมันไม่ระเบิดแต่ดีพอกับมนุษย์ครับ

ฉีด o2 เพียวเข้าไปดีกับเครื่องแต่มันจะระเบิดก่อนที่มันจะเข้าเครื่องเอานะซิที่อุณหภิมห้อง คนจึงหันมาหาการฉีด NOS แทนซึ่งได้ อ๊อกเจนตามที่เราต้องการแถมไม่ระเบิดเพราะมี Notrogen ไปกดไว้เจ้า Nitrogen ก็อันเดียวกับที่เราเติมในล้อรถยนต์นั่นแหละเจ้านี่เป้นกาซเฉื่อยหรือชาวบ้านชอบเรียกว่ากาซเย็น ด้วยตัวที่มันเฉื่อยโมเลกุลเคลื่อนที่ช้า ไม่ก่อให้เกิดพลังงานความร้อนเพราะไม่ไปสีกับโมเลกุลข้างๆ พอมันมาอยู่กับOxegen ทำให้โอกาสระเบิดน้อยเพราะ ออกซิเจนไม่ขยับโมเลกุลของมันมากเพราะขยับไปไอ้เจ้า Nitrogen ก็เฉยไม่ถ่ายทอดพลังงานต่อมันจึงอยู่ได้ในอุณหภูมิห้องโดยไม่ระเบิด คราวนี้มันดีอย่างไรใรรถยนต์ก็เราควบคุมได้ว่าฉีด NOS เข้าไปกีซีซีจะได้ออซิเจนบริสุทธิเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้ Nos แต่ละยี่ห้อเขาทำไว้แล้ว โดยทำงานร่วมกับ ECU การเผาไหม้จึงดีกว่าการใช้ออซิเจนจากการดูดอากาศปกติ เพราะแน่ใจว่าที่ดูด Nos เข้าไปน่ะมันออซิเจนอย่างหนาแน่นเลย

การฉีด NOS คือการอัดอ๊อกซิเจนโมเลกุลเดี่ยว(O ตัวเดียว)เข้าไปในห้องเผาไหม้ครับ มันจึงให้การเผาไหม้อย่างรุนแรงกว่า O2 ที่อยู่ในการอากาศ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดถ้าจะอัดอ๊อกซิเจนเข้าเครื่อง ปัญหาคือมันให้ผลดีเกินคาดจนเครื่องมันจะพังเอา ส่วนมากจะใช้ระยะสั้นๆ เพื่อเอาชนะกัน วิ่งยาวๆเครื่องคงทนไม่ไหว

ลองค้นดูใน www.goolgle.co.th ใส่คำว่า NOS จะเจอข้อมูลเพียบเลย

แอร์เย็นๆก็ให้ดูอากาศมาจากห้องโดยสารเลยซิครับ หุๆ หรือว่านำแข็งแห้งยัดไปที่กรองอากาศเลย เย็นแน่

ตอนที่เราขับรถเวลากลางคืนหรืออากาศเย็นรู้สึกว่ารถเรากำลังดี เพราะว่าตอนที่อากาศเย็น อากาศมีความหนาแน่นกว่าตอนอากาสร้อน นั่นคือปริมาณอากาศเท่าเดิมแต่น้ำหนักหรือมวลของอากาศเข้ามามาก ทำให้กาเผาไหม้ดี ทำให้เครื่องมีกำลังมากขึ้น

เป็นคนขี้สงสัยแบบนี้น่าหาบทความเก่าๆ ของ อ.ศิริบูรณ์....มาอ่าน รับรองตาสว่างขึ้นเยอะแถมไม่ต้องไปเจอร้าน + ของแต่งรถประหลาดหลอกด้วย...

ผมใช้ใน306น่ะอัตราเร่งดีขี้นชัดเจนแต่เรื่องประหยัดนั้นจะเห็นผลในทางไกลมากว่าในเมืองต่อเข้าทางจุกยางหลังปีกผีเสื้อครับเอาก๊าซที่ได้จากออกซิเจนเหลวโดยใช้vacuumดูด

O2 ไม่ติดไฟ แต่ช่วยให้ไฟติด

ถ้าเอา O2 มาช่วย ก็ต้องปรับส่วนผสม ให้เหมาะ บางไป ก็ไม่ดี

แต่ O2 ถังหนึ่ง จะวิ่งได้สักเท่าไหร่กันเชียว

แล้วที่กรมวิทย์ นำมาติดตั้งเหมือนกันไหมครับ แล้วตอนนี้เห็นว่ายกเลิกไปแล้ว แสดงว่าไม่ได้ผลหรือเปล่า

พอดีผมเอาถังออกซิเจนของคุณพ่อที่บ้านมาเล่นตั้งแต่เช้าเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนนายอาร์ตแล้วคับ พอยกถังใส่รถได้ ก็ต่อท่อยางมาแปะไว้ที่ตรงกรองเปลือยหน้ารถซะเลย หลังจากลองดูพบว่า ถ้าฉีดออกซิเจนมากๆ พบว่ารอบเดินเบาของเครื่องยนต์ที่เคยอยู่ที่ 800 - 900 RPM ขยับขึ้นไป 1100 เลยครับ โอ้แม่เจ้า แต่ก็ไม่เห็นเครื่องมันจะร้อนหรืออะไรขึ้น ส่วนแวคคั่มปกติที่ 17 ไม่เปิดแอร์ ดันไป 20 กว่าครับ สวนทางกับรอบเครื่องเลยหล่ะ และA/F Meter ที่อาจจะเชื่อถือไม่ได้ เพราะมันก็แกว่งไปมาปกติดี

ลองวิ่งละทีนี้ หลังจากมั่วๆ ซั่วๆ สักพักก็ซัดออกถนนแจ้งวัฒนะ ลองรถสักหน่อย ช่วงที่ฉีดออกซิเจน แล้ววิ่ง อัตราเร่งดีขึ้น แต่เหมือนกับเราวิ่งตอนกลางคืนน่ะแหละครับ ไม่ได้มากมายอะไร ส่วนถอดตัดออกซิเจนออก ก็วิ่งปกติ อยากที่บอกว่ามันคือการทดลอง โดยการตั้งสมมติฐานครับ ดังนั้น การทดลองนี้จึงพอสรุปง่ายๆ ว่าออกซิเจนบริสุทธิ์มีผลต่อการเผาใหม่ แต่ไม่มาก

ดังนั้นโปรเจคต่อไป ( เอาแน่ๆ ) คือติด ออยคูลเลอร์เครื่องยนต์ครับ อันนี้ ขออุณหภูมิน้ำมันเครื่องลดลง 3 องศา รถผมคงวิ่งดีไม่ต้องผึ่งออกซิเจนหล่ะครับ

ปล. คิดฟุ้งเมื่อคืนขนาด เดินท่อออกซิเจนผ่านคอยเย็นแอร์ เพื่อให้อากาศที่ฉีดมาเย็น และบริสุทธิ์ วันนี้ไปอู่พี่กัน แกตบหัว 1 ที แล้วบอกว่า ให้ผมเอาออกซิเจน ฉีดเข้าจมูกดีกว่า....

จบผลการทดลองครับ