1. โดยทั่วไป ตัวรถดีมากไม่พบปัญหาอย่างที่หลายคนเจอเลย (ผมอาจเป็นคนโชคดีก็ได้ ) คาดว่าปัญหาของ V1 อาจถูกแก้ใน V2 แล้วจึงไม่พบ ผมสังเกตุเอาจากราคา ทั้ง 2 เวอร์ชัน เกือบเท่ากันแต่ Feature ของ เวอร์ชั้น 2 เยอะกว่า ดังนั้นเป็นไปได้ที่ BUG อาจถูกแก้แล้วดังกล่าวเพียงแต่เขาไม่แจ้งเพราะถ้าแจ้งคงยุ่งพิลึก เลยอาศัยซ่อมไปเรื่อยๆ เกียร์ที่หลายคนพบปัญหาของผมไม่พบเลยในเวอร์ชั่น 2 แต่ต้องเรียนรู้และทำความรู้จักกับมัน แล้วเปลี่ยนวิธีการขับใหม่เลยแม้ว่าจะเคยใช้เกียร์ออโต้มาก่อนหน้านี้ ขึ้นขับครั้งแรกรู้สึกได้เลยว่าแปลกมากจนผ่านไปเป็นอาทิตย์กว่าจะคุ้นเคย หลังจากนั้นจะสนุกกับมัน รู้สึกได้เลยว่าเรากำลังขับเกียร์ออโต้ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขับเกียร์ธรรมดา โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์เอง

2. ชอบเบาะมากนั่งสบายดี ภายในดูดี วัสดุที่ใช้สมราคา เช่นหนังหุ้มต่างๆนิ่มมาก การเก็บเสียงดีไม่ได้ยินเสียงลมประทะเลย ผมรองวิ่งบน โลเวย์ที่บางนาไปชลบุรีนะครับ แต่ยังไม่เคยวิ่งเร็วมากๆ แบบ 150 ขึ้นไป กลิ่นที่เข้ามาน้อยมากเคยจ่อก้นรถเมล์กลิ่นควันที่เข้ามาน้อยมากๆ

3. อุปกรณืไฟฟ้าใช้ได้ดีไม่พบปัญหา โดยเฉพาะการรายงานข้อมูลที่ผิดพลาด อย่างที่หลายคนพบ ตินิดเดียวทึ่ วิทยุและซีดี ใช้ยี่ห้อดีแต่ลำโพงเสียงแย่มาก CD Changer ค่อนข้างมีปัญหาคือมันติดบ่อย การควบคุมที่เครื่องเสียงที่พวงมาลัยไม่สะดวกในความรู้สึกของผม (บางคนอาจชอบ) อยากเปลี่ยนเป็น Cruise Control มากกว่า ข้อดีของวิทยุเครื่องนี้คือภาครับ FM และ AM เยี่ยมมาก ดีกว่าที่เคยใช้ยี่ห้อดังๆ ราคาหลายหมื่นมากทีเดียว เป็นอย่างเดียวที่ไม่อยากเปลี่ยนเครื่องเสียง

3. เครื่องยนต์ เยี่ยมมากสำหรับคนที่ชอบขับรถสบายๆไม่อัดมาก หรือ ออกตัวที่ไฟแดงแบบล้อฟรี ถูกใจแน่นอนกับบล๊อกนี้ เสียงเครื่องเงียบดีแต่อืดหน่อยในโหมด แบบแสตนดาร์ด ที่เกียร์ต้นๆ ถ้าเทียบกับ 405 SRIA แต่ถ้ามาที่ 2-3 เริ่มกระฉับกระเฉงมากขึ้น ประหยัดมากขึ้น 30% ถ้าเทียบกับ 405 SRIA (405 กิน 7.5 กม ต่อ ลิตร และ 406 กิน 10.5 กม. ต่อ ลิตร สำหรับในเมือง นอกเมืองใกล้กันมาก)

4. ช่วงล่างนิ่มกว่า 405 SRIA (อาจเป็นเพราะตัวใหญ่กว่าและช่วงล่างก็ใหญ่กว่าด้วย) เกาะเหมือนเดิมมีโยนตัวด้านท้ายถ้าเข้าแรงๆแต่ไม่ปัด ถึงแม้จะสู้ BMW 318ตัวใหม่ไม่ได้ เพราะBMW ให้ความรู้สึกที่แน่นกว่า อาจเป็นเพราะ BMW ตัวรถสั้นกว่าแต่ฐานล้อยาวกว่า 406 และไอ้เจ้า BMW ที่ลองเทียบดันมีล้อขนาด 19 นิ้ว ของ M3 ด้วย ซึ่งน่าจะดีกว่าล้อมารตราฐานของ 406 ผมลองในซอย สุขุมวิท 39 โดยเข้าทาง เพชรบุรีตัดใหม่ตรงนั้นตอนกลางคืนน่าลองช่วงล่างที่สุดเพราะวันเวย์และโค้งกำลังดี

ข้อเสีย
1. คงอยู่ที่ราคาขายต่อกับฝ่ายต้อนรับของศูนย์บริการโดยเฉพาะสุริวงศ์ เพราะพวกนี้ไม่ค่อยฟังลูกค้าที่กำลังเล่าถึงปัญหา ถ้าปลียนชุดนี้ออกไปผมว่าดีขึ้น ถ้า Diag ผิดหรือจดปัญหาไม่เคลียร์ ช่างที่ข้างบนมั่วแน่

2. ตอนซื้อรถไหม่ระวังฝ่ายขายมั่วเอารถที่มีปัญหาหรือตำหนิมาขายก่อน พวกนี้ชอบมากโดยเฉพาะลูกค้าที่ไม่ค่อยจู้จี้และรอบครอบ ผมเจอมาแล้วก่อนหน้าที่ได้คันนี้มา ก็ไว้ใจตลอดไม่ตรวจมาก ตอนรับรถจริงๆ โอ้โห กระจกลายพร้อยเป็นเม็ดทรายเลยเป็นทุกบานเลย ตัวรถแบบเดียวกันคือเหมือนคนเป็นผื่นเลยสากไปหมดดูเหมือนไม่ขัดสีเลย เลยให้ทำใหม่ คราวนี้มาดีขึ้นแต่ขัดอีท่าไหมไม่ทราบ กระจกเป็นรอยแบบลึกเลย สรุปต้องเปลี่ยนคันอย่างเดียวเลย (ต้องทำหน้าดุดันด้วยไม่งั้นไม่ยอมเปลี่ยนให้) ในที่สุดได้ไอ้เจ้า Perfect คันนี้มา

สรุป Good Choice ครับ สำหรับ 406 เมื่อเทียบราคากับคุณภาพและประสิทธิภาพดีกว่าหลายยี่ห้อ ไม่แพ้ BMW ตัวไหม่เลยถูกว่ากันตั้งครึ่ง ราคาขายต่อก็ให้คิดถึงตอนซื้อ ตู้เย็น หรือ TV เราก็ใช้มันจนพังหรือที้งไปเลยไม่เห็นเราต้องสนเรื่องขายต่อเลย รถยนต์นี่ถ้าใช้ไป 10 ปี อย่างน้อยถ้าขายก็มีเงินดาวน์คันต่อไปอยู่แล้ว ยกเว้นคนขี้เบื่ออย่างนั้นต้อง ญี่ปุ่นอย่างเดียวถึงจะคุ้ม


แค่นี้ก่อนครับคราวหน้าถ้าได้พบ Feature อื่นหรือปัญหาจะช่วยแจ้งเพื่อชาวสิงห์หน้าใหม่ๆจะได้เพิ่มขึ้นครับสำหรับเก่าๆก็คงไม่ไปไหนแล้วนะครับ

ICQ :

ครับต้องขอแสดงความยินดีกับคุณ Big ด้วยนะครับที่ได้รถดีไม่มีปัญหาอะไรเลย (อาจจะยังใหม่อยู่ก็ได้นะ ฮิ..ฮิ)
ครับในส่วนของ Gear Auto ปัญหาอาการกระตุกเท่าที่ผมทราบมานั้นเป็นอย่างนี้ครับ
ใน Peugeot ตัว D8 นั้นทาง ZF เป็นคนผลิตให้กับ Peugeot เนื่องจากตัว Torque Converter นั้นมีขนาดใหญ่จึงสามารถทำงานได้นุ่มนวลกว่าแต่ข้อเสียคือมีอัตราการใช้นำ้มันเชื้อเพลิงที่สูงกว่า
แต่ในตัว EA9 นั้น ทาง Peugeot ได้ผลิต Gear AL4 เอง และเนื่องจากตัว Torque Converter มีขนาดเล็กกว่าการทำงานของ Gear ในบางจังหวะอาจมีอาการกระตุกบ้างแต่ข้อดีคือประหยัดนำ้มันเชื้อเพลิงได้มากกว่า(ครับอย่าเสียใจไปเลยเพื่อนๆ EA9 มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย) อย่างที่คุณ Big บอกนั้นและครับเราต้องเรียนรู้และทำความรู้จักกับอุปนิสัยของมัน แล้วเปลี่ยนวิธีการขับใหม่
ก็จะสามารถลดอาการปัญหา Gear กระตุกไปได้เยอะทีเดียว (แทนที่ Gear จะศึกษาอุปนิสัยการขับของเรา เรากับต้องศึกษามันฮิ...ฮิ)
ในส่วนของการควบคุมเครื่องเสียงที่คอพวงมาลัยนั้นผมคิดว่าในรุ่น V1 ใช้งานได้สะดวกกว่าเนื่องจากก้าน Switch ยาวกว่าแต่ข้อเสียคือความแม่นยำ่ในการเปลี่ยนสถานีวิทยุสู้ V2 ไม่ได้และถ้าใช้ไปนานๆก็จะรู้สึกได้ว่ามีอาการหลวมคลอนเกิดขึ้น
ในส่วนของระบบ Cruise Control นั้นสามารถทำการติดตั้งเพิ่มได้ครับ ผมติดตั้งมาแล้วเดินทางไกลสะดวกสบายมากครับ
งบประมาณในการติดตั้งประมาณ 33,000 บาท รุ่น V1 นะครับแต่ถ้าเป็น V2 น่าจะแพงกว่านี้เพราะเป็น Option เดียวกับ C5
สรุป ดีมั้งไม่ดีมั้งก็ซื้อมาแล้วนี่ครับ

รบกวนคุณ Pak นิดหนึ่งครับ ติดเพิ่มที่ไหน
ที่ศูนย์ไหน ผมอยากจะติดบ้าง เคยถามบาง
ศูนย์(ไม่อยากเอ่ย) บอกไม่ได้ท่าดียว
ขอบคุณครับ
อีกนิดนึงครับ แล้วคันบังคับ Cruise ไว้ตรงไหนครับ

ครับ Option ดีๆอย่างนี้ที่เคยมีในตัว D8 ไม่น่าตัดออกในตัว EA9 เลยนะครับทำให้ต้องควักกระเป๋าตังค์จ่ายเพิ่มอีกแต่ก็เข้าใจว่าเขาต้องตัด Option บางตัวออกไปบ้างเพื่อลดต้นทุนลงไปจะได้ขายในราคาถูกๆแต่ลดมากไปก็เกิดผลเสียได้นะครับ ยกตัวอย่างเช่น
Battery Spec นอกเขาใช้ Batt แห้งกันพอมาบ้านเรากลับใช้แบบเติมนำ้กลั่นแถมยังไปใช้ยี่ห้อห่วยอีกก็เลยเกิดอาการ Error ของ Com บ่อยๆ
ครับคุณ รัตน์ ทิ้งเบอร์ติดต่อกลับไว้ดีกว่าครับ เพราะคงต้องบอกเล่ากันยาว(เผอิญผมพิมพ์ไม่ค่อยเก่งซะด้วย) ถึงบอกไปคุณรัตน์ เดินดุยๆเข้าไปบอกผนักงานรับรถเผลอๆพนักงานไม่รู้เรื่องหรือก็เจอแบบเดิมอีกครับ
อ้อ? ส่วนคันบังคับ Cruise นั้นก็คล้ายกับคันบังคับของวิทยุที่คอพวงมาลัยนั้นแหละครับจะติดตั้งอยุ่ฝั้งตรงข้ามกัน(ใต้ก้าน Switch เปิด/ปิด ไฟหน้าครับ)และ Switch on/off จะอยู่ติดกับฝาครอบปิดที่เสียบเครื่อง Diag ครับ เห่อ(กว่าจะพิมพ์ได้)

คุณ PAK ครับ ผมก็สนใจ(มาก..) ครับ Cruise Control
ของผม V1 ครับ

พลวุฒิ 01-8962854

อ้อ...รบกวนคุณ PAK อีกอย่า่งครับ จากกระทู้#4197 ที่บอกว่า "2) วิ่งเร็วเกิน 130 ีมีเสียงลมดังหวีดเข้ามา
(เข้า 0 ตรวจเช็ค ใช้ซิลิโคนอุดขอบช่อง Flesh Air ) " ช่องที่ว่านี้คือตรงใหนครับ แล้วเขาทำอะไรกับขอบประตู หรือ ซีลยางบ้างหรือปล่าว

รุ่น406 ea9v2 ปี 2003ใช้ แบตเตอรี่แห้งหมดทุกคันแล้วครับ