Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

รถผมติดแก๊สแบบใช้ Switch 2 ทาง โยกแก๊ส-น้ำมัน มีปัญหาว่าบางทีจอดติดเครื่องทิ้งไว้ เครื่องดับ
แก๊สก็ปล่อยออกมาตลอด เลยคิดว่าถ้ารถเกิดอุบัติเหตุ แล้วเครื่องดับ แต่แก๊สยังปล่อยอยู่ก็คงอันตรายมาก
เลยคิดทำวงจรง่ายๆ มาแก้ปัญหานี้ คือ วงจรหน่วงเวลา โดยใช้ Pressure Switch ของน้ำมันเครื่อง
มาเป็น sensor
การทำงาน เมื่อบิดกุญแจตำแหน่ง ON และโยก Switch มาจ่ายแก๊ส ถ้าไม่ Start ภายใน 6 วินาที
หรือเครื่องดับไป เกิน 6 วิ วงจรหน่วงเวลาจะทำงาน ตัด Solenoid จ่ายแก๊ส ครับ

ในภาพแนบ วงจรก็โหลดตาม Net มาอะครับ ที่สำคัญมี 2 อย่าง คือ
1. Megnetic Relay ต้องเป็นแบบ Contact  2 ทาง (มี NC=Normaly Close , NO=Normaly Open)
2. การปรับเวลา ของผมใช้ C ขนาด 1,000 uF ถึงจะหน่วงเวลาได้พอดี (เรื่องค่า C คงต้องลองเลือกเอานะครับ)

ผมเพิ่มพาสเซิล (ไม่รู้เรียกถูกเปล่านะครับ ก็คือไอ้ลำโพงเสียงแหลมตัวเล็กๆนะครับ) ขนานกับ Coil ของ
Megnetic Relay เพื่อให้มีเสียงเตือนถ้าวงจรทำงานด้วยนะครับ ดังนั้นวงจรเลยต้องอยู่ในตัวรถ แต่ถ้าไม่ต้องการ
เสียงเตือน เอาวงจรไปไว้ในห้องเครื่องก็จะง่ายขึ้นมาก แต่ไม่รู้อุปกรณ์ Electronic จะทนร้อนได้ดีหรือเปล่านะครับ

ตำแหน่ง Pressure SW. จะอยู่ตรงกรองน้ำมันเครื่องครับ ตามภาพ
รถผม wiring สายใหม่ เข้าไปในตัวรถ (เนื่องจากขี้เกียจหาปลายสาย ถ้าใครรู้ว่าปลายสายในรถอยู่จุดใด ก็พ่วงจุดนั้นได้นะครับ คงง่ายกว่า)

อันนี้ รูปอุปกรณ์ครับ แผงวงจรก็ใส่ไว้ในที่ครอบแปรงสีฟันซะงั้น
เมื่อ wiring สายเสร็จ ก็เอาสายไฟผูกกล่องแผงวงจรไว้แถวคอพวงมาลัย
ส่วน Relay ก็ยึดน๊อตไว้กับ Relay เดิมได้ครับ

ขอบคุณ คุณหอมแดงมากนะครับยอดเยี่ยมกระเทียมดองครับ

น่าจะเรียกว่า  Buzzer บัสเซอร์

ขอเพิ่มเติม แก้ไขวงจรหน่อยนะครับ  

พอดีใช้แล้วเพิ่งสังเกตุเห็นตอนกลางคืน ไฟเตือนน้ำมันเครื่องโชว์เรื่อๆ เลยไล่วงจรดู ปรากฎว่าลืมดูไป กระแสไฟเตือนน้ำมันเครื่อง มันดันไปวนผ่านวงจร-ผ่านโซลีนอยด์หม้อต้ม ลงกราวด์ได้ เลยต้องเพิ่ม เติม Diode ให้ Block กระแสไว้อีกตัว และก็เพิ่มเติม Buzzer ในรูปวงจรด้วย (ขอบคุณคุณ Anek ที่ช่วยบอกชื่ออุปกรณ์ที่ถูกต้องครับ)  :D

อุปกรณ์หรือชุดคิทหาซื้อได้ที่ไห้ครับผม

เป็นแนวคิดที่ดีครับ แต่ของผมจะง่ายกว่ามากไม่ต้องไปหาอุปกรณ์ให้ยุ่งยากด้วยครับ ลองพิจรณาดูนะครับ
ผมใช้สวิชแรงดันน้ำมันเครื่องเป็นตัวตัดแก๊สครับ คือจั๊มสายที่สวิชน้ำมันเครื่อง แล้วเอาไดโอดตัวใหญ่หน่อยมาบล๊อกกันไปย้อนกลับมาที่สวิช แล้วเอาสายด้านปลายไปต่อเข้ากับรีเลย์เพื่อดังไปตรงจากแบตฯเอามาต่อกับสวิชที่ใช้สำหรับปรับระหว่างแก๊สกับน้ำมันครับ เวลาเปิดสวิชกุญแจไปน้ำมันเครื่องจะโชว์ แต่ไปจะไม่จ่ายมาที่รีเลย์ เพราะจะวิ่งลงกาวด์ที่เครื่อง พอสตาร์ทเครื่องเริ่มหมุนไฟสวิชน้ำมันเครื่องจะดับ ไปก็จะวิ่งมาที่รีเลย์ ๆ ก็จะจ่ายไปจากแบตมาที่สวิชเพื่อไปเปิดสวิชจ่ายแก๊สอีกที พอเครื่องดับสวิชแรงดันน้ำมันจะติดไปก็จะไปลงกาวด์ที่เครื่อง รีเลย์ก็จะตัดไปทันที แก๊สก็จะหยุดจ่ายทันทีครับ พอเข้าใจไหมครับ

ขอ Diagram ดีกว่าครับ คุณ ekachai V  อ่านแล้วไม่เข้าใจครับ โดยเฉพาะหลักการ ตอนเครื่องดับอยู่ (ก่อน Start) กับขับแล้วเครื่องดับไป จะSense อย่างไรถ้ามีแค่ Diode กับ Magnetic Relay น่าสนใจครับ

ขอโทษครับที่เข้ามาตอบช้า เพราะไม่มีเวลา
พอเพิ่งใช้เน็ตเป็น แต่ทำอย่างอื่นไม่เป็นนอกจากพิมพ์ เลยไม่สามารถที่จะส่งภาพไดอะแกรมได้
หลักการง่าย ๆ ก็คือใช้สวิชท์แรงดันน้ำมันเป็นตัวจ่ายและตัดไปไงครับ การที่ใส่ไดโอดมาก็ป้องกันไฟย้อนกลับกรณีฉุกเฉินเท่านั้นครับ ที่จริงไม่ต้องใส่ก็ได้ครับ

คือว่าสนใจครับ แต่อ่านแล้วไม่เข้าใจ เลยรบกวนคุณ ekachai v ช่วยบอกจุดเชื่อมอุปกรณ์ตามหมายเลข ตามภาพแนบให้หน่อยนะครับ แล้วผมจะวาดภาพเต็มเอามาให้เพื่อนสมาชิกดูอีกที ถ้าง่ายได้ฟังก์ชั่นการทำงานเหมือนกัน แล้วปลอดภัยด้วย ก็จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกท่านอื่นด้วยครับ ขอบคุณครับ

ผมดูรูปแล้วบางรูปดูไม่ค่อยออกว่าเป็นรูปของอะไรแต่จะค่อย ๆ แกะแล้วกัน ถ้าเป็นไปได้ช่วยวาดใหม่มีอุปกรณ์ดังนี้
1.ตัวสวิตท์แรงดันน้ำมันเครื่อง
2.ไดโอด
3.สวิตท์ 3 ทาง (สำหรับโยกไปแก๊สหรือน้ำมัน)
4.สวิตท์ตัดน้ำมันเชื้อเพลิง
5.สวิตท์หม้อต้มแก๊ส
6.รีเรย์ 5 ขา 1 ตัว
ส่วนตามรูปที่วาดมาขอลองก่อนนะครับ
ถ้า oil sw หมายถึงสวิตท์แรงดันน้ำมันเครื่อง หมายเลข 10, 11, 12 หมายถึงสวิตท์ 3 ทาง ก็จะต่อสายไฟดังนี้ครับ
5 ต่อ 13
14 ต่อ 8
9 ต่อ 11
12 ต่อ 6
10 ต่อ 15 ( 15คือสวิตท์ตัดน้ำมันเชื้อเพลิง)
ส่วนรีเลย์ ใช้ 5 ห่รือ 4 ขาก็ได้ ที่ปกติปิด
การต่อรีเลย์คงไม่ต้องอธิบายกระมังครับ

ขอโทษทีครับ ผมไม่ได้อธิบายความหมายอุปกรณ์ เลยทำให้คุณ ekachai v งง ต้องขออภัยจริงๆ ผมได้วาดรูปมาใหม่แล้วครับ

ต้องรบกวนคุณ ekachai v ต่อวงจรใหม่อีกทีนะครับ

ปล. รีเรย์ 5
- 8, 9 เป็นคอล์ย
- 12 เป็นขากลาง
- 10 ปกติปิด (NC = Normally Close)
- 11 ปกติเปิด (NO = Normally Open)

ok ครับ แบบนี้ได้เลย
เริ่มจากจั๊ม 15 ลากสายมาเข้ากับไอโอดขา 13
ขา 14 ต่อเข้ารีเลย์ ขา 8
รีเลย์ขา 9 ลงกราวน์
ขา 12 ไปเข้าขัวบวกแบต 1
ขา 11 ต่อเข้าสวิต์ 5 ของสวิตท์ 3 ทาง
4 ต่อเข้าสวิตท์หม้อต้มแก๊ส 6
7 ลงกราวน์
3 ต่อเข้ากับสวิต์ตัดน้ำมันเชื้อเพลิง 16
17 ลงกราวน์
ส่วนสวิตท์กุญแจไม่เกี่ยว เพราะเวลาเปิดสวิตท์กุญแจ on ไฟบวกจะไฟรอที่สายของสวิตท์แรงดันน้ำมันเครื่องแล้วครับ แต่จะถูกลงกราวน์ตอนเครื่องดับ
ลองเอามิเตอร์วัดดูที่สายสวิตท์แรงดันน้ำมันเครื่องดู เวลาเครื่องติดจะเป็นไฟบวก พอเครื่องดับจะเป็นไฟลบทันทีครับ ไฟก็จะไม่จ่ายมาที่รีเลย์ ๆ ก็จะไม่จ่ายไฟไงครับ แก๊สหรือน้ำมันก็จะถูกตัดไฟทันทีที่เครื่องยนต์ดับ ปลอยภัย 100 เปอร์เซ็นต์ครับ

คุณ ekachai v ผมวาดรูปตามวงจรที่คุณบอกมาแล้วครับ แต่แบบนี้มันจะสตาร์ทรถไม่ได้นะสิครับ
เพราะขณะเครื่องดับ จุด 15 ไม่มีแรงดัน ,ขา + ต่อเข้า 12 แล้ว 11 ไปต่อเข้าสวิตท์ 3 ทาง (จุด 11 - 12 เป็น NO : Normally Open)  Relay Coil ไม่ดูด นะครับ ไม่มีแรงดันต่อไปยังสวิตท์ 3 ทาง ที่จะไปเลี้ยง Solenoid ครับ

แต่ถ้าเอาจุด 5 ไปต่อกับ 10 แทน จะสตาร์ทได้ แต่พอสตาร์ทติด จุด 15 ก็จะมีแรงดัน ไปเลี้ยง Relay Coil มันก็จะตัดไฟไปเลี้ยง Solenoid อีกเครื่องก็จะดับนะครับ

ไม่ทราบผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ แต่ถ้าไล่ตามวงจรก็ควรเป็นเช่นนั้น และรถคุณ ekachai v ใช้วงจรแบบนี้อยู่หรือเปล่าครับ ไม่ทราบว่าทำงานอย่างไร
และที่สำคัญ ไม่ควรนำไฟบวกจาก Batt. ไปต่อใช้กับ Relay โดยตรงนะครับ เพราะ Relay พวกนี้มีโอกาสค้างได้ เกิดโชคร้าย เราโยกสวิตท์ 3 ทาง ไปไว้ที่ Gas แล้วดับเครื่อง แต่ Contact Relay มันดันค้าง แล้วเราไม่รู้รีบออกจากรถไปทำธุระ งานนี้แย่แน่ Gas ท่วมนะครับ ที่เตือนเพราะผมเคยมีประสบการณ์มาแล้ว Relay พัดลมหม้อน้ำค้าง พัดลมหมุนไม่หยุด กลับมา Batt. หมด เซ็งเลย

ถ้าจะใช้วงจรแบบนี้ ตามความคิดผมต้องติด push button switch เข้าไปตามรูป เวลาจะสตาร์ทรถก็ให้กด Switch นี้พร้อมสตาร์ท
พอสตาร์ทติดก็ปล่อย Switch ครับ
ซึ่งไม่รู้ตรงกับของคุณ ekachai v หรือเปล่านะครับ อย่างไรรอคุณ ekachai v มาอธิบายวงจรเดิมอีกทีนะครับ

ขอบคุณครับ

 :o!! นึกขึ้นได้ครับ เพิ่มเติมอีกนิดนะครับ วงจรแบบ gas circuit 3 และ 4 นี้ จะทำให้ไฟเตือนระดับน้ำมันเครื่องบนหน้าปัดโชว์เรืองๆ ตลอดเวลาที่เครื่องยนต์ติดนะครับ
และ Relay ที่จะใช้ ไม่ควรเป็น Relay 12 V. เพราะมันจะไปผ่านหลอดไฟหน้าปัด ซึ่งถือเป็นความต้านทาน(R)ตัวหนึ่ง ทำให้กระแสที่มาเลี้ยง Megnetic Coil of Relay น้อยกว่าที่โรงงาน Relay ออกแบบไว้(แรงดูด Contact แปรผันตาม Flux, Flux แปรผันตามกระแส ) ใช้ไปนานๆ อาจทำให้แรงดูดไม่พอ ทำให้ Relay รวนได้ครับ แต่ถ้าใช้ Relay แรงดันต่ำไป  ค่า R ก็จะต่ำตามไปด้วย ทีนี้ก็จะทำให้ไฟหน้าปัดติดสว่างขึ้น คราวนี้ถ้าน้ำมันเครื่องต่ำจริงก็จะไม่มีการเตือนกันหละครับ

ผมใช้วงจรตามที่บอกแหละครับ แต่เวลาสตาร์ทจะลากยาวนิดหน่อย เพราะเวลาเครื่องยนต์หมุนก็จะมีแรงดันน้ำมันไปดันสวิตช์แล้ว ไฟก็จะจ่ายไปที่รีเลย์ทันทีครับ
แต่มาผมได้เพิ่มสายไปบวกอีกหนึ่งเส้นจั้มมาจากรีเลย์มอเตอร์สตาร์ทครับ โดยใส่ไดโอดดักไว้อีกหนึ่งตัวเพื่อไม่ให้ไฟบวกไหลย้อนกลับไปที่มอเตอร์สตาร์ทเวลาเครื่องยนต์ติด แบบนี้สตาร์ทชึ่งเดียวติดเลยไม่ต้องลากยาว
ถ้าจะใส่สวิตช์เพิ่มแบบ่คุณก็ได้แต่ยุ่งยากต้องคอยกดสวิตช์ทุกครั้งเวลาสตาร์ท
ส่วนเรื่องรีเลย์ค้างผมยังไม่เคยเจอ ถ้ากลัวค้างก็ใช้รีเลย์ดี ๆ เท่าที่กระเป่าทนได้ หรือสับสวิตช์ 3 ทางไว้ที่ ออฟทุกครั้งที่ตับเครื่องยนต์
หริออาจจะเอาไฟบวกที่ผ่านสวิตช์กุญแจแทนไฟบวกจากแบตโดยตรงครับ แต่ระวังสวิตช์กุญแจอายุจะสั้นนะครับ

ส่วนเรื่องรูปไฟน้ำมันเครื่องจะติดเรือง ๆ จริงครับ จะเห็นฉะเพาะตอนกลาง
คืนเท่านั้น กลางวันมองไม่รู้ กระแสไฟที่ผ่านรีเลย์น้อยลงนิดหน่อยไม่มีปัญหาครับ

นาน ๆ เดือนละครั้งผมจะเข้ามาทีเฉพาะตอนอยู่ที่เชียงราย เพราะเน็ตฟรี ถ้าอยากได้คำตอบเร็วโทรมาคุยกันก็ได้ครับ 0897234666 เอกชัย

เข้าใจแล้วครับคุณ ekachai v แต่การลาก Motor Start ยาวอาจไม่เป็นผลดีนักนะครับ และเท่าที่ใช้ กรณี Start รถตอนเช้าครั้งแรก แรงดันน้ำมันเครื่องจะขึ้นช้า โดยสังเกตุจากไฟน้ำมันเครื่องจะดับช้ากว่าปกติ อาจต้องเร่งเครื่องช่วย และเท่าที่เคยเจอ กรองน้ำมันเครื่องก็มีส่วนนะครับ ถ้าของดี น้ำมันเครื่องจะขึ้นเร็วกว่าครับ

