Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

ติดเครื่องได้ปกติ และหลังจากวิ่งไปสักประมาณ 10 นาที เริ่มอาการคือ อยู่ ๆ ไฟรูปตัว k ก็ปรากฏขึ้น และอาการเครื่องสะดุดเล็กน้อยแต่ จะดับ หากไม่รีบเบิ้ลเครื่องก็อาจดับได้
ตอนเป็นแรก ๆ  ตอนนั้นเข้าใจว่าไฟไม่พอ เพราะเมื่อมีอาการปรากฏจะรีบปิดเครื่องเสียง ปิดแอร์  ก็จะไม่ดับ ไปได้ปกติ
ต่อมาเริ่มรุนแรงขึ้นถึงจะปิดเครื่องเสียงหรือปิดแอร์ก็เป็นอยู่ดี มีอาการรูปตัว k ขึ้น แล้วจะมีอากาสวิงของเข็มไมล์จนยันเกจ์เลย  แต่เมื่อดับเครื่อง เกจ์ก็จะกลับคืนที่เดิม ในขณะที่เกิดนั้น จะปรากฏไฟ Stop ด้วย ตอนนี้จอดสนิทอยู่ที่บ้าน

  ส่วนตัวคิดว่าเป็นที่ระบบไฟฟ้ารถยนต์ อาจมีอะไหล่ หรือรีเลย์เสีย หรือซ๊อต จึงคิดจะเปลี่ยน ชุดสายไฟ พร้อมเปลี่ยน ชุดฟิวส์ ทั้งในกระโปรงรถ ข้างแบตเตอรี่
และใต้พวงมาลัย แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะหายหรือไม่

จึงขอความกรุณาผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ช่วยวิเคราะห์ หรือแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ ว่าควรจะไปทิศทางใด ขอบคุณล่วงหน้าทุกท่าน ครับ 

 ลอง Reset ECU รึยังครับ    

ถ้าออกซิเจน(O2)เซ็นเซอร์สกปรก ไฟ K ก็ขึ้นได้ ลองถอดมาทำความสะอาดดูก่อนครับ

ขอบคุณทั้งสามท่าน ครับ ตอนนี้ยังจอดนิ่งสนิท ถอดขั้วแบตไว้ 3 วันแล้วครับ ติดเครื่องก็ติด ครับ แต่สักพัก จะมีอาการ เริ่มจากเข็มไมล์เริ่มกระดิกจากเลข 0 ยกขึ้นไปถึงเลข 10 อีกหน่อยก็หยุด และเป็นอีกสลับกัน พอนาน ๆ อีกหน่อย ราว 20 นาที ไฟ k ก็ปรากฏ และดับในที่สุด
จากที่ท่านทั้ง 3 แนะนำ
1. ผมรีเซ็ต ECU แล้ว โดยการถอด ขั้วแบตขั้วลบออก แล้ว 3 วัน
2. ECU ไม่น่าสงสัย ส่วน Fly Wheel sensor เพิ่งเปลี่ยนมา ไม่นาน(หรือมันเป็นได้อีก)
3. สงสัย map sensor และ ออกซิเจน(O2)เซ็นเซอร์ แต่ว่าไอ้ 2 ตัวนี้ของเครื่อง 1800cc มันอยู่ตรงไหน ครับ ขอความกรุณา คุณ Thawatpra และคุณ Shutter J ชี้แนะเพิ่มเติมด้วยครับ ขอบคุณครับ

O2 sensor ของ 405 Gri Sri มันต่ออยู่ตรงท่อไอเสียครับช่วงติดกับเครื่องครับ 306 น่าจะใกล้เคียงกัน ลองเสิร์ชหารูปดูใน Google ครับ

ฟังดู จากอาการ เหมือนพอเครื่องเริ่มจะร้อน จะมีปัญหา ลองเช็คคอยล์จุดระเบิดดูก่อนครับ  เวลาเครื่องเริ้มร้อน เอาผ้าชุบน้ำเย็นๆ แปะที่คอยล์ อาการดีขึ้นไหม

อีกจุดคือเซนเซอร์ อุณหภูมิน้ำเข้ากล่อง ตัวสีเขียว ท้ายเครื่อง

ผมมี O2 senser เพิ่งถอดออกมา  เอาไปลองก่อนมั้ยครับ  ถ้าใช้ได้ ผมให้เอาไปใช้เลยครับ (ของ 306 )

