|
หัวข้อ: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: laksanova ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2007 เวลา 21:54:51 เรื่องมันเหมือน นิยาย น้ำเน่า ที่ประมาณคลองแสนแสบ เข้าเรื่องดีกว่า ผมเมือ่ตอนต้นปี ยังขับรถไม่เป็นพี่ชายคนโต ได้ ติดหนี้ ผมอยู่ สามหมื่น เสนอ รถมาให้คันนึงเป็นรถยี่ห้อเปอร์โยต์ 306 สีบรอนซ์ รถมันก็สวยดี นะ แต่ไม่ค่อยได้ยินกิตติศักดิ์ทางที่อยากจะได้ยินมาก่อน กลัวๆๆอยู่ แต่เมื่อ พี่ชายเอามาแล้ว ก็โอเค ก็แบ่งๆกันใช้ อยู่ได้ ประมาณเดือนนึง รถวิ่งอยู่แถว วิภาวดี ขาออก กำลัง จะเข้า ลาดพร้าว อยู่ๆ แอร์ไม่เย็น ไฟความร้อน วิ่งปรี๊ด ยังกะติดเทอร์โบ ต้อง จอดปั้ม พัก ครึ่งชั่วโมง เอาน้ำมาเติมในหม้อน้ำ เพราะ น้ำแห้งหายไปหมดแล้ว ทั้งๆๆที่ก็เช็คเกืออบทุกวัน ก็ใส่น้ำมาเปิดฟาหม้อน้ำ วิ่งลากกันมา จนถึงแยก ลาดพร้าวรัชดา จอดในปั้ม ปิโตนัท ไม่ไหวแล้ว ความร้อนมันสูงมากต้องจอดอีก เลยโทรไปหาศูนย์ เปอร์โยต์ สุรวงศ์ สักชั่วโมง ช่างก็มาสองคน เช็คกัน ประมาครึ่งชั่วโมงปรากฎว่าน่าจะฝาโก่ง จะให้เอาเข้าศูนย์ ผมคิดว่าตังค์ยังไม่พร้อม เลยไม่ได้เข้าไป ก็ขับมาลาดพร้าว87 โดยเปิดฝาหม้อน้ำมาถึงโดยสวัสดิภาพ รุ่งขึ้นพี่ผมมี่พวกๆๆกันแถวสวนสยาม มีเพื่อนทำรถยุโรป เลยเอารถไปทำ ทำเกือบ 10วัน ค่าซ่อมก็น้องๆศูนย์ สองหมื่นกว่า ผมเซ็งมาก แต่พี่ผมรับผิดชอบจ่ายไป ใช้มาสักอาทิตย์ ความร้อนขึ้นแล้ว เหมือนเคย พี่ผมขับไปลุยน้ำมา พัดลมพังไปหนึ่งตัว คราวนี้มาซ่อมตรงซอยลาดพร้าว 71 เปลี่ยนพัดลมก็ใช้ได้ปกติ หาย แต่แล้วหายนะก็เกิดขึ้นอีกครัง เมื่อผ่านมาซัก เดือนนึง รถก็ฮีตเป็นครั้งที่สาม อาการเดิมๆ ฝาโก่ง ผมไม่รู้หรอกนะว่าไอ้อู่ตรงสวนสยามมันทำอะไรมาบ้างเพราะตอนซ่อมไม่ได้ไปด้วย เลยต้องมาหาหมอที่ซอย71อีกที ช่างวุฒิ บอกราคาผมใจหายใจคว่ำ ไม่เกิน 6000บาท งงเลยครับ แล้วทำไมครั้งแรกที่สวนสยามมันแพงจัง
ก็ทำประมาณสามวัน เสร็จ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยขึ้นเกิน100 แต่มีอาการ กินน้ำมันเครื่อง ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นอะไรอีกแต่ก็ดูแลดีก็ไม่มีปัญหา จะมีแต่ออกตัวไม่มีแรง จูนกันมาพักนึงจนเริ่มเข้าที่ วิบากกรรมของผมก็มาอีกจนได้ เมื่อ พี่ผม(คนเก่า) ขับรถจะไปรามอินทรา กำลังรอเลี้ยวเข้าสายเลียบทางด่วน รามอินทรา ปรากฎมีรถฟอรด กระบะ เสียหลักพุ้งเข้ามา ชนมอเตอร์ไซด์ หักหลบไปชนป้าย แล้วสุดท้ายไปจบที่รถแท๊กซี่ ความวิบากรรม ตรงที่ เจ้าของรถมอเตอร์ไซด์ มันกระโดดหลบแบบแม๊ททริก รถมอเตอร์ไำซด์ก็ค่อยๆๆลอยลงมา ฟาด ตรงกันชนหน้าปังงงงงงงงง มอไซด์ขาดเป็นสองท่อน เปอร์โยต์ของ ผมกันชนหน้าแตก เสียทรง พัดลมพังหมดเลย กรรมซ้อนตรงที่ไอ้รถฟอร์ดมันมีแต่ พรบ. แถมมันไปยืมรถเพื่อนมันมาใช้ เงินมันก็ไม่มี ต้องไปเคลียร์กันที่โรงพักโชคชัย ผมเรียกมันว่าไอ้ศักแล้วกัน ตรงลงจะซ่อมให้ ผมเลยเอารถลากไปอู่71อีกครั้ง ก็เปลี่ยน พัดลม ดึงกันชน ว่อมหม้อน้ำ ก็เกือบๆ แปดพัน ยังไม่ได้ทำสี ไอ้ศัก ิ์มันก็เลวดีจริงๆ มันโอนมาให้ 4000จากนั้นหนีหายไปกับสายลม ไปแจ้ง สน.