รบกวนเพื่อนๆที่ ใช้ 406 EA9V2 ช่วยแสดงความเห็นว่า ตั้งแต่ใช้มามีปัญหา หรือ ส่วนดีอะไรบ้างครับ

ICQ :

ส่วนดี
๑.เรื่องความปลอดภัยดีมาก
๒.แกะถนนดีเยี่ยม เข้าโค้งนุ่มมาก
๓.วัสดุที่ใช้เกรทดีมากเป็นหนังแท้ วอนัทแท้ไม่เหมือน แคมรี่
๔.เป็นระบบมัลติเฟรกซ์สมบูรณ์แบบที่ยังไม่มีรถยุโรปรุ่นไหมนำออกมาใช้ ทำให้อัตราเร่งและการประหยัดเชื้อเพลิงดีเยี่ยม การปล่อยมลพิษน้อยมากๆ เครื่องยนต์ยืดอายุการทำงานและการบำรุงรักษา
๕.รูปลักษณ์โดเด่นด้วยการออกแบบจากสถาบันออกแบบระดับโลกใช้อีกหลายปีก็ยังดูสวยงาม

ส่วนเสีย
๑.เมืองไทยยังมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีน้อย จึงต้องพึ่งเครื่องวัดเท่านั้น ซึ่งบางอย่างไม่จำป็นเลย
๒.เรื่องการตั้งระบบเกียร์อาจมีการกระตุกในบางคัน
๓.แอร์ตัวที่ใช้มีเสียงดังแก๊กๆๆ เวลาทำงานเข้าใจว่าหน้าคลัทแอร์จะหลวมทำเรื่องเครมอยู่
๔.หน้าปัดตอนสตาร์ทเครื่องจะดังแครกๆๆ ห้าหกครั้งแล้วเงียบ ทำเรื่องเครมอยู่
๕.เข้าอู่นอกไม่ได้เลย เพราะไม่รู้จะตรวจอย่างไร บางอย่างทำแล้วต้องเอาเครื่องจับเพื่อการแก้ข้อมูล ไม่งั้นอาจมีผลกระทบภายหลัง

แต่โดยภาพรวมก็ดีมากครับ ติดใจเหมือนกันอัตราเร่งบนเขาเยี่ยมเลย แอ็คคอร์ดยังกระจุย

คุณสิงห์ทองครับ ช่วยอธิบายข้อ 4เพิ่มเติมว่าทำไมหน้าปัดตอนสตาร์ทเครื่องจะดังแครกๆๆ เสียงจากเครื่องหรือหน้าปัด ครับ ขอบคุณครับ

ข้อ 3-4 นี่มันผิดปกติมากไหมครับ ตอนแรกผมเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะข้อ 4 นีเคยมีกระทู้มาแล้วครั้งนึง และสรุปว่าเป็นการทำงานของวาร์วตัวนึงของรุ่นนี้ แล้วถ้าไม่เคลมนี่จะมีผลเสียอย่างไรครับ อยากทราบอายุการรับประกันรุ่นนี้กี่ปีครับ ผมซื้อตอน เมษายนปีที่แล้ว ยังสามารถเครมได้ไหมครับ รบกวนให้ความรู้ด้วยนะครับ

หน้าปัดดังนี่ หมายถึงเวลาเช้าๆ เงียบๆ ลองเข้าไปนั่งแล้วปิดประตู เงี่ยหูฟังดีๆ แล้วปิดกุญแจสจาร์ทเครื่องยนต์พอเครื่องติด จะมีเสียงดังแครกๆๆๆๆ ประมาณห้าหกครั้ง แล้วตามด้วยแป๊ตเล็กๆ อย่างนี้แหละครับ เข้าไปที่ศูนย์ เอาเครื่องจับจะฟ้องว่าผิดปกติทุกครั้ง เมื่อลบข้อมูลก็ไม่หายดังอีกเอาเครื่องจับอีกก็ขึ้นอีก จะฟ้องว่า No Data Communication Wire ครับ ช่างก็หมดปัญญาครับ ผมเลยขอเครมไป คาดว่าจะได้ของประมาณเดือนกุมภาฯ ครับ....เรื่องเวลาประกันจะกำหนด สองปีจากวันที่ซื้อครับ...ของคุณกบน่าจะยังอยู่ในเวลาประกันครับ...อีกอย่างลองกันดู จอดรถแล้วเลื่อนเกียร์ไปใส่ Parking ไว้นะครับ เอาเต้าออกจากแป้นเบรค ไม่ต้องดับเครื่อง ทิ้งไว้สัก ห้าหรือสิบนาที แล้วลองดึงเกียร์กลับมาตำแหน่งเกียร์ว่าง อาจจะดึงกลับไม่ได้ก็ได้ เพราะของผมเป็นมาแล้วต้องไปแก้ แต่แก้กลับมาเกียร์กระตุกแทนครับ ลองกันดูนะครับ

คุณสิงห์ทองเครมที่ 0 ไหน และซื้อมานานหรือยังครับ

ผมใช้มา 40,000 กิโล ซีลฝาครอบวาล์วรั่ว เคลมไปแล้ว ยางที่แถมมาชุดที่ 2 แข็งเร็วมาก วิ่งไปแค่หมื่นโล ก็เริ่มแข็งแล้วครับ อาการมีเสียงดังที่หน้าปัดนี้เป็นการเช็คการทำงานปรกติหรือเปล่าครับ รถผมเปลี่ยนเทปด้วยไม่มีปัญหาอะไร

ข้อดีก็ตามที่คุณสิงห็ทองกล่าวครับ ข้อเสียก็เช่นกัน
ข้อ3กับ4 ในส่วนที่เป็นข้อเสียให้สงสัยตัว BSI ครับเพราะของผมเพิ่งเปลี่ยนเมื่อวันที่ 30/01/2003 นี้เอง ตอนที่อาการเสียมันออกก็จะเจอเสียงแบบที่กล่าวครับ คือแกรกดังมาก ถ้าดังเบาๆตอนเปิดสวิทกุญแจนั้นคืออาการปกติของมันซึ่งดูเหมือนเสียงอุปกรณอิเล็คทรอนิคเริ่มทำงานเมื่อจ่ายไฟเข้าไป

ผมขอเพิ่มข้อเสียอีก 1 ข้อเกี่ยวกับ BSI (มันคือ Hub ของอุปกรณ์อิเลคทรอนคทั้งหมดที่อยู่ในรถ และอุปกรณ์เหล่านั้นสื่อสารกับ ECU ผ่านทางมันนี่แหละ) เจ้านี่สำคัญมากเลยสมมติ ถ้าทุกอย่างทำงานปกติ และเจ้านี่เสียหรือรวน รถเราก็รวนไปด้วยหรือทำงานไม่ได้เลย ที่สำคัญมันมีอันเดียวในรถหนึ่งคัน ซึ่งค่อนข้างอัตรายมาก มันควรมี Dน BSI เพื่อทำ งานคู่กันและเป็น Backup กันและกันถ้าตัวใดตัวหนึ่งเสียอีกตัวก็ทำแทน ซึ่งจะปลอดภัยกว่าระหว่างที่วิ่งๆอยู่แล้วผิดปกติเครื่องอาจดับไปเฉยๆ

แต่ไม่เลวร้ายซะทีเดียวเพราะก่อนมันเสียมันมีสัญญาณบอกเหตุซึ่งมันได้เสียแบบทันทีทันใด ซึ่งผมเจอมาแล้ว (บางคันอาจจะออกที่อื่น) ดังนี้บอกนิดหนึ่ง Error ไม่แสดงผลบน คอนโซลเพราะตัวมันเองเสียเอง

1. อาการออกที่ การตอบสนองของอุปกรณ์อิเลคทรอนิคในรถมันจะแปลก เช่น ชุดกุญแจ Immobilizer ไม่ค่อยตอบสนองเวลากด คือผมต้องกดหลายครั้งกว่ามันจะเปิดหรือปิดและต้องใกล้ๆด้วยตอนแรกนึกว่ากุญแจเสียก็เลยเฉยๆไม่เข้า 0 เพราะไม่มีเวลา ผมเจอแบบนี้ 2-3 วันก่อนหน้าอาการเสียของ BSI

2. อาการอาจออกที่หน้าปัดบอกรอบและความเร็ว รวมถึง สัญญานไฟต่าง เช่น สัญญาณไฟฉุกเฉิน ที่ผมเจอคือ เข็มรอบเดินเบานิ่งขณะจอด แต่เข็มบอกความเร็วกระดิกเอง เช่นอยู่ๆก็ขึ้นไปที่ 20 กม/ชมเองโดยที่ไม่ได้กดคันเร่ง และบางครั้งไฟฉุกเฉินทำงานเอง แต่อาการทั้งหมดเป็นช่วงสั้นเท่านั้น 2-3 วินาทีแต่เครื่องยนต์ก็เดินเรียบไม่แสดงอาการผิดปกติอะไร

3. ถึงตอน BSI เสียจริงๆโชคดีที่มันจอดอยู่ที่ลานจอดเลยไม่ดับกลางอากาศ ผมก็มาสตาร์ทรถตามปกติ แต่เปิดประตูโดยใช้ระบบ Immobilizer ไม่ได้กดแต่เงียบ ผมก็เลยเอากุญแจดอกเดิมไขตรงๆและก็เปิดได้ แต่อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคมันก็เริ่มทักทายผมโดยกระพริบไฟบนหน้าปัดซัก 2-3 วินาทีแล้วก็ดับไปเองทั้งที่ยังไม่ได้เปิดสวิทกุญแจเลย ซึ่งปกติมันไม่เป็น ผมเริ่มสตาร์ทรถ เครื่องหมุนแรงดีแต่ไม่ติด เหมือนน้ำมันไม่จ่าย ก็เลยลองถอดสายน้ำมันหลังปั๊มติ๊กก่อนที่เข้าเครื่อง แล้วเปิดสวิทกุญแจ ปรากฏน้ำมันจ่ายพรวดออกมาเลยแสดงว่าปั๊มน้ำมันทำงานปกติ ตอนนี้ก็เลยทำอะไรไม่เป็นแล้ว เพราะไฟดีหัวเทียนสปาร์กแรง น้ำมันก็จ่ายแต่เครื่องไม่ติด เลยโทรไปถามช่างที่ 0 สุรวงศ์เขาก็ออกมาช่วย เลยมาทราบว่าเราเจ้าของรถสามารถ รีเซ็ทการทำงานของระบบอิเล็คทรอนิคของรถได้เองเหมือนกัน แต่อย่าทำบ่อยนะครับเอาแบบว่าฉุกเฉินและไกลช่างค่อยทำ การรีเซ็ททำได้โดยไปที่แบตเตอร์รี่แล้วถอดขั้วบวกของแบตเตอรี่(ขั้วเดียวนะขั้วลบไม่ต้อง)ออกและทิ้งไว้สัก 2-3นาที แล้วใส่เข้าไปใหม่ แล้วก็เปิดสวิทกุญแจดูข้อมูลที่แสดงอยู่ที่หน้าจอ Display ด้านซ้ายมือก็หายหมดแต่ตั้งใหม่ได้เอง หลังจากนั้นรถก็ติดวิ่งได้แต่หน้าปัดและอุปกรณรวนหมดคืออยู่ดีไอ้นั่นไอ้นี่ก็ทำงานของมันเอง ดูตลกดีแต่อันตรายเหมือนกันถ้าไฟให้สัญญาณมันทำงานเองเพราะคันอื่นจะเข้าใจผิด แต่แปลกเครื่องยนต์ปกติเดินเรียบ

ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วครับราคาของมัน 2 หมื่นกว่าแต่ถามช่างเขาบอกบางคันเท่านั้นที่เสีย ตกลงตั้งแต่ใช้มา 5-6 เดือน เครมไปเกือบหกหมื่นบาทแล้ว BSI นี่เรื่องใหญ่สุดแต่มันเสียได้ไอเดียหลายอย่าง เช่นถ้ากลัวรถหายก็ถอด BSI ออกแล้วล่ามโซ่ไว้กับเสาไฟฟ้าโจรหมดสิทธ์ ต้องตัดโซ่กับเอารถมายกอย่างเดียวเพราะไม่มีทางสตาร์ทติดแน่นอนถ้าไม่มี BSI

คุณสิงห์ทอง ผมสงสัยว่าอาการที่เป็นในข้อ 4 มี อาการในวันแรกออกจาก0 หรือไม่. ไม่ได้checkในวันแรกออกจาก0 หรือครับ

คุณ Big ถูกหวยแล้วนะ

ตกลง ของ v1 กะ v2 .ใช้ BSI รุ่นเดียวกันหรือปล่าวครับ

ผมเข้าใจว่าตอนออกจาก 0 คงไม่ได้ยินหรอกครับเพราะเสียงมันค่อนข้างเบามาก ต้องอยู่ในที่เงียบจริงๆ จึงจะได้ยิน

ตอนนี้ผมมีกล่องBSIที่ว่าอยู่ กะว่าจะเอาไปซ่อมแต่ยังไม่รู้ว่าซ่อมที่ไหน ช่างที่ศูนย์พูดถูกครับที่ว่าไม่เป็นทุกคัน เพราะคันที่เป็นช่างคนที่พูดไม่รู้ รถที่บริษัท คันที่เพื่อนผมใช้อยู่ V1 นะครับ เปลี่ยน กล่อง BSI มา 2 ครั้งแล้ว อาการก็คือแอร์ไม่เย็น เริ่มแรกเป็น ๆ หาย ๆ ช๋วงนั้นยังอยู่ในประกัน ศูนย์เขา claim ให้ แต่มาเมื่อกลางปีที่แล้วมีอาการอย่างว่าอีก ศูนย์ก็แจ้งว่าเป็นที่กล่อง BSI ทีนี้ต้องเสียสตางค์เองแต่ทางศูนย์ช่วยลด % ให้ ราคาเต็ม 9 พันกว่า จ่ายเพียง 6 พันกว่า นี่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเสียอีก
ตอนนี้คันที่ผมใช้อยู่ เริ่มมีอาการเหมือนกัน แต่ยังไม่มาก ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นที่ BSI หรือเปล่า
ผมว่า peugeot สุรวงศ์ สาวกยนตรกิจ คงทำอะไรผิดหรือเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เขาพยายามให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด และเขาก็แข่งขันกันมากในเรื่องการบริการ พยายามออกแบบบให้ห่างศูนย์ เช็คระยะทุกหมื่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 2 หมื่น สมัย EA9 ออกใหม่ๆ ประชาสัมพันธ์ peugeot ยังบอกเลยว่ารถรุ่นนี้ ศูนย์บริการไม่ชอบ เพราะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 2 หมื่น ศูนย์บริการจะขาดรายได้ไปมากทีเดียว แต่พอซื้อมาใช้เข้าจริงๆ เข้าศูนย์บริการมากกว่าคันเก่าที่บ้านซะอีก และก็เข้าทีนึงหลายๆวันอีกต่างหาก เพราะไม่รู้สาเหตุของอาการที่ผิดปกติ
ผมว่าถ้าpeugeotที่ขายไปทั่วโลกเป็นแบบนี้peugeot มันเจ๊งไปแล้วล่ะครับ
ยนตรกิจประกอบรุ่นนี้ขายมาเกือบ 3 ปี ยังหาสาเหตุไม่ได้ อนาคต peugeot ในประเทศไทยคงหมดแน่ๆล่ะครับ รถอะไรไม่รู้ใช้แล้วหงุดหงิดได้ทุกวัน เดี๋ยวเป็นโน่น เดี๋ยวเป็นนี่ เฮอ....

สรุปว่าราคา BSI
V1 9,000 Baht (จากพี่วันชัย)
V2 20,000 Baht (จากคุณ Big)

ประมาณนี้นะครับ
จะได้เตรียมเงิน เตรียมใจไว้

ราคา 2 หมื่นกว่านี่ช่างบอกนะไม่รู้เขาเปลี่ยนอะไรมั่ง แต่ตัว BSI เองราคาประมาณ 9000 บาทแบบที่คุณวันชับพูดครับ แต่เพิ่มอีกนิด BSI มี 2 รุ่นให้ดูที่ประตูรถด้านหน้า มันจะบอกรหัสว่าเป็นอะไร รุ่นล่าสุดคือ 9296 รุ่นก่อนคือ 9295 ใช้แทนกันไม่ได้ และ EA9 V2 ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ BSI รุ่นล่าสุดนะครับลองดูเอาเองละกัน ความสามารถต่างกันไม๊ไม่ทราบครับอันนี้