vlovepeugeots.com - Please Ctrl+DBookmark Now!

vlovepeugeots Webboard


การดูแลรักษา เพื่อให้ใช้รถเปอโยต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคนิคในการขับรถ ที่ใครๆก็ทำได้ อาจช่วยยืดอายุการใช้งานของรถให้คุณ อย่างที่คุณคาดไม่ถึงครับ

เมื่อจอดรถทิ้งไว้เกิน 8 ชม. ควรจะสตาร์ทและรออยู่เฉยๆประมาณ 1 นาทีก่อนขับออกไป เพื่อให้น้ำมันเครื่องไปเลี้ยงตามชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ และควรจะเปิดเครื่องปรับอากาศหลังจากที่ขับรถไปแล้วประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อให้อุณหภูมิของเครื่องยนต์อยู่ในระดับปกติของการทำงาน เพราะการเปิดเครื่องปรับอากาศทันทีที่ออกรถ อาจทำให้เครื่องยนต์สึกหรอมากกว่าปกติ
เมื่อต้องการเลี้ยวรถไม่ควรหักพวงมาลัยจนสุด เพื่อช่วยลดภาระของการทำงานของชุดพาวเวอร์พวงมาลัยและยืดอายุหัวเพลาขับ
เมื่อเจอ "สันถนน" (raise bar) ควรหักพวงมาลัยประมาณ 2-3 องศาก่อนจะข้าม เพื่อลดความต้านทาน
หากขับรถในระยะทางไกลก่อนดับเครื่องควรเดินเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาทีเพื่อลดความร้อนของน้ำมันเกียร์
รถเกียร์อัตโนมัติโดยเฉพาะ รุ่น 405GR ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพราะออยคูลเลอร์ ของรุ่นนี้มีขนาดเล็ก ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดี การเปลี่ยนน้ำมันเกียรตามระยะเวลาที่เหมาะสม จะทำให้แน่ใจได้ว่าน้ำมันเกียร์มีคุณสมบัติในการหล่อลื่นที่ดีอยู่ตลอด และในทุก 60,000 กิโลเมตร ควรเปลี่ยนกรองเกียร์พร้อมกับล้างสมองเกียร์ สำหรับรถเกียร์ธรรมดาควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ 20,000 กิโลเมตร และใช้น้ำมันเกียร์เบอร์ 75-80w

เทคนิคการบำรุงรักษา

การบำรุงรักษา อาจต้องอาศัยทักษะความรู้บ้างนิดหน่อย แต่ก็เพื่อผลดีของคุณๆผู้ใช้รถเอง ลองสอบถามอู่ที่คุณไปใช้บริการเพิ่มเติม ถ้าหากคุณ ไม่ทราบว่า อุปกรณ์ต่างๆอยู่ที่จุดใด

ดูแลระดับน้ำต่างๆของรถ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค น้ำกลั่น น้ำล้างกระจก ฯ
รถเกียร์อัตโนมัติโดยเฉพาะ รุ่น 405GR ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพราะออยคูลเลอร์ ของรุ่นนี้มีขนาดเล็ก ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดี การเปลี่ยนน้ำมันเกียรตามระยะเวลาที่เหมาะสม จะทำให้แน่ใจได้ว่าน้ำมันเกียร์มีคุณสมบัติในการหล่อลื่นที่ดีอยู่ตลอด และในทุก 60,000 กิโลเมตร ควรเปลี่ยนกรองเกียร์พร้อมกับล้างสมองเกียร์ สำหรับรถเกียร์ธรรมดาควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ 20,000 กิโลเมตร และใช้น้ำมันเกียร์เบอร์ 75-80w
ควรใช้กรองอากาศและกรองน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสูง เช่น ของPurflux
น้ำเติมหม้อน้ำควรใช้น้ำกรองที่ใช้สำหรับดื่มไม่ควรน้ำประปาเพราะมีตะกรันมากมีผลให้ระบายความร้อนไม่ดี ลองสังเกตว่า บ้านไหนที่ใช้กาต้มน้ำปะปา กาต้มน้ำจะมีตะกรันเกาะอยู่ด้านใน ถ้าหากหม้อน้ำสกปรกไม่ควรใช้น้ำยาล้างหม้อน้ำเพราะมีฤทธิ์กัดกร่อนสูงและจะตกค้างอยู่ในเสื้อสูบ ควรใช้ผงซักฟอกประมาณ 2 ช้อนโต๊ะใส่ในหม้อน้ำขณะเย็นและใช้งาน 3 วันแล้วจึงถ่ายออก
ยางกันฝุ่นแร็คพวงมาลัย ยางกันฝุ่นเพลาขับ ต้องหมั่นตรวจดูรอยขาดเพราะถ้าขาดแล้ว จะทำให้มีฝุ่นละอองเข้าไปเสียดสีอยู่ภายในระบบ ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง
น้ำมันเบรกควรเปลี่ยนทุกๆ 1 ปีหลังจากหน้าฝน เพราะความชื้นที่แทรกเข้าไปในระบบ จะทำให้ประสิทธิภาพของการเบรกลดลง และทำให้ภายในกระบอกเบรกเป็นสนิมได้
อุปกรณ์ไฟฟ้าจำพวก ฝาจานจ่าย โรเตอร์ คอยล์จุดระเบิด สายหัวเทียน ควรเปลี่ยนทุกๆ 6-80,000 กิโลเมตร เพราะความร้อนที่ได้รับจากเครื่องยนต์เป็นเวลานานทำให้เกิดความต้านทานสูง เป็นสาเหตุให้อัตราเร่งลดลงและสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น

รายการอุปกรณ์ที่ควรตรวจสอบ และเปลี่ยนตามระยะทาง

คุณควรที่จะจดบันทึก ถึงรายการต่างๆที่ได้ซ่อม-เปลี่ยน ของรถคุณไว้ เพื่อตรวจสอบและเปลี่ยนตามอายุการใช้งานของสิ่งนั้นๆ

ทุกๆ 5,000 กิโลเมตร

เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง *
เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง *
เปลี่ยนแหวนน๊อตถ่าย *
ตรวจเช็คระบบเบรก
ทำความสะอาดหัวเทียน
ทุกๆ 10,000 กิโลเมตร
เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง *
เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง *
เปลี่ยนแหวนน๊อตถ่าย *
เปลี่ยนหัวเทียน
เปลี่ยนกรองอากาศ
ตรวจเช็คท่อยางต่างๆ
ตรวจเช็คช่วงล่าง
ทุกๆ 20,000 กิโลเมตร
เปลี่ยนไส้กรองเบนซิน
เปลี่ยนถ่ายน้ำและเติมน้ำยาหม้อน้ำ
* ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันเครื่อง
หมายเหตุ รายการต่างๆที่ตรวจสอบอาจขึ้นอยู่กับ ลักษณะการใช้งานด้วยครับ เช่น ใช้งานในบริเวณที่จราจรคับคั่ง รถจอดมากกว่าเคลื่อน การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ก็อาจจะต้อง ลบ 10% ของระยะทางที่ควรจะเปลี่ยน
โดยคุณ : TPC - ICQ : - [ 16 ต.ค. 2545 , 12:57:12 น. ]

ตอบ
สงสัยตรงผงซักฟอกกับการทำความสะอาดหม้อน้ำครับ ใช้ได้จริงหรือเปล่า
โดยคุณ : api [ 16 ต.ค. 2545 , 17:24:21 น.]

ตอบ
ผมเคยใช้ ผงซักฟอก ไม่อันตรายครับ
โดยคุณ : 505 & 405 man [ 16 ต.ค. 2545 , 20:11:50 น.]

ตอบ
ไม่ควรใช้ ผงซักฟอก ในการล้่างหม้อน้ำนะครับ เพราะ มันอาจจะมีผลกับ เสื้อสูบ , ตัวหม้อน้ำ และที่สำคัญ คือ ปั้มน้ำ
สรุป วิธีที่ประหยัดที่สุด และปลอดภััย คือ ถ้าหม้อน้ำเป็นสนิม ถ่ายน้ำออก และหมั่นเปลี่ยนน้ำ จนกว่าจะใส แล้วเติมน้ำยาป้องกันสนิม ดีกว่าครับ
โดยคุณ : 8ช-xxxx [ 17 ต.ค. 2545 , 08:28:39 น.]

ร่วมเสนอแนะความคิดเห็น....
กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ 
จาก : *
email :
icq :
Username :
Password : สมัครสมาชิก
รูปภาพ :
ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นครับ(ไม่เกิน 50K)

รายละเอียด
*
*

กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