1. การใช้ไฟบวกจาก Motor Start มาช่วยเป็นแนวคิดที่ดีเลยครับ แต่ผมคิดว่ายังแก้ปัญหาการที่น้ำมันเครื่องขึ้นช้าตอนเช้าไม่ได้ครับ อาจต้อง Start ลากยาวนิดหน่อย แต่ก็ดีกว่าแบบไม่แก้อะไรเลย
2. การใช้ไฟบวกจาก Motor Start อาจเอาไฟจากหลัง Switch กุญแจ ก็ได้ใช่ไหมครับ (คงเหมาะกว่ากรณีที่ติดวงจรไว้ใต้ Console)
3. ผมขออนุญาติดัดแปลงวงจรคุณ ekachai v เพื่อให้ดีขึ้นและแก้ปัญหารูปไฟน้ำมันเครื่องจะติดเรือง ๆ นะครับ เผื่อเพื่อนสมาชิกจะนำไปใช้ โดยการดัดแปลงนี้จะทำให้ Relay 5 ขาทำงานเฉพาะตอน Start (ตัดปัญหาไฟไปเลี้ยงแช่ที่ Relay Coil) และแรงดันที่ Relay Coil ใช้งานจะเป็น 12 V. เต็มๆ
4. ตามรูป ถ้าเพื่อนสมาชิกจะไปทำใช้ ก็มีทางเลือก อาจใช้แบบของคุณ ekachai v ที่นำไฟบวกของ MotorStart มาช่วย (เส้นสีน้ำตาล)
หรือใช้ Push Button Switch (Switch กดติด ปล่อยดับ) มาช่วย (เส้นสีเขียวอ่อน) ครับ

ถ้าคุณ ekachai v มีแนวคิดอะไรเพิ่มเติมก็ช่วยแนะนำด้วยนะครับ จะได้มีทางเลือกดีๆที่ทำให้รถใช้ Gas ของพวกเราปลอดภัยครับ
ขอบคุณครับ

สอบถามช่างติดตั้งแล้วเขาบอกว่า สวิทช์ ทาโมน่า รุ่น พีจี 3 มีทุกอย่างไม่ต้องมาทำอะไรอีก

พึ่งเอา 505มาขับยังไม่รู้ที่เติมนำมันเครื่องเลย อิอิ ช่วยบอกด้วย

รุ่นไหนครับ ถ้าก่อน 2.0 ยืนหันหน้าเข้ารถตรงซุ้มล้อด้านคนนั่งจะอยู่ทางด้านในเหนือกรองเบนซินจะมีตัวล็อคอยู่ 3คัว
ส่วนรุ่น 2.0 อยู่เหนือขึ้นมาอยู่ข้างๆปากคาร์บู

สวัสดีชาว peogeot ทุกคนครับ..ผมเพิ่งได้ใช้ 505 ไม่นานแต่เห็นว่ามีหลายปี..
ไม่ทราบว่าดูรุ่นปีที่ตรงไหนครับ

รุ่น 2.0 GR ครับผม  กำลังว่าจะเอาไปติดแกสครับ

ผม 2.0 GR เหมือนกันคับเอาไปติดแก๊สแล้วเมื่อสองวันเวลารถติดความร้อนขึ้นมากคับกลัว คับช่างที่ติดแก๊สบอกให้ไปติดพัดลมเพิ่ม ช่างฝีมือแย่ไม่รับผิดชอบมีที่ไหนช่วยแก้ให้ได้ไหมคับบอกทีไม่กล้าไปไหนตรงรถติดแล้วก่อนนี้ใช้น้ำมันไม่เคยมีปัญหาเรื่องความร้อนเลยรถผมพอมาติดแกสปวดหัวเลย

ใช้พัดลมไฟฟ้าของ 305 ซิครับต่อพ่วงกับคอมแอร์ บวกรีเลย์ 1 ตัวเอาอยู่ ถ้ารถไม่ติดมาก(30นาทีอัฟ)ความร้อนอยู่ที่ 85-90 ถ้าวิ่งเร็วๆ 75-85 (120อัฟ)

อยุ๋ที่ไหนครับ

ความร้อนไม่น่าจะขึ้นนะ ช่างไล่ลมให้ดีรึป่าว ดูเป็นขั้นต้นเลยครับ