vlovepeugeots.com - Please Ctrl+DBookmark Now!

vlovepeugeots Webboard


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเกียร์ออโตเมติก (copy จากรัชดา)
เห็นว่ากระทู้นี้ในรัชดามีสาระดี และที่สำคัญในตอนท้ายที่เขากล่าวถึงรถฝรั่งเศสที่ใช้รหัสเลข 3 ตัว ก็น่าจะหมายถึง Peugeot
======================
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเกียร์ออโตเมติก?
วิธีใช้และบำรุงรักษาเกียร์ออโตเมติกที่ถูกต้องตามมาตรฐาน
ตำแหน่งเกียร์ ลักษณะใช้งาน
1. P – PARKING สตาร์ทรถ หรือจอดรถเมื่อเลิกใช้งาน
2. R – REVERSE ถอยหลัง
3. N – NEUTRAL เกียร์ว่าง เพื่อเข็นเคลื่อนใหวรถขณะติดเครื่องหรือดับเครื่อง
4. D – DRIVE ขับเดินหน้าบนถนนธรรมดา บางรุ่นจะมีเกียร์ 1-4 และเพิ่ม -
OVER-DRIVE อยู่ในตำแหน่ง D
-บางรุ่นจะมี เพียง 1-3 อยู่ใน D
-บางรุ่นจะมีเพียง 1-4 เท่านั้นอยู่ใน D
-รุ่นล่าสุดจะมีตัว D อยู่ในวงกลม หมายถึงมี OVER DRIVE อัตโนมัติ
(ไม่ต้องใช้กดปุ่มเพิ่มเข้าเกียร์ OVER DRIVE เพิ่ม)
-บางรุ่นจะมี D3 หรือ D2 เพื่อจำกัดจำนวนเกียร์ว่าในตำแหน่งนี้มี
เพียง 1-2-3 เท่านั้น เป็นต้น
5. L – LOW - เกียร์ต่ำ
ข้อควรทราบ เกียร์ L จะใช้เฉพาะเมื่อสภาพถนนเป็นน้ำแข็งลื่นมากๆ หรือขณะลงภูเขาชันมากๆ โดยไม่ต้องการให้รถเปลี่ยนเกียร์สูงซึ่งความเร็วจะเพิ่มขึ้นด้วยถ้าการใช้เบรคไม่สมดุล
เกียร์ D1 หรือ D2 และ D3 (ถ้าบางรุ่นมีมาด้วย) จะใช้เฉพาะเมื่อสภาพถนนมีหิมะตกแต่ยังไม่ถึงกับลื่นเป็นน้ำแข็ง
เกียร์ D นั้นใช้ขับบนถนนธรรมดา ถ้าท่านชะลอความเร็วจะโดยการแตะเบรคหรือเพียงแต่ถอนคันเร่งลดรอบเครื่องฯก็ตาม ชุดเกียร์จะเปลี่ยนลดความเร็วให้ท่านในอัตราทดและขับของเกียร์ที่สัมพันธ์กันโดยอัตโนมัติ ไม่กระชากทดเฟืองผิดรอบเหมือนกับการโยกเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์
จาก D ลงไปที่ D2 หรือ D ซึ่งเป็นการเปลี่ยนความดันและเส้นทางเดินของชุดควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ใน VALVE BODY มีสิทธิ์ทำให้ลูกปืนเล็กๆกระเด็นออกไปเพราะแรงดันน้ำมัน และอาจทำให้เกียร์ท่านทำงานผิดปรกติได้ เช่นเดียวกันกับการกระชากเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์เพื่อช่วยในการแซงจาก D ไป D2 หรือ L2 อะไรทำนองนั้นก็ตาม เกียร์ท่านมีสิทธิ์พังได้ อาจจะไม่ทันทีทันใดก็ตามแต่อาจมีผลต่อเนื่องตามมาภายหลัง ที่เป็นดังนั้นเพราะในตำแหน่งเกียร์แต่ละตำแหน่ง
มีชุดควบคุมและเส้นทางเดินเฉพาะเกียร์เป็นของตัวเองทั้งนั้น บางชุดควบคุมไม่ให้ทำงานเกิน
5,000 รอบ แต่ถ้าท่านวิ่ง D อยู่ 3,000 รอบ อยู่ๆท่านกระชากเกียร์ลงมาที่ D1 เพื่อแซงรอบสูง
ขึ้นไปถึง 7,000 - 8,000 รอบ ชุดควบคุมของ D1 ก็พัง ถ้าดึงไปอยู่ L2 ชุดนั้นก็พัง แล้วก็จะพาลให้เสียไปทั้งระบบ
ถ้าจะขับให้ถูกต้องเมื่อเวลาเร่งแซงก็กดคันเร่งลงไปก็ KICK DOWN เปลี่ยนเกียร์ได้แรงมหาศาลเองแล้ว การ KICK DOWN นั้น เกียร์จะเปลี่ยนรอบ – ลดรอบ – รอรอบ และเร่งรอบอย่างสมดุลด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว อย่าไปเอาเกียร์สำหรับวิ่งบนหิมะหรือน้ำแข็งมาใช้เลยครับ นั่นมันเป็นส่วนเกินที่ติดมาเท่านั้น
วิธีขับเกียร์ออโตเมติกที่ถูกต้องก็เล่าให้ฟังไปแล้ว ดังนั้นถ้าท่านรักรถและต้องการถนอมเกียร์ออโตเมติกให้เป็นแบบ LIFE TIME SERVICES ก็ขอให้โปรดขับด้วยความนุ่มนวล อย่ารุนแรงโดยไม่จำเป็นชุดเกียร์ของท่านจะใช้งานได้ทนทานแน่นอน เกร็ดเล็กๆน้อยๆ มีอีกนิดหนึ่งว่า
ในกรณีที่ท่านต้องจอดรอไฟแดงนั้น ไม่ควรเลื่อนไปที่เกียร์ว่าง N เพราะเมื่อท่านได้สัญญาณไฟเขียวแล้วท่านเลื่อนกลับมาที่ D นั้น ถ้าเป็นรถใหม่อาจจะไม่มีผลอะไร คืออาจออกรถได้ทันที
แต่ถ้าเป็นรถหรือเกียร์ที่มีอายุสักหน่อย น้ำมันและวาล์วปิด – เปิด อาจใช้เวลาเปลี่ยนความดันนานถึง 5 – 6 วินาที กว่าที่รถของท่านจะเคลื่อนออกตัวได้ รถคันหลังอาจจะพุ่งออกและชนรถท่านได้ เพราะกะระยะการเคลื่อนตัวของรถผิดจังหวะ ดังนั้นควรอยู่ในเกียร์ D ขณะรอสัญญาณไฟครับท่านเหยียบเบรคไว้ไม่สิ้นเปลืองผ้าเบรคแต่ประการใด โปรดสบายใจได้ปลอดภัยกว่ากันเยอะเลย นอกจากติดกันจริงๆ ก็เข้าเกียร์ P ไปเลยครับปลอดภัยกว่า
น้ำมันเกียร์ออโตเมติก ผลิตจำหน่ายอยู่ 2 แบบเท่านั้น คือ F – TYPE ลิขสิทธิ์ของฟอร์ดส่วนใหญ่ใช้กับรถฟอร์ดและโตโยต้า (บางรุ่นเท่านั้น) และอีกแบบคือ ลิขสิทธิ์ ของ DEXRON II
โดยเจนเนอราลมอเตอร์ นั่นเอง ซึ่งค่อนข้างจะแพร่หลายใช้กันอยู่เกือบทุกยี่ห้อ ยกเว้นรถฟอร์ดเท่านั้น อย่าเติมน้ำมันผิดนะครับ ที่กระป๋องจะเรียก ATF - AUTOMATIC TRANSMISSION
FLUID เหมือนกัน แต่ถ้าเอาอีกชนิดหนึ่งไปเติมแทนอีกชนิดหนึ่ง อาการเปลี่ยนเกียร์จะกระตุกไม่นุ่มนวลเพราะความหนาแน่นต่างกัน ส่วนท่านจะใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทใดนั้นใช้ผสมกันได้
เพราะส่วนผสมนั้นต้องใช้สูตรของเจ้าของลิขสิทธิ์เดียวกัน น้ำมัน ATF ออกมาจำหน่ายคุณภาพจึงต้องเหมือนกันครับ
ปรกติ โดยทั่วๆไป ATF จะมีคุณภาพสูงใช้ได้ทนนาน จะเปลี่ยนถ่ายที่ 50,000 กม.ก็ย่อมทำได้หรือรถใหญ่สามารถยืดได้ถึง 100,000 กม.ก็ได้เช่นกัน (ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับนิสัยการขับขี่ของท่านด้วย ถ้าใช้งานรุนแรงก็ต้องสังเกตสีน้ำมันด้วยว่ายังเป็นสีชมพูหรือสีแดงไหม ถ้าขับรุนแรงน้ำมันเป็นสีน้ำตาลไหม้ ก็ควรเปลี่ยน-ถ่าย และทำความสะอาดใส้กรองน้ำมันเกียร์ฯเสีย)
สำหรับรถฝรั่งเศสที่มีโค๊ทเป็นเลข 3 ตัว ท่านเจ้าของควรเปลี่ยนน้ำมัน ATF และล้าง VALVE
BODY ทุกๆ 15,000 กม.ด้วย เพราะรุ่นนี้รูวาล์วเล็กมาก มีปัญหาอุดตันและเกียร์วืดมากที่สุดในบรรดารถเกียร์ออโตเมติกด้วยกัน
(คัดลอกมาจากเอกสารของอู่กรุงเทพ เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับท่านที่ใช้เกียร์ –ออโตเมติก ใช้เวลาจิ้มดีด 2 ชั่วโมงกว่า เมื่อยมือ , ปวดตาน่าดู )


