ทนใช้มา 2 ปีกว่า พึ่งรู้เองว่า ตัวปัญหาอยู่ที่ไอ้เจ้า diag 2000 นี่เอง ผมรู้สึกของผมเองนะครับ เพราะตลอดเวลาที่ใช้ 406 ea9 คันนี้ไม่ได้ประทับใจเลยจริงๆ เกียร์กระตุกอยู่เรื่อย และก็แปลกที่มันเป็น ๆ หาย ๆ ผมพร่ำบ่นมาตลอด และก็ไม่มีใครแก้ปัญหาข้อนี้ได้ แม้กระทั่ง peugeot ฝรั่งเศส (ดันแนะนำให้ปรึกษายนตรกิจ ก็ยนตรกิจมันแก้ไม่ได้ผมถึงร้องไป ช่างไม่เข้าใจซะเลย)
สุดท้ายผมก็ค้นพบด้วยความโมโห+ความไม่ค่อยกล้า+ความบังเอิญ+ความโชคดี
เมื่อประมาณ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้า ea9 มันเกเรมากคือเวลาจะหยุดรถเกียร์จะกระตุกค่อนข้างรุนแรงและรอบเดินเบาก็เกิน 1200
เบิ้ลคันเร่ง, ดับเครื่องstartใหม่ก็ไม่หาย แต่ขับไปสักพักก็หาย แล้วก็เป็นอีก คือ เป็น ๆ หาย ๆ วันละหลายๆรอบ เอาเข้าศูนย์ใช้ diag 2000 หา fault ก็ไม่มี ช่างถอด throttle housing unit (ชุดลิ้นปีกผีเสื้อ)ออกมาล้างถึง 2 ครั้ง อาการก็ยังเป็น ๆ หาย ๆ ผมขับรถกลับบ้านโมโหมาก แกะฝาครอบชุดที่ว่านี้ออกมา กะว่าจะถอดปลั๊ก sensor ทุกตัวออกมาให้หมดเลย จะได้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ไม่กล้าครับ กลัวว่าอาจจะ start ไม่ติด ก็เลยใส่ฝาครอบกลับไปอย่างเก่า ขณะที่ทำเครื่องติดอยู่ ร้อนก็ร้อน บังเอิญเห็น sensor อยู่ 1 ตัว ด้านหน้าเลย คิดว่าเป็น inlet pressure sensor ผมดึงปลั๊กออกเลยครับ เครื่องดับไปเลยครับ รู้สึกตกใจรีบเสียบกลับ แล้วไป start ใหม่ เครื่องติดครับ รู้สึกโล่งไปเลย คุณเชื่อไหมตั้งแต่วันนั้น เจ้า ea9 ของผมสุดยอดจริงๆ ไม่มีอาการเกียร์กระตุกอีกเลย ทุกอย่างรู้สึกว่าสมบูรณ์มาก ขับมัน เร่งขึ้น เบรคดี มี engine brake สุดยอดจริงๆ
และผมได้ลองกับรถเพื่อนผมที่มีอาการเกียร์กระตุกบ้างเป็นครั้งคราว และบางครั้งก็ kick down เอง อาการผิดปกติทั้งหลายหายสนิทเลยครับ เดี๋ยวนี้เรา 2 คนรัก ea9 มากเลยครับ แต่กลับเกลียดยนตรกิจมากขึ้นไปอีกครับที่ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ และที่ผมคิดว่า 406 ea9 มีปัญหาอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะยนตรกิจใช้ programe ไม่ถูกในการ download ข้อมูล หรือไม่ก็ใช้ไอ้เจ้า diag 2000 ไม่เป็น พอผมทำให้มัน foul function ข้อมูลผิด ๆ ที่ load ไว้มันก็หายไปน่ะครับ ทุกอย่างมันก็ทำงานตามที่มันถูก set ค่าไว้ เอาไว้ผมจะลองกับรถเพื่อนผมอีกคนหนึ่งว่าจะหายไหม ถ้าหาย เจ้า diag 2000 คงหมดความหมายสำหรับผมซะแล้ว
(แต่สำหรับยนตรกิจ diag 2000 คือพระเจ้าครับ ถ้า no fault ก็ไม่ต้องทำอะไร ให้ทน ๆ ใช้ไป) จริง ๆ แล้ว diag 2000 เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใช้วิเคราะห์หาสาเหตุเบื้องต้นเท่านั้นเอง ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรเลย ผมไม่เข้าใจว่าทำไมยนตรกิจถึงอบรมช่างให้เชื่อแต่เครื่องมือตัวนี้ ความรู้ช่างที่ร่ำเรียนมา ห้ามเอามาใช้หรืออย่างไรเมื่อเข้ามาทำงานที่ยนตรกิจ...แปลกจริงๆ

ICQ :

แจ๋วเลยพี่
ทีนี้ต้องพึ่ง wanchai 2000 แทน ดีกว่า

ดีใจด้วย น่าจะมีรูปมาให้ด้วยนะครับ

ดีใจด้วยคนครับ :)

โชคดีจังเลยพี่ เมื่อไหร่ผมจะโชคดีแบบนี้บ้างนะครับเนี่ย....ของผม EA9 V2 ถอดปลั๊กแล้วไม่ดับครับ..เหมือนแค่เดินไม่เต็มสูบ... อยากโชคดีจัง จะพยายามลองปรับไปเลื่อยๆ ดีครับ..นี่ก็ว่าจะไปโหลด version 8 ของเจ้า diag2000 แล้วครับ เห็นว่าล่าสุด...สิงห์จะได้วิ่งให้สมกับเป็นสิงห์หน่อย อิอิ จะได้เรื่องหรือเปล่าก็ไม่รู้

นี่แหละครับ เซียน peugeot ตัวจริง

ขอลองด้วยคนนะครับพี่ ของผม EA9 V 2
ถ้าพี่วันชัยลองอีกคันได้ผล ผมเอาด้วยครับ
ของผม รถเพ่งจะ 2 เดือน ครับ เมื่อวาน
จู่ๆเครื่องเพ่งดับ ขณะขับไปทำธุระแถวบางบัวทองครับ แต่ก้อสตาร์ทติดเลย ต้อง ตรวจสอบระบบอะไรครับพี่

เล่าให้ฟังครับ ของผม Mi16 จอดไว้หลายวันแล้วจะเกิดอาการขี้เกียจ start แล้วไม่ค่อยอยากติด ยิ่งเจออากาศชื้นๆ เย็นๆ นี่ พี่ท่านยิ่งขี้เซาหนักเลย ถ้าไปขืนใจพี่เค้าให้วิ่งออกไป พอเบาเครื่องแล้วพี่เค้าจะอู้เลยแหละคือเครื่องดับแล้วก็ start ไม่ติดแล้ว ที่พอจับสังเกตได้ก็คือต้องให้เวลาพี่เค้าซัก 15-20 นาทีโน่นถึงจะเต็มใจกลับมาทำหน้าที่ปกติอีกที แต่ช่วงที่ว่าอย่าไปกวนใจอะไรพี่เค้าอีกนะ ไม่ต้องไปรื้อเปิดค้นแคะแกะเกาอะไรทั้งสิ้นเลย ให้เค้าอยู่เฉยๆ ของเค้าอย่างนั้นแหละ แล้วพอบิดกุญแจ start อีกทีละก็ที่นี้พี่เค้าจะกระตือรือร้นที่จะทำงานตามหน้าที่จนตั้งตัวไม่ทันเลยแหละ คือเครื่องจะติดจนแทบปล่อยกุญแจคืนไม่ทัน ดังนั้นทุกวันนี้ถ้าจอดรถทิ้งไว้หลายวัน พอจะใช้รถก็ต้องไปปลุกพี่เค้าก่อนล่วงหน้าไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมงคือ start ให้ติด 1 ครั้งก่อนแล้วก็ดับเพื่อความแน่ใจว่าพี่เค้าจะไม่เกิดอาการเมาค้างเมื่อถึงเวลาลงสนามจริงๆ อาการนี้ยนตรกิจก็แก้ไม่ได้นะครับ เอาไว้ว่างๆ ผมจะลองหาปลั๊ก sensor ดึงออกแล้วเสียบคืนดู เผื่อโชคดีอาการที่ว่าจะหายบ้าง

มันมีเรือง อยู่ที่ บริษัท แม่เป็นตัวกำหนดมา ว่าตัวแทน จำหน่ายจะต้องมีเครื่องมือพิเศษ เช่นสมัยผม ก็ต้องไปทำความรู้จักกับ TEP 92 พอต่อมาก็ DIAG 2000 ต่อไปอาไรก็ไม่รู้ แล้วแต่ ฝรั่ง มันสั่งให้ใช้ แบบนั้น แบบนี้

หมดทุกข์หมดโศกนะครับพี่
บุญเก่ามี ตามมาช่วยทัน
ดีใจด้วยครับ

ขายต่อใหมครับเพื่อนผมกำลังหา Ea9 อยู่งบ 6 แสนกว่าๆ หล่อยใหม่พี่

คุณวันชัยครับขอรายละเอียดได้ไหมครับว่าต้อง ดึงตัวไหนอยู่ตรงไหนนะครับ เพราะผมเองก็มีอาการเดียวกับคุณนะครับ คือเกียร์กระตุก เร่งไม่ขึ้นด้วยนะครับ ประมาณว่าบ้างจังหวะเครื่องอืดมาก เหยีบคันเร่ง เท่าไหร่ก็ไม่วิ่งนะครับ ไม่รู้ว่าอาการเดียวกันหรือเปล่า ขอคำแนะนำด้วยครับ

ICQ : -

ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่า เพราะตัวปลั๊กที่ว่านั่นน่าจะเป็น map sensor วัดปริมาณอากาศที่เข้าเครื่อง จริงๆแล้วไม่เกี่ยวกับอาการที่ว่าหายไป ผมว่าน่าจะบังเอิญพอดีมากกว่า

ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่ามันเกี่ยวกันยังไง ผมชอบเดาแล้วก็ลองไปเรื่อยๆ จากการสอบถามช่างที่ศูนย์ de thon ช่างบอกว่า sensor ตัวนี้คือ inlet air temperature sensor และบอกว่าถ้า sensor ตัวนี้เสียเครื่องจะดับหรือstartไม่ติดครับ
ทีนี้มาดูว่าผมเดายังไงดีกว่าครับ ผมได้อ่านจากหนังสือhaynesแต่เป็นของ406d8บทที่เกี่ยวกับfuel and exhaust system โดยของd8ใช้ระบบfull engine managementโดยอธิบายอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ และ ea9 ก็คงมีระบบไม่ได้แตกกต่างกันนะครับ ทีแรกผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไกลตัว อ่านผ่านๆ รู้มั่งไม่รู้มั่ง แต่พอผมดึงปลั๊กsensorที่ว่าออกแล้วอาการทุกอย่างดีขึ้น ผมจึงเอาออกมานั่งอ่านใหม่ มีอยู่ตอนนึงผมจะquoteให้อ่านกัน "if there is an abnormality in any of the readings obtained from either the coolant temperature sensor, the inlet air temperature sensor or the lambda sensor, the ECU enters its back-up mode. In this event, it ignores the abnormal sensor signal and assumes a preprogrammed value which will allow the engine to continue running (albeit at reduced efficiency). If the ECU enters this back-up mode, the warning light on the instrument panel will come on, and the relevent fault code will be stored in the ECU memory". จากข้อความข้างต้น ผมเดาเอาว่า diag2000 คงใส่ข้อมูลที่น่าจะเป็นค่าที่ abnormal สัญญาณที่ECU ได้รับจึงผิดไป ECU จึงสั่งให้ back-up mode ทำงาน สัญญาณต่างๆที่ECU เครื่องส่งไปที่ gear จึงไม่ถูกต้อง มันถึงได้มีปัญหา แก้ยังไงก็ไม่หายด้วย diag 2000 แต่พอ off สัญญาณ ค่าที่ diag 2000 เข้าสิงจึงถูกยกเลิกไป พอต่อสัญญาณเข้าไปใหม่ ทุกอย่างก็เลยเป็นปกติ และมีข้อมูลเพิ่มเติมครับ คันที่ 3 ที่ได้ลองดู เพื่อนผมบอกว่าเหมือน d8 เลย (เขามีd8cbu ถอยออกมาพร้อมผมอีก 1 คันครับและเขาก็มีความรู้สึกเหมือนผมครับคือd8 ดีกว่ามาก) ทุกอย่างที่ผมได้ทำลงไปผมเดาเอานะครับ โดยเอาข้อมูลต่างๆมาประมวล
และถ้าไม่ใช่อย่างที่ผมเดา ทำไมอาการที่ว่าผิดปกติมันหายเล่าครับ หรือใครมีความรู้ช่วยผมเดาก็ได้นะครับ สำหรับรูปเอาไว้จะพยายามทำให้นะครับ (ลืมpassword) พยายามหลายทีแล้วไม่สำเร็จ

I do not think your ECU is in back-up mode because if it was, the DIAG2000 should be easily detect and report this status. I think it is because the bad electrically connection (contact) between that sensor and the ECU. Once you pull it out the plug and put it in, the connection became good again. The bad connection inserts temporary noise and resistance of the signal to your ECU. Then you ECU reads the WRONG signal and compute the WRONG output to control the engine. Unfortunely, the signal from sensor + noise is still in the acceptable range of ECU. Therefore, no fault is reported.

I belive 90% of problem in new cars are machanical-electronic interface problem due to low qualitily of plug or QC of assembly line. And congratulation to Khun Wanchai, you found it.

SRI ก็สามารถำได้เช่นกัน(ถอดปลักnletpressure sensor)แล้วจะโล่งขึ้น-ปลักขวามือสีเทาด้านข้างวาวล์ปีกผีเสือ