Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

เมื่อวานไปตลาดนัดอ.มวกเหล็ก ได้เครื่องวัดอุณหภูมิมา(ได้กล้องมาแล้วจะถ่ายให้ดู)  เมื่อเช้าเอาไปลองวัดอุณหภูมิ โดยติดเครื่องไว้เฉยๆ เอาที่วัดอุณแตะที่เครื่องไว้(ไม่เกี่ยวกับอาการที่เกิดเพราะแตะไว้เฉยๆ) จนพัดลมทำงาน เครื่องวูบลง เร่งคันเร่ง ดับไปเฉยๆ สตาร์ทติดง่าย ถ้าเร่งเครื่องในช่วงนั้น จะเร่งได้ทันที  แต่ถ้าทิ้งไว้2-3 นาที จะเร่งไม่ได้ หรือดับไปเฉยๆ  ถ้าจะเร่งต้องเลี้ยงคันเร่งจนเครื่องเริ่มตอบสนอง จึงเร่งต่อได้เป็นปรกติ.....ถอดสายยางที่ต่อจาก เรกกูเรเตอร์ ไม่มีน้ำมันในท่อ (จากกระทู้เก่า)แสดงว่า เรกูเรเตอร์ดี.... ทั้งหมดที่เกิดรถจอดกับที่ ..เมื่อรถวิ่งจะเกิดตามที่เคยโพสท์ไว้
*** สิ่งที่น่าสังเกตุ ถ้าเครื่องเย็นติดแครื่อง(ยากนิดต้องลากมอเตอร์สตาร์ทยาวๆ หรือต้องสตาร์ทอีกครั้ง..เป็นมานานแล้ว)  เมื่อเครื่องติดรอบจะขึ้น 1500-1800 เป็นเวลา2-3นาที ณ.จุดที่เครื่องมีรอบ1500-1800 เมื่อก่อนถ้าเหยียบคันเร่ง เครื่องจะตอบสนอง(เร่ง)  แล้วจะตกลงมาเป็นรอบธรรมดาสัก800 รอบ  แต่ตอนนี้ เมื่อปล่อยคันเร่ง เครื่องจะค้างที่ 1500-1800 เหมือนเดิม จนเข็มความร้อนกระดิก รอบจึงตกมาที่800รอบ
*** ช่วงนี้โพสท์มา2กระทู้แล้วคือ1. 405 SRI วูบเร่งไม่ได้ถึงดับไปเลย (28มิย.2011)
          2. ปห.อีกแล้วครับ-ไม่ต้องเร่งก็สะอึก (4 กค2011)
***ในช่วง2เดือนที่ผ่านมาเปลี่ยน กรองอากาศ, หัวเทียน, กรองเบ็นซิน, เร็กกูเรเตอร์(ใช้ของเก่าถอดจาก GRI แต่สเป็คที่ติดข้างตัว เร็ก? เหมือนกัน) ....ทดลองแรงดันระบบปั๊มเบ็นซินใช้ได้
.....ช่วยหน่อยครับ

ลองหมุนตัวตั้งรอบเดินเบาดูหรือยังครับ  (เป็นแท่งเหล็กอันเล็กๆ บริเวณตัวยึดสายคันเร่ง)

เจอสาเหตุแล้วโปรดบอกด้วยผมจะมีปัญหาคล้ายกันในบางครั้ง
เช่น รอบเกิน 900,สะดุดนิดหน่อย สงสัย Gas จูนไม่เนียน

ถ้าเป็นน๊อตเปลือยทั้งตัวสีดำ ต้องไขด้วยปากแบนขนาดไขควงเทสท์ไฟ อยู่ใต้จานพลาสติกสีดำที่ต่อกับสายคันเร่ง+สายเกียร์ออโต ละก็ใช่ครับ ปรับให้ปีกผีเสื้อแตะกับกระบอกครับ รู้สึกของเดิมจะปิดแน่นไป(ปิดสนิท)

คิดว่าพรุ่งนี้ถ้าลูกไม่เอารถไปทำงานจะล้างชุดปีกผีเสื้ออีกครั้ง บ่ายนี้เปิดเวบบ์ดูว่าจะมีกระทู้ไหนไกล้เคียงบ้าง ไปเจอการล้างปีกผีเสื้อ 406 "หัวข้อ: ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ 406 เองกันเถอะ ภณ(อ่านว่า พน)  วัน อังคาร ที่ 08 กรกฎาคม 2008 เวลา 12:27:42" (ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ที่เอารูปมาลง)  แต่ที่ผมเคยทำมา PG & Toyota EA101 คันละ2-3 ครั้ง ถอดเกือบทุกชิ้น(เท่าที่ถอดได้) ล้างด้วยเบ็นซินครับ
** ปัญหาคือ มอเตอร์เดินเบา (เฉพาะของ PG) เมื่อถอดมาล้าง ผมไม่เคยเห็นสปริงเหมือนในรูปที่แนบเลยครับ  ..เคยคิดว่าเมื่อถอดออกมาแล้ว จะต่อไฟตรงให้เดือยออกมาให้สุด เพื่อจะล้างได้สะอาดมากที่สุด แต่ในเวบบ์นี้ห้ามทำ ดังนั้นถอดออกมาอย่างไงก็ล้างแค่นั้น
** พรุ่งนี้(อาจ)ถอดชุดปีกผีเสื้อมาทำความสะอาด แล้วว่าจะเอามอเตอร์เดินเบาของ GRI มาใส่
 .... ขอคำแนะนำ,ความเห็น, ข้อควรระวัง, ทริก ต่างๆ ด้วยครับ

    ....อีกหนึ่งที่ที่รอบเครื่องจะนิ่งหรือไม่นิ่งลองดูที่สายตามรูปหลุดหรือแตกชำรุดรึป่าวครับ? (เป็นสายเส้นเดียวกัน)

 (http://images.temppic.com/10-07-2011/images_vertis/1310289230_0.33560200.jpg)
 (http://images.temppic.com/10-07-2011/images_vertis/1310289258_0.74703100.jpg)

สถาณการณ์ล่าสุดเป็นไงบ้างครับ

ตอนนี้รถไม่อยู่ครับ ภาพล่างนึกตำแหน่งออกครับ, แต่รูปบนอยู่บริเวณไหนครับ ตอนเย็นถ้ารถมาจะตรวจเช็ค แล้วแจ้งให้ทราบครับ

       (http://images.temppic.com/10-07-2011/images_vertis/1310293491_0.60210600.jpg)

ชัดครับ..ขอบคุณ

....ความคืบหน้าเป็นอย่างไรบ้างครับ :What:

เพิ่มเติมข้อมูล I
** ตอนเช้าขับรถไปส่งลูกที่เขาใหญ่(20กม)ทางขึ้นเนิน,ลงเนิน ?ไปซื้อของที่ปากช่อง20กม(ทางราบ), กลับบ้าน30กมถือว่าทางราบ(มาตามถ.??? (กท-สระบุรี-โคราช))
1. ช่วงทางไปเขาใหญ่ขับได้ปรกติ(ขับเร็วตามสภาพถนน-การจราจร) อุณหภูมิ 72-75C  สลับสายที่เทอร์โมสตัท คุมพัดลมให้สเตปแรก ทำฟูลสปีด
2. เริ่มเจอ ขับที่2000รอบ (พยายามรักษารอบไว้ตลอดการเดินทาง) รถคันหน้าเลี้ยวซ้ายเข้าซอย มีรถสวนมา ต้องเบา และแตะเบรกนิดหนึ่ง พอพ้นเร่งไม่ขึ้น ทดลองกดคันเร่งทันที ตอบสนองช้าจาก2-7วินาทีโดยประมาณ  เข้าตลาดซื้อสเปรย์ล้างคอนแทค(จะมาล้างคอนแทคทุกจุด) กระป๋องละ 300บ.
3. ขากลับบ้าน รถติดไฟแดง พอออกตัว จะเร่งแซงคันหน้า รถไม่ตอบสนองฟังไม่ได้ยินเสียงเครื่อง แต่ไม่ดับ(ไฟหน้าปัดไม่ขึ้นสักดวง) รักษาระดับเหยียบคันเร่งไว้ สัก5-7วิ- ก็ตอบสนอง  และทดลองเหยียบคันเร่งทันทีอีก2-3ครั้ง ก็ตอบสนองบ้าง ไม่ตอบบ้าง เหลือบดูความร้อนมีขึ้นถึง80C เหมือนกัน (บางครั้งเกย์ที่หน้าปัดขึ้นถึง90 แต่เกย์ดิกิตอลที่ติดเพิ่มขึ้นเพียง80C ก็ใจชื้นหน่อย)  จากเลยตลาดผลไม้กลางดงนิดหน่อย จะเป็นทางลาดลงยาวสัก4กม. ก็ไม่เหยียบคันเร่งปล่อยให้ลงมาตามแรงเฉื่อย ก่อนเลี้ยวจาถ.ใหญ่เข้าซอยเล็ก เหยียบเบรคนิดเลี้ยวเข้าซอย 90องศา พอตั้งลำได้ก็เหยียบคันเร่ง ไม่มีการตอบสนองซ้ำทำท่าเหมือนจะดับ (ครั้งนี้เป็นมากที่สุด)  รอเกือบ10วิ จึงเริ่มเร่งขึ้น
*** อยากจะสรุปว่า ถ้ากดคันเร่งกระทันหัน เครื่องไม่ตอบสนอง ...อาจถึงเกือบดับ
*** ขออธิบายละเอียดหน่อย เพราะหมอไม่เห็นสภาพคนไข้ ไม่ได้ตรวจสภาพคนไข้กับมือ ...คงต้องการรายละเอียดมากหน่อย
ขอบคุณครับ
ปล. คุณ SODA 405 ครับผมเช็คสายแวคในรูปแล้วครับ สภาพดีทั้งเส้น ยังนุ่มอยู่เลย  เพียงแต่ปลายทั้ง2ข้างเสียบไว้เฉยๆ ไม่มีแคล้มป์ล็อค ..ขอบคุณครับ