จากคุณ : เทพ 40 - [17 มิ.ย. 19:57:24]
โดยคุณ : XU7 - XU7 [ 17 มิ.ย. 2544 , 22:28:59 น. ]

ตอบ
เคยอ่านบทความนี้แล้ว
ไม่เห็นด้วยในประโยคที่ว่า "นอกจากติดกันจริงๆ ก็เข้าเกียร์ไปเลยครับปลอดภัยกว่า"

ไม่มีความจำเป็นใดๆทั้งสิ้นที่จะต้องเข้าเกียร์ P หากไม่ได้จอดรถเพื่อจะหยุดรถจริงๆ และ ดับเครื่อง
โดยคุณ : 505 - [ 18 มิ.ย. 2544 , 01:17:32 น.]

ตอบ
ผมชอบเปลี่ยน d กับ 3 บ่อยๆ
แต่เวลาที่รอบเครื่งต่ำๆนะ
จะเป็นอะไรหรือเปล่าครับ
โดยคุณ : koni [ 18 มิ.ย. 2544 , 15:17:24 น.]

ตอบ
น้ำมันเกียร์ออโต้เป็นสีดำผมใช้นานๆจะมีปัญหาไหม ช่วยแนะนำด้วย
โดยคุณ : เต้ ICQ : - - [ 4 ก.ค. 2544 , 15:01:48 น.]

ตอบ
เกียร์ออโตเวลารอบต่ำๆ จะออกอือหรือกระตุกไม่ทราบว่าเกียร์พังใช่หรือเปล่า หรือเกียร์มีปัญหาไม่ทราบต้องทำอย่างไรครับ
ขอบคุณครับ
โดยคุณ : เต้ ICQ : - - [ 4 ก.ค. 2544 , 15:04:34 น.]

ตอบ
น้ำมันเกียร์ auto รถยุโรปควรเปลี่ยนถ่ายบ่อยหน่อยครับ เพราะบ้านเราอากาศชื้นกว่ามาก (ความชื้นมักละเข้าไปทางรูหายใจของเกียร์) กรณีที่น้ำมันเกียร์สกปรกยิ่งต้องรีบถ่ายโดยด่วนครับ เพราะจำทำให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอเร็วมาก
ส่วนอาการที่ว่านั้นน่าจะมาจากน้ำมันเกียร์สกปรกมากกว่าครับ แต่การถ่ายน้ำมันเกียร์ครั้งเดียวจะถ่ายออกแค่ประมาณ 30 % เท่านั้น กรณีอย่างที่สกปรกมากๆคงต้องถ่ายติดๆกันสัก 2-3 ครั้ง หรือไม่ก็เข้าเครื่องล้างเกียร์ไปเลยครับ (ไม่เคยใช้เหมือนกันนะครับ ไม่รู้ว่าดีแค่ไหน)
โดยคุณ : สิงห์เฒ่า [ 5 ก.ค. 2544 , 22:20:04 น.]

ร่วมเสนอแนะความคิดเห็น....
จาก :
email :
icq :
Username :
Password : สมัครสมาชิก
รูปภาพ : ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นครับ

รายละเอียด


กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียวครับ....