VlovePeugeot.com Webboard |
ขอฟังความคิดเห็นเเละความรู้สึกครับ
1. คุณคิดอย่างไรต่อการขายรถเเละบริการหลังการขายจาก ยนต์กิจหรือEA 2.คุณคิดว่าคุณภาพรถ peugeot กับค่ายรถญี่ปุ่นในรถระดับเดียวกันต่างกันอย่างไร 3.ถ้าคุณต้องออกรถใหม่ป้ายเเดงกับ ยนต์กิจหรือEA คุณคิดว่าคุณคิดถูกต้องไหมโดยคุณ : 406 - ICQ : - [ 12 ต.ค. 2005 , 09:13:18 น. ] |
ตอบ คนที่ 1
1. ไม่ได้ซื้อรถที่ยนตร์กิจ แต่ซ่อมประจำ ของผม 405gr auto 1990 ซ่อมและเปลี่ยนอะหลั่ยที่ศูนย์ และพบว่า ส่วนใหญ่เป็นการเปลี่ยนอะหลั่ยมากกว่าการซ่อม เพราะอุปกรณ์อาจจะหมดสภาพ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยน และเมื่อเปลี่ยนก็จะเปลี่ยนอุปกรณ์อื่นๆ ที่ ทำงานสัมพันธ์กันตามไปด้วย ทำให้ราคาค่อนข้างสูง แต่ผลที่ได้รับ สมรรถนะรถยอดเยี่ยม ผมเปลี่ยนเครื่อง ระบบขับเคลื่อน อุปกรณ์ไฟฟ้า 0/h เกียร์ เปลี่ยนอุปกรณ์ทุกอย่างทีต้องการให้การขับมีความสุข ปลอดภัย และมั่นใจ และพบว่าการจ่ายนั้น ตอบสนองอารมณ์ได้เป็นอย่างดีโดยคุณ : 405 [ 12 ต.ค. 2005 , 10:02:54 น.] |
ตอบ คนที่ 2
ชอบรูปทรงและเอกลักษณ์ของเปอร์โยต์ - มีข้อดีมากกว่าข้อด้อย-คุณภาพสมราคา-กับการเป็นเพื่อนคู่ใจที่ให้ความปลอดภัยได้ดีในยามคับขันโดยคุณ : d8มีนบุรี - มีนบุรี-ดี8 [ 12 ต.ค. 2005 , 10:16:29 น.] |
ตอบ คนที่ 3
1.ปัจจุบันผมว่าอยู่ในขั้นดีถึงดีมาก จากที่ได้สัมผัสผู้บริหารและฝ่ายบริการของ EAโดยคุณ : บอย13 - บอย13 [ 12 ต.ค. 2005 , 10:25:43 น.] |
ตอบ คนที่ 4
ราคาขายต่อเป็นแค่เพียงส่วนประกอบนะครับเพราะรถหลายๆยี่ห้อก็ราคาตกเหมือนกัน ส่วนอะไหล่ผมว่าถ้าซื้อของใหม่จากศูนย์ก็แพงเหมือนกันหมด ถ้าเป็นอะไหล่เก่าก็ขึ้นอยู่กับปริมาณรถที่ขายอยู่ในท้องตลาด รถเยอะอะไหล่เก่าก็เยอะ ที่ผมติยนตรกิจอยู่คือเรื่องศูนย์บริการที่มีน้อยเกินไปในแต่ละยี่ห้อและไม่สามารถใช้บริการร่วมกันได้ เรื่องรูปทรงรถผมว่ารถเปอโยต์นานแค่ไหนก็ยังดูดีไม่มีโบราณโดยคุณ : ต้อม 405 SRI - ต้อม 405 SRI [ 12 ต.ค. 2005 , 10:34:28 น.] |
ตอบ คนที่ 5
