Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

พอดีผมพึงซื้อรถมาครับ และไม่ค่อยรู้เรื่อง 405 มากนักก็เลยอยากให้ผู้มีประสบการณ์ทุกคนช่วยชี้แนะให้ผมหน่อยครับ

ขอบคุณครับ

ไม่ทราบว่า เป็นหัวฉีด หรือคาบู เกียร ธรรมดาหรือ ออโตครับ บอกยากครับ จุดอ่อนอะไรบ้าง ส่วนใหญ่ อายุอานาม ก็เกิน 10 ปี ก็ต้องมีบ้างครับ ถ้าเพิ่งซื้อมา ผมอยากแนะนำให้ เอารถไปล้างอัดฉีด โดยเฉพาะใต้ท้องรถให้สะอาด ขับสักวัน สองวัน แล้ว ขึ้นลิฟ ยกดูใต้ท้อง ว่ามี รอยรั่วซึมจุดไหนบ้าง แล้วจัดการซ่อมซะ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่อง เกียร หรือเพาเวอร์  เสร็จแล้วก็เปลี่ยนของเหลวทั้งหมด เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร แม้กระทั่งน้ำในหม้อน้ำ  สำหรับระบบหล่อเย็น ผมอยากให้ดูว่ารถคุณ หม้อน้ำดัดเปลงมาหรือเปล่า เพราะใน 405 เดิมๆ จะเป็นระบบปิด คือจะไม่มีถังพักน้ำข้างนอกแบบรถญีปุ่น เวลาเติมน้ำ เขาจะมีระดับบอกไว้ อย่าเติมให้เต็มจนล้น เพราะต้องมีที่ว่างให้น้ำขยายตัวเวลาร้อนด้วย ของผมตอนแรกได้มากก็ไม่ทราบ ทุกเช่า เติมน้ำเต็ม พอวันรุ่งขึ้น น้ำมันหายไปประมาณ 1/3 ก็เติมอีก สักพัก ท่อน้ำบวม เพราะเวลาร้อน น้ำมันมีแรงดัน มันไม่ทางออก ส่วนอื่นๆ ก็อื่นไกไม่มีปัญหาอะไรมาก เสียก็ซ่อมไปตามอาการ เข้ามาถามไถ่ในเวปนี้ได้ครับ ผมก็ได้ความรู้จากที่นี้ครับ

 ::) GR อย่าให้น้ำโดน โมดูล และคอร์ย
 ::) Gri - SRI - MI16 อย่าให้น้ำโดน ECU ในช่องใต้ กระจกบังลมหน้าใต้ฝากระโปรง..ครับ     

มีอาจารย์เกษียณอายุท่านหนึ่งเขารักเปอร์โยต์ ก็ได้มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ 405GR ตอนที่เกษียณแล้ว ไว้ขับเที่ยวพักผ่อน ตอนได้รถมาเขาได้เอารถไปปรึกษาช่างว่าเปอร์โยต์รุ่นนี้มีจุดอ่อนตรงไหน ช่างคนนั้นบอกว่า รุ่นนี้มีจุดอ่อนที่คาร์บิว ครับอาจารย์  เขาก็เลยมาขอให้ผมสั่งคาร์บิวใหม่ จากเอกชัยให้ปัญหาเรื่องคาร์บิวก็จบจริงๆ  เล่าให้ฟังเฉยๆน่ะ ของอย่างนี้ก็เหมือนคนตาบอดคลำช้างนั่นแหละครับ แต่ก็เห็นว่าช่างคนนั้นมองจุดอ่อนเป็นที่คาร์บิว

ผมเคยใช้ 405 Sri  มา 3 ปี ซื้อตั้งแต่รถป้ายแดงเลย ถ้าถามถึงจุดอ่อนของรถ ตอบแบบกำปั้นทุบดิน ก็คือมันมีทุกรุ่นทุกยี่ห้อนั่นแหละ แต่จะให้เฉพาะเจาะจงลำบากครับ เพราะถ้ารถมือเดียว มันไม่เคยสร้างปัญหาอะไรเลย ดูแลตามคู่มือเช็คระยะตามคู่มือใช้มาเป้นแสนกม. ไม่มีอะไรต้องซ่อม ยกเว้นของใช้สิ้นเปลือง รุ่น 405 มีเสียงร่ำลือเรื่องเกียร์บางคนแค่ 7-8 หมื่นพังแล้ว ผมก็ใช้มาเป้นแสนกม.ไม่เห็นมันจะเป็นอะไร ผมก็ใช้เยอะนะ 1 ปีเฉลี่ย 3 หมื่นกม. ยิ่งเรื่องเครื่องลืมไปได้เลย ถ้าซ่อมถึงไม่มีปัญหาแน่นอน

