ถาม การนำรถไปซ่อมที่อู่ทั่วๆไป กับซ่อมที่ศูนย์บริการของเปอโยต์ ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ ย่อมต่างกันแน่นอน ประการแรกคือ ราคาค่าซ่อมของศูนย์บริการที่แพงกว่า การที่ค่าซ่อมของอู่ข้างนอกไม่แพงนั้นอาจเนื่องมาจากการใช้อะไหล่เทียม หรือ นำอะไหล่ที่ใช้แล้วมาเปลี่ยนให้ ซึ่งนับว่าเป็นการเสี่ยงอย่างมหันต์ต่อชีวิตผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร โดยประหยัดค่าใช้จ่ายที่นัอยลงเพียงไม่กี่บาทแบบนี้ ประการที่สอง สำหรับการซ่อมในศูนย์บริการ ย่อมมั่นใจได้ในทั้งแง่คุณภาพ และการบริการทั้งนี้ เพราะเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย บุคลากรผ่านการอบรมมาอย่างดี จากฝ่ายฝึกอบรม (สำนักงานใหญ่) ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างเชี่ยวชาญจากบริษัทแม่ ที่ประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้ การซ่อมในศูนย์บริการ ย่อมทำให้มั่นใจในเรื่อง "อะไหล่แท้" ที่จะได้รับการประกันคุณภาพ ถ้าเกิดเสียหายใช้ได้ ไม่เต็มประสิทธิภาพ ย่อมจะได้รับการเปลี่ยน หรือซ่อมให้ใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด แต่ถ้าเป็นอู่ข้างนอก เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ จะไปเรียกร้องเอาความรับผิดชอบนั้น อย่าหวังเสียให้ยาก อย่างดีก็แค่ซ่อมใหม่ เปลี่ยนอะไหล่ให้ใหม่ แล้วก็คิดเงินค่าซ่อมใหม่ เท่านั้นเอง ดีไม่ดี อาจทำให้เครื่องยนต์ชำรุดมากขึ้นอีก แทนที่จะซ่อมเพียงนิดเดียว ก็ต้องเปลี่ยนใหม่แบบทั้งยวงเลยก็ได้


อ้อ..มีใครเห็นรถใหม่ในโชว์รูมแล้วมั่ง
ใตรจะประเดิม 206-307-607 มั่งครับ
เอามาอวดกันหน่อย

ICQ :

อ้อ! เอามาจากที่นี่ครับ
ผมเปล่านา.. จะได้รู้ว่ายนตรกิจ เขาคิดยังไง

http://www.peugeot-th.com/faq.html

เรื่องของศูนย์บริการตามหลักการแล้วย่อมดีกว่าอู่ข้างนอกมากครับ แต่จากประสบการณ์ที่ใช้ PEUGEOT ศูนย์บริการของยนตรกิจซ่อมหรือวิเคราะห์อาการผิดปกติต่างๆของรถไม่เป็นครับ สาเหตุเนื่องมาจากช่างหรือแม้แต่หัวหน้าช่างตลอดจนผู้จัดการทั้งหลายแหล่ขาดความรู้และประสบการณ์ ทำงานกันไปวันๆ ช่างที่เก่งหรือมีประสบการณ์มากๆก็อยู่ไม่ได้นาน มักจะออกไปหาสิ่งที่ดีกว่า เหลือไว้แต่พวกที่ถูกให้โต ยิ่งช่างระดับล่างยิ่งไปกันใหญ่มีแต่เด็กๆพึ่งจบมา ผมมีความเห็นว่าองค์กรใดก็ตามที่ผู้บริหารไม่เอาใจใส่หรือไม่เอาเงินใส่เข้าไป องค์กรนั้นๆมีแต่จะเล็กลงๆ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยโดยเฉพาะผู้ที่ใช้บริการมีแต่จะต้องทน ๆ ๆ จนสุดท้ายก็ต้อง bye ไปเอง

แม่นแล้ว

แค่รถผมเดินเบาไม่ได้มันจะเปลี่ยน คาร์บูเรเตอร์ผมทั้งลูกแนะ

ตามหลัก(จริงๆ)ก็น่าจะเป็นอย่างคุณพ่อลูกอ่อนว่า แต่ความจริงไม่ใช่ครับ ที่ศูนย์ไม่ใช่อู่ซ่อมอย่างที่ท่านหรือเราๆคิด เขาเป็นศูนย์ขายอะไรครับ เอะอะอะไรก็เปลี่ยนอะไหล่ลูกเดียวไม่เคยซ่อมหรือแก้ปัญหาให้หายขาดได้ เพราะมีนโยบายเพิ่มยอดขายครับ ไม่ว่าจะขายรถหรือขายอะไหล่ก็แล้วแต่ ผมหมดเงินกับสูญ...เอ้ย..ศูนย์เปอร์โยต์ไปเป็นแสนแล้วครับ กว่าจะรู้ตัว ผมเคยอ่านหนังสือรถเล่มเก่าๆก็มีปัญหาเรื่องบริการหลังขายกับช่างของศูนย์มานานกว่าสิบปีแล้วครับ เป็นกันทั่วประเทศแก้เรื่องนี้ไม่ตกซักที เฮ้อ...ถ้ามีเงินอยากจะเทคโอเวอร์มันให้รู้แล้วรู้รอดไป ขอแต่งตั้งให้คุณสิงห์เฒ่าเป็นผู้จัดการแทนครับ

จากข้อความ " แทนที่จะซ่อมเพียงนิดเดียว ก็ต้องเปลี่ยนใหม่แบบทั้งยวงเลยก็ได้ " ข้อความนี้ไม่ควรเขียนอย่างยิ่ง เพราะผมเจอมาแล้วที่ศูนย์นี่แหละ ผมอยากเสนอว่าน่าศูนย์มีความจริงใจที่จะพัฒนาการบริการจริงน่าจะมีอุปกรณ์ spareทุกชนิด ในกรณีที่ช่างไม่สามารถวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงได้ให้ลองเปลี่ยน spare เพื่อทดสอบก่อนจนกว่าจะแน่ใจว่าเป็นที่สาเหตุนั้นๆ จริง หรือไม่ก็ต้องฝึกอบรมช่างให้หนักให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้ตรงจุดจริงๆ
และอีกอย่างนโยบายเปลี่ยนอย่างเดียวนี่ควรยกเลิกไปได้แล้วครับ ควรเจรจาต่อรองกับบริษทแม่ให้มีศูนย์วิจัยผลิตภัณท์ว่าอุปกรณ์บางอย่างสามารถซ่อมได้และมีการทดสอบว่าสามารถใช้งานได้นานเพียงใด
เป็นการ guarantee ให้ลูกค้าครับ ผมมั่นใจในภูมิปัญญาของคนไทยว่าทำได้ครับ