Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย

หมวดหมู่ทั่วไป [ General topics ] => พูดคุยทั่วไป ได้ทุกเรื่อง => ข้อความที่เริ่มโดย: intra ที่ วันพุธที่ 24 ตุลาคม 2007 เวลา 23:49:07



หัวข้อ: เปอโยต์...ตำนานสิงห์ผยองของจริง(ตอนที่ 1)
เริ่มหัวข้อโดย: intra ที่ วันพุธที่ 24 ตุลาคม 2007 เวลา 23:49:07
 
 
รถของเปอโยต์ที่ออกมาในรุ่นแรกๆ
 
 
       “เปอโยต์” คือค่ายรถยนต์รายใหญ่อันดับต้นๆของฝรั่งเศสที่เข้ามาล่าอาณานิคมในตลาดรถเมืองไทย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันยอดจำหน่ายไม่ได้หวือหวาแต่ก็เน้นไปจับกลุ่มลูกค้าที่มีสไตล์และชอบในตัวแบรนด์

 
 
โลโก้ของเปอโยต์ที่ถูกใช้มาทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน
 
 
       ตำนานความเป็นมาของเปอโยต์ ในปัจจุบันเท่าที่พอจะมีบันทึกไว้ คือ ย้อนหลังไปประมาณ พ.ศ. 2303 เมื่อ ชองปิแอร์ เปอโยต์ ได้ตั้งธุรกิจการทอผ้าและย้อมผ้าที่เมือง มองมอง เบอรลิยาร์ด ทางตะวันออกของฝรั่งเศส
       
       ภายหลังต่อมา ทายาทของเขาได้รวมกิจการทั้งหมดเข้าด้วยกันในรูปบริษัท เปอโยต์และตั้งโรงงานหล่อเหล็กเพื่อผลิตส่วนประกอบต่างๆ ที่ใช้กับเครื่องจักรในอุตสาหกรรมทอผ้าและมีการคิดหาเครื่องหมายเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของเหล็กคุณภาพต่าง ๆ รูปสิงห์ได้ถูกเลือกไว้เป็นสัญลักษณ์ของผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีคุณภาพดีที่สุด และได้กลายมาเป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของเปอโยต์ในปี พ.ศ.2401

 
 
เปอโยต์ 203 ปี 1953
 
 
       ในยุคที่จักรยาน 2 ล้อเป็นที่นิยม เปอโยต์ได้ผลิตซี่ล้อจักรยานเป็นอุตสกหกรรมต่อมาก็เริ่มการผลิตรถจักรยาน 2 ล้อออกจำหน่ายจนมีผู้นิยมใช้กันทั้งเมือง บุคคลสำคัญที่เป็นผู้ชักนำให้ครอบครัวเปอโยต์ เข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์อย่างแท้จริงคือ อาร์มองต์ เปอโยต์อาร์มองต์ให้ความสนใจกับเรื่องเครื่องยนต์กลไกเป็นพิเศษ โดยเริ่มทดลองใช้เครื่องพลังไอน้ำติดเข้ากับรถ 3 ล้อ ปรากฏว่าใช้ได้ดี และนำออกโชว์ครั้งแรกในงานแสดงสินค้านานาชาติที่กรุงปารีส ในปี 2432

 
 
เปอโยต์ 403 ปี 1957 สามารถขายได้ถึงหลักล้าน
 
 
       ต่อมาเปอโยต์หันมาสนใจพัฒนาเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันแทนเครื่องยนต์พลังไอน้ำ รถเปอโยต์คันแรกที่ใช้น้ำมันเบนซินได้เผยโฉมออกมาในปี 2434 เป็นรุ่นแรก เป็นจำนวนถึง 72 คัน นับว่าเป็นจำนวนมากในสมัยนั้น 5 ปีต่อมา เปอโยต์ได้พัฒนาประดิษฐ์เครื่องยนต์เพื่อใช้กับรถเปอโยต์โดยเฉพาะ เริ่มจากเครื่องยนต์ขนาด 6 แรงม้าและเริ่มผลิตรถบรรทุกขนาดเล็กออกมาในปี พ.ศ. 2441 สมัยนั้นใคร ๆ ต่างก็พากันเรียกว่า “รถบรรทุกขนมปัง”
       

