เช้าวันอาทิตย์ นาย 8ช ไปธุระที่สุพรรณ แล้วตอนเย็น ก็ไปส่งหวานใจที่บ้าน ( ถนนเอกชัย ) พอถึงเอกชัย ไฟเตือนน้ำมันเตือน เลยเติมไป 200 บาท พอถึงบ้านสาว ก็ต้องดับเครื่อง ลงไปโม้สักพัก
คราวนี้ เกิดเรื่อง จะกลับบ้าน เจ้าพาหนะคู่ใจ ( 405 SRi auto ) มีอาการแปลก ๆ คือ พอเครื่องติด เหยียบคันเร่ง ( รอบเครื่องมาปกติ ) แต่พอถอนคันเร่ง เครื่องจะดับ
** ด้วยความง่วงเลยคิดว่า กลับบ้านให้ได้ก่อน พรุ่งนี้ว่ากันใหม่ **
เลยตัดสินใจ เข้าเกียร์แล้ววิ่งเลย ซักพักอาการดับก็หายไป แต่รอบเดินเบาจะอยู่ที่ 500 rpm เท่านั้น พอได้ขึ้นทางด่วน พระราม 2 - แจ้งวัฒนะ ก็วิ่งเต็มที่ ก็วิ่งปกติ
ถึงที่หมายอาการทั้งหมดหายไป รอบเครื่องปกติ ไม่มีอาการใด ๆ
** ด้วยความสงสัยเลยดับเครื่อง แล้ว start เครื่องใหม่ทันที สรุปว่า ก็เป็นอีก คือ ถ้าเหยียบคันเร่งรอบเครื่องมาปกติ แต่พอถอย เครื่องจะดับ **
งงมาก ๆ ตอนแรกคิดว่า น้ำมัน แต่ที่งง เพราะ ขับเร็ว ๆ ก็ไม่มีอาการเขก และการตอบสนองก็ปกติ

++ มีใครเคยเป็นอาการแบบนี้บ้างครับ ช่วยแนะนำมือใหม่ sri ด้วยครับ ... คิดว่า พรุ่งนี้จะลองเอาเข้าไปที่อู่เช็ค ถ้าได้คำตอบจะมารายงานให้ทราบครับ ++

ICQ :

อาการเขกในเครื่องหัวฉีดจะไม่มีอาการชัดเจนเหมือนรถคาร์บูฯครับ แต่จะพบได้เมื่อเร่งกระทันหัน สังเกตุจากรถของผมนั้นจะพบอาการเขกที่ว่าได้ในกรณีที่เติมน้ำมันoctain number ต่ำมากๆเช่น87 หรือ 91ค้างเก่าเก็บเท่านั้น และจะได้ยินชัดเจนในช่วงที่กระชากรถเท่านั้น
เพราะผมก็ไม่เคยขับ405คันอื่นที่เป็นคาร์บูฯ (นอกจากเจ้าแดงต้อยตอนที่ไปเที่ยวกาญจนบุรี) อย่างนั้นคือไม่เป็นตลอดช่วงความเร็วที่รอบสูง
ผมจึงไม่อยากสันนิษฐานว่าการที่เครื่องไม่เขกจนสามารถได้ยินเสียงนั้นคือน้ำมันoctain ต่ำกว่ามาตรฐานหรือผสมsolvent จนทำให้เครื่องเบาดับ
ผมว่าลองเช็คดูระบบไฟจุดระเบิดดูก่อนดีกว่า เช่นคอยล์,สายหัวเทียน และหัวเทียน เพราะระบบจุดระบบไม่สามารถสังเกตุง่ายๆได้ด้วยตาเปล่า ว่ามันทำงานสมบุรณ์หรือไม่ และหาเครื่องมือตรวจวัดได้ยากหรือถ้าจะตรวจวัดก็ยุ่งยากอีกต่างหาก

ตอบไม่ค่อยได้เหมือนกัน จะคอยเอาใจช่วยครับ ลองเบื้องต้นดูก่อน พวกหัวเทียนไกล้จะบอดรึป่าวครับ

ขอแชร์ประสปการณ์นะครับ
405 GRi ของผมเคยเพี้ยนๆแบบนี้เหมือนกัน ปรากฎว่า ถ่วงจำเพาะ.แบตเตอรี่เสียไปหนึ่งแซลครับ(ทำให้รอบเดินเบาไม่ทำงาน)
กับอีกทีหนึงก็เติมน้ำมันไม่สะอาด(ปลอม หรือผสมสารอื่น)

