จากการที่ผมได้ลองพยายามหาข้อมูลอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง และได้ศึกษาวงจรควบคุมหัวฉีดของ Magneti Marelli 8P เปรียบเทียบกับวงจรควบคุมหัวฉีดของรถยนต์ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะป็น Toyota Nissan หรือ อิ่นๆ ก็คิดว่าพอจะสรุปสาเหตุของอาการเบาดับ เมื่อมีการชลอรถเพื่อเปลี่ยนเกียร์ หรือที่คล้ายๆกัน ดังนี้ครับ

1. ECU ควบคุม stepping motor ที่ทำหน้าที่ควบคุมรอบเดินเบา ตอบสนองต่อการปรับรอบให้เข้าสู่รอบปรกติ (850+-50rpm) ช้ากว่าที่ควรจะเป็น ทำให้เมื่อเราถอนคันเร่ง และเหยียบครัชท์ รอบจะตกลงมาอย่างรวดเร็วจนเลยจุด stall โดยที่ไม่มีการชดเชยรอบ จนทำให้เครื่องยนต์ดับ (ตอนที่เกิดอาการ stall ถ้าเร่งเครื่องทัน จะไม่ดับ)

2. ECU ไม่มีการชดเชยรอบ เมื่อ คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน จะสังเกตได้ว่าเครื่องยนต์ที่มีการชดเชยรอบ เมื่อคอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานจะมีรอบสูงขึ้นกว่าปรกติเล็กน้อยหรือที่มีการปรับตั้งมาดีๆก็จะไม่มีการขยับขึ้นลงของเข็มวัดรอบให้เห็นเลย

ผมคิดว่าอาจจะมีทาง modify ตรงจุดนี้ได้ไม่ยาก ใครมีความเห็นว่าไงบ้างครับ

ของผมเบาแล้วดับผมลองเปลี่ยนกล่อง ECU มาเป็นของตัวนอกเบอร์แรกตรงกันแต่จุดทศนิยมไม่ตรงกันปรากฏว่าของติดรถมาจากบ้านเราเวลาเบรคกระทันหันรอบตกเหลือต่ำกว่า 500รอบจะไม่ดับแต่ตัวติดรถนอกจะดับผมถามร้านซ่อมรถเขาบอกว่าเป็นธรรมดาบางครั้งจะดับเพราะ ECU ของ Peugeot เป็นแบบ 16Bit จะสั้งงานไม่ทันและเจ้า Step motor จะทำงานข้ามากลองสังเกตดูครับพอเปิดแอร์เมือดูจะเครืองที่0เวลาเช็คสมอง กว่าจะปั่นรอบขึ้นมาจะใช้เวลาหายวินาทีครับ ผมเห็นว่าเจ้า Step motor มันจะปั่นรอบชดเชยให้หมดครับไม่ว่าจะเปิดแอร์ไฟรถเพราะดูจากเครื่องมือทดสอบความผิดพลาดที่0 ผิดถูกอย่างไรช่วยดูให้ด้วยครับ

จากวงจร ECU ของตัวนี้ไม่ได้ชดเชยรอบโดยตรงเมื่อมี load ครับ เมื่อเปรียบเทียบกับ ECU ของเจ้าอื่นๆ จะมี input รับรู้ว่า มี load เพิ่ม เช่น A/C on การเปิดไฟหน้า หรือ การเปิดไล่ฝ้า เป็นต้น แต่ของ MM จะอ่านจาก รอบเครื่องยนต์ ซึ่งในกรณีเครื่อง stall มันจะไม่ทันการณ์ครับ

แก้ไขใส่ Solinoild valve แบบที่ Toyota ได้ไหมครับ โดยใช้สัญญาณจากคอมแอร์เลย หรือดัดแปลงขั้วสัญญาณเดิมมาใช้กับ Solinoild valve ที่ติดตั้งไปใหม่ครับ

ถ้าตอบสนองช้าอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น นั่นคือเป็นปัญหาทุกคันทั้งรถใหม่และเก่า ใช่หรือไม่ และควรเป็นปัญหาตั้งแต่ป้ายแดงเลย แต่ถ้าไม่ใช่นั่นแสดงว่าเป็นปัญหาเนื่องจากสาเหตุอื่นๆ

ใน Xantia แม้ใช้กันมากว่า 2 แสน กม. ก็ยังไม่เจอปัยหานี้เลยหลังจากเปลี่ยน step motor

ปัญหาการควบคุมการทำงานของ engine management นั้นมักพบ Mechanical fault > electrical fault ครับ

และระบบที่คุณเปรียบเทียบกันนั้นเป็นแค่ electronic fuek injection หรือ engine management

