ไปกลับแม่สอด 1000 กว่า ก.ม.น้ำมันเครื่องหายไป ราว 2 ซ.ม.ทำไงดีครับ ถ้ผมจะซื้อน้ำยา จำชื่อไม่ได้แล้ว เพื่อให้ประสาน ประเก็น จะดีมั้ย เห้นว่าง่ายดี ขอบคุณมากกกกกก คับ!

(ต่อ)น้ำยาที่ว่านั้นไส่ลงไปกับถังน้ำมันเครื่อง ใครเคยลองมั้ยครับ รู้สึกว่าราวๆ 1 ลิตร

ขอโทษครับ ไส่ผสมกับน้ำมันเครื่อง น่ะ

( ถ้าเครื่องไม่หลวมมากนัก )น้ำมันเครื่องที่ใช้อยู่ ใสไป หรือเปล่าครับ หรือ ลองใช้น้ำมันเครื่องที่มีความใสน้อยลง

เครื่องไม่หลวม และปกติใช้ น้ำมัเครื่องsyntetic ของ wyn ใสมาก คราวนี้จะลองใช้ 20w 50 ตามที่คุณ 8ช xxxx แนะนำนะครับ ขอบคุณครับ

ผมก็เพิ่งไปเที่ยวแม่สอดเมื่อช่วง 22-25 ธ.ค. ของผมไม่รู้ว่าหายไปกี่ซม. รู้แต่ว่าหายไปประมาณ 0.5 ลิตร ซึ่งถ้าเปิดดูคู่มือจะเห็นว่าเป็นอาการปรกติที่ทุก 1000 กม. จะหายไป 0.5 ลิตร แต่ผมแปลกใจตรงที่การใช้งานปรกติในกรุงเทพฯ มันหายไปน้อยกว่านั้น แต่อาจจะเป็นเพราะว่าใช้รอบเครื่องยนต์ 3000-4000 รอบ ตลอดการเดินทาง (น้ำมันเครื่องที่ใช้ 20W50)

จริงหรือครับที่ว่า ทุก 1000 โล แล้วจะหาย 0.5 ลิตร โอ้ย ! อยากจะขายทิ้งเลย
ปล ผมซื้อน้ำยาอุดรอยรั่วมาแล้ว 390 บาท (355ml) จะดูผลสัก 1 อาทิตย์ แล้วจะรายงานให้ทราบนะครับ

น้ำมันเครื่องๆไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ มันกลายเป็นไอมาอยู่ในเครื่อง ซึ่งจะมีวาล์ว PCV (Positive Crankcase Ventilation) คอยระบายแรงดันในเครื่องวนกลับมาเผาๆไหม้รวมกับไอดีอยู่แล้ว ดังนั้นระดับน้ำมันเครื่องในอ่างน้ำมันก็คงมีการลดลงไปบ้างเป็นธรรมดาครับ (แต่ลดมากๆก็คงไม่ธรรมดา)

ส่วนระดับน้ำมัน 1 ก้านวัดนี่เคยได้ยินเค้าว่าประมาณ 1 ลิตร ไม่รู้ของเปอร์โยต์เราเท่าไหร่ ใครเคยวัดช่วยบอกหน่อยครับ

ผมจากเดิมใช้ Semi Oil ของเปอร์โยต์( ยูโนแดล) ใช้มา 8 ปี อาการเครื่องปกติทุกอย่าง ต่อมาพอ 406 เข้ามา เห็นมี OiL ของ ยูโนแคล สังเคราะห์ 100% ลองใส่ดูบ้างปรากฏว่า น้ำมันเครื่องหายไปอย่างน่าใจหายต้องคอยวัดตลอดเวลา ไปกลับ เพชรบูรณ์ หายไปเกือบลิตร ต้องคอยหิ้ว ขนาด 1 ลิตรไว้ท้ายรถตลอดเวลา ... และอยู่มาวันหนึ่ง รถเริ่มสตาร์ทไม่ค่อยจะติด ต้องคอยย่ำคันเร่ง ถึงจะติด และเวลาสตาร์ทเสียงเครื่องดังมาก ดังมาจากระบบวาล์วกระทบกัน ก็ลองนึกดูว่าเครื่องเริ่มจะหลวมแล้ว ก็ เลยโทรไปถามคุณหนุ่มดูว่าน่าจะกลับไปใช้อย่างเดิมดีกว่า ก็เลยแวะปั๊มเอสโซ ( ESSO ) ใส่เข้าไป 1 กระป๋อง 4 ลิตร( SEMI Oil ) ปรากฏว่า หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ใช้มา น้ำมันไม่หายเลย และช่วงปีใหม่ซิ่ง 180- 190 กม./ชม ไปเพชรบูรณ์ ไป ซิ่งบนน้ำหนาวอีก วิ่งกลับมา กทม. รวมระยะทางได้ประมาณ 1,400 กว่า กม. เช็คน้ำมันเครื่องดู ผลปรากฏว่า น้ำมันเครื่องเท่าเดิม ( จะหายไปก็นิดเดียวแทบมองไม่เห็น) เข็มแสดงแรงดันน้ำมันเต้มสเกล และลองวิ่งบนทางด่านจากศรีนครินทร์ ไปด่านพระราม 9 ปิดแอร์ ยังวิ่งได้ ประมาณ เกือบ 200 กม./ชม ( นี้ขนาด รถวิ่งมาได้ 170,000 กม. แล้วนะครับ ) อันนี้ก็แสดงว่าน้ำมันสังเคราะห์ 100% มันช่วยได้ดีที่สุดคือ ลื่นสุดๆ แต่ไม่มีความหนืดพอจะรับโหลดของชิ้นส่วนในระบบฝาสูบได้เท่าไร เหมาะสมกับรถ ใหม่จริงๆเท่านั้นแหละ..และอาการที่ รถเคยสาร์ทติดยากก็หายไปแล้ว... ผมกลับมารัก 405 SRi ของผมเหมือนเดิมแล้วครับ.. ไม่รู้นะบางคนอาจจะชอบ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100 % ก็ได้ .... ที่เล่ามาทั้งหมดนี้...เพื่อแสดงข้อคิดเห็นที่ได้จากประสบการณ์จริงครับ.. สวัสดีครับ...

ตอบคุณสิงห์เฒ่า
ระดับน้ำมันที่ก้านวัดจาก Max - Min ประมาณ 1.5 ลิตร (ข้อมูลจากคู่มือ Haynes)

ตอบ บทสรุปในการเติมน้ำยา(คล้ายน้ำมันเครื่อง)ราว 1 ลิตร ผลปรากฏว่า ไม่รั่วซืมอีกแล้ว แต่ทั้งนี้ผมยังไม่ได้วิ่งทางไกล ขับแต่ในกทม นะครับ อย่างไรก็แล้วแต่ผมก็ดีไจจุดหนื่ง ที่ไม่เห็นร่องรอยการซืมอีก (จากการยกรถขึ้นดูที่ cockpit สุขา 3 แล้วช่างบอกไม่รั่วซึมอีกแล้ว) อ้อ..เมื่อเติมน้ำยา เขาเขียนไว้ว่า ไม่ให้ขับเร็ว ไม่บอกว่าเท่าไหร่ แต่บอกว่า ราว 1000 ก.ม. เอาเป็นว่า เมื่อมีโอกาสออกทางไกล และขับเร็วราว 100-120 กม ต่อช.ม. ผมจะมาสุปผลอีกครั้ง จะได้รู้ว่าน้ำยานี้ดีจริงเปล่า
ปล น่าจะได้ค่าโฆษณาเนอะ.. อิอิ

(ต่อ) ผมได้เติม grade 20w 50 ด้วย อาจเป็นไปได้ที่ทำให้ไม่รั่วซึม (ตามคำแนะนำของคุณ 8ช.xxxx) ขอบคุณมากครับ คุณ 8 ช.xxxx