มารายงานต่อ
เมื่อเช้า start เจ้าโกโก้ อาการเดิมยังคงมีอยู่ คือ เครื่องติด เหยียบคันเร่ง ได้ แต่พอถอน ก็ดับอีก และถ้าเข้าเกียร์แล้วปล่อยไหล เครื่องก็ไม่ดับ

** น้ำมันที่เติมไป 200 บาท ยังไม่หมด เลยโทษน้ำมันไปก่อน จนกว่าจะหาสาเหตุเจอ **

ทนวิ่งซักพักทุกอย่างก็กลับปกติ ในระหว่างทางมาทำงาน ก็เติมหัวเชื้อน้ำมันเบนซิน เข้าไปอีก 1 กระป๋อง ( ไม่รู้จะเกี่ยวหรือเปล่า แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน เพราะในใจก็คิดว่า น่าจะเป็นน้ำมันที่เติม ) แต่พอถึงที่ทำงาน ก็ดับเครื่องแล้ว start ใหม่ อาการกลับมาเป็นเหมือนเดิม ทั้ง ๆ ที่ก่อนดับเครื่องทุกอย่างปกติ ....

ผมก็ใช้ 405 sri auto มาเกือบ 3 ปีแล้ว อยากจะช่วยวิเคราห์ปัญหาของคุณทอมเหมือนกัน แต่รถผมยังไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน ขอเอาใจช่วยให้หายไวๆนะครับ

ของผมเคยเป็นเหมือนกัน ของผมต้องเปลี่ยนมอเตอร์เดินเบาครับให้ซื้อของแท้น่ะครับจะได้ใช้ได้นานๆ ราคาประมาณ 3,000 กว่าครับ

รายงานผล
บ่ายวันนี้ ( จันทร์ที่ 3 มกราคม ) ผมได้พา เจ้าโกโก้ ไปหาช่างเพื่อแก้ไข
ขอบอกอาการอีกครั้ง คือ มันจะมีอาการ ถ้าเหยียบคันเร่งรอบเครื่องมาปกติ พอถอนคันเร่ง เครื่องจะดับ แต่ถ้าวิ่งซักระยะ จะหาย และขับได้ที่ความเร็วสูง ปกติ แต่ถ้าดับเครื่องแล้วติดเครื่องทันที ก็จะเป็นอีก กับอีกอาการที่คิดว่ายังไม่สาหัสพอรับได้ คือ รู้สึกว่าเครื่องเดินไม่เรียบ กับอาการอืด นิดหน่อย
ทางช่างได้ฟังอาการเบาดับ วิเคราะห์ว่า ไม่น่าจะเกิดจากน้ำมัน แต่น่าจะเกิดจากแรงดันน้ำมันไม่พอ ก็เลยถอดไส้กรองเบนซินออกมาดู สรุปเลยล่ะกันว่า ไส้กรองเริ่มจะตัน และไส้ของมันหลุด (เขย่าดู)
ทางช่างก็เลยแนะนำให้เช็คระบบน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งระบบ คือ ถอดชุดไอดีออกมาทำความสะอาด และก็ได้เปลี่ยน O Ring ที่ชุดไอดี+หัวฉีด
สรุป ตอนนี้หายแล้วครับ สาเหตุน่าจะมาจากไส้กรองเบนซิน และได้ของแถมมาด้วย คือ เครื่องเดินเรียบขึ้น

จบข่าว

คุณทอม สมัยที่ผมใช้ sri ประมาณ ปี 93 ก็เป็นครับ ยังป้ายแดงอยู่เลย ศูนย์ก็ไม่รู้จะทำยังไง สุดท้ายเปลี่ยนกล่อง ecu ให้ใหม่ ทุกอย่างหายเป็นปกติ ใช้จนขายไป ก็ไม่มีอาการที่ว่าอีกครับ และเท่าที่ทราบ sri รุ่นแรก ๆ เป็นกันหลายคัน แต่ของคุณแก้หายแล้วก็ดีใจ ด้วยคนครับ

ดีใจด้วยครับ ขอให้หายสะดุดเป็นการถาวรนะครับ เพราะผมเคยใช้GRI แก้ปัญหาเบาดับอยู่เกือบ2ปี กว่าจะหายไล่ตั้งแต่น้ำมันยันเครื่องยนต์ สุดท้ายเป็นที่ระบบไฟครับ