ลองเช็คความต้านทานสายหัวเทียน

เพิ่มเติมข้อมูล II
ว่าจะล้างปีกผีเสื้อ แต่ต้องมาซ่อมเครื่องตัดหญ้าแบบสะพายไหล่ MAKITA (เกือบ)เสร็จราวเที่ยง(เกือบเสร็จ=พอร้อนดับ..ยังไม่ได้แก้)   เลยเปลี่ยนจากจะล้างปีกผีเสื้อมาเป็นล้างจุดต่อต่างๆด้วยน้ำยาล้างคอนแทคที่ซื้อมา เริ่มตั้งแต่กล่องควบคุม,  รีเลย์, แจ๊ค+ปลั๊กต่อ, ฟิวส์+ช่องเสียบ ทุกตัว ทุกจุดที่มองเห็น และถอดได้ ของผมขาเสียบอุปกรณ์ยังเงา..อย่างน้อยก็ไม่เกิดสนิมเขียวให้เห็น ..ยกเว้น...ขาฟิวส์2ตัว และแจ๊คที่ต่อบริเวณเรือนเกียร์ออโต สกปรกมากเริ่มมองเห็นสนิม(รูปที่โพสท์ อาจไม่ชัด ใช้มือถือถ่าย ที่แย่คือ ถ่ายวัตถุเส้นตรง(กล่อง ECU เป็นเส้นโค้งไปได้..เชิญชม)
**ECU 1-2 (ที่ว่าถ่ายวัตถุเส้นตรงเป็นเส้นโค้งยึกยือ..ลูกชายบอกมือไม่นิ่ง) กล่องนี้ถูกเปิดมาแล้ว ตรงยางดำกลมๆ  ถูกเปิดมาแล้ว รวมทั้งฝาหลังด้วย  นึกไม่ออกว่าเคยมีปัญหากับกล่องเมื่อไร หรือถูกอู่เล่นกล ....> เอา ซิลิโคนยาขอบทั้ง4ด้าน  ใช้เทปผ้า(เทปหนังไก่) ปิดยางกลมดำทั้งหมด 
** ECU wire 1-3 คือตรงขั้วกระจุกสายที่จะเสียบกล่อง แตกครับ เขาเอาลวดพันไว้ ...> เอา Cable tie มัดเพิ่ม โปะด้วยซิลิโคน (ของโซนี่(น่าจะโค๊ด369) ไม่มี  เลยใช้บอสนี่ กระบอกละ50บ. แทนไปก่อน(เหมือนมีแป้งเพียบ)

เพิ่มเติมข้อมูล II ....
** ECU J-cleaning  ใช้น้ำยาคอนแทคคลีนเนอร์ ฉีดทำความสะอาด (กระป๋องละ300 ผมว่าแพงนะ..ไม่เคยซื้อใช้มาก่อน) พอฉีดพ่นไปแล้ว มีคราบขาวๆจับที่ปลายท่อฉีดด้วย  ฉีดไป2-3เที่ยว
** ECU-Lock  ให้ดูว่ามีน๊อตโผล่มาให้ยึด 3ตัว แต่ช่างยึดมาให้ตัวเดียว ถ้าไม่ยึดสายกราวด์(สีเขียว) จะใส่หัวน๊อตมาหรือเปล่าก็ไม่รู้

เพิ่มเติมข้อมูล III
** ตอนเย็นไปรับลูก ไปกลับตามเส้นทางที่1  มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น คือ
1.Start ของเดิมลากยาว 1-2 ครั้ง ถึงจะติด ..> คราวนี้ ชึ่งเดียวติด (แต่หลังฉีดล้าง ได้สตาร์ทเพียง 5-6 ครั้งเท่านั้น ..ชึ่งเดียวติด..รอผลอีกหน่อย)
2. วอร์มอัพ  ?แต่ก่อนโน้น? รอบจะขึ้นที่ 1200-1300 รอบสัก2-3 วิ  แล้วรอบจะลงมาวอร์มที่ 8-900รอบ หรือเมื่อกดคันเร่ง แล้วปล่อย รอบก็จะมาที่ 8-900 รอบเหมือนกัน  มาช่วงหลัง รอบจะขึ้นถึง1700-1800 รอบ  เมื่อกดคันเร่งแล้วปล่อย รอบก็จะไม่ตก ต้องรอเข็มความร้อนกระดิก รอบจึงตกมาปรกติ ทั้ง2เหตการณ์ จะออกรถได้ต่อเมื่อเข็มความร้อนเริ่มกระดิก ถ้าออกตัวก่อนนั้นรถไม่มีแรง  ..> คราวนี้ เป็นเหมือน ?แต่ก่อนโน้น?  แต่ออกรถได้เลย (มีแรงพอที่จะออกตัว)
3. เดินทางไป-กลับ รวมแล้วน่าจะ 50 กม. ไม่มีอาการวูบ สะอึก หรือแววว่าจะดับ  รู้สึกขับลื่น-ตอบสนองดีขึ้น สมกับเป็นรถ2000CC ที่ใช้เครื่องมือ2 (ของไทย..ไม่ได้เอามาจากนอก) + เกียร์ออโต รุ่น Rock N Roll คือมีทั้ง ลื่นเหมือนเกียร์หลุด(เสียงเครื่อง+รอบ ขึ้นเหมือนรถไม่ได้เข้าเกียร์ ดังนั้นเมื่อเกียร์จับ ก็จะสะดุด),  เวลาขึ้นเนินเปลี่ยนเกียร์เร็ว(ใช้เกียร์สูงขึ้นเนิน) เวลาลงเนินเปลี่ยนเกียร์ช้า (เชนเกียร์) ..ทั้งหมดเป็นบางครั้ง
** สรุป ณ.จุดนี้ ผลของการใช้ คอนแทค คลีนเนอร์  .... พอใจในผลครับ (ต้องรอผลสรุป โดยใช้ทางยาวกว่านี้อีกนิด)

วันนี้ลูกชายเอาไปใช้ บอกว่าไม่หายขาด (วูบลงไปที่รอบวอร์มอัพ) แต่เป็นน้อยกว่าเดิม

** ลืมบอกอาการที่หายไปคือเสียง ?ปักๆๆๆๆ? (เสียงคร่อมระหว่างปักๆๆๆ กับ ปังๆๆๆๆ) หลังถอนคันเร่งเมื่อขับด้วยความเกิน 60 กม.แล้วถอนคันเร่งจะเกิดอาการข้างต้น หลังฉีดล้างจุดต่อด้วย คอนแทคคลีนเนอร์แล้วอาการนี้หายไป 
** ตัวล็อคสายเกียร์ออโต ขาดมาเป็นปีแล้ว ใช้ลวดมัดไว้ มันเกิดสปาร์คขึ้นพึ่งจะเห็นเมื่อเช้า จัดการมัดให้แน่นไม่ให้สปาร์ค  ลูกชายเอาไปใช้ เมื่อกลับมาถามว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง มันตอบว่าปัญหาน้อยที่สุด ในรอบ2เดือน ..ไกล้ความสำเร็จเข้ามาอีกหน่อย

ยินดีด้วยครับ นี่แหละครับ ที่เขาว่า ทางลัดสู่   Guru เรื่องเครื่องยนต์กลไก  น้ีนคือใช้เปอร์โยต์

น่าจะยังห่าง Guru ครับ ตอนนี้ปัญหาเก่ากลับมาอีกคือ รอบสูงตั้งแต่สตาร์ท กว่าจะลงรอบปรกติ 7-800รอบใช้เวลามากกว่า15 นาที (คิดว่ารอบจะลงมาเมื่ออุณหภูมิถึง80C) ..สงสัยว่าจะเป็น Rugu อีกนาน

เมื่อคืนไล่เปิดกระทู้เก่าๆ พบคำว่าแมป เซ็นเซอร์ (น่าจะเกี่ยวกับอาการของผม) อ่านดูประมาณว่าอยู่ตรงปลายสายแวคที่คุณ SODA 45 โพสท์ อยากทราบว่า
1.ใช่ตำแหน่งนี้หรือไม่   2. ทำหน้าที่อะไร     3. ถ้าเสียจริงๆ จะเกิดอาการอะไร  4. ตรวจเช็คการเสียของตัวแมป-- ได้อย่างไร ........ ขอบคุณครับ

2..map sensor เป็นตัววัดปริมาณอากาศ ที่ไหลผ่านลิ้นปีกผีเสี้อครับ ไม่แน่ใจว่าส่งค่าเป็นอะไร ไปให้ อีซียู คำนวนเพื่อสั่งจ่ายเชื้อเพลิง
3...รวน
4..การตรวจเช็คว่าทำงานปกติหรือไม่โดยติดเครื่องไว้แล้วไปดึงปลายสายท่อยางออก อาการของเครื่องต้องแตกต่าง ถ้าไม่แตกต่างกันเลยคือเสียครับ.

ก่อนอื่น ต้องขอบคุณ คุณSODA 45 มากครับ ตอบไวทันใจจริงๆ เดี๋ยวเช็คดูครับจะล้างปีกผีเสื้อ เปลี่ยนมอเตอร์เดินเบา คอยล์จุดระเบิด   ...เข้าเรื่อง Guru เรียนไม่จบจริงๆ ผมมาอยู่นี่ 8-9ปี น้ำมันรถไถหมด ประมาณ10ครั้ง (ขนาดครึ่งปีใช้ที) ครั้งสองครั้งแรกก็ขอแรงช่างแถวนี้มาสาธิตให้ดู หลังจากนั้นทำเอง  เมื่อสองวันก่อนน้ำมันหมดอีก มีน้ำมันอยู่ลิตรกว่าๆ (ก็เผื่อไว้กรณีนี้แหละครับ)  เติมเข้าไป เป่าลม(ปาก) ไล่ลม จนหน้าจะมืด สตาร์ทจนแบตจะหมด คิดว่าน้ำมันน้อยไปซื้อน้ำมันมาอีก4ล. เป่าๆๆๆ เอารถลูกไปพ่วง สตาร์ทจนแบตเริ่มอ่อน จึงไปตามช่าง เขาให้เป่าไล่ลมอีกที  ลองสตาร์ทอีก 4-5ที ติดครับ สาเหต 1.น้ำมันค่อนข้างน้อย  2. รถหันหน้าขึ้นเนิน ทำให้การไล่ลมยาก +น้ำมันน้อย ปั๊มไม่ค่อยขึ้น  ....คงเป็น Rugu อีกนานๆๆๆๆๆๆ

เมื่อ2วันล้างปีกผีเสื้อ สับมอเตอร์เดินเบาจาก GRI มาใช้ สภาพเละกว่าของเดิมแต่ก็เปลี่ยนเพราะอยากรู้อาการชัดๆว่าต่างกันอย่างไร และต่อชุดวัดองศาปีกผีเสื้อ (แจ๊คอยู่ข้างล่างของชุดปีก--- ของเดิมไม่ได้ต่อมา)   ผลที่เกิดคือ
1. เวลาสตาร์ท ต้องเหยียบคันเร่ง และต้องเหยียบตลอดจนอุณหภูมิสูงกว่า60C (นาทีกว่า) ถ้าเร็วกว่านั้นถอนคันเร่ง..ดับ  เมื่อปล่อยคันเร่งได้ก็ ทดลองเร่งเครื่องมันจะตื้อที่4000รอบ สัก1-2วิ จึงเร่งขึ้น
2. กลิ่นเบนซินที่เคยคลุ้งตั้งแต่สตาร์ทกลับไม่มี  เมื่อปล่อยคันเร่งได้ก็ขับทดลองด้วยตัวเอง10กว่า กม.จับอาการไม่ได้
** เมื่อวานลูกเอาไปใช้ ตอนเย็นลูกบอกอาการแย่กว่าเดิม(แย่กว่าตอนแรกซ่อมอีก)  ..เมื่อเช้าเปลี่ยนมอเตอร์--- เอาตัวเก่าใส่  แล้วReset ECU   ถอดแบตขั้วลบออกประมาณครึ่ง ชม. แล้วใส่กลับ
     ขั้นตอน Reset-- ครั้งที่1. เหยียบคันเร่งสุด เปิดกุญแจแกร๊กแรก(รูปแบตขึ้นอันเดียว) นับ1..60 ปิดกุญแจ แต่ช่วงท้ายๆของการนับ รูปแบตหายไป(หน้าปัดไม่มีไฟติดเลย) เอ..หรือทำผิด
                           ครั้งที่2  เหยียบคันเร่งสุด เปิดกุญแจแกร๊กที่2 (ไฟหน้าปัดขึ้นทุกดวง) นับ1..60 ปิดกุญแจ   แล้วสตาร์ท ผล......
1. สตาร์ทง่าย รอบอยู่ที่ 900-1000 แต่เร่งไม่ได้...วูบ ต้องเลี้ยงคันเร่งจึงออกตัวได้ เอาไปลอง4-5กม....ไม่ดี เข้าบ้านเอาทดสอบ(จอดกับที่) เมื่อเร่งจะตื้อ+อาจวูบ เกือบทุกรอบเครื่อง (แล้วแต่จะเกิดที่รอบใด) ..ถ้าไม่ถอนคันเร่ง=ดับ
2. กลิ่นน้ำมันกลับมาคลุ้งเหมือนเดิม
3. ทดลองถอดสายจากเรกกูเรเตอร์ (ไปที่พักอากาศ) ...ไม่มีผลเปลี่ยนแปลง เอานิ้วอุดที่ตัวเรก-- ไม่มีดูด-อัด,  อุดฝั่งที่พักอากาศ มีผล(คือมีการดูด หรืออัด จำไม่ได้แน่ ...น่าจะดูดมากกว่า)
4. ถอดสายที่แมปเซ็นเซอร์ ไม่มีอาการเปลี่ยนแปลง ...
** ให้ลูกเอาไปใช้ก่อน เพราะสายแล้ว ให้เพื่อนมารับไม่ทัน  เมื่อสักพักโทรมาด้วยน้ำเสียงหมดอาลัยตายอยาก(อาการแย่กว่าเมื่อวานที่ใช้ มอเตอร์--เละๆอีก)  และให้ผมเข้าเวบบ์ และสแตนด์บายไว้ด้วย
**ข้อสงสัย เมื่อรู้อาการ(ลูกบอก) เมื่อกว่า2เดือนก่อนก็ล้างปีก-- พบว่าชุดวัดองศาปีกผีเสื้อ ไม่ได้ต่อไว้เมื่อประกอบก็พยายามต่อ(ตอนเปลี่ยนเครื่องคงวางสายไม่ดี..สายตึงมาก) ต่อได้  ใช้ไปสักพักเกิดปัญหา(จำไม่ได้ว่าปัญหาอะไร) ก็ถอดออกแล้วใช้ต่อมา ก็เกิดอาการเร่งแล้ววูบ จึงเริ่มโพสท์เข้ามาที่เวบบ์นี้...
** เห็นหลายคนในเวบบ์นี้ สั่งของจากเอกชัย เนื่องจากมีหลายที่ ..เอกชัยไหนครับ 1.เอกชัยกลการ 02-2260234-6 วรจักร,  2.หจก.เอกชัยกลภัณฑ์ 02-2492840 คลองเตย,  3.บจ. เอกชัยสุขุมวิท 02-3917927 สุขุมวิท,  4.บจ. เอกชัยดิสทริบิวชั่น 02-7429362-8   สุขุมวิท 50  หรือเพิ่มเติม ที่ไว้ใจได้ ...ช่วยหน่อยครับ

  

....ที่ผมเคยสั่งของเอกชัยสองแห่งตามเบอร์โทรนี้แหละครับ  02-2492840 คลองเตย,  3.บจ. เอกชัยสุขุมวิท 02-3917927-29

เพิ่มเติม
** ตอนนี้สงสัยอยู่2ตัว คือมอเตอร์เดินเบา กับ เรกกูเรเตอร์    ถามครับ ว่าตัวไหนเป็นสาเหตุใหญ่  หรือคิดว่าเป็นตัวอื่นครับ
** การ Reset ECU หลังการถอดล้างลิ้นปีก--- ควรต่อแบตก่อน เพื่อให้มอเตอร์-เซ็ตตัวเองก่อน แล้วจึงทำตามขั้นตอนที่โพสท์ข้างบน หรือไม่
** ลืมบอกไป..ช่วงที่ทดสอบเร่งเครื่องนั้นเมื่อขยับคันเร่ง จะมีเสียงฟีดได้ยินชัดเมื่ออยู่หน้ารถน่าจะมาจากตัวเร็กกู-- หรือท่อลมที่ต่อมาที่ ที่พักอากาศ แต่เป็นเสียงลมจะดูดหรือเป่า (ไม่แน่ใจ) แล้วรอบก็ตก
** ร้านเอกชัย นี่มีอีเมล์ หรือไม่ครับ

**ลูกชายเพิ่งกลับจากเขาใหญ่มาถึงบ้าน 25กม.3ชม.  บอกว่าเครื่องดับทุก(ขึ้น)เนิน ทางเรียบก็แค่ประคองไม่ให้เครื่องดับ ยิ่งเปิดไฟหน้าโอกาสดับยิ่งสูง ตอนเข้าบ้านเป็นทางลาดขึ้นไม่เกิน3องศา ผมขับเองใช้เวลาเกือบ3นาที ต้องรอจังหวะเครื่องเร่งได้ไม่ดับ
**สอบถามเรื่องอะไหล่ที่คิดว่าเกี่ยวข้อง   อ่านข้อมูลจากเวบบ์นี้แหละครับ
1.มอเตอร์เดินเบาว่าสามารถใช้กับอุปกรณ์ของLPG  ?ผมเคยซื้อของจีน (stepping motor)ที่ใช้กะระบบ lamda ของ lpg ตัวล่ะประมาณ 500 บ.  (ขายพร้อมกระบอก3 ทางดำๆ 1 อัน)  ถอดเอาหัวแบบเหลี่ยมๆ ออก แล้วใช้ของเดิมใส่แทน ถ้าจะดีก็ใส่กาวกันคลายเผื่อไว้ก็ดี ครับ....เสียบปลั๊กใช้งานได้ทันทีครับ ตอน ใช้ใหม่ๆ ก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ แต่มีคนลองแล้ว(ในเว็บซีตรอง)เลยทดลองดูหน่อย ของใหม่ก็ 2 พันได้มั้ง? และ
***เหมือนของคอร์ซ่า ทีบ้านเลย ราคาลดแล้ว 1274 ก็นับว่าถูกนะ  ?และว่าเหมือนกับของ BMW  ผมจำรุ่นไม่ได้
2. เรกกูเรเตอร์  ว่าแบ่งขายเป็นส่วน จากเวบบ์ ?มาเพิ่มเติม ส่วนที่เปลี่ยน เปลี่ยนเฉพาะคัทเอาท์หัวฉีดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ regulator เป็นสีเงินกลมๆ ราคา 2805 บาท พอได้ลด 20% ก้เลยเหลือ 2244 บาท ค่าแรงเปลี่ยน 120 บาท ?
*** ทั้ง2ชิ้น ใครมีประสพการณ์ เปลี่ยน/แปลง ตามลักษณะข้างบน ขอทราบรายละเอียดด้วยครับ หรือเคยซื้อของใหม่มาใช้ ราคาเท่าไร และซื้อจากไหน
**** ที่สำคัญที่สุด จากอาการที่โพสท์มา น่าจะเกิดจากอะไรครับ

**เปลี่ยนมอเตอร์เดินเบาเป็นตัวที่3 ตัวนี้เป็นของเก่าขอจากอู่มานานแล้ว .....ผล
1.สตาร์ทง่ายรอบแตะที่1พัน +-100รอบ ออกตัวได้ทันทีปราดเปรียวสมกับเป็นSRI ผ่านไปสัก2กม. อุณหภูมิที่75 จบ..วอดไม่มีแรง สตาร์ทติดง่าย เข้าเกียร์ ออกตัวไม่ได้ ...ไม่มีแรง รอจังหวะอยู่เกือบ10นาที จึงพยุงตัวกลับบ้านได้ ประคองขึ้นเนินได้ ลองเร่งดู..วอด ไม่มีแรง ใช้แรงเฉื่อยถึงหน้าบ้าน แต่เข้าบ้านไม่ได้(เบาเครื่องเพื่อเลี้ยวเข้าบ้าน ขึ้นทางลาดสัก3องศา)..ดับ เลยปล่อยไว้สัก 20นาที สตาร์ทใหม่ (อุณหภูมิ65)  เข้าที่จอดได้เหมือนรถปรกติ
*** เหมือนการทดลองอยู่กับที่ สตาร์ทง่าย เร่งได้ตามที่เหยียบ แต่สัก5นาที เริ่มวอด เร่งไม่ได้ เร่งมากเหมือนจะดับ ถอดสายอากาศจากเร็กกู--- ไปที่พักอากาศ....อาการไม่เปลี่ยน,  ถอดสายจากที่พักอากาศ ไปแมปเซ็นเซอร์ อาการเปลี่ยน..เครื่องค่อยๆเบาลง
***** เหมือนกับว่า ตอนติดเครื่องครั้งแรก มีแรงอัดน้ำมันเต็มระบบ พอใช้ไปแรงดันตก ปั๊มขึ้นไม่ทัน เครื่องเลยไม่มีแรง พอพักสัก10 นาที มีการเซทตัว (เซทระบบแรงดัน)  สตาร์ทแล้วพอออกตัวได้ ........กำลังหาเร็กกูเรเตอร์ มาเปลี่ยน

*** ถ้าท่อที่ต่อระหว่างท่ออากาศใหญ่ ต่อไปยังชุดที่เติมน้ำมันเครื่อง ขาด/รั่ว จะเกิดอาการอะไรครับ

ดูเซนเซอร์เฟืองไมล์ด้วยครับ จะเป็นส่งสัญญานไปที่กล่อง ECU  เพื่อคำนวนการสั่งจ่ายน้ำมันครับ ตัวนี้จะเสียยากแต่มันจะสกปรกบางที่มันจะดูดเศษสนิมไว้เต็มเพราะข้างในมีแม่เหล็ก 
1.ถอดมาล้างด้วยคลีนเนอร์ได้ ที่ปลายสายไมล์ติดกับเกียร์ มีน๊อตเบอร์ 11 ยึดอยู่ 1 ตัว ถอดแล้วดึงขึ้นเลย ปลดสายไมล์ออก  ทำการฉีดคลีนเนอร์เข้าไปล้าง  ของผมสกปรกไหลออกมาเป็นสีโคลนเลยครับ   ก่อนใส่กลับรอให้นำยาแห้งก่อนนะครับ  แล้วทดลองใช้ดูก่อนก็ได้ครับ
2.ต่อด้วยผมถอดฝาครอบ ฝาที่มันประกบกันอยู่ครับถอดยากหน่อยมันเป็นซีลยึดไม่ใช่กาวออกแรงหน่อยก็ดึงออกได้  ทำความสะอาดแกนแม่เหล็กข้างในด้วย  มีสนิมเหล็กเต็มเลย  สรุปอาการ สตาร์ยาก ชอบดับ กระตุกๆๆ  ยึกยึกยักยัก หายครับ
3.มันมี 2 รุ่นครับ รุ่นราคา 800-900บาท กับรุ่น 3 พันกว่าบาทตัวนี้ระหัสขึ้นต้นด้วย 275......  หน้าตาเหมือนกันแต่ใช้แทนกันไม่ได้ครับ    สำหรับรุ่น 800-900 ที่ผมมีของซื้อจากในเวบมาถ้าใช่ตัวนี้ผมยินดีขายให้     
ลองดูเป็นแนวทางก่อนนะครับ     

** วันนี้ สตาร์ทเครื่องแล้วปล่อยให้วอด (รอจังหวะ) เร่งเครื่องแล้วดับเองเลย ทิ้งไว้ครึ่งชม. ถอดสายส่งน้ำมันเช็คแรงดันปรากฏว่าน้ำมันในท่อยังมีแรงดันอยู่(ฉีดออกมาจากท่อ) ...ระบบปั๊ม และส่งน้ำมันน่าจะหมดปัญหาโดยเด็ดขาด
** เรื่องเซ็นเซอร์เฟืองไมล์ ที่ถอดออกมาล้างเป็นของใหม่สำหรับผมเลย เคยถอดเปลี่ยนสายครั้งหนึ่งหลายปีมาแล้ว ใช้มาครึ่งปีถอยหลังขาด เลยไม่ได้ใช้อีกเลย เดี๋ยววันจันทร์จะถอดมาทำความสะอาดตามที่คุณKick ว่า แล้วจะโพสท์ผลให้ทราบ

ท่อระบายอากาศของถังน้ำมันอยู่ตรงไหนครับ

1.มอเตอร์เดินเบาว่าสามารถใช้กับอุปกรณ์ของLPG  ?ผมเคยซื้อของจีน (stepping motor)ที่ใช้กะระบบ lamda ของ lpg ตัวล่ะประมาณ 500 บ.  (ขายพร้อมกระบอก3 ทางดำๆ 1 อัน)  ถอดเอาหัวแบบเหลี่ยมๆ ออก แล้วใช้ของเดิมใส่แทน ถ้าจะดีก็ใส่กาวกันคลายเผื่อไว้ก็ดี ครับ....เสียบปลั๊กใช้งานได้ทันทีครับ ตอน ใช้ใหม่ๆ ก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ แต่มีคนลองแล้ว(ในเว็บซีตรอง)เลยทดลองดูหน่อย ของใหม่ก็ 2 พันได้มั้ง? และ

           รบกวนสอบถามท่านเจ้าของกระทู้ ครับวิธีการถอด เปลี่ยนหัวมอเตอร์ เดินเบาทำอย่างไรครับบิดเป็นเกลียวหรือเปล่าครับ...ตอนนี้ กำลังติดตามกระทู้นี้อยู่ครับ..ยังวิเคราะห์ไม่ถูกครับ..เอาใจช่วยนะครับ.. :Oooops:

ตอบคุณ Mark ......เพิ่มเติม ..
*รถผม 405 sri เดิมๆเปลี่ยนตัวที่ว่านี้มาเกือบ 2 ปีแล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นถอดมาทำความสะอาด 1 ครั้ง จนวันนี้รอบเดินเบายังปกติอยู่ (ร้านขายส่งอุปกรณ์แก๊สแถวแฮปปี้แลนด์)....แต่ไม่รู้ตอนนี้ยังมีขายอยู่ป่ะ
* เหมือนของคอร์ซ่า ทีบ้านเลย ราคาลดแล้ว 1274 ก็นับว่าถูกนะ
*หน้าตาเหมือนกับของ 605 เครื่อง D8 เลย  แต่ไม่รู้ว่าขนาดกับปลั๊กไฟ เหมือนกันรึป่าว แต่ที่แน่ ๆ ราคาต่างกันลิบ ถามเอกชัยเมื่อปลายปี ถ้าจำไม่ผิด ก็ 6 พันกว่าเลยต้องถามหาจากเซียงกง กว่าจะได้มาก็ 1 พันของเก่าที่เสีย เพราะเกลียวดึงแกนมันเละหลุดทั้งยวงของอีซุซุ พันกว่า ๆ น่าลองเอาของเราไปเทียบดูขออนุญาติ ก็อปรูปมานะครับ
NOTE ข้อความ(เพิ่มเติม)ข้างบนก็มาจากเวบบ์ PG นี่แหละ เมื่อผมเห็นว่าเกี่ยวข้องกัน ก็ก็อปปี้มาเก็บไว้ เพื่อเป็นข้อมูลตัดสินใจเวลาซ่อม ไม่ได้บันทึกว่าใครโพสท์ ไว้ในกระทู้อะไร เมื่อไร ..ก็ต้องขอโทษ และขออนุญาตผู้โพสท์ไว้ด้วย

1.ถึงวันนี้ผมยังไม่เห็น(นึกไม่ออก) อาการชัดๆที่เกิดจากมอเตอร์?  เลยครับ ผมมีอยู่3ตัวตามรูป ตัวซ้ายสุดถอดจาก GRI สภาพเละที่สุด(หมุนแกนได้รอบ) ตัวขวาสุดผมก็เปลี่ยนมือ2 จากอู่มาใส่ SRI ใช้มาหลายปี แล้วเก็บของเก่าคือตัวกลางไว้ เมื่อ2วันก่อนผมก็เอาตัวกลาง(ของเก่าจากคันนี้มาใส่อีกรอบ (ดูข้อ3)) ...เมื่อวานผมพังตัวซ้ายออกมาดู(ใจร้อนไปนิดครับ น่าจะลองต่อไฟดูว่าคู่ไหนหมุนไปทางไหน)  มองเห็นอุปกรณ์/การทำงานแล้ว  ยังนึกไม่ออกว่าอะไรทำให้เสียได้นอกจากหัวสึกจนเสียรูป อากาศเข้าได้
2.ที่คุณถามมาคงคิดแบบเดียวกับผมตอนแรก คือซื้อมา500 (มือ2ยังแพงกว่ามั้ง) แล้วมาเปลี่ยนหัวเอา แต่จากที่รื้อมีวิธีเดียวคือถอดแกนออกโดยวิธีหมุนเกลียวออกมา ในความเห็นของผม เสี่ยงครับ   แต่ถ้าคุณหาของได้แล้วจะลองก็ได้แต่คงต้องใส่น้ำยากันคลายด้วย แต่อยากให้พิจารณาข้อ1.ข้างบนด้วย
3.อาการเสียของผมในกระทู้นี้ เวลานี้ผมมั่นใจแล้วว่า ไม่ใช่เสียจากมอเตอร์---  ถ้าจะเกี่ยวข้องก็เพียงเบ้ารับหัวมอเตอร์--  (อยู่ในชุดปีกผีเสื้อ ที่มีคราบเขม่าจับเยอะ อาจทำให้หัว แนบกับเบ้าไม่สนิท ..ทำให้อากาศรั่วได้  ผมใช้ไม้ไผ่เหลาแบนแหย่เข้าไปขูดเขม่าดังกล่าวออกมา)
4. ถ้าจะล้างก็ขอให้ดูในลิ้งค์นี้ครับ (คนในเวบบ์นี้แหละครับที่ไปพบ แล้วนำมาโพสท์ไว้เรื่องราคา ..แต่ผมอยากให้พิจารณาขั้นตอน-วิธีการล้าง)
** ตามลิงค์ครับ ผมต้องการสื่อสารเฉพาะราคามอเตอร์ใหม่เมื่อซื้อจากยี่ห้อ ISUZU นะครับ ไม่ใช่เรื่องถอดล้างมอเตอร์   

http://www.weekendhobby.com/board/trooper/Question.asp?ID=18351

5.ของคุณ(เสีย)อาการอะไรครับ

* เปลี่ยนเร็กกูเรเตอร์... ญาติจากกท. จะมาเจอกันที่ มหาจุฬาลงกรณ์ (วังน้อย)เลยให้แวะเอาอะไหล่มาให้ด้วย  จึง โทรสั่งเร็ก? จากอู่ที่รัตนาธิเบศ และขอคำปรึกษา ทางช่างบอกอาการนี้ เร็ก--- ไม่น่าเกี่ยว  เมื่อผมยืนยันจะเอาก็คิดราคาพิเศษให้   ของที่ได้มา ทำในเยอรมันครับ แรงดัน 30บาร์ ..ของเดิมเป็นเวบเบอร์  แรงดัน 250KPA (=30Bar ไหม)  เปลี่ยนไปแล้ว อาการเหมือนเดิม ...ไชโย
* ที่ผมดื้อช่าง เพราะเร็ก? ของผมมีชิ้นส่วนเสีย เลยเปลี่ยนให้หมดกังวล  เคยพบในเวบบ์ว่า ผู้โพสท์เคยแบ่งซื้อ(ส่วนบน)ได้ ในราคา2พันเศษจากศูนย์บริการ คิดจะหาซื้อเหมือนกัน แต่อยู่ที่นี่คงลำบาก ก็เลยขอซื้อของมื2ดีกว่า
* คิดเองว่า "ส่วนบน" คือ 3-4 ชิ้นที่แยกจากตัวโลหะได้

*ขอแก้โพสท์ก่อนหน้านี้ "ของที่ได้มา ทำในเยอรมันครับ แรงดัน 30บาร์ ..ของเดิมเป็นเวบเบอร์" เปลี่ยน30บาร์ เป็น3บาร์ ครับ
* คิดว่าเป็นอะไหล่ที่เสียยากตัวหนึ่ง เพราะ คาดว่า ในกระเปาะโลหะ นั้นประกอบด้วย ไดอะแฟรม ทำงานลักษณะ "Normal close" คือปิดทางเดินน้ำมัน เปิดไดอะแฟรมจากลมดูด จากที่พักอากาศ (ท่ออยู่ไกล้ๆกับชุดลิ้นปีกผีเสื้อ) แต่ชุด เร็กกูเรเตอร์ นี้ประกอบแน่นกับเบ้าของมัน ถ้าใช้มานานการถอดน่าจะทำให้ตะแกรงนั้นหัก (ผมอาจถอดไม่เป็น)
* ใครรู้เรื่องกายภาพ, หลักการทำงาน, การบำรุงรักษา, อื่นๆ  ...... ขอแบ่งปันความรู้ด้วยครับ

** ผ่ามอเตอร์เดินเบา คิดมานานว่าอยากดูกลไกข้างในของอะไหล่ที่ค่อนข้างแพงตัวนี้ ตอนนี้มีของ +โอกาสแล้ว เลยผ่าเสียเลย แต่ผมเสียโอกาส ที่จะทดลองดูการทำงานของมันก่อนผ่า เช่นการเคลื่อนตัวเข้า-ออก มันเคลื่อนโดยหมุนรอบตัว หรือเคลื่อนไปตรงๆ,  ระยะเคลื่อนตัวสั้นสุด-ยาวสุด สักเท่าไร .....เพราะพอคิดจะรื้อก็ลงมือรื้อเลย  ดังนั้นที่โพสท์นี้เกิดจากการ ประมาณการ, คาดการณ์, คิดว่า, เดาว่า และจินตนาการ ..จึงขอให้ใช้วิจารณญาณ+ประสพการณ์ +ข้อมูลที่เคยมีคนโพสท์ไว้ประกอบครับ
*การผ่าทำโดยใช้ฆ้อนตอกจากหัวเดือยลงไป พอสลักเหล็กเล็กๆ3ตัวที่ยึด(อยู่ท้ายบอดี้ ชุดเสียบสายไฟ) หลุดออก ก็ถอดทุกชิ้นได้
*ลักษณะที่ใช้ได้ สภาพทั่วไปดีไม่บุบ-เสียรูป, แกนจะขยับขึ้นลงได้เล็กน้อย(ตามระยะของแผ่นสปริง) แกนจะหมุนรอบตัวเองไม่ได้เลย ..ถ้าเป็นแบบแล้วผมว่ายังใช้ได้ ของผมที่เปลี่ยนตัวสุดท้าย ก็เป็นของเก่าของผมเองที่เก็บไว้ หลังซื้อของมือ2 มาใช้
*การเสีย โดยกายภาพแล้วน่าจะเสียยาก ตัวมันถูกคุมด้วยECU ซึ่งนำหลายๆปัจจัย มาประมวณผลเพื่อสั่งการ นั่นคือถ้าองค์ประกอบอื่นส่งข้อมูลผิด การทำงานของมอเตอร์ก็น่าพลาดไปด้วย
* การล้างควรเน้นที่เบ้ารับหัว ที่เราเอาตัวมอ- เสียบเข้าไปให้สะอาด, ส่วนตัวมอ? ให้คว่ำลงทำความสะอาดเท่าที่ทำได้ ก็น่าจะพอ เพราะในตัวมอ? มีฝุ่นคล้ายที่ติดปลายท่อไอเสียติดอยู่ทุกซอกมุม ถ้าทำปฏิกริยาสารล้างอาจเกิดความเหนียว-แข็งตัว จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน
****หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้าง

เปลี่ยนแล้ว ...เพราะของเก่ารั่ว และเพื่อความสบายใจ(เพื่อกระชับ..ต้นเหตุของปัญหา)

การแปลงมอเตอร์เดินเบา เจอแล้วครับเพิ่งอ่านเจอเมื่อกี้ครับ เนื่องจากรถผมยังใช้โซฮอลล์อยู่ ไม่เคยเข้าไปในกลุ่มหัวข้อ LPG &NGV เลย  ที่เจอคือการแปลงมอเตอร์ เดินเบาราคา600 บ.(ถูกกว่าเวบบ์ ทรูเปอร์((ของใหม่)กว่า3เท่าตัว) มาแปลงใช้กับมอเตอร์เดินเบาใส่ PG ละเอียดมากพอจะ DIYครับ อยู่ในเวบบ์เรานี่เอง ขออนุญาติ นำมาแปะไว้ที่นี่ครับ
** ในกลุ่ม LPG & NGV /โพสท์โดย คุณเฟืองทอง /จันทร์ ที่ 29 พฤศจิกายน 2010 ..ไม่รู้จะสะดวกในการค้นหรือเปล่า  โพสท์สุดท้ายที่ผมอ่านคือของคุณ ภณ(PON)  เมื่อ: วันนี้ เวลา 19:05 ?
** ขอบคุณผู้ตั้งกระทู้ดังกล่าว และผู้ร่วมให้ความรู้ในกระทู้ดังกล่าวมากครับ ทุ่นเงินไปอีกเยอะ

ลืมหัวข้อกระทู้ครับ หัวข้อ: แปลงมอเตอร์เดินเบาของเครื่องให้เป็นมอเตอร์แก๊ส

ตอนนี้..ใช้ แอลพีจี..มีอาการเบาดับครับ ขับปกติวิ่งได้ดี แต่พอถึงเวลาที่จะต้องจอด หรือวิ่งแล้วเจอไฟแดงหรือเมื่อต้องจอด จะเบาดับครับ เกือบทุกครั้ง จูนแก๊ส..ยังไงก็ไม่หาย ครับ
    ตกลงของท่านแก้ไขได้แล้วใช่ไหมครับ ...ยินดีด้วยนะครับ  ถ้าไม่จบจริง ๆ ผมมีข้อแนะนำใหม่..เคยเห็นมาแล้วครับ ทำได้จริงวิ่งดีด้วยถ้าใช้แก๊สด้วยละก็ แจ่มเลยครับ
   อู่ช่างลี อยู่ใกล้ ๆ กลับท่านแหละครับ อยู่ใกล้เลี่ยงเมือง สระบุรี ช่างเปอร์โยรองเมือง เก่าครับ.. ช่างเล่นเอาชุดท่อร่วม จีอาร์ ใส่แทน เอชอาร์ไอ เลยครับใส่ คาบู ใส่ชุดจุดระเบิดของ จีอาร์..วิ่งป๋อ เลย
ผมงง.. มากเลย แต่เห็นทำกับตาจริง ๆ ครับ ช่างบอกจะไปเสียเวลาซ่อมทำไม ถ้ารวนกวนประสาทมาก ๆ จัดแบบนี้ไปเลย วิ่งดีอีกด้วย เครื่อง 2000 คาบู ผมมีเบอร์โทรครับ เผื่อจะลองแบบ เวอร์ชั่นพิศดาร บ้างครับ ช่างลี 0819465076

  

ขอโทษนะครับ ที่คุณโพสต์มาซะยาวเนี่ย  ถ้าผมจำไม่ผิดที่ทำไปแล้วคือ

1 เรกกูเลเตอร์น้ำมัน (ซึ่งไม่เกี่ยว เพราะ-ของเดิมมันไม่เสีย)

2 เปลื่ยนมอเตอร์เดินเบาสภาพไม่ดีนัก แน่ใจได้อย่างไรว่าไม่เสีย

3 ล้างลิ้นเร่ง   ในเรือนลิ้นเร่งมีเซนเซอร์หลายตัวนะครับ  ถ้ามันเสียก็คือเสีย ล้างไปก็คือเดิม

4 แมบเซนเซอร์ อันนี้ผมจำไม่ได้ว่าคุณทำอะไรกับมัน  ถ้ามันเสียก็ทำให้รวน

สรุปว่าที่เปลื่ยนจริงๆคือเรกกูเลเตอร์ตัวเดียวเอง............

ยังมีอีกหลายตัวครับที่ทำให้รถรวน  ผมเองก็ไม่ใช่เซียนเลยไม่กล้าฟันธงว่าอะไรเสีย เพราะนั่นหมายถึงคุณต้อง

ควักกระเป๋าซื้อมาลอง กว่าจะเจอก็คงจะอ่วม นอกจากคุณจะมีอะหลั่ยดีๆไว้คอยถอดสลับเล่น

เวลาว่างๆแแบบผม (อาหลั่ยพวกนี้เวลารถพรรคพวกในกลุ่มรวน ก็มักจะเอาไปลองสลับดู เจอตัวเสียแล้วค่อยสั่ง

ซื้อมือสองราคาขำๆจากต่อย    บางทีช่างยังยืมของผมไปลอง เรื่องปรกติ หรือตัวไหนไม่มีถอดเอา

จากรถผมนี่แหละไปลองเลย ไม่เคยหวง เพราะผมถือว่าถ้าช่าง "ถึง" กับผม ผมก็ "ถึง" กับช่างเหมือนกัน)

กรณีของคุณ ผมว่าเอามาเข้าอู่เปอร์โยต์จริงๆดีกว่า  ปัญหาแค่นี้สบายมาก  ที่คุณโพสต์มานะผมก็เคยเป็น

แต่ตัวเสียอาจจะคนละตัวกันกับของคุณ  ให้ช่างเขาดูดีกว่าครับ  ผมคนโคราช แต่แนะนำเข้าอู่ในกรุงเทพดีกว่า

ถ้ายังอยากลองปล้ำเองต่อ  เอาแบบนี้ครับ.......

เข้าศูนย์เปอร์โยต์ที่โคราช  ให้เค้าเช็คดูว่าอะไรเสีย คุยกับช่างเลยตรงๆเลยไม่ต้องอ้อมค้อม

ว่าจะซื้ออะหลั่ยมาซ่อมเอง  คุยกับช่างนะ อย่าไปคุยกะผู้จัดการ แกจะเปิดจ๊อบท่าเดียว

ไม่ต้องเปิดจ๊อบเดี๋ยวจะหงายท้อง เสียค่าบริการไม่มาก  มีสินน้ำใจให้ช่างตามสมควร

 ดีกว่ามาเดาเอาเอง โชคดีครับ

 

 คุณ Mark & Madmax
* เรื่องติดแกซนี่ คนใช้เขายังไม่เห็นด้วย ...แต่ช่างลีนี่อัธยาศัยเป็นยังไงครับ ผมมี GRI อ้าปากอยู่อีกคัน ...ที่อู่มีพวกอะไหล่เก่าไหมครับ
*1 เรกกูเลเตอร์น้ำมัน (ซึ่งไม่เกี่ยว เพราะ-ของเดิมมันไม่เสีย) ..ที่เปลี่ยนคือไส้ตะแกรงมันแตกครับ
*2 เปลื่ยนมอเตอร์เดินเบาสภาพไม่ดีนัก แน่ใจได้อย่างไรว่าไม่เสีย..เปลี่ยนไป3ตัว(ของเก่าทั้งหมด) อาการเหมือนเดิม ใจแค่คิดว่าอาการเสียมันไม่น่าเหมือนกัน(เท่ากัน) ..กำลังพิจารณาเอาของแกซ มาโม-- ครับ
*3 ล้างลิ้นเร่ง  ในเรือนลิ้นเร่งมีเซนเซอร์หลายตัวนะครับ  ถ้ามันเสียก็คือเสีย ล้างไปก็คือเดิม ..ข้อนี้ละครับปัญหา ทดลองถอดแจ๊คออก จับอาการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนไม่ได้..ไม่มีสเปคให้ตรวจสอบ
*4 แมบเซนเซอร์ อันนี้ผมจำไม่ได้ว่าคุณทำอะไรกับมัน  ถ้ามันเสียก็ทำให้รวน ..อันนี้มีโพสท์ ให้ทดลองถอดท่อลมออก อาการเปลี่ยนแสดงว่าแมปไม่เสีย ผมถอดแล้วรอบตกลงครับ
** คิดว่าจะเอาเข้ากท. แต่คงต้องออกจากมวกเหล็กสัก2ยาม ไปถึงกท.สัก 6-7โมงเช้า ...แต่ความรู้สึกนะครับ มันเป็นเส้นผมบังภูเขาเลยยังลังเล และคุยกับครอบครัว ว่าถ้าเอาเข้าจริงๆ คงต้นเดือนหน้า ..ลูกจะไปต่อใบอนุญาต +เมียจะไปทำความสะอาดบ้าน ไม่มีคนอยู่มา2-3เดือนแล้ว +ผมจะเอารถไปซ่อม
** ...ขอบคุณนะครับที่อ่านและพิจารณาตามที่ผมโพสท์ ..เพราะลูกผมอยากเปลี่ยน(ยี่ห้อ)รถเต็มที  ผมเองก็อ้างหลายเหตุผล เหตุผลหนึ่งคือเก็บไว้แบบเป็นรถโบราณ(SRI) เอาไว้ขับโชว์ ในอีก5-10ปี ...แต่ถ้าคน(อย่างคุณมีมาก)ในเวบบ์นี้ ยังอ่านโพสท์แบบพินิจพิเคราะห์ ให้เหตุผล แนะนำที่มีเหตุ-มีผล  ประกอบกับคนขับ PGส่วนใหญ่ต้องมีความชอบพิเศษ ตามเหตุผลส่วนตัวของแต่ละคน อีก10-20ปี คงยังมีวิ่งเต็มเมือง..มันจะเป็นรถโบราณ..รถอนุรักษ์ ได้ยังไง  มันคงยังเป็นรถในสมัยนิยมเหมือนเดิม
**ขอบคุณอีกครั้งครับ

* เรื่องติดแกซนี่ คนใช้เขายังไม่เห็นด้วย ...แต่ช่างลีนี่อัธยาศัยเป็นยังไงครับ ผมมี GRI อ้าปากอยู่อีกคัน ...ที่อู่มีพวกอะไหล่เก่าไหมครับ
   เหมือนกันเกือบทุกที่ แหละครับ เข้าตอนแรก ๆ ก็สงวนท่าที ก่อนหละพอคุยถูกคอ ทีนี้รื่นเลย แกซ่อมจากความชำนาญแต่ไม่มั่ว ไม่ค่อยมีเทคโนโลยี่ ครับ ผมว่าทดลองดูก่อนได้ อะไหล่เก่าเยอะ เห็นแกเปิดอู่อีกที่ใกล้ ๆ กันนั้นแหละ ลองโทรถามตามเบอร์ที่ให้ไว้ครับ ถ้่าค่าซ่อมแพงบอก เลยครับ sri คันสีน้ำเงินที่อยู่ สิงห๋บุรี แนะนำให้มา ลองดูนะครับ

*** เลิกขี่เต่าขี้โรค มาขี่สิงห์ฝรั่งเศสแล้วครับ Credit K.Madmax
 (น่าจะ) เจอเส้นผมบังภูเขาแล้ว จากกระทู้คุณ Madmax เอ่ยถึงแมปเซ็นเซอร์   เลยทดลองสับเปลี่ยน แล้วทดลองติดเครื่องทิ้งไว้นานสลับกับการเร่งบ้าง (อยากดูใจมัน)  เหมือนที่คาดคือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สุดท้าย..ดับ แล้วสตาร์ทไม่ติด (ของเดิมยังไงไม่เกิน2ครั้งก็ติด)  ดูเกย์น้ำมันซึ่งหวังพึ่งไม่ได้(แกว่งเสมอ)  ดังนั้นเพื่อให้หมดกังวล จึงเอาโซฮอลล์91 ที่ไว้ใช้กับเครื่องตัดหญ้ามาเติม ปรากฏว่าเวลาเปิดฝาถัง เปิดยากและมีเสียงฟี้ด ดังออกมา  จึงไปหาช่างที่คุมรถของไร่ PB(ภิรมย์ภักดี)  ถามว่าถังน้ำมันเป็นสูญญากาศ ได้ไหม ถ้าได้เกิดจากอะไร ..เขาตอบเป็นไปได้ บางครั้งดูดถังบุบเลย(เข้าเค้า) เกิดจากปลายท่อหายใจซึ่งจะมีกรองอยู่ด้วย กรองอาจตันปั๊มก็ปั๊มน้ำมันออกไปใช้ยาก  ถามย้ำว่ามีโอกาสดูดจนถังบุบเชียวหรือ เขาบอกเคยเจอ ..กลับมาถอดเบาะหลังพบมีสายน้ำมัน2-3เส้นต่อไปท้ายรถทั้งหมด   ยกแม่แรงมุดเข้าไปดู มีสายหนึ่งที่มาจากในเก๋งมีข้อต่อ ต่อคั่นอยู่ พยายามถอดก็ถอดไม่ออก  โทรไปอู่ที่รัตนาธิเบศ ช่างบอกที่เป็นสูญญากาศเป็นเพราะ ชาโคลกรองกลิ่น(อยู่ที่ซุ้มล้อหน้าซ้าย) มันตัน ตัวนี้ราคาแพง  แต่วิธีโมดิฟายคือตัดต่อท่อลมจากชุดมอเตอร์เดินเบา ต่อทางหนึ่งไปยังท่ออากาศใหญ่ที่ระหว่างกรองอากาศกับชุดลิ้นปีกผีเสื้อ
*ออกไปซื้อของทำการโมดิฟายที่ช่างแนะนำเสร็จเอาไปลองในส้นทางที่เคยขับแล้วเกิดปัญหา OK แฮะ แวะถามช่างลูกทุ่ง บอกเป็นไปได้ แต่ถ้าเป็นเขา เขาจะใช้สว่านเล็กๆเจาะฝาถังน้ำมัน (แบบฝาเครื่องตัดหญ้า) เพื่อเป็นรูระบายอากาศ ...ก็ง่ายดี
*ทดสอบกว่า150กม.แล้ว ไม่พบอาการวูบ

*ถังน้ำมันบุบนั้นเห็นตั้งแต่ตอนเปลี่ยนกรองเบนซินแล้ว แต่คิด(มักง่าย)ว่าเกิดจากฝีมือขับรถของลูก..ขนาดแมกซ์ PG ติดรถมายังคด3วง ต้องเอาของGRI ไปใส่แทน

ยินดีด้วยครับ.......  เยี่ยมจริงๆ   ที่แท้เส้นเลือดอุดตันนี่เอง  เจ้าสิงห์เลยสำแดงเดชไม่ออก

ความรู้ใหม่นะเนี่ยว่าท่อหายใจถังน้ำมันตันทำให้รถรวนได้ขนาดนี้

 :มอบดอกไม้:

....ดีใจด้วยครับ ลองผิดลองถูกเสียเงินไปตั้งเยอะ แต่ก็ได้เป็นอะไหล่ใส่รถดีกว่าเสียเงินเล่นหวยครับ(ถ้ากล่าวโดนผู้ใดต้องขอโทษด้วยนะคร้าบ!)

                           :สุดยอด: :สุดยอด: :สุดยอด:

...ดีใจด้วยครับ ลองผิดลองถูกเสียเงินไปตั้งเยอะ แต่ก็ได้เป็นอะไหล่ใส่รถดีกว่าเสียเงินเล่นหวยครับ(ถ้ากล่าวโดนผู้ใดต้องขอ โทษด้วยนะคร้าบ!)
*ถ้าไม่เล่นในแต่ละงวด จะไม่รู้ว่าเราแก่ไปอีก 15วันแล้ว
**ถังน้ำมันที่บุบครับ

*ขับมาอีก100กว่า กม. ไม่เจอปัญหา น่าจะหายแน่ จึงน่าสรุปปิดกระทู้ได้
*อาการที่เสีย
 1. สตาร์ทจะติดใน2ครั้ง แต่ออกตัวไม่มีแรงต้องวอร์มสักพักจึงออกตัวได้  ...สตาร์ทติดง่ายขึ้น ออกตัวได้ทันที หลังจากฉีดสเปรย์ล้างคอนแทค ทุกจุดที่เอาออกมาฉีดได้
2.เหม็นกลิ่นเบนซิน(มาก) .. หายหลังจากล้างปีกผีเสื้อ และต่อแจ๊ควัดองศาปีกผีเสื้อ(ของเดิมไม่ได้ต่อมา)
3.เมื่อขับด้วยความเร็ว(น่าจะเกิน60กม/ชม.) เมื่อถอนคันเร่ง จะมีเสียงปักๆๆๆ ...หายหลังจากฉีดล้างจุดต่อด้วยน้ำยาล้างคอนแทค
4.เรื่องรอบความเร็วเดินทาง เริ่มอาการแรกๆด้วยวูบลงมาที่รอบเดินเบา แล้วต่อมาเมื่อขับเกิน2000 รอบจะตกลงมาที่ประมาณ2000 รอสัก2-3 วิ จึงเร่งขึ้นได้ตามปรกติ สุดท้ายใช้รถไม่ได้เลย เพราะขับปรกติได้2-3กม. วูบลงมารอบเดินเบา เมื่อหยุดรถแล้วออกตัวอีกไม่ได้ รถไม่มีแรง ต้องจอดไว้สัก10-20นาที จึงขับต่อได้อีกระยะสั้นๆเหมือนเดิม ...การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นหลังจากซ่อมในแต่ละช่วง ดังที่บันทึกไว้ข้างต้น ...สุดท้ายสรุปได้ว่าเกิดจากท่อระบายอากาศของถังน้ำมันตัน
*การซ่อม
1. ทดสอบแรงดันเบนซิน ถอดสายน้ำมันที่รางส่งออก เอานิ้วโป้งอุดไว้ บิดกุญแจจังหวะ2 บิด2ครั้งแรงดันน้ำมันดันฉีดกระจายเต็มห้องเครื่อง..ใช้ได้ ...ช่วงท้ายๆของการซ่อม(รถใช้ไม่ได้แล้ว) ติดเครื่องรอจนเกิดอาการเริ่มวอด พอเครื่องเย็นก็ถอดสายน้ำมัน(จุดเดิม) ยังมีแรงดันน้ำมันฉีดออกมา(แต่เบา)  คุยกับช่างที่อู่รัตนาธิเบศ ว่าน่าจะพอใช้ได้(น่าจะ..เนื่องจากไม่ได้ใช้เกจวัด)
2.เปลี่ยนเรกกูเรเตอร์ เอาของ GRI มาใช้ แต่ชิ้นส่วนที่เป็นตะแกรงหัก ทั้ง2ชิ้นทั้งที่ถอดจาก GRI & SRI ซึ่งอาจหักตอนที่ผมถอดเปลี่ยน หลังจากเปลี่ยนแล้วอาการไม่หาย  ..สุดท้ายสั่งของมือ2จากอู่มา ซึ่งช่างก็บอกว่าไม่น่าเกี่ยวกับปัญหานี้ แต่ผมก็ยืนยันขอซื้อเพราะของที่ใช้ชำรุดที่กล่าวข้างต้น ..เป็นอะไหล่ชิ้นสุดท้ายที่เปลี่ยน (อาการเครื่องยังไม่เปลี่ยน)
3.ล้างปีกผีเสื้ออีกครั้ง หลังจากล้างมาเมื่อเกือบเดือน คราวนี้เน้นที่เบ้าเสียบมอเตอร์เดินเบา โดยใช้ไม้เหลาแบนๆ แหย่ลงไปทำความสะอาด คราบเขม่า ล้างโดยวิธีธรรมดาไม่ออก ต้องใช้วิธีแคะ  ล้างคราวนี้เอามอเตอร์เดินเบาจาก GRI มาใช้ (เน่าที่สุดในจำนวนที่มี3ตัว) ต่อแจ๊คของตัววัดองศาปีกผีเสื้อซึ่งของเดิมไม่ได้ต่อมา, ฉีดล้างแจ๊คต่างๆ ด้วยสเปรย์ มากกว่า2ครั้ง ....ผล(การทำงานของเครื่อง)เหมือนเดิม
4. มอเตอร์เดินเบา : ข้อ2 เปลี่ยนไปแล้ว1ตัว เมื่อไม่ได้ผลก็เอาของเก่า(ก็เป็นของผม ซึ่งถูกเปลี่ยน..มาหลายปีแล้ว แต่เก็บของไว้) มาเปลี่ยน ..อาการเหมือนเดิม เลยตัดอะไหล่นี้ออกไป ..ก็ใช้ต่อ(เป็นตัวเดิมของผมเอง)
5.สรุปว่า อาการของเครื่องเกิดจาก ท่อหายใจตันทำให้ภายในถังจะกลายเป็นสูญญากาศ ทำให้ปั๊มดูดน้ำมันได้น้อยไม่พอให้เครื่องทำงานได้สมบูรณ์ ผมใช้วิธีโมดิฟายตามที่ช่างอู่รัตนา แนะนำมา ...ผลการทดลองรวมแล้ว300 กม. ..ยังไม่เกิดปัญหา
****สุดท้ายขอบคุณทุกท่านที่ให้ความเห็น, คำแนะนำ, และสอบถามความคืบหน้า ครับ

มันตันตรงไหนครับ (ช่วงตรงไหน//ถอดมาตรวจสอบยังไงครับ)
มีรูปบริเวณที่มันตันก็ดีน่ะครับ

เพิ่มเติมรายละเอียด
*เมื่อถามช่าง PB แล้วกลับมาดูคู่มือ405 ที่คุณเฮงให้มา พบอยู่หน้าเดียว รูปเดียว อยู่ที่ Chapter4 Part D:  page 4D-1 พบคำว่า ?Charcoal canister? และเห็นว่ามีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ไม่แน่ใจ (ผมอ่อนแอภาษาอ.จึงอาศัยหาที่เป็นรูป) และเพราะคิดว่าน่าจะเหมือนที่ช่าง พีบีบอก คร่าวๆ ?เขาตอบเป็นไปได้ บางครั้งดูดถังบุบเลย(เข้าเค้า) เกิดจากปลายท่อหายใจซึ่งจะมีกรองอยู่ด้วย  กรองอาจตัน ....? แต่เนื่องจากไม่รู้เรื่องจึงปิดหนังสือแล้ว ?กลับมาถอดเบาะหลังพบมีสายน้ำมัน2-3เส้นต่อไปท้ายรถทั้งหมด   ยกแม่แรงมุดเข้าไปดู มีสายหนึ่งที่มาจากในเก๋งมีข้อต่อ ต่อคั่นอยู่ พยายามถอดก็ถอดไม่ออก?  ท่าจะเป็นทางตันจึง ?โทรไปอู่ที่รัตนาธิเบศ ช่างบอกที่เป็นสูญญากาศเป็นเพราะ ชาโคลกรองกลิ่น(อยู่ที่ซุ้มล้อหน้าซ้าย) มันตัน ตัวนี้ราคาแพง  แต่วิธีโมดิฟายคือตัดต่อท่อลมจากชุดมอเตอร์เดินเบา ต่อทางหนึ่งไปยังท่ออากาศใหญ่ที่ระหว่างกรองอากาศกับชุดลิ้นปีกผีเสื้อ?
*ผมสังเกตุการบอกวิธีการแก้ปัญหาจากช่าง รวมถึงรายการของโม ?น้าหาท่อทองเหลือง3ทางกับจุ๊บเติมลมรถจักรยานมาอย่างละอัน ?(ผมยังถามย้ำว่าอาการถังน้ำมันเป็นสูญญากาศนะครับ), จุดที่จะโม ช่างบอกคล่องไม่ติดขัด และเป็นช่างที่ผมซ่อมประจำมาหลายปี และรถของผมถ้าแกไม่ลงมือเอง ก็จะมาตรวจสอบให้บ่อย  ดังนั้นคราวนี้ผมจึงทำเท่าที่แกบอกให้โมดิฟาย  เมื่อผลออกมาดีผมก็เลยไม่ติดใจที่จะเอาตัวต้นเหตุมาดู  รีบไปทดสอบ แล้วลูกก็เอาไปใช้แม้ในวันนี้(อาทิตย์31กค54) แต่ผมก็ไปชี้ตำแหน่ง+อุปกรณ์ที่โมเพิ่มให้ลูกดู  เผื่อว่าเขาเอาไปซ่อมเอง  เผื่อช่างถามจะได้ตอบช่างได้