1. ผมเคยใช้บริการศูนย์แค่ครั้งเดียว นานมากแล้วล่ะประมาณ ซัก 5-6 ปีที่แล้วครับ( ศูนย์ปดิพัทธ์ ) ตอนนั้นไปทำแค่เรื่องน้ำรั่ว ซึม โดนฟันไปหมื่นสองกว่าๆ จากนั้นก็ไม่เคยเข้าศูนย์อีกเลย ซ่อมข้างนอกตลอดโดยคุณ : tumklong9 - tumklong9 [ 12 ต.ค. 2005 , 13:25:31 น.] |
ตอบ คนที่ 6
เคยมีคนถามผมว่าใช้ pg ทำมัย เค้าไม่เล่นกัน ขายยาก ซอ่มแพง ผมฟังแล้วก็เกิดความคิดนะครับ(ขอย้ำว่านี่เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับ) คิดว่า เราตีราคาชีวิตของเรา ไว้แค่ไหน ก็ซื้ออย่างนั้น คิดอย่างนั้น แล้วเรื่องการขายต่อ จะขายทำมัยกันครับ? ไม่มีสาเหตุอะไรที่ต้องขายนี่นา ถ้าอยากได้ใหม่ก็ซื้อคันใหม่ แต่จริงๆ ของเก่าก็ดีอยู่แล้ว จะไปตามกระแสทำมัยเราเป็นตัวของเรา ตามเขาไปมันก็ไม่ใช่เราครับ ผมเป็นในสิ่งที่ผมเป็นไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นอยากให้เป็นครับ เป็น หัวสิงห์ครับ ^_^ นี่เป็นความคิดของผมนะครับ สมาชิกท่านใดเห็นว่าไม่เหมาะสมผมขอประทานโทษนะครับโดยคุณ : Zimba [ 12 ต.ค. 2005 , 14:03:37 น.] |
ตอบ คนที่ 7
ผมคิดอย่างเป็นกลางนะ สมรรถนะดีกว่ารถญี่ปุ่นแต่ก็ไม่มาก ถ้าไม่ได้ขับแบบมุด ขับเร็ว120ขึ้นในถนนที่หลายโค้งปะเด็นเรื่องความเกาะถนนน่าจจะตกไป แต่ความคล่องตัวญี่ปุ่นจะดีกว่า ออกตัวดีเหยียบนิดเดียวไปแล้ว ระบบไฟดี แอร์เย็น เงียบกว่า ซ่อมง่ายอะไหล่มาก หาง่าย ของแต่งเยอะไม่ต้องดิ้นรนหาพลิกแผ่นดิน แต่ข้อเสียรถปลาดิบคือรถโหลมากเป็นแท็กซี่บ้าง มันก็มีข้อดีและ เสียในตัวมันมากน้อยลองเปรียบเทียบดูแล้วแต่ใครจะช่างน้ำหนัก แล้วยอมรับกับมันได้แค่ไหน มันเป็นทัศนคติ กับความคิดเห็นส่วนบุคคลคับโดยคุณ : dream BU [ 12 ต.ค. 2005 , 14:37:55 น.] |
ตอบ คนที่ 8
รถผม 406 ลูกชายเอาไปใช้ วิ่งมาประมาณ 100 เศษ ตกใจมีรถเฉเข้ามาและมีโทรศัพท์มือถือเข้ามาพอดี ไม่รู้ว่าเป็นความซวยร่วมกับความประมาทหรือไม่ เขาตกใจหักหลบไปชนต้นไม้ข้างทาง ก่อนชนหน้ารถเสยกับขอบฟุตบาทก่อน แอร์แบ๊กแตก 4 ลูก ห้องเกียร์และท้องรถช่วงหน้าเสยฟุตลาท หน้ารถกระแทกต้นไม้ยุบ กระจกหน้าแตก แต่ตัวรถและห้องโดยสารยังอยู่ในสภาพดี ขายทรากรถไปไม่กี่หมื่นบาท ลูกผมถลอกเล็กน้อย ไม่รู้ว่าถ้าไม่ใช่ 406 ผมจะเสียใจขนาดไหน ผมเสีย 406 ไป 1 คัน แต่วันหลังผมจะซื้อกลับมาใช้ไหม่ครับโดยคุณ : 406blue [ 12 ต.ค. 2005 , 18:46:36 น.] |
ตอบ คนที่ 9
สำหรับรถยนต์มือสองในงบประมาณไม่เกิน 100,000-200,000 บาท ในสภาพพร้อมใช้งาน ผมเองไม่คิดว่าจะมีรถรุ่นใด หรือยี่ห้อใดเปรียบกับ 405 ได้เลย หรือท่านใดว่าผมกล่าวไม่ถูกต้องครับ ทั้งรูปทรงที่ไม่มีวันเชย สมรรถนะช่วงล่าง การดีไซน์ออกแบบตัวถัง รวมถึงชุดแต่ง ราคาอะไหล่ของแท้ที่ถูกมาก แถมมีของเทียมให้เลือกซื้อได้อีกด้วย แล้วอย่างนี้ต้องเรียกว่าเป็นรุ่นที่อมตะตลอดกาล ผมว่าน่ะ แต่อย่างไรก็ยังมีบางท่านที่ยังไม่เคยสัมผัส แล้วฟังเสียงลือเล่าอ้างผิดผิดอยู่เยอะพอสมควร อันนี้ต้องช่วยกันเสนอเรื่องจริงที่ถูกต้องด้วยครับ เพื่อให้สิงห์ยกเท้าผงาดเต็มท้องถนน ในวันข้างหน้าให้มากขึ้นโดยคุณ : K [ 12 ต.ค. 2005 , 21:31:45 น.] |
ตอบ คนที่ 10
ผมว่าไม่เกี่ยวนะครับ ที่ต้องขับเร็วเกิน 120 ถึงจะมั่นใจ ผมว่าแค่ซัดออกไปจากเกียร์ 1 ก็คนละเรื่องกับรถญี่ปุ่นแล้ว หรือจะหาว่าผมขี้โม้ก็ได้ เคยถกปัญหานี้ไปเยอะเหมือนกัน ผมขับรถมาเยอะ แต่ละคัน ผมต้องมีการดริฟทุกคันครับ เป็นการทดสอบสมรรถนะรถน่ะครับ เช่น โตต้าโคโรน่า 111 โคโร่น่า เอ็กซิเออร์ ทั้ง 1.6 / 2.0 ฮอนด้าซีวิคตัวก่อนตาโต และตัวตาโต และตัวไดเมนชั่น ฮอนด้าแอคคอร์ดไฟท้ายสองก้อน โซลูน่า ก่อนวีออส อัลติสทั้ง 1.6 และ 1.8 ฮอนด้าพรีลูด วอลโว740/940 เบนซ์ตัวตากลม ซาปทั้งตัว 9000 เทอร์โบ และ ตัว 93และ 95 ไปลองเดโมที่ศูนย์ ฯลฯ ถือว่าเยอะเกินอายุของผมแล้วหล่ะคับ ลองมาเยอะเลย ยังไงถ้ารถญี่ปุ่นเอารถตลาดมาเทียบ เทียบไม่ได้กับเปอร์โยต์ 405 เดิมๆ แน่ๆ ครับ มั่นใจเลย ไม่ว่าจะสักกี่โค้งก็เหอะ ถ้าอยากรู้ว่ารถดีหรือเปล่า ไปดริฟครับ ถ้าดริฟไปยากๆ หรือไม่ไป แสดงว่าช่วงล่างขืนถนนมากๆ พูดง่ายๆ ว่าเกาะสุดๆ รถญี่ปุ่นดึงเบรกนิดเดียว ไม่ก็แค่แตะเบรก ท้ายก็ปัดแล้ว บางรุ่นไม่ต้องดึงหรอก หักพวงมาลัยเร็วๆ ก็ปัดแล้ว