โชคชัย เขาก็บอกให้ทำใจ ตามกันยาก เซ็งมากครับ ตำรวจบอกงานเยอะ คดีเล็กๆตามไม่ไหว ตามเอาเอง เยี่ยมไปเลย ความวิบากกรรมของผม สีเลยยังไม่ทำ กันชนก็ซ่อมรอทำสี แต่ก็ใช้ดีอยู่กะหาเงินไปทำทีเดียว แล้วคราวเคราะ ของผมก็เกิดขึ้นอีก มันหนักยิ่งกว่า เมื่อพี่ชายคนรอง ยืมรถไปเชียงใหม่ ดันไปไม่ถึง ขับไปฟาด หมดไปแถบ ดีนะที่คนไม่เป็นไร แต่ น้อง306ผมนี้ตั่งแต่แก้มยัน ประตูหลัง เสียศูนย์หมด รถผมมันก็มีแต่ ประกันชั้น3 ก็เลยต้องหาเงิน ซ่อมเนื่องด้วยพี่ผมก็กำลังมาลุยงานรับเหมาก็โดนโกงอีกเกืออบแสน คราวนี้ภาระกิจซ่อมจึงมาเป็นของผม ซึ่งก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอนนี้ก็พึ่งให้เข้าอู่เกือบเดือน ยังไม่ค่อยคืบหน้า สักเท่าไหร่ (เงินไม่ค่อยวิ่งครับ) แต่ก็จะเอาให้เสร็จ ทำพิธีสักที เพราะ ผมชอบมัน ขับมันส์ดี ปลอดภัย ทำคราวนี้จะให้หล่อเลย เหตุการณืเกิดช่วง ม.ค. ถึงปัจจุบัน หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: โอ๊ต_XU5_ฝาส้ม ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2007 เวลา 22:39:20 น้ำในหม้อน้ำหาย ไม่ใช่ว่าจะฝาโก่งอย่างเดียวครับ อาการนี้ถ้าอู่ชอบฟันเงิน เราไปบอกว่าน้ำหายปั๊ป
มันจะเสนอเป็นอาการแรก เพราะว่าซ่อมแพง แต่ถ้าอู่ที่จริงใจ จะไล่อาการจากราคาถูกเล็กๆน้อยแล้วค่อยขยับไปเรื่อยๆครับ ถ้ามันไม่หาย ---------------------------------- น้ำในหม้อน้ำหาย ผมเรียงจากค่าซ่อมถูกไปแพงนะครับ 1.ฝาหม้อน้ำอาจจะหมดสภาพ เปลี่ยนใหม่ไม่เกิน 100 บาท 2.รูข้างในแผงหม้อน้ำ อาจจะตัน เนื่องจากตะกรันจากน้ำไปอุดรู ค่าล้างไม่เกิน 500 บาท 3.พัดลมหน้าหม้อน้ำ หมุนช้าไประบายความร้อนไม่ทัน 4.ฝาสูบโก่ง ส่วนใหญ่เปอร์โย อาการข้อที่ 4 ถ้าดูแลแบบไม่มั่วนิ่มมาก่อน แทบจะไม่เคยเห็นนะครับ เครื่องเปอร์โยออกจะทน ฝาสูบมันไม่โก่งง่ายๆครับ ------------------------------------------------------------------------------- เรื่องน้ำมันเครื่องหายเป็นได้หลายสาเหตุครับ ลองให้อู่หรือศูนย์วัดกำลังอัดของกระบอกสูบก่อนครับ ถ้าได้ค่า 170 - 175 หรือมากกว่า 175 ก็ไม่ต้องกังวลครับ แต่ถ้าค่าต่ำกว่า 170 เท่าไหร่ รีบมาบอกครับ จะได้หาสาเหตุถูกครับ ว่ามีอะไรรั่วตรงไหนหรือเปล่า ถ้ารถซ่อมเสร็จแล้ว ลองดึงก้านวัดน้ำมันเครื่อง มาดูครับ เป็นสีชาเย็นหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็รอดตัวไป และดูน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ เป็นสีนมเย็น(สีชมพู)หรือไม่ ถ้าไม่เป็นก็รอดตัวไปอีกหนึ่งรายการ พร้อมทั้งเอาไฟส่องดูในหม้อน้ำ มีตะกรันเยอะหรือเปล่าครับ หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: laksanova ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2007 เวลา 23:05:04 ถ้ารถซ่อมเสร็จแล้ว
ลองดึงก้านวัดน้ำมันเครื่อง มาดูครับ เป็นสีชาเย็นหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็รอดตัวไป และดูน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ เป็นสีนมเย็น(สีชมพู)หรือไม่ ถ้าไม่เป็นก็รอดตัวไปอีกหนึ่งรายการ พร้อมทั้งเอาไฟส่องดูในหม้อน้ำ มีตะกรันเยอะหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ ปกติสุขดีครับ ตอนนี้ ดีเกือบทุกอย่าง มีปัญหาการ ทำบอดี้ให้ดั่งเดิมครับ ส่วน อาการที่ฝาโก่ง เป็นมาจาก เจ้าของเก่า เขามีรถหลายคันเลยให้รถลูกน้องวิ่งทำงาน แล้วมันก็วิ่งอย่างเดียวครับ เลยน้ำแห้งมาก่อน (มารู้ตอนหลัง) หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: laksanova ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2007 เวลา 23:08:18 พร้อมทั้งเอาไฟส่องดูในหม้อน้ำ มีตะกรันเยอะหรือเปล่าครับ ตะกรันมันคือ อะไรครับ ซ่อมเสร็จผมจะไปลอง วัดกำลังอัดของกระบอกสูบ ด่วนเลยครับ หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: โอ๊ต_XU5_ฝาส้ม ที่ วันเสาร์ที่ 06 ตุลาคม 2007 เวลา 23:29:26 ตะกรัน คือ คราบของน้ำเวลามันร้อนครับ
เหมือนที่อยู่ในกาต้มน้ำ แต่รูในหม้อน้ำ มันเล็กครับ เจอตะกรันนิดหน่อยก็เริ่มตันแล้ว ----------------------------------------- การวัดกำลังอัดกระบอกสูบ ไม่ใช่เรื่องด่วนอะไรครับ และค่าวัดไม่แพงด้วย ถ้าหน้าตามาตรวัดเป็นแบบหน้าปัทม์ธรรมดาทั่วไป และเก็บค่าแรงเกิน 1 พันนะ ไม่ต้องทำครับ อู่นั้น มันฟันเงิน การวัดกำลังอัดเป็นการทดสอบดูว่า เครื่องเราหลวมอะไรตรงไหนหรือเปล่าครับ ถ้าค่าออกมาเป็นเท่านั้น เท่านี้ เราจะได้แก้ได้ถูกจุดครับ การวัดกำลังอัดเป็นอย่างไร ลองเข้าไปดูในลิงค์นี้ครับ ผมไปถามเขาไว้อยู่ กระจ่างขึ้นเยอะเหมือนกัน http://rcweb.net/forums/showthread.php?t=388231 หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: Int_205GR ที่ วันอาทิตย์ที่ 07 ตุลาคม 2007 เวลา 10:18:26 ทำบุญภาวนาบ้างก้อดีครับ แล้วอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร
ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: 405 GR ที่ วันอาทิตย์ที่ 07 ตุลาคม 2007 เวลา 11:59:42 พูดได้คำเดียวว่า "เห็นใจครับ" 405 ของผมซื้อมาสภาพปกติ แต่กว่าจะใช้ได้ดีในปัจจุบันยังผ่านขั้นตอนเซ็งมาหลายรอบ แต่น้อยกว่านี้ครับ ใช้รถเก่าต้องผ่านขั้นตอนคล้าย ๆกันนี้มาเกือบทุกคน โดยเฉพาะไม่รู้จักเปอร์โยต์มาก่อน ทุกคนก็ว่าได้ต้องผ่านขั้นตอนประมาณนี้จนกว่าจะรู้จักมัน ปัญหาจะน้อยลง จะค่อย ๆ ใช้เปอร์โยต์ได้ด้วยความสะบายใจ แต่บางคนผ่านมาไม่ถึงจุดนี้ครับ เลิกคบเปอร์โยต์ไปก่อน
หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: nunt ที่ วันอาทิตย์ที่ 07 ตุลาคม 2007 เวลา 18:26:30 เอาใจช่วยครับ อย่าท้อ ชีวิตคนเรามีขึ้นและก็มีลง สักวันคงเป็นวันของเราบ้าง สู้ๆครับ O0
หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: wut405 ที่ วันอาทิตย์ที่ 07 ตุลาคม 2007 เวลา 19:06:58 เท่าที่อ่านมา ผมก็เห็นด้วยครับ กับคำว่า วิบากกรรม แต่ก็อยากจะบอกอย่างหนึ่ง ทุกอย่างเมื่อผ่านความยากลำบาก มันก็จะกลายเป็นสุขทีหลังครับ O0
เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ต่อไปนะครับ อย่า ท้อ ก่อนนะครับ O0 O0 O0 หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: นายโม ที่ วันอาทิตย์ที่ 07 ตุลาคม 2007 เวลา 21:51:40 เจ้าสิงห์ผมก็โดนเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นกรรมหรือว่าวาสนาเมื่อหลายปีมาแล้ว
ที่มีโอกาสว่าย(จม)นํ้า เพราะภัยธรรมชาติ ถึงประกันจะจ่าย แต่บางชิ้น ช่างที่ศุนย์ต่างจังหวัดสมัยก่อนก็งูๆปลาๆ ถอดไม่เป็น พังซะ ประกันไม่จ่าย สิริรวมก็หลายหมื่นเหมือนกัน ฮือๆๆ ม่านกันแดดกระจกหลังดึงขึ้นมายังมีโคลนแห้งติดอยู่เลย หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: wa_bangbung ที่ วันอาทิตย์ที่ 07 ตุลาคม 2007 เวลา 22:57:05 เห็นใจและเอาใจช่วยครับ ทุ่มมาเยอะแล้วสู้ต่อไปครับ เป็นกำลังใจให้อีกคนครับ O0
หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: laksanova ที่ วันจันทร์ที่ 08 ตุลาคม 2007 เวลา 00:52:10 ผมจะสู้ต่อไปแล้ว เอา 306ไปลุยในงาน มิตติ้งปีหน้าให้ได้ครับ
หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: zero1 ที่ วันจันทร์ที่ 08 ตุลาคม 2007 เวลา 20:27:24 เข้ามาอ่าน
เอาใจช่วย หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: Mr_Ang ที่ วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2007 เวลา 17:37:09 ของผม 405GRi ถ้าน้ำต่ำมันจะมีเซนเซอร์เตือนระดับน้ำ ของ 306SR ก็น่าจะมีนี่ครับ รถพ่อผมสิ ISUZU dragon eye รถปี 2001 หม้อน้ำรั่วไปเมื่อสองปีก่อน สี่ปีหม้อน้ำรั่วแล้วแต่ไม่มีเซนเซอร์แกเลยขับไปจนฝาสูบโก่งต้องซ่อมหมดไปสองหมื่นกว่าบาท แต่รถผมสิบสองปียังไม่เป็นไรเลยครับ แต่เจออู่มั่วๆก็ต้องระวังหน่อยลองไปเช็คกับที่อื่นดูด้วย
หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: thosaphol ที่ วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2007 เวลา 15:50:58 ก็หม้อน้ำรั่วนะสิ ของผมก็เป็น ต้องเปลี่ยนใหม่ที่ศูนย์ราคาประมาณ 8000 บาท
หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: laksanova ที่ วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2007 เวลา 04:38:55 ตอนนี้ เกือบจบแล้วครับ มี สั่น นิดๆ วิ่ง ได้ความเร็ว สูงสุด 160 สั่น หน่อยๆ +ใจคอไม่ค่อยดีครับ แล้วจะลงรูป ครับ รอติดฟีล์มเสร็จก่อน
พอดี วันนี้ไปติดแถว บางบัวทอง เหลือ บานหน้า-หลัง มีงานด่วน เลยต้องไปติดซ้ำพรุ่งนี้ หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: pong5555 ที่ วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2007 เวลา 07:38:33 สู่ๆๆครับ เอาใจช่วย ผมก็ปลํา405อยู่เกือบเข้าที่แล้ว และต้องชมเชยกับความอดทนและรักเจ้า 306 ครับ
หัวข้อ: Re: วิบากกรรม ของผมกับ306 sr เริ่มหัวข้อโดย: laksanova ที่ วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม 2007 เวลา 22:24:19 พรุ่งนี้ จะเอารูปมา ลง ครับ เริ่ม หล่อ แหละ
|