ท่องเที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัย
ในบัจจุบันนี้
อุบัติภัยด้านการจราจรได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีสถิติสูงกว่าอุบัติภัยด้านอื่นๆ
มาก ซึ่งจากการวิจัยจากหลายหน่วยงานพบว่า สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเป็นสาเหตุสำคัญ
ทำให้เกิดอุบัติภัยทางจราจรเพิ่มขึ้น สภาพแวดล้อมที่เป้นสาเหตุให้เกิดอุบัติภัยจราจรได้อาจจำแนกได้เป็น
3 ประการคือ :-
(1)
อุปกรณ์ความปลอดภัยไม่สมบูรณ์ สิ่งเหล่านี้ ได้แก่การตราจร ซึ่งมีทั้ง
ป้ายแนะนำ ป้ายบังคับ และป้ายเตือน จำเป็นต้องติดตั้งอยู่ในที่มองเห็นได้ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน
เข้าใจง่าย การออกแบบขนาดใหญ่เพียงใดนั้นควรต้องคำนึงถึงความเร็วของรถและระยะทางที่จะใช้เวลาอ่านข้อความบนแผ่นป้ายได้ทันเพื่อช่วยเพิ่มให้มีความปลอดภัยในการขับขี่ยวดยานได้
นอกจากนี้ถนนที่ปลอดภัยและง่ายต่อการขับขี่นั้น จะต้องมีเครื่องหมายและตีเส้นบนพื้นถนน
ให้เห็นชัดเจนด้วยและควรเป็นสีสะท้อนแสง เพราะเวลากลางคืนจะช่วยให้มองเห็นช่องทางเดินรถได้ดีขึ้น
สำหรับความปลอดภัยของคนเดินเท้าจะต้องมีทางเท้าหรือไหล่ทางที่กว้างพอสำหรับคนเดินและควรมีทางข้ามทในที่เหมาะสม
เพื่อความปลอดภัยในการข้ามทางด้วย สิ่งสำคัญซึ่งจะมีประโยชน์มากสำหรับการขับขี่รถในเวลากลางคืน
ได้แก่ ไฟฟ้าแสงสว่าง ไฟกระพริบ เป็นต้น กล่าวโดยทั่วไปแล้ว อุปกรณ์ความปลอดภัยนี้จะรวมถึงเครื่องอำนวยความปลอดภัยทั้งในการขับขี่ยานพาหนะและสำหรับคนเดินเท้าที่มนุษย์จัดให้มีขึ้น
2.
อุปสรรคทางธรรมชาติ สภาพแวดล้อมที่เกิดจากธรรมชาติหรือที่เรียกว่า
ทัศนวิสัยไม่ดีหรือเลวร้ายนั้น เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ ซึ่งได้แก่หมอกลงจัด
หิมะตก ลูกเห็บตก ฝนตกหนัก น้ำท่วมทาง เป็นต้น เมื่อเกิดขึ้นจะทำให้การเดินทางล่าช้าลง
และเกิดอันตรายได้ง่าย เพราะต้องใช้ความรแวดระวังเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
3.
การกระทำของคน สภาพแวดล้อมที่เกิดจากการกระทำของคนนั้นที่พบในเขตเมืองมากที่สุด
คือมลพิษ เช่นการเกิดเสียงดังรบกวนจากท่อไอเสียของรถ และการเกิดควันจากท่อไอเสียของรถ
สภาวะดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพและอนามัยของประชาชน และรบกวนสมาธิในการขับรถเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะในกรณีรถติดขัดจะก่อให้เกิดความแปรปวนทางอารมณ์อาจมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนได้ง่าย
ส่วนสภาพแวดล้อมที่เกิดจากากรกระทำของคนในทางหลวงนอกเมืองที่พบมากและเป็นอันตรายมากได้แก่
การเผาวัสดุจำพวกหญ้า ฟางข้าว ใบไม้ บริเวณสองข้างทางหลวง ซึ่งจะเกิดกลุ่มหมอกควันหนาทึบมองไม่เห็นทางข้างหน้า
การนำสัตว์เลี้ยงมาปล่อยไว้บริเวณสองข้างทางหลวงแล้วไม่ระวังดูแลปล่อยให้
สัตว์เดินเกะกะกีดขวางทางเดินรถเป็นอันตรายมาก สำหรับรถทีงด้วยความเร็วสูง
และการประกอบอาญกรรมของโจร ผู้ร้าย ได้แก่ การขึงลวดจอดรถจักรยานเวลาค่ำคืน
หรือการนำน้มันหรือน้ำผสมผงซักฟอกมาราดบนถนนทำให้ถนนลื่น รถที่แล่นผ่านมาจะเสียหลักพลิกคว่ำได้ง่าย
นอกจากนี้สภาพแวลดล้อมจากความบกพร่องผู้ขับขี่ เช่น การจอดรถไม่จุดโคมไฟในเวลาค่ำคืน
หรือการลากนูงหรือบรรทุกสิ่งของยื่นล้ำออกนอกตัวรถ แต่ไม่ติดสัญญาณหรือ
เครื่องหมายสะท้อนแสงไว้ให้รถอื่นเป็นที่สังเกตและการบรรทุกดินตกหล่นในทางโดเฉพาะในเวลาฝนตกจะทำให้ถนนมีความลื่นมากกว่าปกติสิ่งต่างๆ
เหล่านี้ล้วนมีส่วนก่อให้เกิดอุบัติเหตุภัยได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากเหนือจากสภาพแวดล้อมดังกล่าวแล้ว
ความบกพร่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้ มีส่วนทำให้เกิดอุบัติภัยทางจราจรมากยิ่งขึ้น
1.
ความบกพร่องของผู้ขับขี่
2.
ความบกพร่องของรถ
3.
สภาพดินฟ้าอากาศแปรปวน
4.
ความบกพร่องของสภาพถนน
5.
ความบกพร่องของผู้ใช้ถนน
ความบกพร่องของผู้ขับขี่
1.
ขับรถเป็นใหม่ ยังไม่มีความชำนาญพอ ต้องใจเย็น
2.
ไม่ได้เรียนการขับรถโดยถูกต้อง ตามวิธีการสอนแบบมาตรฐาน ควรใช้สูตรนี้
มองให้ไกล ให้ได้ภาพกว้าง ถ่างสายตาไปมา หาช่องว่าง สร้างสัมพันธ์ทางสายตากับผู้ขับคนอื่น
3.
ไม่ปฏิบัติตามกฏจราจร ต้องรู้และปฎิบัติอย่างเคร่งครัด
4.
เกิดจากความคึกคะนอง ใช้ภาษิตที่ว่า ขับรถเร็วถึงป่าช้า ขับช้าถึงที่หมาย
5.
เสพสุราหรือยาเสพติด ไม่ควรดืมสุรา แต่ถ้าจำเป้นไม่ควรเกิน 2 แก้ว
6.
มีโมหะ โทสะ ทำใจให้สบายอย่าอารมณ์เสีย
7.
อย่าดันทุรังขับ เมื่อรู้สึกง่วงหรืออ่อนเพลีย
เหตุเกิดจากความบกพร่องของรถและวิธีแก้ไข
1.
เบรคแตก บังคับพวงมาลัยให้มั่น ชลอความเร็วลง ลดเกียร์ต่ำลง แล้วใช้ห้ามล้อมือช่วย
2.คันส่งหลุดเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำ
ห้ามใช้ห้ามล้อกระทันหัน
3.
ยางระเบิด อย่าใช้ห้ามล้อ พยายาบังคับพวงมาลัยให้ตรงทาง อย่าตกใจ
แล้วใช้เกียร์ต่ำ
4.
ล้อหน้าหรือล้อหลังหลุด บังคับพวงมาลัยให้ตรงทางห้ามใช้ห้ามล้อ
เหตุเกิดจากดินฟ้าแปรปรวน
1.
มรสุมหรือพายุแรงจัด ต้องจอดรถรอจนกว่าจะเบาบาง
2.
หมอกลงจัด ใช้เครื่องปัดน้ำฝนช่วย เปิดไฟใหญ่หากยังมองไม่เห็นต้องจอดรถ
3.
ฝนตกถนนลื่น ลดความเร็วลง อย่าขับรถตามหลังคันหน้าโดยใกล้ชิด อย่าเหยียบห้ามล้อโดยแรงเพราะจะทำให้รถลื่นไถล
อย่าเหยียบห้ามล้อพร้อมครัช ทำให้รถเสียการทรงตัวได้ง่าย
เหตุเกิดจากความบกพร่องของสภาพถนน
1.
ถนนไม่เรียบร้อย เป็นคลื่นหลังเต่า ความเอนของถนนไม่สัมพันธ์กับส่วนโค้งเพียงพอ
2.
ทางชำรุดรอการซ่อม
3.
ทางขึ้นเขา ลงเขา
4.
ทางเลี้ยว ทางโค้ง มุมลับสายตา
5.ถนนที่ตัดผ่านทางรถไฟ
6.
สะพานชำรุด สะพานไม่มั่นคง สะพานเบี่ยง
เหตุเกิดจากความบกพร่อง ของผู้ใช้รถ ใช้ถนน
1.
ข้ามถนนไม่ถูกวิธี ต้องยืนนิ่งบนทางเท้า หรือขอบถนน มองขวา มองซ้าย
และมองขวาอีกครั้งหนึ่ง ถ้าปลอดภัยจึงห้ามและต้องข้ามตรงทางข้าม
2.
คนชรา คนพิการ ต้องหยุดให้เดินผ่านโดยปลอดภัย
3.
ชาวชนบทมักตื่นตกใจง่าย อย่าใช้แตรเสียงดังเกินไป
4.
คนเมาสุรา ย่อมขาดความระมัดระวัง
การป้องกันอุบัติหตุ โดยการตรวจสอบสภาพรถดังนี้
1.
พวงมาลัย คันส่ง ไม่ลื่นหลวม
2.
ห้ามล้อเท้า ห้ามล้อมือ ใช้การได้ดี
3.
ครัช ไม่ลื่นหรือตึงเกินไป
4.
แตรไม่ดังหรือเบาเกินไป
5.
กระจกมองหลัง สามารถมองเห็น เป็นใช้ได้
6.
สัญญาณไฟเลี้ยว เครื่องวัดความเร็ว ที่ปัดน้ำฝนใช้การได้ดี
7.
ยางรถ ยางอะไหล่ ใช้ถูกมาตรฐาน
และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง
คือเข็มขัดนิรภัย ต้องใช้ทุกครั้ง สวมใส่เมื่อขึ้นนั่งรถของท่าน
จะเห็นว่าความปลอดภัยในการจราจรมีสาเหตุ และวิธีป้องกันอันตรายได้ถ้าเราชาวสิงห์ทั้งหลายทุกคนไม่ประมาท
เพราะการเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้งก็จะเป็นการสูญเสียทั้งทรัพย์สิน
และชีวิตที่ไม่สามารถจะเรียกกลับคืนมาได้ ฉะนั้นจะต้องมีการสร้างเกราะป้องกันตัวด้วยการมีวินัยในการใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
นอกจานี้จะต้องมีการผ่อนปรนในบางขณะเพื่อไม่ก่อให้เกิดความเครียดในระหว่างเดินทางช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดี
มีความสนุกสนานกับการเดินทางด้วยความปลอดภัย
สุดท้ายขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะครับ