คือว่าตอนกลางคืนนั้น ผมขับ 406 ขึ้นเขาทางลำปาง-เชียงใหม่เกือบจะถึงจุดสูงสุด อยู่เลนขวา ความเร็ว 120 มี Lexus 470สีดำมาขับจ่อก้นผม เปิดไฟสูงไล่ใส่ ผมเลย หลบให้เขาแซงก่อน (เพราะแรงสู้ไม่ได้) แล้วผมก็หาจังหวะแซงกลับ ไปจ่อก้นเขาบ้าง ซึ่งมันจะมีโค้งตลอด และเขาก็ต้องหลบให้ ( ความเร็ว 130-140) พอแซงมาก็จะเป็นช่วงขาลงเขาพอดี ซึ่งผมมีอาการเปอร์โยต์ไลติส กำเริบ ก็กลัวน้อยหน้าจึงทำให้ผมต้องขับลงเขาขุนตาลไปชม.ด้วยความเร็ว 140-160 ตลอดด้วยการเกร็งตลอด ซึ่งถ้าเป็น 405 GR คันเก่าผมจะมันกว่านี้ ก็ขับมาถึงไฟแดงทางแยกลำพูน ผมแซงตลอดทางและก็ไม่เห็นเขาเลย แต่มาเจอเขาตอนผมติดไฟแดง 3 minute

ผมก็พึ่งสำนึกได้ว่าทำไมต้องขับเร็วด้วยเวลามีโค้ง เพื่อนๆ อย่างนี้ผมเป็น Peugeotlitis หรือเปล่า? ช่วยวินิจฉัยด้วย (เปอโยต์ไลติส) ............ มันเกิดขึ้นแล้ว..........ไม่มีทางรักษา........มีอาการแปลกเห็นทางโค้งแล้วเหยียบคันเร่ง....

ICQ :

ชอบจังคำว่า "เปอร์โยต์ไลติส"

ระวังโตยเน่อ ช่วงโค้งแรกเลยศาลเจ้าพ่อขุนตานขาลงมา 1 โค้ง เคยมีเด็กพายัพขับบีเอ็มตกลงไปตายข้างล่างมาแล้ว แล้วเห็นว่าทางโล่งๆ มีโค้งรับตลอด ระวังโค้งหักซ้ายเลยวิทยาลัยเกษตรกรรมลำพูนมา 2 โค้งหลังโค้งหักขวาด้วย เป็นห่วง ถ้าฝนตกล่ะก็วิ่งเลนซ้ายไว้เลยนะครับ จาก 3 แยกเข้าลำพูน(ดอยติ) เลนขวามีกับดักน้ำอยู่ ลงหน้าโรงงานเก่าผมไปหลายคันแล้ว

ผมเฆี่ยนเจ้ากระป๋องเขียว หลังเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่เป็นฟูลลี่เซนเธติก เมื่อต้นเดือนมิถุนายน มาถึงวันนี้เข็มไมล์แทงมาที่ 7250 กิโลเมตร--เฉลี่ยขับวันละ 240 กม. (อีกสองพันเศษก็ได้รอบเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง) เฉลี่ยความเร็วที่ 110-120 กม./ชั่วโมง เคยกระชากบนมอเตอร์เวย์ที่ความเร็ว 150 กม/ชม. ไม่ถึง 10 นาที ไฟแสดงความร้อนโชว์ขึ้นมา ต้องจอดข้างทางให้พัดลมจังหวะสองทำงานจนเครื่องเย็นลงค่อยขับต่อไปด้วยความเร็วไม่เกิน 120 เครื่องจะไม่ร้อน อีกครั้งหนึ่งกระชากตัวแรงเพื่อเร่งแซงที่ทางไปนครนายกด้วยความเร็วแค่ 110 แต่เป็นการกระชากเครื่องแรงมากเกินไปทำให้ไฟความร้อนโชว์ขึ้นมาอีก ต้องจอดพัก สาเหตุนี้ยังไม่มีโอกาสปรึกษาช่าง ขอเรียนถามทุกท่านว่าอาการความร้อนขึ้นนี้เกิดจากเครื่องยนต์ทำงานหนักมากไปหรือเปล่าครับ--รบกวนด้วยนะครับ

ผมว่าไม่น่าจะใช่ครับ ของผมเป็นเพราะมีน้ำซึมออกมา ให้คุณกระป๋องเขียวลองสังเกตุคราบน้ำขาว ที่ซึมออกมาครับ มีที่สังเกตุอยู่ 2 จุด จุดแรกคือท่อน้ำท่อเล็กหลังเครื่อง งอเข้าไปแถวๆฐานหัวฉีด ซึ่งสังเกตุยากมาก ผมต้องเอามือไปคลำจึงรู้สึกว่ามีน้ำซึมออกมาจากท่อยาง และอีกจุดคือ switch วัดระดับน้ำตรงหม้อน้ำด้านซ้าย (ยืนมองจากด้านหน้ารถ) มีลักษณะเป็นรูปหกเหลี่ยม ปัญหาคือซีลยางเรี่มเสื่อม หาอะไรที่ขนาดเท่าๆกันใส่แทนได้ครับ ยังไงอย่าลืมไล่ลมนะครับ ลองดูครับ
ปล. อาการนี้น้ำจะซึมออกน้อยๆ สังเกตุจาก
หม้อพักน้ำจะไม่ค่อยลงเท่าไรครับ

เจอ โซลูน่า รังแกมา ปกติขับในเมืองค่อย
เป็นค่อยไปตามสภาพ แต่โดนไฟสูงไล่มาทุกที ทั้งที่ขับเลนซ้าย เมืองไทยใช้ไฟสูง ด้วยท่าที ก้าวร้าว ไม่มีมรรยาท ทั้งที่ไฟสูงมีไว้ขอทาง ในกรณีที่เร่งด่วนจริง ฯ สุดท้ายต้องจำใจเหยียบ คันเร่งหนีโดยเฉพาะตอนเข้าโค้งพบว่า ทิ้งคันหลังห่างไปเลย ความแรงมีไว้เพื่อซงไม่ใช่แข่งกัน สิงห์ซ่อนเล็บ

ผมเคยบวชที่วัดอุโมงค์ (หลัง มช.) ที่นั่นมีป้ายใหญ่ ๆ ป้ายนึงเขียนไว้ว่า "ขับรถช้า ๆ จะได้เห็นหน้ากันนาน ๆ " // กรณีโดนเปิดไฟสูงส่องหลัง สงสัยต้องติดสปอร์ตไลท์แบบรถกะบะบางคัน..คือติดหันหลังกลับไปไว้ส่องพวกนี้บ้าง..แต่เราตกยกเว้นพวกรถ 4WD บางคันนะครับ เพราะพวกนี้รถเขาสูง แม้ไฟจะต่ำแต่บางทีก็แยงตาเราได้เหมือนกัน หรือรถกะบะธรรมดาบางคัน โดยเฉพาะอีซูซุ ถ้าบันทุึกหนัก ท้ายจะกดหน้าจะเชิด ก็ดูเหมือนไฟสูงเหมือนกัน

น่าไปแอ่วแม่ฮ่องสอนเนอะอ้ายเสือป่อง

แม่ฮ่องสอนไปมาแล้ว เอาน้องแดง 205 เนี่ยแหละไปกับรุ่นน้อง น้ำหนักตัวคนประมาณ 110 กก.!!! ขับไปกินเบียร์ไป พอถึงแม่ฮ่องสอนไม่รู้ว่าเมาเบียร์หรือเมารถ!!!

ลืมบอกไปว่าเคยทำงานที่ปาย ไปกลับ ชม.มา>15 รอบ, ขับเป็นวงกลมไปแม่ฮ่องสอนทางแม่ริม กลับถึงชม.ทาง ถ.หางดง 2 รอบ...ไปเชียงรายทางแม่ริม-ฝาง-ท่าตอน-แม่สลอง-ดอยตุง มา 2 รอบครับ

LEXUS แวะจอดยิงกระต่ายหรือเปล่า ทิ้งห่างกันตั้ง 3 นาทีเลยหรือ