Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

จากการที่ผมเอารถไปซ่อมมาหลายรายการตามที่เคยบอก  วันนี้เอารถมาขี่ระยะทางประมาณ50กม.  เสียงเครื่องก็ไม่เนี๊ยบเหมือนเดิมหรอกครับ มีเสียงแค๊กๆเหมือนคนหายใจไม่สดวก ถามช่างเขาบอกเป็นที่วาล์ว(ผมก็งงเขาเปลี่ยนวาล์วให้เราแล้วมีเสียงแปลกๆเขายังไม่รับผิดชอบอีก) แฟนผมเลยบอกว่าเอาแค่ขี่ได้ก่อนครั้งต่อไปไม่ต้องเข้าอู่นี้แล้ว  แต่การเกาะถนนดีเยี่ยมเหมือนเดิม  ตอนขี่ออกจากตัวเมืองมาได้สัก  30 กม. รถมีสัญญาณไฟเตือน(ผมดูคู่มือบอกเป็นไฟเตือนน้ำหล่อเย็น) พอขับมาถึงที่ทำงานรอจนรถเย็นเปิดหม้อน้ำๆยังเต็มดี  ก้มลงดูใต้ท้องรถมีน้ำหยดเอามือแตะดูลักษณะเป็นน้ำมันมีฟองๆด้วยมีกลิ่นฉุนซึ่งผมไม่รู้มันคืออะไรและจะแก้ไขอย่างไร  ได้โปรดแนะนำด้วยครับ

ก้มลงดูใต้ท้องรถมีน้ำหยดเอามือแตะดูลักษณะเป็นน้ำมันมีฟองๆด้วยมีกลิ่นฉุนซึ่งผมไม่รู้

ใต้กันชนฝั่งคนขับใช่ไม๊ครับ สงสัยน้ำยาหรือน้ำมันคอมแอร์หรือป่าว

น้ำมันที่หยดออกมาคล้ายออโต้ลู๊ป(ออกสีเขียวๆ)  อยู่ใต้ท้องรถตรงกลางเลยครับ  แต่ก่อนเคยมีปัญหาถังน้ำมันเครื่องรั่ว(ก็หยดบริเวณนี้)แต่น้ำมันที่หยดออกมาเป็นน้ำมันเครื่องไม่มีสีไม่มีกลิ่นแบบนี้

รบกวนอีกนิดครับ  ถ้าผมจะเติมน้ำยาหล่อเย็นผมไปหาซื้อตามร้านมาเติมลงในหม้อน้ำเลยใช่ไหมครับ  แล้วต้องซื้อยี่ห้อไหนถึงจะดี

ใครรู้ช่วยตอบหน่อย...อยากรู้เมื่อกัน.....เพราะอาการใกล้เคียงกันเลย.....แต่ตอนนี้หายแล้ว...งง...

กลางรถนี่สังเกตุดูว่าใช่ตรงแนวล้อหน้าหรือไม่ สงสัยเป็นน้ำมันเกียร์ หรือไม่ก็น้ำในหม้อน้ำ(ที่เติมน้ำยา คูลแล้นท์) หยดจากท่อยาง หรือ สามทางหลังเครื่อง ไปโดนแร๊คจึงทำให้มีคราบน้ำมันด้วย แล้ว น้ำในหม้อน้ำหายไม๊ครับ ถ้าหายไปเช็คท่อน้ำหลังเครื่อง หรือ สามทางหลังเครื่อง เลยครับ

น้ำยังอยู่เต็มครับ  น้ำที่หยดลงตรงแนวล้อหน้าครับ  ตอนนี้มีคำแนะนำเบื้องต้นอย่างไรบ้างครับคือรถเพิ่งออกจากอู่(หมดตังไปหมื่นกว่าบาท  สภาพเจ้าของรถยังสบักสบอมอยู่ครับ) ขยาดการเข้าอู่  ที่สำคัญมันมีความเกี่ยวข้องอะไรกันไหมกับไฟเตือนน้ำหล่อเย็น  แล้วผมควรขี่รถหรือจอดรถดีครับ  ใกล้เวลาเลิกงานแล้วผมควรทำอย่างไรดี

ไฟเตือนน้ำหล่อเย็นนี่ มันจะเตือนระดับน้ำในหม้อน้ำ มันมีเซ็นเซอร์อยู่ 1 ตัว ฝังอยู่ที่ฝาข้างหม้อน้ำ ส่วนใหญ่ตัวนี้มักจะเสีย(หมดอายุการใช้งาน) ก็อาจทำให้รวนได้ ดังนั้น หากน้ำไม่หาย ความร้อนไม่ขึ้นก็ขับไปได้ครับ  แต่น้ำ(มัน)ที่หยดนี่ควรหาให้เจอครับว่าคือน้ำ(มัน)อะไร

พอดีรถที่ใช้อยู่ใช้แก๊สด้วยครับ  แล้วผมก็ไม่มั่นใจว่าไฟเตือนความร้อนใช้ได้ไหม  ถ้าใช้ไม่ได้ผมควรสังเกตตรงไหนครับว่าความร้อนสูงหรือไม่  รบกวนชี้แนะด้วยครับ

ถ้าให้เดาเอาน่ะ  น่าจะเป็นน้ำมันคอมเพรสเซอร์   มันจะมีสีเหลืองอ่อน ๆ หรือใส จะมีกลิ่นน้ำยาปนมาด้วย จึงฉุน    เอาอย่างนี้คุณไปไล่ท่อระบบแอร์ที่อยู่ภายนอกหรือห้องเครื่องดู   ตรงจุดต่อต่าง ๆ มันจะเป็นบานแฟร์เชื่อมต่อกันมีตรงไหนคล้ายน้ำมันเกาะบ้าง โดยสังเกตจะฝ่นที่จับ    และไปดูที่คอมเพรสเซอร์  มีน้ำมันอะไรไหลมาบ้าง  น่าดูตาเปล่าไม่เห็น เอาฟองน้ำลูบใส่น้ำยาล้างจานตีให้แตกฟอง ไปเช็คดูตรงไหนรั่วจะมีฟองขึ้นมา   อย่าลืมเปิดแอร์ด้วย

ผมก็คิดเหมือนอาจารย์ นะ

ขอบคุณพี่ๆทุกคนนะครับ  ผมรู้สึกอบอุ่นจังเลยที่ได้รับคำแนะนำจากพี่ๆ ชาววีฯ  ตอนแรกถอดใจว่าจะไม่ขี่สิงห์แล้ว  พอดีแฟนเขาเสียดายประกอบกับมีพี่ๆใจดีคอยให้คำแนะนำ  ผมจะลองดูอีกสักตั้ง  ตอนนี้ผมคงต้องขี่สิงห์แก่ไปรับไอ้เสือน้อย(ลูกชาย)  แล้วนะครับ  พรุ่งนี้ผมจะรายงานให้ทราบ( เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ  )

เป็นกำลังใจให้เต็มร้อย ครับ

อยากให้เข้าอู่เปอร์โยต์โดยเฉพาะดูซักทีจะได้แก้ปัญหาจบ

เป็นกำลังใจให้ครับ ผมได้รถมาแรกๆก็ต้องตามเก็บงานกว่าจะอยู่ตัวเล่นเอาสบักสบอมเหมือนกัน

แล้วน้ำที่หยดลงพื้นมีจำนวนมากมั้ย
บอกว่าออกสีเขียวๆผมหนักไปทางน้ำหล่อเย็นรั่วอะครับ
ถ้ามันหยดไม่มากน้ำอาจจะยังไม่หายทันที
แล้วได้ไล่ลมในระบบหล่อเย็นเรียบร้อยดีหรือเปล่าครับ

ของผมเป็นตอนแอร์เริ่มไม่แย็น....สุดท้ายตู้แอร์รั่วเลยเปลี่ยนปัจจุบันแอร์เย็นจนหนาว ไม่มีน้ำสีเขียวๆหยดใต้ท้องรถอีก...
ไม่ทราบว่าอาการเดียวกันหรือป่าว......อิๆๆ :Cool: :Cool:

ตอนนี้ผมให้ช่างดูแล้วเขาบอกว่าเป็นซินเพลาด้านขวารั่วแล้วน้ำมันเกียร์ก็หยดลงมา(ไม่มั่นใจว่าบอกถูกตามที่ช่างบอกรึเปล่า)ผสมกับน้ำหล่อเย็นที่ทำหกไว้ตอนซ่อมเสื้อสูบซ่อมปะเกนเลยมีสีออกเขียวๆ  ตัดสินใจให้ช่างเปลี่ยนแล้ววันเสาร์เห็นเขาบอกไม่เกินห้าร้อยบาท  แต่ถ้าจะรวมตั้งแต่รีแพร์ใหม่ซ่อมเสื้อ  ซ่อมหม้อน้ำ  ปะเสื้อ  เปลี่ยนจานจ่ายสายหัวเทียน  เปลี่ยนปั๊มน้ำ  ก็หมดไปประมาณ 13,000 บาทแล้วครับ  แต่เสียงเครื่องก็ดังไม่เรียบเท่าไหร่มีเสียงแก็กๆ  เสียงนี้ดังสม่ำเสมอเวลาขี่รถเสียงดังเข้ามาในห้องโดยสารเหมือนเสียงเปิดพัดลมตั้งโต๊ะที่ปิดฝาครอบไม่สนิทน่ะครับ  แล้วก็ขี่ไปสัก  10  กม.จะมีอาการสำลัก(ชนิดคนขับหัวทิ่ม)  ครั้งหนึ่ง  ถามช่างบอกเป็นที่วาล์วแต่เขาก็ไม่ได้บอกว่าจะแก้ไขอย่างไร  ผมก็เชื่อช่างหมดแหละครับทั้งที่ไม่อยากเชื่อ  แถวบ้านจะหาช่างที่ชำนาญรถยี่ห้อนี้ก็ไม่มีซะด้วย  หนักใจเหมือนกันครับ  ภาวนาขอแต่อย่ามีข่าวแก๊สระเบิดก็พอ(ลูกชายยังตัวเล็กอยู่นะครับ) อย่าเบื่อนะครับ  เพราะดูเหมือนผมเข้ามาจะมีแต่ปรับทุกข์อย่างเดียว 

เสียงแก๊กๆๆๆๆ..จะเป็นเสียงวาล์วเขกหรือป่าวครับ  ตั้งไฟให้แก่ขึ้นน่าจะหายนะ

ผมต้องบอกช่างว่าตั้งไฟให้แก่ขึ้น  แค่นี้ช่างก็รู้ใช่ไหมครับ  หรือถ้าผมจะตั้งเองได้ไหมครับ  แล้วตั้งตรงไหนครับ

ตั้งตรงจานจ่ายครับ ต้องขันน๊อตออกแล้วค่อยๆขยับจานจ่ายทีละนิด แล้วฟังเสียงเครื่องด้วยว่าเดินสะดวกดีหรือไม่ ตรงไหที่ฟังแล้วว่าเครื่องเดินสะดวก  คราวนี้ขันน๊อตให้แน่นเลย
ที่สำคัญอย่า เราต้องจำให้ได้ว่าขยับไปทางไหน เดี๋ยวมั่วไปมั่วมามันจะแย่กว่าเก่าอีก

ตามป๋าว่าเลย ครับก่อนขยับก็เอาเหล็กแหลมหรือไขควง ขีดทำมาร์คไว้ก่อน ครับเผื่อยังตั้งกลับที่เดิมได้

ขอบคุณครับสำหรับเรื่องตั้งไฟ  ผมคงยังไม่กล้าลงมือเองหรอกครับ  คงต้องพึ่งช่างตามเคย  (วันเสาร์)  พอดีจะไปเปลี่ยนซินที่ว่านั้นด้วย  อ้อ?ผมลืมบอกไปว่าไอ้ไฟเตือนน้ำหล่อเย็นนั้นช่างบอกผมว่าลงกาวไม่ดี  ทำใหม่แล้วก็หาย(แต่เพื่อนที่ทำงานเตือนว่าบางทีช่างมันก็มักง่ายตัดของเราทิ้งไปเลยไม่มีไฟเตือนโชว์อีก) ผมก็หวั่นใจอยู่เหมือนกันเพราะไฟเตือนความร้อนก็ใช้ไม่ได้  ตอนนี้รู้สึกบริเวณเท้า(ขอโทษครับ)จะมีความร้อนผ่านเข้ามาผิดปกติอยู่ด้วย หรือผมคิดไปเองก็ไม่รู้  แล้วยังมีอาการที่ผมบอกว่าสำลักนะครับ  เรียกว่ากระตุกจะดีกว่า  กระตุกทีไรรู้สึกจะมีกลิ่นแก๊สเข้ามาในห้องโดยสารด้วยครับ  วันนี้กระตุกบ่อยมาก  ผทก็ขี้เกียจถามช่างเพราะได้คำตอบแบบเดิมคือลองขี่ไปสักพัก  ผมน่ะกลัวมันจะมีผลต่ออย่างอื่นแล้วรุนแรงไปเรื่อยสิครับ  แล้วพี่ๆพอจะบอกผมได้ไหมครับว่ามันเกิดจากอะไร

จูนแก๊สไม่ดีครับ

ขอบคุณครับ  พรุ่งนี้ผมจะลองไปอู่ที่ติดแก๊สดู  เขาคงตั้งไฟเป็นด้วย  (ผมชักมั่นใจแล้วว่าอู่ที่ซ่อมเครื่องไม่ไหวแล้ว)ขอเปลี่ยนซินเพลาเป็นงานสุดท้ายละกัน  ต่อไปคงหาอู่ใหม่  ว่าแต่พี่ๆมีใครอยู่  ตจว.ใกล้ศรีสะเกษบ้างไหมครับ  ช่วยแนะนำช่างให้มหน่อยเผื่อมีอะไรจะได้รบกวนปรึกษานะครับ

เก็บเงินเปลี่ยนเครื่องเลยครับ
ไม่ได้พูดเล่นนะ ประมาณ20พันก็อยู่แล้วสำหรับเครื่องSRIไม่รวมเกียร์

แล้วอาการกระตุกที่ว่าเป็นถี่มั้ยครับ
จำไม่ได้ว่าเคยเปลี่ยนอุปกรณ์อะไรไปบ้าง
สาเหตุน่าจะเกิดจากระบบไฟ  จานจ่าย คอล์ย
สายหัวเทียน หัวเทียน

แล้วหม้อต้มแก้สใช้งานมานานหรือยังครับ
สภาพแผ่นไดอะแฟรมเป็นยังไงบ้าง เคยล้างบ้างหรือเปล่า
เอาใจช่วยให้แก้ปัญหาได้

เรื่องความร้อน
เห็นว่าไฟเตือนความร้อนใช้ไม่ได้นี่ยังไงครับ
มันมีเกจ์ความร้อนอยู่นี่ สังเกตุเกจ์
และคอยตรวจดูน้ำในหม้อน้ำสม่ำเสมอก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ

เรื่องความร้อนบริเวณเท้า
มันมีลมร้อนลอดเข้ามาได้ เป็นเรื่องปกติของรถเก่า
ที่ระบบหมุนเวียนอากาศในรถเสื่อมหมดแล้ว

ผมคงพูดผิดนะครับ  ที่ใช้ไม่ได้คือเกจ์ระดับความร้อนนั่นแหละครับ  คือไม่ว่าจะวิ่งไกลแค่ไหนความร้อนก็อยู่ไม่ถึง  70  ซึ่งผมเคยเข้าดูหลายๆกระทู้ก็เห็นบอกว่าประมาณ  80  นี่น่าจะปกติ  แต่ของผมไม่เคยถึงหรือไม่เคยขึ้นด้วยซ้ำไป(สังเกตดูแล้วน่าจะใช้ไม่ได้) อาการกระตุกนี่ประมาณ 10  กม เวลาผ่อนเข้าโค้งจะกระตุกนะครับ  จานจ่าย  สายหัวเทียน  ผมก็เพิ่งเปลี่ยน  ล่าสุดจากคำแนะนำของพี่เวศผมไปให้ช่างตั้งไฟและจูนแก๊สให้พอไปถึงช่างบอกว่าหม้อต้มไม่ใช่ของทางร้านไม่กล้าแตะต้อง  เฮ้อ?แบบนี้ก็มีด้วย  เลยได้ตั้งแต่ไฟ  รู้สึกดีขึ้น  แต่เสียงแก๊กๆๆๆก็ยังมีอยู่  ช่างบอกว่าเป็นที่ถ้วยวาล์ว  โน่นนี่อีกมากมาย  จะลองขี่ไปดูก่อน