 
 
เปอโยต์ 202 ปี 1948 และ 202 Commercial
 
 
       ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานเปอโยต์ถูกนาซียึด และถูกสัมพันธมิตรทิ้งระเบิด ทำให้โรงงานได้รับความเสียหายจนในที่สุดเมื่อสงครามสงบลงเปอโยต์จึงมีการผลิตรถเพียงรุ่นเดียว คือ ซีรี่ส์ 03 และแบบเดียวคือ เปอโยต์ 203 อนาคตความอยู่รอดของเปอโยต์จึงขึ้นอยู่กับ “เปอโยต์ 203”
       
       ปี พ.ศ. 2491- 2497 เปอโยต์สุดแสนจะแฮปปี้ เมื่ออยู่ในฐานะรถที่ขายดีที่สุด ยอดขายพุ่งขึ้นไปถึงเกือบ 1 ล้านคันและเปอโยต์ 403 ซึ่งตามออกมาในปี 2496 ยอดขายทะยานขึ้นสู่หลักล้าน
       ติดตามต่อตอนหน้า...
       ข้อมูล : นิตยสารโลกยานยนต์

       http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9500000121130&#Opinion

       ลองอ่านดูกันนะ

 
 


หัวข้อ: Re: เปอโยต์...ตำนานสิงห์ผยองของจริง(ตอนที่ 1)
เริ่มหัวข้อโดย: old-big ที่ วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม 2007 เวลา 18:32:39
Manager ลงไม่ครบครับ มีอีกแบบดูดีและคลาสสิคครับ เป็นรูปหัวสิงโตตอนนอนตะแคงลายนูนครับ เอาไว้ผมล้างรูปก่อนแล้วจะเอามาโชว์บ้าง คิดว่าถ่ายมานะ





หัวข้อ: Re: เปอโยต์...ตำนานสิงห์ผยองของจริง(ตอนที่ 1)
เริ่มหัวข้อโดย: intra ที่ วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2007 เวลา 08:33:51
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เปอโยต์...ตำนานสิงห์ผยองของจริง(ตอนที่ 1)
เริ่มหัวข้อโดย: old-big ที่ วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2007 เวลา 09:11:25
ล้างรูปแล้วครับ แต่ไม่มีโลโก้สักรูปเลยครับ มีแต่ปีที่ผลิตครับ ปีแรกที่ตั้งโรงงานผลิตรถคือ 1810  ครับ



หัวข้อ: Re: เปอโยต์...ตำนานสิงห์ผยองของจริง(ตอนที่ 1)
เริ่มหัวข้อโดย: nueng ที่ วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2008 เวลา 10:23:58
โห้...นานขนาดนั้นเชียว
...ตอนนั้นผมยังอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้...


หัวข้อ: Re: เปอโยต์...ตำนานสิงห์ผยองของจริง(ตอนที่ 1)
เริ่มหัวข้อโดย: yordthong ที่ วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 22:10:35
ขอบคุณและได้ประโยชน์ครับที่เอามาลงไว้ให้อ่าน......แต่ถ้าเป็นไปได้ น่าจะมีข้อมูลและรูปภาพของทุก ๆ รุ่น รวมทั้งเกียรติประวัติต่าง ๆ ไว้ศึกษานะครับ ผมพยายามหาอ่านข้อมูล peugeot จากหลายที่แล้ว พบเจอบ้างเล็กน้อย ไม่เป็นความรู้เท่าที่ควร


หัวข้อ: Re: เปอโยต์...ตำนานสิงห์ผยองของจริง(ตอนที่ 1)
เริ่มหัวข้อโดย: taraki ที่ วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 13:29:20
ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้  :love love: