Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

บ้านอยู่ฝั่งธนครับ ที่ทำงานแถวสาธร ไม่ทราบว่ามีท่านใดใช้บริการล้างห้องเครื่องแบบสะอาดสุด ที่ไหน ช่วยแนะนำด้วยครับ แล้วส่วนมากเขาใช้อะไรล้างกันครับ เพราะกลัวมีปัญหากับระบบไฟฟ้าครับ

เคยล้างแล้วน้ำดันไปเข้าตรงหัวเทียน ทำให้เดินไม่ครบสูบ
วิ่งแก้ปัญหาอยู่ 2 วัน ตั้งแต่นั้นไม่แตะอีกเลย ใช้ลมเป่าอย่างเดียว

ผมใช้บริการ ปั๊ม Shell ครับ "ล้างเครื่องแห้ง"เป็นประจำครับ เขาจะทำความสะอาดห้องเครื่องด้วยการเช็ดครับ ครั้งแรก ๆ ก็ซื้อน้ำเลี้ยงเด็กหน่อย ถ้ามันสกปรกมาก ๆ นะครับ พอล้างประจำ ๆ เดียว ก็ สะอาด แจ่ม ไปเองครับ  :555: :555:

มีข้อควรระวังในการล้างหรือเปล่าครับ จุดที่ต้องไม่โดนน้ำ มีอะไรบ้างครับ

เวลาผมอยากทำความสะอาดห้องเครื่อง ผมจะเข้าอู่ซ่อมรถล้างให้ (เพราะช่างจะรู้ดีว่าจุดไหนไม่ควรโดนน้ำ เช่นคอยล์+ปลั๊กต่างๆ
ถ้า จขกท.มีอู่ที่ซ่อมอยู่ประจำน่าจะลองคุยดูน๊ะครับ
ออ ผมใช้เบนซิน ล้างครับ

ตามที่ คุณ the sun แนะนำละครับ ......ท่อนล่างของเครื่องสามารถใช้น้ำอัดฉีดได้ครับ แต่ ด้านบนใช้วิธี เช็ดจะดีที่สุดนะครับ เพราะมี sensor หลายตัวนะครับ....สิงห์ มันกลัวน้ำนะครับ.....แต่ถ้าจะเอากันสะอาดหมดจดจริงๆ...หลังซ่อมเครื่องที่ศูนย์เขาใช้น้ำมัดกาดและกาฉีดทำความสะอาดครับ

 :Oooops: :Oooops:

ผมเคยใช้บริการของศูนย์สุรวงศ์เขาก็ใช้น้ำมันก๊าดฉีดเหมือนกัน แล้วตอนนี้มีศูนย์ไหนที่ทำแบบนี้อีกบ้างครับ

อู่ PG ทั่วไปก็มักจะพ่นน้ำมันได้

แต่เคยไปซ่อมที่รองเมืองเขาไม่มีบริการนี้ครับ ไม่ทราบว่าไปอู่ไหนมาช่วยแนะนำด้วยครับ

แบบสะดวก-ประหยัดเวลา
สเปรย์ล้างห้องเครื่องของ SONAX กระป๋องเขียวไม่กีตังส์ รอให้เครื่องเย็นลงสักพักแล้วฉีดให้ทั่ว ทิ้งไว้สัก 3-5 นาที ฉีดน้ำตาม ถ้ามีโบวเวอร์เอาพ่นไล่น้ำ ถ้าไม่มีหลังฉีดน้ำเสร็จรีบเอาผ้าซับน้ำพวกสายหัวเทียน คอยล์ เสร็จแล้วสตารท์เครื่อง ถ้ามีน้ำซึมเข้าเครื่องจะเหมือนเดินไม่เรียบอยู่สักพัก ให้เร่งเครื่องนิดหน่อยไม่นานอาการก็จะหายไป
สเปรย์แบรนด์นี้ไม่มีผลกับยางหรือฉนวนต่างๆ ดีกว่าใช้น้ำมันฉีดนะครับ

แบบประหยัดหน่อยแต่ต้องใช้เวลา
ซื้อน้ำยาล้างเครื่องแกลลอนประมาณ 4-5 ร้อย (นี่ขนาดแกลลอนนะครับ) ใช้นานหลายปี ใช้ได้กับรถเกือบร้อยคัน ถ้าใช้ผสมล้างห้องเครื่องอย่างเดียว  ซื้อน้ำมันดีเซลหรือน้ำมันกาด ผสมตามอัตราส่วนตามฉลากบอกไว้ ผสมเสร็จแล้สใช้แปรงทาๆให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักฉีดน้ำล้าง แล้วทำเช่นเดียวกับแบบแรก

ข้อดี
สเปรย์
 - สะอาดกว่าแยะ
 - เหนื่อยน้อย ทั่วถึงกว่า เพราะพ่นได้ตรงจุที่เข้าไม่ถึง
 - ไม่กัดพลาสติค ยาง ฉนวน
น้ำยาผสม
 - ประหยัด
 - ล้างอุปกรณ์เครื่องได้หลากหลาย ใช้ได้นานจนลืมถ้ามีรถไม่กี่คัน

ข้อเสีย
สเปรย์
- บริเวณชิ้นส่วนพลาสติคจะมีเหมือนรอยล้างที่สะอาดเกินไปเหมือนจะเป็นฝ้าขาวๆ แต่ก็แก้ได้โดยก่พ่น SONAX หล่อลื่นเคลือบทุกอย่างก็จะเงาแว๊บ
- ราคาหลักร้อยต่อ 1 กระป๋อง จำไม่ผิดน่าจะ 115.- แล้วแต่โปรฯ ของแต่ละห้าง

น้ำยาผสม
- น้ำยาถูก แต่น้ำมันแพง
- กัดพลาสติค ยาง ฉนวน ถึงจะเป็นดีเซล
- สะอาดน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
- ไม่ทั่วถึง
- เหนื่อย

โดยประมาณนะครับ จากการที่ได้ใช้มาทั้ง 2 แบบ ส่วนแบบที่ 3 คือจ้างตามปั๊ม คาร์แคร์ เคยเข้าครั้งเดียวแล้วรู้สึกเหมือนไม่คุ้ม เพราะไม่ได้ดั่งใจ ไม่สะอาดอย่างที่ตั้งใจไว้ เหมือนทำลวกๆ ที่สำคัญคือ แพง

สิงห์กลัวน้ำมาก ห้องเครื่องไม่กล้าล้างเลย

ถ้าไม่จำเป็นอย่าล้างเลยครับเดี๋ยวงานจะเข้า

เอาลมเป่า ผ้าเช็ดชุบน้ำมันก๊าดบางๆ ขัดๆถูๆ เบาๆ ก็พอดูได้แล้ว
ระวังสายไฟ ขั้วต่อ ท่อต่างๆ หลุดหล่ะ ทั้งบอบบางและกรอบตามวัย

ปรกติถ้าจะล้างห้องเครื่องจริงๆ ควรจะให้อู่ประจำที่ซ่อมเปอร์โยต์โดยเฉพาะล้างให้ครับ
แต่ก็นานๆ ที