อย่าได้เอาของที่แตกต่างกันมาเปรียบเทียบนะครับ วิธีการ ไม่เหมือนกัน

คุณ BX ครับผมเอา ECU ของ MM มาเปรียบเทียบกันกับของ Toyota หรือ Nissan เนี่ย นี่หมายถึงของแตกต่างกันเหรอครับ งง!!
อีกอย่าง รถผมมันเป็นตั้งแต่ป้ายแดงน่ะ ทางศูนย์รองเมืองเช็คแล้ว ก็เปลี่ยน Stepping motor ให้ กลับมาใช้ดู ก็ยังเป็นอยู่นะครับ
ผมก็เลยลองศึกษาดูเท่านั้น แล้วก็พบข้อแตกต่างดังกล่าวข้างต้น
ที่เอามา post ก็อยากจะเอาปัญหานี้ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็น common problem ของรถตระกูลนี้ โดยคิดว่าจะหาข้อสรุป และ solution ที่ดีได้เท่านั้นเองแหละครับ
แล้วก็แถมอีกอย่างนะครับ การแก้ปัญหามีอยู่หลายวิธี บางทีการแก้ที่ปลายเหตุอาจจะเป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ กว่าการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุก็ได้นะครับ อย่างปัญหาทาง mechanic เนี่ยผมเองไม่มีความรู้เพียงพอหรอกครับว่าทำไมเครื่องมันถึงดับ ผมรู้แต่เพียงว่าถ้าผมควบคุมรอบเดินเบาได้ตามต้องการ ก็จะทำให้เครื่องไม่ดับ ในขณะปล่อยคันเร่งครับ

คุณคนที่มีไอเดียคล้ายๆกันกับผมครับ ไอเดียที่ว่าก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายและได้ผลดีครับ บังเอิญว่าของผมมันมีปัญหาเวลาปล่อยคันเร่งหรือ เร่งอย่างกระทันหันเนี่ย มันจะกระตุกครับ ก็เลยคิดว่าถ้าผมจะควบคุมรอบเดินเบาซะเองโดยใช้ตำแหน่ง TPS มาคอยกำหนดร่วมกับ สัญญานจากคอมแอร์ ก็น่าจะช่วยแก้ปัญหาของผมในส่วนนี้ไปด้วยน่ะครับ

ช่วยกันออกความเห็นหน่อยครับ ยินดีรับฟัง

ในความเห็นที่แล้วของผมนั้นจะมีคำอยู่ 2 คำคือ
1. engine management
2. Electronic fuel injection
ก่อนที่จะมาพูดกันต่อนั้นคุณควรบอกผมและตัวองได้ก่อนว่า คำทั้ง 2 นั้นคุณเข้าใจดีแล้วหรือไม่
ผมบอกแล้วว่าการที่จะเปรียบเทียบอะไรนั้นจะต้องเปรียบเทียบของที่เหมือนกัน
ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ electronic นั้นมีการพัฒนาไปตั้งแต่เริ่มมีใช้จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีพื้นฐานที่เหมือนกันแต่ก็มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นการที่จะนำมาเปรียบเทียบนั้นจะต้องเปรียบเทียบทั้ง input-output หน้าที่และวิธีการทำงานของอุปกรณ์ด้วย พูดง่ายๆก็คือขอให้ดูและพิจารณาทุกด้าน ไม่ใช่มองแค่ด้านหนึ่งด้านใดแล้วตัดสิน

ใน MM8P นั้นเป็นแบบ engine management แต่ใน nissan และ Toyota นั้นไม่ได้บอกแม้แต่รุ่นด้วยซ้ำไปว่าเป็นแบบไหน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเป็นพวกที่จัดอยู่ในกลุ่ม elelctronic fuel injection ประเภท L/D jetronic มากที่สุด

สำหรับปัญหาของคุณนั้นควรตรวจดูจาก fault code เป็นลำดับแรก แต่นั่นก็จะบอกได้แต่อุปกรณ์ที่เป็น electronic(ไม่ทุกชิ้น)เท่านั้น แต่ความผิดปกติของอุปกรณ์ที่เป็น mechanic นั้นไม่สามารถบอกได้ ตรงนี้ต้องเป็นประสบการณ์ครับ

ที่พูดถึงทั้ง electronic และ Mechanic นั้น เพราะว่าอุปกรณ์ที่ทำงานนั้นจะเป็น Mechanic ทั้งหมดแต่จะมี electronic เข้ามาสั่งงาน ดังนั้นต่อให้ electronic วิเศษที่สุดแต่มาเจอ mechanic ที่ไม่ได้เรื่องระบบมันก็ไปไม่รอดหรอกครับ
เท่าที่ผมอ่านปัญหาของคุณและคุณได้บอกมาตอนท้ายนั้นว่าเรื่อง mechanic คุณไม่มีความรู้นั้น ที่จริงผมว่าคุณลืมนึกถึงไปมากกว่าและ focus อยู่เพียงเรื่องของ electronic แต่จริงๆแล้ว mechanicในระบบเหล่านี้ถ้าคุณได้ลองดูสักนิดคุณจะรู้ว่ากลไกการทำงานไม่ต่างจากของเล่นนักหรอก เพราะมันไม่ได้มี mechanic อะไรเลยทีสลับซับซ้อน

