Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

 :HoHo:  เนื่องจากผมกำลังจะเปลี่ยนเครื่องจากเดิมๆ 405sriเกียร์ธรรมดา เป็น d8 มีใครใช้บ้างมั้ยครับ อยากทราบว่า feel การขับแตกต่างกันตรงไหนบ้าง(ในด้านอื่นๆด้วยนะครับ เช่นระบบไฟ เพราะเปลี่ยนทั้งชุด) ขอเป็นข้อๆเลยครับ และข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกัน ขอบคุณมากๆเลยครับ  :Pika:

-ปลายไหลดี
-เสียงเงียบดี
-เดินเรียบกว่า
-กินน้ำมันพอๆกัน
-ทนมือ ทนเท้า เหมือนเดิม
-อะไหล่ หาได้พอๆกัน  


อัตราเร่ง  บอกไม่ได้  จุดจบที่จะบอกได้ ว่าอัตราเร่งจะเป็นยังไง  คือ จะจับชนเกียร์ลูกไหน เครื่องทำอะไรเพิ่มบ้าง ตอนวาง  ครับ......... บางคนชอบจัดๆ แต่ ไม่ชอบแช่รอบสูงๆ   บางคน แช่รอบสูงๆ แต่ไม่เอาอัตราเร่งดึงๆ  เพื่อไว้ไล่บี้รถป้ายแดง หรือจะแซงคนอื่นเล่นที่ 190+  ก็อีกเรื่องนึง


แต่ถ้าเกียร์ธรรมดา ลูกไหนๆ ก็เถอะ ถ้าเพิ่งวางเครื่องใหม่ๆ ขับไป 4000 กว่ารอบแล้ว มักจะลืมเปลี่ยนเกียร์  เพราะเสียงมันเงียบกว่าเดิมพอสมควร




ถ้าจับชนเกียร์ลูกเดียวกัน  SRI  ต้นจะจัดกว่า  ในขณะที่รอบปลายๆ D8 ไหลลื่นมากกว่า"พอควร"   เคยลองเกียร์ธรรมดามา 3 ลูก  ยกขึ้นยกลง ให้รถมันช้ำเล่น

ใช้งานทั่วไป  ชอบเกียร์ GRI เพราะมันไป 200+  ค่อนข้างง่าย  แต่ถ้า "ชอบแช่" วิ่งทางยาวๆ สงสารเครื่อง

เกียร์ SRI  ไม่ค่อยเหมาะอะ  ยาวเกิน  ถ้าจะลากรอบเล่น  2 เกียร์แรก มันไป 110 แล้ว

เกียร์ลูกสุดท้าย อืมๆๆๆๆ สั้นและชิด กว่าเกียร์  SRI  กลางๆระหว่าง GRI กะ SRI

เกียร์ 1 3.455   38x11
เกียร์ 2 1.850   37x20
เกียร์ 3 1.360   34x25
เกียร์ 4 1.069   31x29
เกียร์ 5 0.800   28x35
เฟืองท้าย 3.94 :กินหัว: :กินหัว:

รถผมก็ลงเครื่อง d8  ครับ  กับช่าง A นวมินทร์  รถคาดว่าเสร็จแล้วครับ  วันเสาร์เช้าจะไปรับรถแล้ว
ผมคงได้สนุกกับ  405 GRI  D8  ชนเกียร์  GR  คราวนี้หล่ะครับ   :love love: :Cool: :555:   

ไม่ทราบว่าค่าใช้จ่ายท่าไหร่ครับคือผมคิดอยากจะเปลี่ยนเครื่องเหมือนกันนะครับ

เกียร์ 1,2   ไม่ค่อยแตกต่าง คือต่างกันประมาณ 2-3 %
เกียร์ 3      ต่างกัน ประมาณ 8% >>> รอบเครื่องมากกว่า 8% ที่ความเร็วเท่ากัน
เกียร์ 4      ต่างกัน ประมาณ 10%
เกียร์ 5      ต่างกัน ประมาณ 7%
อ้างอิงจากข้อมูลผมละกัน
SRI                 D8

3.455              3.455 <<< เกียร์1
1.850              1.869         เกียร์2
1.280              1.360         เกียร์3
0.968              1.051         เกียร์4
0.756              0.795         เกียร์5

4.063              4.157         เฟืองท้าย

ผมไม่เคยขับเกียร์ SRI ก็ไม่กล้าฟันธงเท่าไร แต่เคยของ GRI ดูจากอัตราทด ก็จะเป็นไปในแนวเดียวกันคือ อัตรเร่งจะดีขึ้น โดยเฉพาะ เกียร์ 3 -4 3000rpm+

หากคิดจะเล่นความเร็ว ที่ 80-180  ชอบอัตราเร่ง แบบมาไวหมดไวหน่อยเปลี่ยนเกียร์เร็วหน่อย ก็ลง D8
แต่หากขับเรื่อยๆ สบายๆ  SRI
ถ้าจะเอากลางๆ สบาย ๆ นิดๆ เร่งหน่อยๆ GRI   

เรื่องความเร็วสูงสุด  ของผมเกียร์ GRI ได้ต่ำกว่าD8นิดหน่อยแหะอาจต้องดูลมกับแก็สประกอบเพราะวิ่งคนละ เส้นด้วย
เกียร์GRI เคยได้ ที่ 205 ที่น้ำมัน แถว ด่วนบางปะอิน
เกียร์D8  เคยได้ ที่ 210 ที่แก็ส   ยกระดับที่บางนาตราด

เรื่องการประหยัด ระหว่าง GRI D8 (แก็ส ผมไม่ค่อยใช้น้ำมัน)
บางทีมากกว่า บางทีน้อยกว่า โดยเฉลี่ย พอๆกัน

โอ้ว ขอบคุณทุกๆท่านสำหรับข้อมูลครับ

ข้างบนขออภัยครับผมอ่านไม่ดีเอง นึกว่าเปลี่ยน เฉพาะเกียร์ ธรรมดา SRI  เป็น D8  เช้าๆมึนๆอยู่ครับ :Oooops:

ด้านสมรรถนะ
รอบต้นๆ 2000-3000 เครื่อง sri มาดีกว่าครับ  ขับในเมือง จะสบายกว่า แต่ D8ก็ไม่ได้ด้อยกว่ามากมายนัก พอได้อยู่
           3000+               D8 ปรืดๆครับ ออกไหลๆ ต้องเท้าหนักเล่นรอบสักหน่อย เพราะแรงบิดมารอบที่สูงกว่า
                                   ขับต่างจังหวัด D8 สบายกว่า เพราะ เป็นช่วงกำลังมาแล้ว เร่ง แซง สบายกว่ากัน

ความเร็ว sri เกียร์ auto เท่าที่เคยขับก็ 193
           D8 ก็ตามสรรพคุณข้างต้น

การบริโภค
ผมว่า D8ประหยัดกว่านิดๆ แต่เหนืออื่นใดความประหยัดอยู่ที่เท้าครับ

อะไหล่
ยังไปได้อีกไกล ออกมาทีหลังนี่นา ยิ่งตอนนี้ เครื่องเข้ามาเยอะ อิอิ
แต่ราคาอะไหล่ใหม่ต่อชิ้น บางชิ้นจะราคาสูงกว่า เช่น สายพาน ลูกรอก coil
การ overhual อะไหล่ชิ้นส่วนจะมากกว่า ยากกว่า แพงกว่า ทำนานกว่า แต่เราก็ แก้ปัญหาโดยลงเครื่องใหม่ อิอิ

ระบบไฟ  
ไม่รู้ 555 แต่ไม่เห็นว่าต้องดัดแปลงอะไรมากมาย ถ้าสายมาครบ wiring สายก็จบ  

อื่นๆ
เสียงเงียบกว่าชัดเจน สบายหูกรณีฟังวิทยุขณะขับรถ
รอบจะแอบบบบมา แบบว่า รู้ตัวก็ 4000 กว่าๆแล้ว เพราะท่านฟังเสียงและจะนึกว่า 2500รอบอยู่ 555
เมื่อท่านกลับบ้านดึก ท่านจะแอบบเนียลๆ เข้าบ้านได้อย่างไม่เป็นการรบกวน(ให้ตื่นมาเจอ)คนในบ้านและ ข้างบ้านได้เนียลขึ้น
การ service น้ำมันเครื่อง เป็นที่ลำบากแก่ช่าง เพราะจะล้วงยาก ต้องรอให้หม้อน้ำเย็นสักหน่อย ถ้าไปเปลี่ยนแถวปั๊มช่างอาจอิดออด กระเบื้อง(ลีลา)กับท่านได้
การ service หม้อน้ำ ถอดยากกว่าต้องระวังครีบจะครูดกับ ท่อไอดี ทำให้ครีบล้มเป็นที่ระคายเคืองแก่ท่านได้
แต่การ service ด้านอื่นๆทำได้ง่ายกว่า ท่อยางน้อยกว่า>>ทำให้ด้านบนดูโล่งขึ้น
ถ้าใช้กรองอากาศ เครื่อง 306 อาจจะหากรองได้ยากกว่า ถ้าใกล้แหล่งซื้อ ก็ไม่มีปัญหา
  
ข้อมูลเพิ่มเติมลองดูกระทู้นี้ได้ไปขุดให้ 1 กระทู้
http://www.vlovepeugeot.com/forum/index.php?topic=11722.msg79348#msg79348

ฟันธง เกียร์ GRI  ถ้าเน้นขับสบาย+แอบแรด นิดหน่อย ครับ


เกียร์ SRI  พอไหว  แต่ไม่หมาะ

เกียร์ MI ยิ่งดี 1 ไป 2 ไม่มีห้อย  แต่ต้องทำใจว่า รอบของเครื่อง D8 ไปได้สุดๆ 6800   ในขณะที่ MI ไปได้ถึง 7000 กว่าๆ  และแรงม้า+แรงบิด MI อยู่ที่รอบสูงกว่า  แต่ต้องทำใจว่า  เวลาวิ่งทางไกล  รอบจะสูงกว่าเกียร์ลูกอื่นๆ

( เกียร์พวก GRI SRI เกียร์ 1 6500 เปลี่ยนลงไป 2 มันจะตกไปเหลือ 4000 ต้นๆ )  

เกียร์ อื่นๆ ต้องลองๆ   แต่โดยทั่วๆไป 1 กะ 2 จะเหมือนๆกันหมด  ยกเว้น MI   ส่วนที่ต่างกัน คือ 3 4 5 ครับ  

อย่างลูกที่ผมใส่ 1 กะ 2 ก็เหมือนๆ คันอื่นๆ  ( แต่จะอืดกว่าคนอื่นด้วย เพราะเฟืองท้าย 3.9 กว่าๆ )   แต่พอ  3 4   ผมจะชิดกว่าเกียร์ SRI  และ GRI ครับ  


พอขึ้น 5  เกียร์ SRI จะใช้รอบน้อยกว่า ส่วนเกียร์ GRI จะใช้รอบมากกว่า   แต่ถ้าไม่ติดเรื่องรอบที่จัดกว่า ผมว่าเกียร์ GRI น่าใช้กว่า


และก็ คลัช  ถ้าใช้ของ GRI ไม่น่าเกิน 2 ปี  ลื่น แน่ๆ