ผมได้เอาผมได้เอา O2 senser  ออกมาทำความสะอาดแล้ว ล้างและขัดจนเอื่ยมเลย แต่พอใส่กลับเข้าไป ก็มีผลเหมือนเดิม คือไม่มีอะไรดีขึ้น
คาดว่า Heater น่าจะขาดแล้ว ตอนนี้รถติดเครื่องได้ เดินเบาได้ แต่เร่งไม่ได้ ดับทันที  

และเมื่อเอา O2 senser ออกมาแล้ว ก็สามารถติดเครื่องได้ เดินเบาได้ แต่เสียงดังมาก เพราะมีรู แต่เร่งเครื่องไม่ได้จะดับทันที เช่นเดิม
ตอนนี้คุณ prathet จะให้ O2 senser มาให้ลองเปลี่ยนดู  ต้องขอขอบพระคุณมากครับ ผม pm ไปแล้วนะครับ

ภาพข้างล่างคือ O2 senser ที่เอาออกมาจากรถ (ตัวเดียวนะครับแต่ให้ดู 2 มุมจึงเป็น 2 ภาพ) คาดว่าคงเสียแล้ว เพราะขัดทำความสะอาดแล้วใส่กลับ
ก็ไม่มีผลที่ดีขึ้นเลย แม้จะเอาออกไม่ใส่เลยก็ ยังคงติดเครื่องได้ แต่เร่งไม่ขึ้นเหมือนเดิม  ดังนั้นจึงจอดสนิท รอ O2 senser ตัวใหม่ มาถึงครับ

อีกอย่างที่คุณ Maxz-EBC Brakes แนะนำเรื่องคอยล์   ผมเปลี่ยนคอยล์ตัวใหม่แล้ว ก็ไม่มีผลอะไร ครับ

พรุ่งนี้ส่งให้ครับ  ตามที่บอกใน PM
แบ่งปันกันใช้ครับ 

เช็ค Map Sensor ดูครับ

อาการหายยังครับ :Pika:

อุปกรณ์อาจจะไม่เสียนะ ลองเช็คสายไฟด้วยเผื่อขาดใน โดยเฉพาะตรงปลั๊กเสียบ

ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง รวมทั้งผู้ให้ข้อชี้แนะทุกท่าน ครับ รถยังจอด ครับ ยังไม่หาย ครับ กำลังรออะไหล่ มี flywheel sensor กะ o2 sensor กำลังเดินทางมาจากประเทศจีน สั่งซื้อทาง Lazada ครับถูกดีตัวละ ไม่ถึงพัน รวม 2 ตัวพันสามกว่า  ส่วน o2 sensorที่คุณ prathet ส่งมาให้ก็ยังไม่ถึงครับ เลยไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันแน่  ตอนนี้ติดเครื่องได้ แต่เร่งไม่ได้ เร่งเป็นดับ ครับ เช็ค น้ำมันก็มาปกติ แสดงว่าปั๊มติ๊ก ไม่มีปัญหา คอยล์ เปลี่ยนแล้ว ส่วนสายไฟเช็คหมด ครับไม่ขาด และไม่ชำรุด
map sensor เปลี่ยนแล้ว  ปลั๊กวัดอุณหภูมิตัวสีเขียวและน้ำตาลกำลังเช็คและจะเปลี่ยนเพราะมีอะไหล่อยู่ ครับ อ๋อ อีกอย่างเปลี่ยน รีเลย์ 5 ขา ทั้ง 4 ตัว ในกล่องฟิวข้างแบตเตอรี่ด้วยแล้ว ฉะนั้น จึงสงสัย  flywheelsensor กะ o2 sensor  เพราะยังไม่เปลี่ยน

ไม่ซีเรียส ครับเพราะผมมีรถใช้อีกคัน เป็น BMW 316 compack   เลยซ่อมสบาย ๆ  ถือว่าได้ความรู้ ได้แลกเปลี่ยน ได้เพื่อน ครับ ซ่อมไปเรื่อย ๆ ผลเป็นอย่างไรก็จะนำมาแชร์ ครับ

ช่วงบ่าย 3 พอดีไปรษรีย์ไปส่ง ของ มาจากคุณ prathet o2 sensor ส่งมาให้ใส่ลองดู ถ้าใส่ได้ให้เลย ขอซื้อก็ไม่ขาย
 มาถึงแล้ว ครับ กำลังจะไปลองใส่ดู ผลเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบครับ

ตรวจท่อ map sensor ด้วยนะครับ ตามรูปข้างบนเบอร์7   ปลายท่อชอบแตก

อาการใกล้เคียงกับของผมเลย ของผม 406 d8 เกียรธรรมดา แต่ผมพอดับแล้ว สตาร์ทไม่ติด (ติดแต่วอดดับ) ต้องรอ 5-10นาที...ตอนนี้ เพิ่ม กราว์ ไฟลบดีขึ้นแต่ยังไม่หาย..

ตามกระทู้เดิม   ข้างล่าง


http://www.vlovepeugeot.com/forum/index.php?topic=34338.0/406-d8-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A..%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A

รอฟังผลนะครับ :เครียดดูดบุหรี่:

16 สิงหาคม 2559 เมื่อวานนี้ จัดการดังนี้
1.เปลี่ยน Map sensorล้างมอร์เตอร์เดินเบา และล้างปีกผีเสื้อ เช็ครางหัวฉีด และเช็ควาล์วกักความดันน้ำมัน ปกติ3.5 ไม่รั่ว
2.เปลี่ยน คอยล์ ตัวใหม่แล้วพร้อมสายหัวเทียนด้วย  (คอยล์อะไหล่ตัวนี้เคยให้เพื่อนที่ใช้เปอร์โยต์รุ่นเดียวกันยืมไปใช้มาก่อนแล้วอาการปกติ)
3.เช็คท่อร่วมไอดีทุกตัวสายเล็กสายน้อย ไม่รั่ว

17 สิงหาคม 2559 วันนี้ได้จัดการดังนี้
1.เปลี่ยนรีเลย์ 5 ขา แถวกล่องฟิวใกล้แบตเตอรี่ จำนวน 4 ตัว
2.เปลี่ยน เซนเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำ 3 ตัว สีเขียว ล่างสุด สีน้ำเงิน และสีน้ำตาล
3.เปลี่ยน o2 sensor ตามที่คุณ prathet ส่งไปให้ลองเปลี่ยน ก็เปลี่ยนแล้ว
4.ทดสอบการส่งน้ำมันจากถังโดยถอดสายน้ำมันที่ต่อเข้ารางหัวฉีดมาใส่ในขวดพลาสติก แล้วบิดกุญแจสตาร์ทเครื่องปรากฏว่าน้ำมันไหลเข้าขวดปกติ ตัดเรื่องปั๊มติ๊กและกรองเบนซินออก

เปลี่ยนมาขนาดนี้แล้ว ติดเครื่องได้ ติดง่ายด้วยแต่พอเร่งหน่อยประมาณ 2000 รอบ ดับ ครับ และจะดับประมาณนี้ทุกครั้งที่ทดสอบ
 สงสัยจะต้องรอ อะไหล่มาจากจีน ซะแล้ว ในนั้นมี flywheel sensor หรือ Engine Camshaft Cam Position Sensor ดังภาพที่แนบมา จะมาถึงเมืองไทยวันที่30 สิงหาคม 2559
อันที่จริงตัวนี้เคยเปลี่ยนมาแล้ว เมื่อปี 2556 จะเสียหรือไม่ คิดว่า คงได้ลุ้น ครับ

เอาใจช่วยครับ

อาการนี้เพิ่งเป็นกับเครื่องดีแปดครับ เซ็นเซอร์อากาศท่อไอดี เสีย เปลี่ยนแล้วหายสนิทครับไม่ซับซ้อน
อาการเสียคือ เครื่องสั่น เหมือนเดินไม่เต็มสูบ รอบตกต่ำกว่า 500 รอบ ถ้าไม่เร่งก็ดับ ประมาณนั้นครับ

ขอบคุณครับ คุณ AB NORMALที่ช่วยชี้แนะ  สำหรับเคสนี้ เครื่องติดง่ายเดินเรียบปกติ แต่เร่งเกิน 2000 รอบจะดับ ครับ และเซนเซอร์อากาศที่ท่อไอเสีย หรือ  o2 sensor เปลี่ยนแล้ว ครับ ยังคงเป็นเหมือนเดิม

ทำมาซะขนาดนี้แล้วไม่หายผมว่าลองดูที่กล่อง ECU บ้างนะครับ

ผมก็หวั่นเหมือนกันครับคุณ nun ต้องรอ flywheel sensor มาก่อน ครับ ถ้ามาแล้วไม่หาย ก็เหลือ ตัวเดียวแล้ว คราวนี้แหละจะต้องหากล่อง ECU รุ่นนี้มาเปลี่ยน
ขอภาวนาอย่าเป็นอย่างนั้นเลย ไม่งั้นจอดยาวแน่

เท่าที่อ่านมาเป็นเปลี่ยนกันหมดทุกอย่างแล้ว บางทีกล่อง ECU อุปกรณ์ข้างในมันอาจจะเสื่อมก็ได้ เช่นพวกตัวเก็บประจุ (ผมยังไม่เคยเปิดกล่องเปอร์โยต์นะแค่คาดเดา บางทีอาจเหมือนพวกโตโยต้า)

flywheel sensor
ถอดมาแล้วลองใช้ใบcutterเเตะดูว่าแม่เหล็กยังดูดอยู่ไหมถ้าดูดก็ยังไม่เสียยกเว้นสายขาดใน

ยังมี สปีดเซ๊นเซอร์ อีกตัวนะครับ ปลั๊กหลวมหรืเปล่า ตัวนี้ติดตั้งอยู่ที่เกียรปลายเพลาขับล้อขวา..ครับ

 :correct: :correct:

มาเฉลยหลังจากรถมีปัญหา ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2559 เป็นต้นมา ก็จอดในบ้านยาวเลย พร้อมกับได้ปรึกษาหารือเพื่อน ๆ พี่ๆ ในชมรมนี้ ในขณะเดียวกันก็ได้สั่งอะไหล่ตัวที่น่าสงสัย เช่น flywheel sensor o2 sensor ไปยังประเทศจีน(ราคาถูกดี ครับ) มีสมาชิกส่ง o2 sensorไปให้ลอง ก็แล้วไม่ดีขึ้นเลย

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2559 อะไหล่จากจีนมาถึงแล้ว ก็ไปถอดflywheel sensor ออกจะเปลี่ยนใส่ตัวใหม่ เวรกรรม น๊อตเบอร์10 ที่ยึดเซนเซอร์ ดันตกลงไปในช่องเล็ ก ๆ  จึงเอาไฟฟฉายมาส่อง ๆไปส่องมา ก็ไม่เห็นน๊อตดังกล่าว     แต่ เอ๊ะอะไรนั้น .....สายไฟมารวมกันหลายเส้นอยู่กับน๊อตยึดเกียร์ แต่น๊อตที่ยึดนั้น มันหมุนไปมาตามแรงมือเราที่สอดเข้าไปควานหาน๊อตเบอร์ 10
ไอ้หยา สายดินจุดนี้มันไม่แน่น แน่ ๆ เลย จึงลองไปเปิดสวิทย์กุญแจ ระดับก่อนสตาร์ท แล้วมาขยับตรงน๊อตตัวนี้อีกที  คราวนี้มีเสียงรีเลย์ข้างแบ็ตเตอรี่ ร้องลั่นเลย
พร้อมกันนั้นเข็มรอบเครื่องยนต์สวิงขึ้น ๆ ลง ๆ ทั้ง ๆยังไม่ติดเครื่อง  

..... เจอแล้วแน่นอน นี่แหละสาเหตุของทั้งหลายทั้งปวง.. จำได้ว่าก่อนที่จะเกิดอาการนี้ก็เคยขับไปดี ๆ เข็มไมล์ตีกลับสูงสุดเลย  ต้องดับเครื่องเข็มไมล์จึงลงมาปกติ ... ตั้งแต่นั้นมาเริ่มรวน มาเรื่อย ๆ อยู่ ๆ ก็เกิดไฟรูปตัว K ขึ้น  คิดได้ดังนั้นจึงปิดสวิทย์กุญแจแล้วไปขันน๊อตตัวปัญหาให้แน่นที่สุด แล้วมาเปิดสวิทย์ทดสอบ ปรากฏว่าอาการต่าง ๆ หายไปแล้ว แล้วก็ลองสตาร์ทเครื่อง ปรากฏว่าสตาร์ทง่าย เครื่องเดินเรียบ .. แต่พอเร่งประมาณ 2000 รอบ ก็ดับอีกเช่นเคย.....โธ่เอ้ย นึกว่าจะหายจริง ๆ กับยังมาติดปัญหาเร่งไม่ได้อีก.... รอต่อตอนจบนะครับ ตอนที่มันหายจริง ๆ

