อยากสอบถามท่านสมาชิกถึงข้อแตกต่างระหว่าง 405 GRI กับ 405 SRI เพราะว่ากำลังจะตัดสินใจซื้อไม่รู้จะเลือกตัวไหนดี รบกวนท่านสมาชิกที่ใช้ทั้งสองรุ่นช่วยอธิบายด้วยครับ ขอบคุณครับ

405gri เป็นเครื่อง1600ซีซี อัตราการสิ้นเปลืองจะมีมากกว่า 405 sri บอร์ดีภายในขนาดเท่ากันจะแตกต่างกันที่การตกแต่งภายใน ผมใช้ 405 sriไม่มีปัญหาจุกจิกเกี่ยวกับเครื่องยนต์เลย จะมีเฉพาะอุปกรณ์ภายนอกชำรุดเสียหายตามสภาพ ข้อพึงระวังการดูแลรถยนต์จะต้องหาอู่ซ่อมpeupeot ได้ไม่จำเป็นต้องเข้า 0 ช่างข้างนอกฝีมือดีมีเยอะแยะ การให้ความมั่นใจในการขับดีมาก ขับทางไกลเชียงใหม่ ภูเก็ตไม่เครียด ไม่เหนื่อย ข้างในกว้างพอสมควรหวังว่าคงเป็นข้อมูลประการตัดสินใจของคุณได้

ข้อแตกต่างระหว่าง SRi กับ GRi นะครับ
1. เครื่องยนต์ SRi 2000 cc GRi 1600 cc
2. เกียร์ SRi มีทั้งธรรมดา และ ออโต้ GRi มีแต่เกียร์ธรรมดา
3. เบรค SRi disc 4 ล้อ GRi หน้า disc หลัง drum
4. ภายนอก SRi ไฟหน้ามี driving lamp ที่จะทำงานพร้อมกับการใช้ไฟสูง มีเสาอากาศไฟฟ้า ที่เปิดประตูและกระจกมองข้างเป็นสีเดียวกับตัวรถ (อันนี้ GRi บางlot ก็เป็นครับ) ส่วน GRi เป็นไฟธรรมดา(เหมือน GR) เสาอากาศmanualกลางหลังคา และที่เปิดประตูกับกระจกมองข้างเป็นสีดำ(บาง lot) ครับ
5. ภายใน SRi เบาะกำมะหยี่ GRi เบาะหนังเทียม SRi แอร์ อิเลคโทรนิค (ไม่ใช่ แิอร์ออโต้นะครับ) GRi แอร์ธรรมดา หน้าปัทม์ SRi มีมาตรวัดมากกว่า 1อัน (วัดระดับน้ำมันเครื่อง ตอนก่อนติดเครื่อง)
สรุปว่าถ้าหา SRi สภาพสวยๆได้้ละก็น่าเล่นกว่าครับ

SRI การเสริมตัวถัง ทั้งข้างประตู และ เสริมแรงบิดตัวของรถ จะมากกว่าของ GRI และมากกว่า MI 16 เพราะว่า เครื่องเป็นเหล็กหล่อ( น้ำหนักมาก ) SRI อุปกรณ์ บางอย่างใช้ร่วมกับ MI 16 ตัวถังหนักพอๆกับ MI ถ้าจะเล่น SRI ควรใช้เกียร์ธรรมดาดีกว่า เกียร์ออโตจะมีปัญหามากจุกจิก อุปกรณ์ บางอย่างของ SRI เอาของ 605 SRI มาใช้ร่วมกันได้ ด้วยนะครับ...

ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำจากท่านสมาชิกทุกท่าน ผมก็ใจเอนเอียงไปทาง SRI อยู่แล้ว แต่เห็นระบบ electronic มันเยอะเลยกลัวว่าจะมีปัญหาจุกจิก

เรื่องระบบอิเลคทรอนิคส์ของ SRI มีน้อยกว่า 406 เรื่องปัญหาระบบไฟของ 405 SRI มีข้อควรกระทำดังนี้
1. ไม่ต้องไปต่อเพิ่มเติมอะไรที่เกี่ยวกับระบบไฟมากนัก โดยเฉพาะ รีโมท เครื่องเสียง ถ้าจะต่อต้องเป็นช่างที่รู้เปอร์โยต์จริงๆ
2. แบตเตอรี่ ควรใช้ตามสเป็ค 75 A (DIN ) 12 โวลต์ ตรวจดู บ้างอย่างมากเดือนละครั้ง
3. คอยดูตรงบริเวณปลั๊กสายไฟควรเอา น้ำยาทำความสะอาดขั้วสายไฟฉีดบ้าง เพราะใช้นานๆอาจจะสกปรกได้
4. กรุณาอย่าเอาไปล้างอัดฉีดน้ำตรงห้องเครื่องโดยเด็ดขาด ควรทำความสะอาดโดยวิธีอื่น
5. ตรวจดูสายไฟฟ้าในห้องเครื่องว่ามีบริเวณไหนบ้างที่มีการเขย่า หรือมีการเสียดสีกับตัวถังหรือ องค์ประกอบอื่น..
6. อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับไฟฟ้าต่างๆที่เสีย ควรใช้ตามสเป็คเดิม.
8. การพ่วงแบบเตอรรี ต้องระวังให้มาก... อย่าให้เกิดการสปาร์คแรงอย่างเด็ดขาด... เพราะจะมีผลต้องกล่อง อีคิวซัง ( ECU )
7. ศึกษาระบบไฟฟ้าจากคู่มือ...
แค่นี้ก็ไม่ต้องกินข้าวลิง ข้างถนนแล้ว.........