ผ่านมา 2 วัน อาการเบาดับหายสนิทแล้ว
ผมคิดว่า สาเหตุของการเบาดับ น่าจะมาจาก แรงดันน้ำมันเบนซิน ต่ำไปจริง ๆ และจากการที่ช่างได้ซ่อมไป ตัวที่น่าจะเกี่ยวข้อง น่าจะเป็นไส้กรองเบนซิน เริ่มจะตัน
กับอีกตัวที่คิดว่า มีผลต่อเนื่อง คือ จะมี O-Ring ที่ regulator เพราะตอนที่ถอดออกมา เห็นได้ขัดว่าเสียรูป ตัวนี้่ผมคิดว่า อาจจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ แรงดันน้ำมันไม่คงที่ก็ได้ ทำให้เครื่องเดินไม่เรียบ

ของแถมอีกตัวที่ผมเพิ่งได้รับก็คือ ตอนstart เครื่อง ที่ผ่านมา มันก็ติดปกติ ( เข้าใจว่าปกติ ) รอบเครื่องไม่เร่ง แต่ตอนนี้ตอนติดเครื่อง รอบเครื่องจะเร่ง แล้วก็จะตกลงมาอยู่ที่รอบปกติ

เอางี้นะ
ข้าน้อยว่าน่าจะมาจากวงจร idle ไม่ทำงานมากกว่า

การถอดประกอบในห้องเครื่องอาจทำให้ปลั๊กที่หลวมอยู่มันแน่นกลับไปตามเดิมก็เป็นได้

บอกวิธีสังเกตุให้ก็ได้ ถ้าวงจรทำงานปกติ
- เวลาสตาร์ทเครื่องต้องเร่งให้ทุกครั้ง แบบว่าคุณไม่ต้องเหยียบกันเร่งนะ แล้วรอบมันจะลงมาเอง
- เวลาคอมแอร์ติด เครื่องก็ต้องเร่ง
- เวลาหักเลี้ยวพวงมาลัย เครื่องก็ต้องเร่ง

ถ้าคุณทำอะไรๆ ที่ว่านี้ แล้วเครื่องมันไม่เร่ง แสดงว่าอะไรซักอย่างหนึ่ง ในวงจร idle มันไม่ทำงาน ซึ่งประกอบด้วย
- throttle position sensor
- idle contact
- idle motor

พูดจริงๆ ใส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง แทบจะไม่เกี่ยวกับการ idle หรืออาการเบาดับเลย มันจะไปเกี่ยวกับไอ้ตรงรอบสูงๆ แล้วเครื่องไม่มีกำลังมากกว่า (ปลายตื้อ ) หรือว่าอาการน๊อคที่รอบสูง เนื่องจากน้ำมันเข้าไม่พอ ทำให้ส่วนผสมบาง และเกิดความร้อนสูงเวลาเผาไหม้

ลองคิดดูง่ายๆ ถ้าน้ำมันยังเข้าไม่พอให้เดินเบา แล้วมันจะพอให้คุณเร่งเครื่องได้ไง สงสัยแก้ผิดจุดแล้ว

จากที่คุณว่ามา ผมก็ยังคิดว่าเป็นเพราะอุปกรณ์ idle มากกว่า

ถ้าหายแล้วก็โชคดีไป ถ้ายังไม่หาย ลองไปหาดูแล้วกัน

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ ตอนนี้รถผมปกติแล้ว
แต่ขอถามคุณ นิดนะครับ เกี่ยวกับ ระบบ idle คือ การทำงานของเครื่อง SRi มันจะปรับรอบเดินเบาของเครื่องเอง ( จะไม่เหมือนรถหัวฉีดญี่ปุ่น ที่จะมีตัวปรับรอบเดินเบา ) ซึ่งถ้าได้อ่านตั้งแต่แรก ผมก็ได้บอกแล้วว่า วิ่งซักพัก เครื่องจะไม่ดับ นั่นก็แสดงว่า ระบบ idle มันทำงาน แล้วพอ start เครื่องใหม่ จะเ็ป็นอีก ตรงนี้ผมสามารถอธิบายได้ คือ ทุกครั้งที่ดับเครื่อง และติดเครื่องใหม่ เจ้า Stepper Motor มันจะหดสั้นลง ( เปิดให้อากาศเข้า ) แล้วสักพัก มันก็จะเป็นปกติ ก็แสดงว่า เจ้า Stepper Motor มันทำหน้าที่ของมัน จนรอบเครื่องปกติ นี่คือสาเหตุที่ผมไม่คิดว่ามันเป็นระบบ idle เป็นต้นเหตุ
แล้วจะมีสาเหตุอื่นที่เกี่ยวข้องได้หรือเปล่า นอกจาก ระบบ idle เพราะผมว่า การโยนความผิดให้มัน ( เป็นแพะตลอดเลย ) มันเหมือนกับแก้ที่ปลายเหตุ ครับ