แต่รถคุณได้รถเก่ามา ถ้าจะถามถึงจุดอ่อนคงต้องไปคุยกับเจ้าของเก่าแบบตรงไปตรงมา ถึงปัญหาที่ที่เขาพบบ่อยๆ เขาซ่อมถึงหรือเปล่า โมดิฟายรถแบบผิดๆหรือเปล่า ใช้อะไหล่ตรงรุ่นหรือเปล่า ถ้าเขาใช้รถตามคู่มือดูแลตามคู่มือประจำรถผมว่าไม่น่ากังวล แต่.... หายากครับ ที่จะตามคู่มือและใช้ของตรงรุ่นกับรถเก่ามากๆ เพราะต้องใช้ตังค์เยอะ และถ้ามีเขาก็ไม่ค่อยขายกัน จะขายก็ต่อเมื่อเอาไม่อยู่แล้ว เรื่องเบื่อก็ยากครับ เพราะถ้าเป็นคนขี้เบื่อเขาไม่เล่นเปอร์โยต์หรอก ไปเล่นรถตลาดอย่างฮอนด้าดีกว่า ขายง่ายราคาไม่ตก เปลี่ยนรถไม่ยาก

ผมว่าไหนๆก็ได้รถมาแล้ว เอาเข้าศูนย์บริการเช็คทั้งระบบ ให้เขาทำรายการซ่อมแบบเร่งด่วนและระยะยาวมาให้ อันไหนเร่งด่วนรอไม่ด้ก็ทำ แต่ถ้ารอได้ก็ไว้คราวหน้าเพื่อประหยัดเงิน แต่ทำแบบนี้ก็จะเข้าอู่บ่อยๆเพราะทำปเรื่อยๆ ใครมาพบเข้าเขาก็จะด่า รถเปอร์โยต์มันห่วย เข้าอู่อยู่นั่นแหละ แต่ถ้าเงินเยอะหน่อยก็เอาซะทีเดียวจบไปเลย

 

ในความคิดผมรถ 405GR ถ้าเอาแบบเป็นแล้วเครียด กินข้าวลิงก็ชุดลูกหมากเกียร์  บางทีหลุด  ทีนี้เราก็จะใช้ได้บางเกียร์  บางทีก็ถอยหลังไม่ได้  อันนี้ถ้ารู้นิดเดียวก็ไม่ต้องกินข้าวลิง  พวกcoil กับโมดูลจุดระเบิด  รีเลย์หม้อน้ำหน้ารถ  ลวดเส้นเล็กๆเอาไว้มัดลูกหมากแก้ขัด  ชุดเครื่องมือพิเศษกว่าปกติ เช่น ประแจดาว หรือหัวทอคร์ไว้ขันโมดูลจุดระเบิด ของพวกนี้ ควรหาติดรถไว้จะเก่าหรือใหม่ก็ได้

ส่วนคาร์บูที่เพี้ยนๆ  อาการที่ทำให้เครียดก็ตอนสตาร์ทเครื่องครับ  บางทีติดเครื่องยาก เรียกว่า จะมีแต่เจ้าของเท่านั้นที่ติดเครื่องรถตัวเองได้  บางทีวิ่งมาจอดทำธุระ พอจะกลับก็ติดเครื่องยากส์มาก อะไรแบบนี้  หรือถ้าอากาศเย็นติดเครื่องไม่ได้  เลยก็มี  นอกจากนี้ก็รั่วซึมเหม็นเบนซิน  อันตรายเหมือนกัน

อย่างอื่นก็พวกจุกจิกกับระบบไฟหรือกลไกที่ไม่แข็งแรงหรือเก่าเกิน  อย่างสวิทช์กระจกไฟฟ้า  หรือ ไฟหน้าไม่สว่าง

ใช่ครับ รถทุกคันมีจุดอ่อน
อยู่ที่ว่าคนเก่าเค้าดูแลดีหรือเปล่า

ผมซื้อมาคนเก่า ยำรถไว้เยอะมาก  >:D
ตอนขายรถก็บอกว่าดีอย่างนู้น ดีอย่างนี้ ไม่มีปัญหาอะไร
อะไหล่ปลอมเพียบ อะไหล่ไม่ตรงรุ่นบ้างแหละ 
ซ่อมแล้วเครียดเลย  >:(

สำคัญที่คนเก่าเค้ารักรถเหมือนเราหรือเปล่า

จุดอ่อนของรถอยู่ที่เจ้าของนั่นแหละ ถ้าเจ้าของดีก็ดูแลมาดี ถ้าเข้าของดูแลมาไม่ดีก็เหนื่อยหน่อย 405sri คันที่ขับมานี้ก็อายุเจ้ดปีเต็มๆ แล้วซื้อมาตั้งแต่ป้ายแดง วิ่งมาแสนสองหมื่นโล เกียร์ก็ยังดีไม่พัง เครื่องยังแน่น ทุกอย่างดูแลเป็นไปตามระยะค่ะ แต่เจ้าของอย่างน้องก้องนี่คงเหนื่อยหน่อยแหละ ชอบรถแต่งคงวิ่งหาของแต่งจนเหนื่อย  ;)

ปัญหาที่เจอบ่อยที่สุด คือ กินแบต จากที่ใช้มาแทบจะเปลี่ยนปีละหนเลย (ไดไม่เสีย แต่เปลี่ยนสายขั้วบวกไปแล้ว) นี่กำลังจับเวลาอยู่ว่าแบตแบบใหม่ของพูม่าจะใช้เวลานากว่าคนอื่นเขาหรือไม่

นี่คงเป็นสาเหตุที่ K. Mai ไฟถึงได้แรงอย่างนี้  :sun: งานหลวงไม่ขาดงานราษฎร์ไม่เว้น ยังไงก็เหลือไฟให้เจ้าขาวตุ่นบ้างนะ 

ถูกใจจริงๆ "จุดอ่อนของรถอยู่ที่เจ้าของนั่นแหละ "  O0

อุปกรณ์ที่เป้นพลาสติกทุกชนิด ชอบทำลายตัวเองในเวลาไล่เรี่ยกัน

ขอบคุณทุกคนมากครับที่ช่วยเข้ามาตอบกระทู้นี้
เมื่อวานนี้รีบไปนิดนึงลืมคิดเรื่องรายละเอียดเลย ขอโทษด้วยครับ
ก้องไปได้ 405 SRi มาจากพี่ธรรมตรงซีคอนครับ
คันนี้เป็นรถปี 96 ครับ ใช่ไปประมาณ 100000โล เช็ค 0 ครับ
ตอนแรกเป็นรถของอิตาเลียนไทยครับ ต่อมามี จ.ส.ต มาซื้อไป
ใช้มา ปี นึงก็มาขายไว้ที่เต็นพี่ธรรมเค้า

ตอนนี้เจอปัญหาเรื่อง ลูกปืนล้อแตก แต่ไม่รู้ว่าล้อไหน คิดว่าหลังจากไปรับน้องนางคันใหม่มาคงเอาไปเปลี่ยนที่อู่เลยครับ พวกของเหลวก็จะเปลี่ยนให้หมดครับ สานพานด้วย นอกนั้นก็มีหลังคาที่ผ้าหลังคาเสื่อมหย่อนลงมา คิดว่าจะเอาไปติดกาวเอาแล้วบุวัดสุกันความร้อนเข้าไปด้วยครับ แล้วจะมีที่เพิ่มมาก็จะเก็บไปตามแต่ละจุดตามที่ทุกๆ คนชี้แน่ะมาครับ

แต่ตอนนี้กำลังกลัวๆ เรื่องเกียร์ครับ
คือวันที่ไปลองรถ ก้องรู้สึกว่าเกียร์มันแปลกๆ
1-2-3 เนี่ยก็เปลี่ยนแบบธรรมดาๆ ไม่ค่อยกระตุกเท่าไร แต่เกียร์4 ทำไมมันกระชากแรงมากๆ
แบบว่าดัง ปึง เลยครับ ไม่แน่ใจว่าเกียร์พังหรือเปล่า แต่สภาพน้องนางคันนี้เค้าสวยผมก็เลยใจอ่อนเอามาอ่ะครับ ตอนนี้เลยมานั่งกังวลว่าเกียร์จะเป็นอะไรไหมหนอ ถ้าพังเนี่ยผมจะซ่อมหรือเปลี่ยนไปเลยดีครับ

แล้วตัวถัง 405 มีจุดอ่อนเรื่องสนิมตรงไหนบ้างครับเผื่อๆ จะได้หาทางแก้เตรียมไว้

ขอบคุณครับ

  จุดอ่อนเรื่องสนิม เท่าที่เจอกับตัวเอง ยังไม่มีนะครับ  ที่น่าเป็นห่วงที่สุดของรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ก็คือเกียร์นั่นแหละครับ  ไม่รู้เจ้าของเดิมเค้าดูแลดีหรือเปล่า  แล้วก็ระบบไฟฟ้า ถ้าไม่ได้แปลงอะไรจนมันรวน  อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ

เรื่องเกียร์กระชากอย่าด่วนว่าเกียร์จะพัง ZF 14 นี่มีใช้กับรถยุโรปเกือบทุกยี่ห้อในยุคนั้นเลยนะ ทำไมมีแต่คนบอกว่าเปอร์โยต์เกียร์เสียง่าย ซึ่งไม่จริงครับ ทำไม BM 318i  หรือ  Xantia มันไม่เสียบ้างล่ะรุ่นเดียวกันไม่ใช่หรือ

ลองให้ช่างเปลี่ยนของเหลวพวกน้ำมันเกียร์ กับ กรองน้ำมันเกียร์ก่อน ดูสาย Kick down ด้วยครับ  น้ำมันเกียร์เปลี่ยนทุก 1 หมื่นกม.ครับ เอาน้ำมันเบอร์ตรงรุ่นนะครับ

ตัวถังตรงส่วนไหนบ้างที่จะเป้นสนิมง่าย

       1. ตรงรอยที่ไปชนมา ถ้าช่างสีไม่ดี จะเล่นเอาไฟเป่าเลยเพื่อลอกสี ต่อให้รถเพิ่งมีอายุไม่กี่เดือนหลังจากออกโรงงานมาเคลือบน้ำยากันสนิมดีแค่ไหนก็ตาม เจอความร้อน น้ำยาพวกนี้เสื่อมสภาพหมดครับ
       2. แถวๆ ที่ตั้งแบ๊ต

บริเวณดังกล่าวเป็นกับรถทุกยี่ห้อครับ ไม่ใช่แค่เปอร์โยต์ 

จุดอ่อนหลักส่วนใหญ่มักเป็นที่คนขับครับ เข้าโค้งแล้วชอบเหยียบคันเร่ง อย่างน้อยผมก็คนนึงล่ะครับ

รถดีครับ ผมว่าไม่มีปัญหาเท่าไรนะครับ

จุดอ่อนอยู่ที่ราคาขายต่อครับ คิกๆๆ

ห่วงทำไมครับราคาขายต่อ ทุกยี่ห้อมีแต่ขาดทุนอยู่แล้วครับ

อ่ะ อ่ะ อ่ะ !!!!!

อย่าล้างอัดฉีดห้องเครื่องเด็ดขาด ถ้ารู้จุดที่หลีกเลี่ยงก็ไม่เป็นไรล้างได้ พลาสติกเยิ้ม ฮ่วยแตกมากๆ สวิทกระจกชชขึ้นลงพังบ่อย ถ้าเป็นรุ่นคาบูเรเตอ ต้องให้ช่างที่ความชำนานทำเท่านั้นถ้ารวนแล้ว มั่นน่าเบื่อมากๆๆ

เมื่อวานไปดูรถมาอีกที ไม่รุ้ว่ากองทัพมดมันมาจากไหนเยอะแยะ เต็มรถเลย งงเลยครับ

ถ้าคิดจะใช้ของเก่า ไม่ว่า อะไรก็ดีควรจะต้องศึกษา และ พอซ่อมเองได้บ้าง จ้า 
อ้อ อีกอย่าง ผมว่า คนขับรุ่นคารบูร์  อย่างน้อย ผมว่าเกือบทุกคนพอซ่อมเองได้แหละ น่า 5.5.5.5.5

     จุดอ่อนคันนี้พี่ว่ามันไม่แรงได้ดังใจน้องก้องแน่ๆเลย
 ขนาด S16 บอกว่าไม่แรงเลย กลุ้มแทนจริงๆๆๆ :drive2:

S16 ผมมันไม่แรงจริงๆ นะ ขอบอก ยังวิ่งได้ไม่ถึง 240 เลยยย เมื่อไรจะหมดไมล์นะเนี่ย :(

แล้วเครื่องอะไรของ peugeot ที่มันวิ่งได้เกินนั้นบ้างครับ ที่ตอนนี้หาในไทยได้ ใส่ 405 gri ได้ และราคาเครื่องไม่ถึง 100,000 บาท มีหรือเปล่าครับ

สงสัยคงต้องเครื่องเดิมครับ แล้วใส่เทอร์โบไปแทน:)

เดียวเอาริบบิ้นไปผูกให้นะน้องก้อง จะได้มีโบว์ กับเค้าคิกๆๆๆ

หรือไม่ก็เปลี่ยนไมล์น่าจะง่ายสุดนะครับ คิกๆๆ

โบว์ไม่เอาครับ ขอเป็นไทค์ดีกว่าพี่ปอนด์

ถ้าใส่เทอร์โบ เครื่อง gri คงกระจุยแน่ครับ  แล้วลูกสูบมันจะรับแรงดันบูสไหวเหรอครับ

ถ้าใส่บูสคงไม่สามารถตั้งบูสสูงมากครับ อาจะจะได้แค่ 4-5 ปอนด์ ไม่ค่อยคุ้มครับ ถ้าอยากแรงจริง ๆ กับเครื่อมเดิม คงต้องแปลงไส้หาพอลูก force มาลงครับ

ราคาอันละเท่าไหร่ครับ พวกลูกสูบ forged

ผมไปหาทำแบบ มอเตอร์ไฟฟ้าอัดอากาศดีกว่า ปรับบูสง่าย มีเงินแต่งอย่างอื่นเมื่อไหร่ ก็ค่อยปรับบูสขึ้นครับ

ระวังเรื่องสายพาน timing อายุอย่าให้เกิน 50000 km ถ้าเป็นคาร์บูสู้หัวฉีดไม่ได้ คอนโซลแย่มากๆ พลาสติคเยิ้ม แก้โดยหาพรมมาปูกันแดด อื่นๆก้อดีมากๆครับไม่สมกับราคา

สายพานไทม์มิ่งเอาแค่ 40,000 km ก็พอครับ

คอนโซล เช็ดที่เยิ้มๆ ออกได้นะครับผม จ้างอู่ Peugeot ทำให้ก็ได้ครับ

หรือว่างๆ ก็นั่งเช็ดออกครับ ใช้แอลกฮออล์ หรือ พวก Blue Power ก็ได้ครับ

สำหรับผม 405 Gr ที่เห็นได้ชัดคือปะเก็นฐานคาร์บูชอบมีน้ำมันซึม...ผมเพิ่งเปลี่ยนชุดซ่อมไปไม่นานเป็นอีกแล้ว! แล้วผมเติม 91 ด้วยแดงเถือกเลย ต้องคอยเอาทิชชู่เช็ด...แต่ก็ปกติดี แล้วล่าสุดผมเพิ่งติดตัวช่วยสตาร์ทข้างไดสตาร์ทตัวละ 150 บาทเท่านั้น...แจ่มเลยครับ!!!ขนาดจอด2-3วันสตาร์ทชึ่งเดียวติด...ลูกหมากคันเกียร์เหมือนกันแต่ก่อนเปลี่ยนบ่อยมาก ขนาดต้องซื้อเก็บไว้ท้ายรถ...จนคนขายบอกว่าก่อนใส่ให้ทาจารบีบางๆ นัยว่ากันไอความร้อนจากท่อไอเสียมาอบจนบูชยางหดตัวหรือกรอบ...ซึ่งก็ได้ผลแฮะ!!!...เป็นปีแล้วยังดีอยู่เลยครับ! อีกอย่างยางฝาครอบวาล์วชอบมีน้ำมันเครื่องซึมแถมมาโดนปั๊ม AC ทำให้เยิ้ม+ไหลเป็นทางเลย ผมเลยระแวงกลัวไปโดนโมดุลเข้าเดี๋ยวเป็นเรื่อง และลามไปที่เวคคั่มใต้จานจ่ายต้องหมั่นดูและเช็ดให้สะอาด...รีเลย์พัดลมเหมือนกัน(ที่มี 3 ตัวชอบหลวม)อาการคือถ้าสะเทือนบางทีพัดลมติดมั่ง+ไม่ติดมั่งทำให้ความร้อนวูบวาบ วิธีเช็คคือเวลาติดเครื่องให้เอามืออังตรงกระจังหน้าถ้ามีลมดูดทั้ง 2 ตัวก็โอเค...เหล่านี้ไม่ใช้ปัญหาใหญ่นะครับ ถ้าเช็คอย่างที่ผมบอกแล้วมันจะเพอร์เฟค...ไม่มีอาการจุกจิก(ผมเจออาการนี้มาหมดแล้ว...และก็ทำอย่างที่บอกผลคือ 1.รอบเดินเบานิ่ง 2.ความร้อนอยู่แถวๆ 70-90 องศาไม่ขาดไม่เกิน(นอกจากถ่านในมอเตอร์พัดลมสึกจนไม่สัมผัส) 3.แอร์เย็นดี(เช๊คปลั๊คโบล์วเวอร์ใต้คอนโซลด้านซ้ายด้วยเพราะบางทีชอบหลวมทำให้เปิดแอร์บางทีไม่ติดทั้งๆที่ระบบทำงาน) ...นอกเหนือจากนี้วานท่านผู้รู้ชี้แนะเพิ่มเติมด้วยนะครับเพราะผมคงรู้ไม่หมด...เท่าที่รู้เพราะโดนมาเลยจดและจำจนขึ้นใจครับ!!!...ขอบคุณครับ... 

ก้อง แกก็อยู่ศูนย์เปอโยต์ ทำไมไม่ถามช่างที่ศูนย์ฟ่ะ เวรกรรม มาถามในเวปเสียเชิงแย่เลยนะน้อง
จุดอ่อนรถน่ะไม่ค่อยมีหรอก มีแต่จุดแข็ง กับจุดเลี้ยว ไม่ใช่ จุดเสียว เฮ๊ยไม่ใช่อีก.....
ถ้าซ่อมถึง โมถึงน่ะมันไม่พังกันง่ายๆ หรอก รถพี่ตั้งแต่โอเวอร์ฮอลมาไม่เคยเห็นเครื่องมันจะพังสักที
มีแต่ ยางแท่นเครื่องแตก ช่วงล่างกระจุย แล็คกระจาย บูทระเบิด ฯลฯ ส่วนเครื่องไม่เคยพังว่ะ
ส่วนจะแรงไม่แรง อยู่ที่เท้าขวา ฝีมือ และใจ ส่วนเครื่องมันแค่น้ำจิ้ม

ตุ๊กๆ บ้านเรามันยังยกล้อได้เลย ม้ามีไม่ถึงห้าสิบตัวหรอก
ส่วนทำแรง ไม่ต้องทำเพิ่มหรอก เอาไว้รับหญิง รับพ่อรับแม่ชิวๆ หัดใช้เดิมๆ บ้าง
S 16ไม่แรง ไปหาพวกซูปร้าเครื่องสองเจ โมสักห้าร้อยม้าขับดีกว่า จะได้แรงๆ สมใจนะน้อง

ส่วนพี่ ตอนนี้เก็บชีวิตไว้เลี้ยงลูกแล้วหล่ะ เลิกซิ่งแระ ห้าๆๆๆ

ปล. แกไม่ต้องโทรมาถามสูตรโมแล้วนะ ใจไม่อยากให้ไปทำอะไรกับมัน ใช้เดิมๆ น่ะดีแล้ว
ถ้าโทรมาถามสูตรโม พี่จะบอกสูตรมั่ว เอาให้ม้าหด ตดหายกันไปเลยดีป่าว
ห้าๆๆ