ตกลงปกติยังครับ  :What:

ขออภัยที่ไม่ได้ต่อให้จบ  เพราะยุ่งงานมากเลยลืมไปเลย เพิ่งได้เข้ามาในเว็ปวันนี้เอง มาเห็นกระทู้ตัวเองไม่ได้ปิดเลยตกใจ
สรุปเลยนะครับ หายเป็นปกติแล้ว  สาเหตุทั้งหลายทั้งปวง แบ่งเป็น 2 อย่าง
1.สวิทซ์แก๊ส
2.สายกราวนด์จากแบตที่ลงตัวถัง

เริ่มเรื่อง คือ  สายกราวนด์จากแบตเตอรี่มาลงที่ตัวถึง ไม่แน่นหลวมมากจนหมุนได้ พอรถวิ่ง ไปตกหลุ่มหรือกระเทือนก็ทำให้กราวน์ขาดหายไป จึงปรากฏ มีไฟรูปตัวเค ขึ้น
และมีอาการวูบไปชั่วขณะหนึ่ง ต่อมาจึงหาทางแก้โดยสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากแก๊สที่ใช้อยู่จึงปิดวาล์วถังแก๊สเพื่อใช้น้ำมันในการติดเครื่อง      แต่ลืมปิดสวิทซ์ออโตแก๊ส
หาสาเหตุหลายวัน จนถึงขนาดสั่งอะไหล่จากจีนทีเดียว มาวันหนึ่งจะลองเปลี่ยน เซนเซอร์ไฟล์วีลตัวที่หามาได้จากอะไหล่เก่าจึงมาขันน๊อตเบอร์ 10 ที่ยึดออก แต่บังเอิญน๊อตตัวนั้นตกลงไปในร่องข้างล่างซึ่งเล็กมากมองเห็นแต่ล้วงเอาไม่ได้เพราะมันลงลึกจนสุดแขน ก็เลยต้องปีนขึ้นไปบนหน้ารถแล้วล้างมือลงไปหวังจะใช้สองนิ้วคีบน๊อตขึ้นมา  ในขณะที่ยงหยกยงโย่อยู่นั้น แขนไปโดนสายไฟกลุ่มหนึ่งข้าง ๆ แบตเตอรี่ สังเกตุเห็นว่ามันหมุนตามที่แขนเราเบียดมัน เลยเอะใจ พอลงมาแล้วจึงตรวจสอบโดยละเอียดโดยใช้ไฟฉายส่องดู จึงรู้ว่ามันเป็นกลุ่มสายไฟรวมกันโดยมีน๊อตเบอร์ 10 ขันให้ติดกับตัวถึง แสดงว่ากราวนด์จุดนี้หลวม
เมื่อเจอจุดแล้วจึงจัดการขันน๊อตยึดให้แน่น  คราวนี้มั่นใจว่าหาจุดเจอแล้ว แต่พอไปติดเครื่อง ก็ติดง่ายเหมือนเดิม พอเบิ้ลเครื่องแรง ๆ หน่อยก็ดับอีก ....เซ็งเลย นึกว่าเจอแล้วหลงดีใจ จากนั้นก็เลิกทำ มารออะไหล่ต่ออีกหลายวัน ทำไงไม่รู้นึกขึ้นได้ว่าปิดวาล์วถังแก๊สไว้ จึงไปเปิด แล้วมาติดเครื่องอีกที คราวนี้เบิ้ลเท่าไหร่ก็ได้...ปัดโธ่ เราดันลืม ปิดออโตสวิทว์ตอนปิดวาล์วถังแก๊ส โง่ตั้งนานเพราะความไม่รอบคอบของตัวเอง  
สรุปว่า ได้แก้ปัญหา 2 อย่าง คือ
1.ได้รู้ว่าจุดสายกราวนด์เป็นจุดอ่อนของ 306 แห่งหนึ่ง
2.รถใช้แก๊สต้องรอบคอบให้มากไม่งั้นตกม้าตายอย่างผมนี้แล
ตั้งแต่วันนั้นมา 4 เดือนมาแล้วไปปรากฏอาการอีกเลย   แสดงว่าถูกจุดทั้งหมดแล้ว และพออะไหล่มาจากจีนก็เก็บเข้าห้องเก็บของแล้ว
ขอบคูณทุกคำแนะนำ และขอบคุณที่ติดตาม ครับ