อีกอย่างหนึ่งก่อนที่จะตรวจสอบหรือลงมืออะไรการ inspect เบื้องต้นเป็นเรื่องที่สำคัญใน engine management เพราะแค่ผิดพลาดจาก Basic inspection บางทีก็พาหลงประเด็นได้แล้ว

และวงจร MM8p ที่คุณดูนั้นมีความละเอียดในระดับไหน เพราะถ้าละเอียดพอและคุณเข้าใจดีพอผมว่าคุณน่าจะได้คำตอบอะไรมากกว่านี้

ขอบคุณ คุณ BX ที่กรุณาให้ความคิดเห็นครับ
คือผมใช้รถมาประมาณ 18 เดือนแล้ว และก็สังเกตอาการมาตลอดครับ
ผมพบว่าเครื่องผมมันจะมีปัญหาเฉพาะในรอบเดินเบานี่ครับ ถ้าลองขยับคันเร่งให้ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดปิดเร็วๆนี่มีอาการกระตุกมากครับ แต่รอบเครื่องนอกเหนือจากนี้ไม่มีอะไรผิดปรกติ อัตราการกินน้ำมัน ปรกติ เสียงก็ดังเป็นปรกติ ความเร็วสูงสุดก็ทำได้ตาม สเป็ค อะไรที่จะเป็นสาเหตุให้ผมสงสัยใน mechanic ของเครื่องยนต์ล่ะครับ??
ผมพบว่าเครื่องมันจะดับก็ต่อเมื่อความร้อนในห้องเครื่องถึงระดับหนึ่ง (ยังไม่มี thermometerวัด) เช่นหลังจากขับทางไกลมาจอดไว้สัก 1/2 -1 ชม. พอออกตัวไปสักครู่แล้วต้องชลอความเร็วเพื่อเปลี่ยนเกียร์เครื่องก็จะดับน่ะครับ ผมไม่ค่อยจะมีเครื่องมือซักเท่าไหร่ มีแต่ digital multimeter ก็เลยวัดอะไรได้ไม่มากนัก แต่มีจุดที่สงสัย อยู่ก็คือ ตัว stepping motor ทำไมถึงทำงานช้ากว่าปรกติ เมื่อร้อนขึ้น ก็เลยลองไปรื้อฟื้นความรู้ฟิสิกส์เก่าๆ ขึ้นมาก็เจอหลักการที่ว่าความต้านทานของขดลวดทองแดงจะเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิ ก็ได้ลองวัดดูปรากฏว่า จากปรกติ 53-55 โอห์ม กลายเป็น 65 -70 โอห์ม ซึ่งเพิ่มขึ้น 20 - 30% ซึ่งมันน่าจะทำให้กระแสลดน้อยลงมากจนการหมุนช้าลงมากก็เป็นได้
แต่ผมยังยืนยันวิธีการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุถ้าแก้ได้ด้วยค่าใช่จ่ายที่ต่ำกว่านะครับ
คุณ BX เห็นว่าอย่างไร กรุณาอีกทีเถอะครับ

อยากให้ลองตรวจสอบพื้นฐานก่อนครับ
ระบบท่อสูญญากาศ (vacuum) มีรั่วหรือไม่ เพราะถ้ารั่ว รอบเดินเบาวูบแน่ๆครับ
seneor ต่างๆ air temp sensor , sensor switch ปีกผีเสื้อ ท่อทางในท่อร่วมไอดีสกปรกไหม รวมทั้ง มอเตอร์เดินเบาด้วย
fule pressure regulator มีรั่วหรือไม่ครับ
เพราะถ้าพวกนี้มีปัญหา รอบสูงๆหรือเวลาขับจะไม่มีปํญหา แต่ถ้าเหยียบเบรคเมื่อไหร่ รอบจะสวิงลงต่ำมากๆจนบางครั้งดับไปเลย หรือไม่ดับแต่จอดสักพักเช่นรอไฟแดงรอบจะตกแล้วดับเช่นกันครับ

ที่คุณบอกว่ายืนยันจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุนั้น ถ้าจะขยายความหน่อยผมอยากจะเรียกวิธีการนี้ว่า แก้ไขปัญหาแบบกำปั้นทุบดิน เรียกว่าเอาตัวรอดไปทีหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่การจบปัญหา ถูกต้องหรือไม่ครับ วิธีการนี้พบเห็นเสมอกับช่างที่ไม่มีความรับผิดชอบ เนื่องจากถ้าแก้ปัญหาให้ลูกค้าไม่ได้ก็ขาดความเชื่อถือ แต่จะมีลูกค้าสักกี่คนที่ทราบว่าเขาหมกเม็ดเอาไว้ ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีนี้

ที่คุณวรให้ข้อคิดและวิธีการมานั้นน่าคิดนะครับลองเอาไปใช้ดูเสียก่อน

สำหรับมอเตอร์ควบคุมรอบเดินเบารุ่นนี้ทางชมรมซีตรองผ่าดูหมดแล้วครับ ก็สรุปได้ว่ามีอายุการใช้งานครับและการล้างนั้นได้ผลในระดับหนึ่งเท่านั้น

อย่างที่ผมและคุณวรบอกไว้ การตรวจสอบพื้นฐานหรือ Basic inspection นั้นเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรกก่อนที่จะหาสาเหตุความผิดปกติและแก้ไข และเท่าที่เคยพบมาปัญหาที่มักพบจากความผิดพลาดพื้นฐานที่ตรวจพบได้จาก basic inspection มักมีอาการอย่างที่คุณบอกมาครับ นั่นคือแสดงอาการในรอบเดินเบา

ควรจะหาสาเหตุและแก้ไขให้ตรงประเด็นนะครับ

ขอขอบคุณอีกครั้งครับ
เรื่องตรวจ basic เนี่ย ผมว่าช่างที่ศูนย์ที่ตรวจให้ผมก็พอจะน่าเชื่อว่ามีความรู้พอควร ครั้งล่าสุด นี้ใช้ diag2000 ตรวจดู ทุกอย่างปรกติหมดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นจำนวน step ของรอบเดินเบา องศาการจุดระเบิดล่วงหน้า และอื่นๆที่ display ให้ดูได้ก็ปรกติดีครับ รอบเดินเบาก็ไม่สวิง แต่ไม่นิ่งอยู่กับที่อย่างรถยี่ห้ออื่น รอบจะมีการตกเมื่อ A/C ทำงาน และในขณะนั้นจะสังเกตเห็นว่า รอบเครื่องจะค่อยๆขยับขึ้น ไปอยู่ที่ปรกติ และเมื่อ A/C ตัดการทำงาน รอบจะสูงกว่าปรกติเล็กน้อย แล้วค่อยๆขยับลงมาที่ปรกติ อันแสดงให้เห็นว่า ECU และ มอเตอร์เดินเบาทำงาน แต่ การควบคุมรอบเดินเบาจาก ECU เป็นการควบคุมแบบ open loop control คือ ECU สั่งงานให้หมุนไปกี่ step ตัว ECU ก็ไม่มีทางรู้ว่า หมุนไปจริงหรือปล่าว ได้แค่สั่งไปเท่านั้น ว่าจะให้ไปกี่ step
ทีนี้ผมอยากรู้ว่ามอเตอร์เดินเบาทำงาน ในเวลาตามกำหนดใน spec หรือไม่ อย่างเช่นมันควรจะปรับตัวมาอยู่ที่รอบปรกติภายใน 1 วินาที หรือน้อยกว่าหรือไม่ อันนี้ไม่มีใครทราบ เพราะช่างก็ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งอันนี้ผมมองว่าคนออกแบบก็อาจพลาดได้ เพราะการทำผลิตภัณฑ์ออกมาขายสักอย่างนึงเนี่ย เค้าก็ทดสอบตามมาตรฐานเดิมๆเท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับทุกๆ สภาพแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าจะยกเหตุผลสนับสนุนว่าระบบทุกระบบ มันมีจุดอ่อนอยู่ ซึ่งผมว่ากฎเกณฑ์ข้อนี้ทุกท่านที่อยู่ในวงการรถยนต์ หรือเทคโนโลยี ก็คงรู้อยู่นะครับว่าการออกแบบมีจุดอ่อนทั้งนั้น แล้วในรุ่นต่อไป ถ้าเค้ามีการพัฒนาก็จะพยายามลดจุดอ่อนเหล่านี้ลงเองแหละครับ ซึ่งถ้าเป็นในกรณีนี้ ผมก็คงหาทาง ปรับปรุงอย่างที่ได้แสดงความคิดเห็นไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตามที่ผมได้ร่ำเรียนมา มีอยู่วิชานึงในเทอมสุดท้าย เค้าก็พูดถึงความคุ้มค่าในทางเศรษฐศาสตร์ครับ กล่าวโดยสรุปว่าการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ถ้าเราวิเคราะห์แล้วว่ามีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาตร์และสามารถแก้ปัญหานั้นได้จริง แนวทางแก้ปัญหานั้นก็ควรทำครับ หวังว่าคงไม่ต้องยกตัวอย่างนะครับ