เป็นเหมือนกันเลยค่ะแต่จะเป็นเฉพาะเรื่องร้อนแล้วกลับมาสตาร์ทใหม่..เครื่องจะดับแต่ถ้าสตาร์ทแล้วยังไม่เปิดแอร์ล้ววิ่งไปสักหน่อยเครื่องจะไม่ดับและวิ่งได้ปกติ แต่นานๆถึงจะเป็นค่ะ

ดับแล้ว start ใหม่แล้วเป็นอีก นี่รับรองผลได้เลยครับ ว่าเป็นที่ idle

มีสกรูปรับหรือไม่มีสกรูนี่มันไม่ใช่ประเด็นแล้วครับ
ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเครื่องไม่รักษารอบเดินเบามากกว่า เนื่องจากว่าเครื่องไม่รู้ว่าขณะนี้อยู่ในช่วงที่ idle circuit จะต้องทำงาน

เชื่อไหมครับ รถหัวฉีดในบ้านเรา ถ้าไปผ่านมือช่าง ( นอกศูนย์ ) ส่วนมากจะถูกปรับอุปกรณ์ที่เรียกว่า throttle position sensor จนทำให้วงจรที่ว่านี้ไม่ทำงาน เพราะช่าง ( ส่วนใหญ่ ) จะคิดว่านี่คือตัวปรับรอบเดินเบา และปรับองศาลิ้นผีเสื้อกันเหมือนปรับคาร์บูเรเตอร์เลย ทำให้ idle switch ไม่สัมผัส ทำให้กล่องไม่รู้ว่าขณะนี้ระบบเดินเบาต้องทำงาน

รถที่มาให้ผมดู ส่วนมากจะถูกปรับตรงนี้จนเพี้ยนมาแล้วแทบทั้งสิ้น และการแก้ไขง่ายๆ ก็เพียงปรับตั้งมันกลับไปตามเดิม เพื่อให้ idle contact มันสัมผัสทุกครั้งเวลาลิ้นผีเสื้อปิดสนิท วงวรควบคุมรอบมันก็จะทำงานของมันเอง

รับรองได้ครับ ว่าไม่ใช่แพะแน่นอน แต่อยากจะลองให้คุณไปลองเช็คดู ถือว่าผมเสนอความเห็นให้ก็แล้วกันครับ วันนั้นเพิ่งทำ 406 ไปอีกคัน ก็อาการเดียวกันนี่แหละครับ

การดูแลรักษารถหัวฉีด เรื่องของการปรับตั้ง sensor ต่างๆ ให้ถูกต้อง เป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ ส่วนอื่นๆ กล่องมันจะควบคุมเอง

และอยากจะขอเสริมนิดหนึ่งครับ รถที่เครื่องร้อนแล้ว รอบจะสูงกว่ารถเครื่องเย็น ( ที่ idle circuit ไม่ทำงาน ) ซึ่งอาจจะทำให้เครื่องไม่ดับนะครับ เวลาแอร์ติดรถสั่นหรือเปล่าล่ะครับ ?
ไม่ดับ ก็ดีแล้วครับ ระวังเวลาขับกลางคืนนะครับ ใช้ไฟมาก รอบอาจจะต่ำลงมาอีก ดับไปล่ะก็... อันตราย...

จาำกที่คุณ ว่ามา ผมตีความว่า ที่ stepper Motor มันทำงานเพี้ยน ๆ สาเหตุ น่าจะมาจาก sensor และที่ thorttle Housing ของ 405 จะมี sensor อะไรบ้างครับที่ปรับได้
แล้ว idle contact ที่คุณ ว่า มันคือ ตัวไหนล่ะ ไหน ๆ ก็เป็นช่างและเคยทำ 406 มาแล้ว ช่วยบอกหน่อยเถอะว่าปรับตัวไหน อยากรู้จริง ๆ เพราะจากที่ผมดูจะมีก็แค่ heating elemant sensor ตัวเดียวที่อยู่ที่ thorttle Housing ที่สามารถปรับได้

การปรับทำได้สองแบบนะครับ

แบบที่ 1
องศาลิ้นผีเสื้ออยู่ที่เดิม แล้วใช้วิธีขยับ sensor เข้าหา

แบบที่ 2
ถ้า sensor ขยับไม่ได้ ใช้วิธีปรับองศาลิ้นผีเสื้อเข้าหา

ปัญหาของความคลาดเคลื่อนตรงนี้ 100% จะอยู่ที่ช่างนอกศูนย์ ชอบไปปรับองศาลิ้นผีเสื้อ โดยปรับ stopper ทำให้ตำแหน่ง closed throttle มันผิดไป คล้ายๆ พวกที่ปรับรอบให้สูงขึ้นโดยใช้วิธีปรับสายคันเร่งให้ตึงน่ะครับ พบเห็นเสมอๆ