และอะไหล่รถญี่ปุ่นถ้าเทียบอะไหล่แท้ไม่ได้ถูกกว่าเปอร์โยต์นักหรอกครับ เช็คดีๆ ก่อนพูดโดยเฉพาะโตโยต้า กรองอากาศโซลูน่า แท้ๆ เพิ่งเปลี่ยนให้น้องยังสามร้อยกว่าบาท เปอร์โยต์ 200 กว่าบาทเองครับ แท้ด้วย แต่เรื่องจุ๊กจิ๊ก ต้องยอมรับ รถเมืองหนาวมาอยู่เมืองร้อนมักจะเป็นไข้ครับ ส่วนรถญี่ปุ่นดีและอึด น้องผมไม่เคยเปิดดูน้ำหม้อน้ำเป็นปีหล่ะคับ ใช้ลูกเดียว มันไม่พังไม่จุ๊กจิ๊ก อะไหล่มือสองเยอะมันเลยดูถูกกว่า ถ้าเล่นของใหม่เบิกห้างผม ผมเชื่อว่าหลายคนที่ใช้รถญี่ปุ่นหนาวแน่ๆ คับ แต่ก่อนใช้มาสด้าด้วย สายพานพาวเวอร์เส้นเล็กๆ 2500 แพงโคตรๆ แถมต้องสั่งแล้วรอของอีกนะ.... อีกอย่างที่รถญี่ปุ่นดีกว่าก็คือกำลังเครื่องยนต์ครับ อันนี้ยอมรับ แรงและประหยัดน้ำมัน ที่แรงเพราะรถเบากว่า เครื่องเบากว่า และแรงกว่า มันก็ไปได้ไวกว่าแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนรถญี่ปุ่นที่ผมยอมรับประสิทธิภาพ แต่คงไม่มีปัญญาหาซื้อมาขับ ก็คงหนีไม่พ้น ซูบารุ อิมเพรสซ่า และ มิตซูมิชิ อีโวลูชั่น อ่ะคับ ยอมรับสองคันนี้ เพราะเป็นขับสี่ครับ ขับหน้าเกาะๆ แน่นๆ ผมยังหาไม่เจอคับ !!! อ่อ อาจจะเป็นมาสด้า 3โดยคุณ : นายอาร์ต - SignifeR [ 12 ต.ค. 2005 , 23:07:57 น.] |
ตอบ คนที่ 11
1. บริการหลังการขายอยู่ในขั้นดี แต่ราคาต้องปรับปรุง "ขอร้องประเภทอ้างฝรั่งเศสสั่งมา" นี่มันรับไม่ได้ ถ้าเขาสั่งเรื่องจำนวนชั่วโมงการทำงานในการเปิด Job แต่ละงานยอมรับได้ แต่ค่าแรงนี่ต้องดูแลหน่อย แพงไม่ว่าแต่ฝีมือและคุณวุฒิต้องถึง ค่าแรงช่างของคุณแพงพอๆกับค่าแรงของวิศวกรเลย แบบนี้เอาเปรียบลูกค้าไปหน่อย ถ้าจะเอาค่าแรงวิศวกรก็เอาวิศกรมาซ่อมโดยคุณ : Big [ 13 ต.ค. 2005 , 07:26:21 น.] |
ตอบ คนที่ 12
รถขบวนของนายกฯ เรา ตอนเืยือนฝรั่งเศส ตามข่าว รู้สึกจะเป็น pg ไช่ไหมครับ รู้สึกเท่ห์ สมเกียรติ เข้าท่าดี รุ่นไหนไม่ทราบครับโดยคุณ : jaming [ 13 ต.ค. 2005 , 14:46:00 น.] |
ตอบ คนที่ 13
1.ค่าแรงแพงไปหน่อยครับ การวิเคระห์ปัญหาไม่เก่ง ผมว่าน่าจะทำตัวอย่างแบบSAAB คือรถปีเก่าๆ ทางศูนย์จะลดราคาอะไหล่ให้ตามปี ทำให้เจ้าของรถเก่าพอหายใจได้ แถมยังแนะนำการซ่อมให้หากไม่ต้องการเปลี่ยน แถมไปซื้อมาให้ศูนย์เปลี่ยนได้อีก 2.เทียบกับรถยี่ปุ่น ผมว่าคนละความรู้สึกเลย มันเป็นแบบเบาๆไปหมด ผมเลยไม่ชอบ เคยใช้ โคโลล่า ae92 ขับแบบใช้ความเร็วมากๆไม่มั่นใจเลย เละรถพอเก่า ความจุกจิกก็มาก ซ่อมทุกเดือนเหมือนกัน แถมจุดที่ซ่อมไปไม่นานก็เสียอีก คงเป็นมาจากอะไหล่ เทียม เก่าเชียงกง เลยขายออกให้คนที่ชอบโตโยต้าเอาไปดูแลต่อ ส่วนอะไหล่เบิกศูนย์โตโยต้า...โคตรแพง..ยางหุ้มเพลา 3000 บาท เจอมาแล้ว ไหนๆอะไหล่ก็แพงแล้วเลยไม่กลัวกับรถยุโรปครับ เบิกห้างก็พอๆกัน....แต่การสมรรถนะผิดกัน..เลยเลือกไอ้ที่คุ้มที่สุดครับ 3.ต่อไปคงไม่ใช้รถป้ายแดงแล้วครับ ผมใช้รถน้อยปีละ 1 หมื่น คิดแล้วหากซื้อมา 1.5 ล้าน ใช้ 5 ปี คงขายได้ 6 แสน ขาดทุน 9 แสน หากซื้อมือสองยุโรป ราคาตกหน่อย 3-4 แสน เอามาซ่อมอีก 2 แสน(ในระยะเวลา 5 ปี) รวม 6 แสน ครบ 5 ปี (วิ่งไม่เกิน5หมื่น) เอาไปขายเป็นอะไหล่ 5 หมื่น ผมจะขาดทุน 5.5 แสน ยิ่งหากใช้นานคงไม่ขาดทุนเกินนี้แล้ว แต่ถ้าป้ายแดงยิ่งใช้นานยิ่งตกลงเรื่อยๆ คิดไปคิดมาคงลาแล้วป้ายแดง...โดยคุณ : hhh [ 13 ต.ค. 2005 , 18:19:10 น.] |
ตอบ คนที่ 14
โดยคุณ : Asklepios - Asklepios [ 13 ต.ค. 2005 , 23:39:48 น.] |
ตอบ คนที่ 15
405gr เนี่ยคุ้มค่าในราคาเท่ามอเตอร์ไซต์ 2คันค่ะ ขับง่าย แอร์เย็น ตัวถังแข็งแรงอีกตะหาก ติดแก้สแล้วยิ่งประหยัดสะใจเลย ไม่คิดไรมาก คิดว่าแค่เนี้ยก้อคุ้มแล้วค่ะ ในราคา แปดหมื่นกว่า ,คิดดูแล้วกันว่ามีทั้ง405grและ405sri ราคารวมกันสองคันเนี่ย ซื้อมาไม่ถึง 250,000บาท ถูกกว่าsoluna หรือ city รุ่นแรกแรก คันเดียวอีกนะโดยคุณ : pink405 [ 14 ต.ค. 2005 , 17:24:25 น.] |
ตอบ คนที่ 16
กล่าวถึง SAAB นิดนึงครับ เมื่อก่อนก็ใช้อยู่ จะบอกว่า ก่อนที่จะมาเล่นเปอร์โยต์ คุณพ่อผมเล่น saab มาครับ และท่านก็จะซื้อเจ้า 900S ให้ผมใช้ ( ผมเล็งตัว 2.3 full turbo ) ไว้แหละ อิอิอิ อยากแรงคับ แต่ทีนี้กลัวคือเรื่องอะไหล่ที่ราคาค่อนข้างสูง และการดูแลรักษาค่อนข้างจะมาก เลยบายไป ไม่งั้นผมกับป๋าผมก็ได้เอาซาปไปซิ่งกันแล้วครับ นั่นคืออดีตครับ ศูนย์ซาป บริการดีมากๆ ครับ ขนาดเปลี่ยนหัวเทียนไป หัวละ 80 บาท มีการโทรมาเช็ค 2 รอบครับ รอบแรกตอน 1 สัปดาห์ และอีกรอบตอนสองสัปดาห์ ผมว่าเซอร์วิสมายด์สุดยอด ทำให้คนที่กระตังค์ ยังรักญี่ห้อนี้มากๆ เพราะตรงนี้ด้วยจุดหนึ่ง และอย่างที่คุณ hhh พูดถูกเลยครับ อะไหล่รถเก่ามีลดราคา 20 - 30% ครับ ศูนย์ลดเองไม่ต้องไปซื้อข้างนอกให้ช้ำใจ แถมค่าแรงฟรีด้วยผมว่ามันดีตรงนี้อ่ะคับ คนก็เลยยังรักซาปอยู่มากเหมือนกัน แต่อีกอย่างก็ต้องยอมรับคือรถมันดีมากๆ ดังนั้นเราก็ต้องดูแลดีมากๆ ด้วยครับ โดยเฉพาะตัวเทอร์โบที่เคยใช้ มันดึงดีจริงๆ จาก 120 ตะ 200 ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น ถือเป็นรถยุโรปที่ผมเล็งไว้ ในอนาคต ( ถ้ามีตังค์เหลือๆ น่ะคับ คือรุ่น 95 Aero แวน )โดยคุณ : เดี๋ยวจะมีแล้วหล่ะเจ้าหอยเนี่ย - SignifeR [ 15 ต.ค. 2005 , 06:48:12 น.] |
ตอบ คนที่ 17
ผมว่าคนที่บอกว่า pg อะไหล่แพง ซ่อมแพง ซ่อมยาก อะไหล่หายาก พวกนี้มีความคิดแบบแท๊กซี่ครับ คือพอขึ้นรถแท๊กซี่ปั๊บก็ชวนคนขับแท๊กซี่คุยเรื่องรถแล้วเค้าจะว่าอะไรดีเสียอีกนอกจาก "ไอ้ต้า"อย่างเดียวแล้วความคิดที่ผมว่าไว้ข้างต้นมีต้นตอมาจากคนในแวดวงแท๊กซี่และรถรับจ้างครับ พอรับฟังมามากๆหลายๆคนก็เลยกลายเป็นค่านิยมไปว่ารถที่ดีต้อง "ไอ้ต้า"หรือรถยุ่นเท่านั้นเนื่องจาก อะไหล่ถูก หาง่าย ขายได้ราคา แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับ "ค่านิยมแท๊กซี่"เท่าไหร่นักเพราะว่าเราซื้ออะไหล่ผมคนนึงล่ะที่มองคุณภาพอะไหล่ก่อนแล้วจึงมองราคาผมไม่ใช่คนเห็นแก่ของราคาถูกแต่ไม่มีคุณภาพแล้วซื้อมาใช้ อะไหล่ pg ราคาไม่แพงมากครับบางตัวอาจจะแพงกว่าหรือถูกกว่า แต่อะไหล่เค้าแข็งแรงทนทาน มีคุณภาพดีมั่นใจได้ มีอายุการใช้งานนานมากๆกว่าจะได้เปลี่ยนถ้าราคาแพงแล้วผมจ่ายได้ ผมยอมลงทุนครับผมถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปครับ ดีกว่าไปซื้ออะไหล่ถูกๆเทียมๆคุณภาพต่ำๆมาใช้แล้วก่อให้เกิดปัญหาภายหลังโดยคุณ : คนเคยใช้ pg ปัจจุบัน bmw [ 16 ต.ค. 2005 , 19:11:42 น.] |