**นำไปทดสอบ....... ผลไม่เกิดอาการอีก จึงน่าสรุปปิดกระทู้ได้
*อาการที่เสีย
 1. สตาร์ทจะติดใน2ครั้ง แต่ออกตัวไม่มีแรงต้องวอร์มสักพักจึงออกตัวได้ ..หลังจากฉีดสเปรย์ล้างคอนแทค ทุกจุดที่เอาออกมาฉีดได้ .สตาร์ทติดง่ายขึ้น ออกตัวได้ทันที
2.เหม็นกลิ่นเบนซิน(มาก) หายหลังจากล้างปีกผีเสื้อ และต่อแจ๊ควัดองศาปีกผีเสื้อ(ของเดิมไม่ได้ต่อมา)..
3.เมื่อขับด้วยความเร็ว(น่าจะเกิน60กม/ชม.) เมื่อถอนคันเร่ง จะมีเสียงปักๆๆๆ หายหลังจากฉีดล้างจุดต่อด้วยน้ำยาล้างคอนแทค...
4.เรื่องรอบความเร็วเดินทาง เริ่มอาการแรกๆด้วยวูบลงมาที่รอบเดินเบา แล้วต่อมาเมื่อขับเกิน2000 รอบจะตกลงมาที่ประมาณ2000 รอสัก2-3 วิ จึงเร่งขึ้นได้ตามปรกติ สุดท้ายใช้รถไม่ได้เลย เพราะขับปรกติได้2-3กม. วูบลงมารอบเดินเบา เมื่อหยุดรถแล้วออกตัวอีกไม่ได้ รถไม่มีแรง ต้องจอดไว้สัก10-20นาที จึงขับต่อได้อีกระยะสั้นๆเหมือนเดิม ...การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นหลังจากซ่อมในแต่ละช่วง ดังที่บันทึกไว้ข้างต้น ...สุดท้ายสรุปได้ว่าเกิดจากท่อระบายอากาศของถังน้ำมันตัน
*การซ่อม
1. ทดสอบแรงดันเบนซิน ถอดสายน้ำมันที่รางส่งออก เอานิ้วโป้งอุดไว้ บิดกุญแจจังหวะ2 บิด2ครั้งแรงดันน้ำมันดันฉีดกระจายเต็มห้องเครื่อง..ใช้ได้ ...ช่วงท้ายๆของการซ่อม(รถใช้ไม่ได้แล้ว) ติดเครื่องรอจนเกิดอาการเริ่มวอด พอเครื่องเย็นก็ถอดสายน้ำมัน(จุดเดิม) ยังมีแรงดันน้ำมันฉีดออกมา(แต่เบา)  คุยกับช่างที่อู่รัตนาธิเบศ ว่าน่าจะพอใช้ได้(น่าจะ..เนื่องจากไม่ได้ใช้เกจวัด)
2.เปลี่ยนเรกกูเรเตอร์ เอาของ GRI มาใช้ แต่ชิ้นส่วนที่เป็นตะแกรงหัก ทั้ง2ชิ้นทั้งที่ถอดจาก GRI & SRI ซึ่งอาจหักตอนที่ผมถอดเปลี่ยน หลังจากเปลี่ยนแล้วอาการไม่หาย  ..สุดท้ายสั่งของมือ2จากอู่มา ซึ่งช่างก็บอกว่าไม่น่าเกี่ยวกับปัญหานี้ แต่ผมก็ยืนยันขอซื้อเพราะของที่ใช้ชำรุดที่กล่าวข้างต้น ..เป็นอะไหล่ชิ้นสุดท้ายที่เปลี่ยน (อาการเครื่องยังไม่เปลี่ยน)
3.ล้างปีกผีเสื้ออีกครั้ง หลังจากล้างมาเมื่อเกือบเดือน คราวนี้เน้นที่เบ้าเสียบมอเตอร์เดินเบา โดยใช้ไม้เหลาแบนๆ แหย่ลงไปทำความสะอาด คราบเขม่า ล้างโดยวิธีธรรมดาไม่ออก ต้องใช้วิธีแคะ  ล้างคราวนี้เอามอเตอร์เดินเบาจาก GRI มาใช้ (เน่าที่สุดในจำนวนที่มี3ตัว) ต่อแจ๊คของตัววัดองศาปีกผีเสื้อซึ่งของเดิมไม่ได้ต่อมา, ฉีดล้างแจ๊คต่างๆ ด้วยสเปรย์ มากกว่า2ครั้ง ....ผล(การทำงานของเครื่อง)เหมือนเดิม
4. มอเตอร์เดินเบา : ข้อ2 เปลี่ยนไปแล้ว1ตัว เมื่อไม่ได้ผลก็เอาของเก่า(ก็เป็นของผม ซึ่งถูกเปลี่ยน..มาหลายปีแล้ว แต่เก็บของไว้) มาเปลี่ยน ..อาการเหมือนเดิม เลยตัดอะไหล่นี้ออกไป ..ก็ใช้ต่อ(เป็นตัวเดิมของผมเอง)
5.สรุปว่า อาการของเครื่องเกิดจาก ท่อหายใจตันทำให้ภายในถังจะกลายเป็นสูญญากาศ ทำให้ปั๊มดูดน้ำมันได้น้อยไม่พอให้เครื่องทำงานได้สมบูรณ์ ผมใช้วิธีโมดิฟายตามที่ช่างอู่รัตนา แนะนำมา ...ผลการทดลองกว่า300กม. ยังไม่เกิดปัญหา
****สุดท้ายขอบคุณทุกท่านที่ให้ความเห็น, คำแนะนำ, และสอบถามความคืบหน้า ครับ

......ยินดีด้วยนะครับ.....
 :Oooops: :Oooops: :Oooops:

และยังใจดีแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ แก่สมาชิก....บ้าง case เหมือนเส้นผมบังภูเขาครับ

เป็นประโยชน์แก่เพื่อนสมาชิกมากเลยครับ
อนาคตข้างหน้าเป็นงัยต่อไป มาเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ

วันนี้ดูหนังเกี่ยวกับการแข่งรถ แล้วมาคิดดูว่าปั๊มน้ำมันเก่งขนาดดูดถังบุบได้หรือ คิดว่าส่วนมากคงจะไม่เคยเจอ กับช่างที่ซ่อมประจำผมก็ไม่ได้ถามเขาว่าเคยเจอไหม ช่างที่นี่อีกคนหนึ่งว่าน่าเป็นไปได้ อีกคน(ช่างไร่พีบี)ยืนยันว่าเคยเจอ
**ทั้งหมดต่อไปนี้เป็นการคาดการณ์ ว่าถังบุบได้อย่างไร*****
อาการทั้งหมดเกิดเมือลูกเอารถมาใช้ที่นี่ พอสรุปเหตุการณ์ที่เครื่องเกือบดับ ได้ดังนี้
1.ขับโดยลูกชาย / ครั้งแรกน็อกที่หน้าบ้าน โดยลูกบอกขับจาก(ที่ทำงาน)กึ่งกลางเส้นทางบนเขาใหญ่ ลงมาจนถึงบ้าน ถือว่าเป็นการลงเนินโดยเฉพาะบนเขาใหญ่มีทางค่อนข้างชันหลายช่วง  มีปัญหาเร่งไม่ขึ้น-รอบตก มาตลอดถึงหน้าบ้านเลี้ยวเข้าบ้านไม่ได้ต้องเข็นเข้า
   *ไปซื้ออะไหล่มาเปลี่ยน ตอนเปลี่ยนกรองเบนซินจึงเห็นถังบุบ(เป็นครั้งแรกที่เห็น ..โอกาสมุดเข้าไปก็มีไม่บ่อยนัก) เป็นไปได้ไหมเมื่อท่อหายใจไกล้ตันมากๆๆๆ เมื่อลงเขายาวๆ เครื่องไม่ดับ แต่ปล่อยความเร็วเท่าที่จะประคองรถได้ เพื่อมีแรงส่งขึ้นเนินต่อไปได้ เมื่อเครื่องไม่ดับย่อมดูดน้ำมันตามรอบเครื่องที่ขึ้นอยู่กับแรงเฉื่อย จะทำให้ถังบุบ  เมื่อพ้นเขาใญ่ทางลาดชันน้อยลง จึงคลานกลับมาได้
2.ผมขับเอง / ขับไปส่งลูกที่ทางขึ้นเขาใหญ่ แวะเข้าตลาดปากช่อง ออกจากปากช่องเริ่มอาการมากขึ้น ประคองตัวมา เลยตลาดกลางดงจะมีทางลาดลงยาวๆๆ  พอจะเลี้ยวเข้าทางเข้าบ้าน เครื่องวูบ ต้องรอเวลาจึงคลานเข้าบ้านได้
  *การขับนั้นขับช้า เพื่อดูอาการ กับถ้าเร่งแซง เกรงว่าจะเกิดอาการตอนกำลังแซง เมื่อออกจากตลาดปากช่อง ถังเริ่มเป็นสูญญากาศ จึงเริ่มเกิดปัญหา ช่วงจากตลาดกลางดงลงเร็วเพราะเป็นทางลาดลง สภาพสุญญากาศจึงมากขึ้น เมื่อเบาเพื่อเลี้ยว เครื่องจึงขาดน้ำมัน
3.ผมขับเอง / ช่วงล้างปีกผีเสื้อ, เปลี่ยนมอเตอร์เดินเบา ติดวอร์มเครื่องรวมแล้วสัก2ชม.ได้ (ติดๆ-ดับๆ เพื่อซ่อม)  คิดว่าใช้ได้ พอลูกกลับมาเลยชวนไปลอง(เป็นทางลาดขึ้น)ได้สัก2กม. วูบเร่งไม่ขึ้น ต้องรอเกือบสิบนาทีจึงคลานกลับบ้านได้
  *ตอนลองเครื่องอาจมีสภาพเป็นสูญญากาสน้อยๆ พอลองเครื่องเป็นทางขึ้นใช้กำลัง(น้ำมันมาก) สภาพสูญญากาศมากขึ้น จนถึงจุดดับ
**ทั้งหมดเป็นการคาดการณ์ ครับ***

ไอ้ท่อหายใจถังน้ำมันตันเนี่ย เคยเจอเหมือนกันครับ แต่ไม่ใช่เปอร์โยต์นะครับ ติดเครื่องไว้ สักพัดมันก็ดับไปเฉย ๆ หาทางแก้ยังไงก็ไม่หาย สุดท้ายถอดท่อหายใจออก โอ้ ...หายสนิทครับ

ปิดกระทู้ไม่ลงครับ ...ไม่หายขาด
*เมื่อตอนเย็นไปรับลูกชาย ฝนตกค่อนข้างหนักก่อนขับประมาณครึ่งชม.(จอดรถกลางแจ้ง)  ก็ออกรถไปกลางสายฝนไปได้ประมาณ 2กม. จอดส่งเด็ก แล้วออกตัวไม่ได้ มาเปิดฝาน้ำมันมีเสียงฟี้ดแรง ปิดฝาถังแน่น ขับได้อีกสัก1กม. เป็นอีกเลยคลายไว้หน่อยๆ พอพ้นฝนก็ทดลองปิดฝาถังแน่น ขับได้ตลอดไม่พบอาการจนกลับถึงบ้าน(ขากลับไม่พบฝน) เมื่อมาถึงบ้านทดลองเปิดฝาดู มีฟี้ดเบาๆ
*ขอคำแนะนำด้วยครับ ถ้าใช้สว่านดอกเล็กที่สุดเท่าที่หาได้ในท้องตลาดเจาะฝาถังเป็นรูระบายอากาศ จะดี/ปลอดภัยไหมครับ