มีวิธีวัดได้ง่ายๆ คือถอดปลั๊กของ throttle position sensor ออกมา แล้วเอา volt meter มาวัด เพื่อหาให้ idle contact มันสัมผัสกันพอดี ในตำแหน่งที่ลิ้นปิดสนิท

ถ้าคุณปรับ sensor ไม่ได้ คุณก็ต้องใช้วิธีปรับ stopper ของลิ้นผีเสื้อแทนครับ

idle contact เป็น microswitch ที่อยู่ภายใน throttle position sensor ครับ มองจากภายนอกไม่เห็นครับ ต้องใช้วิธีวัด continuity เอา แบบที่เอา probe ดำ-แดง มาแตะกันแล้ว meter จะมีเสียงน่ะครับ หมุนจนเจอ ก็จบแล้ว เสียบปลั๊กกลับไป สตาร์ทเครื่อง แล้วขับต่อไปอย่างมีความสุข

ขอให้โชคดีครับ มันจะดูยุ่งๆ หน่อย โดยเฉพาะใน PG บางรุ่น

ขอบคุณที่ยังให้คำแนะนำอยู่นะครับ
คำแนะนะที่คุณว่า มา ผมเห็นด้วย แต่สำหรับกรณีของ PG ผมว่ามันจะไม่น่าจะได้นะครับ
จากที่คุณ ว่ามา
ข้อ 1 ตัดไป เครื่องตัวนี้ทำไม่ได้
ข้อ 2 คือ ปรับที่องศาปีกผีเสื้อแทน ซึ่งจากที่คุณว่ามา มันก็ถูกอ่ะครับ แต่สำหรับ เครื่องตัวนี้ อย่างที่บอก EC๊๊U มันจะคุมรอบเครื่องเอง วิ่งไปสักพักรอบเดินเบาของเครื่องก็จะกลับมาที่เดิม ( ถ้ามันปกติ คลาย Stopper จนสุด หรือ สายคันเร่งหย่อน เครื่องก็จะไม่ดับ ) ซึ่งถ้าปรับที่ Stopper หรือ ดึงสายคันเร่ง สักพัก รอบก็จะกลับมาที่รอบเดินเบาปกติ อยู่ดี ( ก็เป็นการแก้ที่ปลายเหตุอยู่ดี ) ลองทดสอบดูได้ครับ
-- การปรับที่ Stopper หรือ ดึงสายคันเร่ง เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว เท่านั้น ไม่ใช้การแก้ปัญหาเบาดับของเครื่องตัวนี้ได้ --

** thorttle position sensor **
จากที่คุณ ว่ามา ผมเข้าใจว่า น่าจะเป็น sensor ที่อยู่ล่างสุดใต้ thorttle ้housing ตัวนี้ปรับไม่ได้แน่นอน แล้ววิธีที่คุณ ว่า มัีนเป็นวิธีเช็ค ว่ามันทำงาน หรือไม่ทำงาน
แต่สำหรับ เครื่องตัวนี้ ถ้ามันทำงาน มันจะมีวิธี set ก่อนการใช้งาน เพิ่มเข้ามาด้วย ( คิดว่าพอรู้แล้วใช่มั้ยครับ ว่าทำอย่างไร และทำเพื่ออะไร ) เพราะฉะนั้น ถ้ามันไม่เสีย และ Set แล้ว ยังไงเครื่องมันก็ต้องรู้ตำแหน่งเปิด-ปิดสุดของปีกผีเสื้อแน่นอน และตอนที่เครื่องเบาดับผมก็ได้ลอง Set แล้ว แต่ก็ยังคงดับอยู่

พอถึงตรงนี้ ผมสรุปได้เลยว่า ตัวนี้ไม่ใช้สาเหตุเบาดับแน่นอน ( สำหรับกรณีของผมนี้ )

++ อ้าวหาสาเหตุต่อไป ++
ถ้าจะเป็น sensor ผมกำลังมองไปที่ heating element คุณ คิดว่า อย่างไร ???

ปัญหาหนึ่งที่ผมเคยเจอของรถที่ปรับ idle โดยอัตโนมัติก็คือ idle motor, ไม่ว่าจะรุ่นไหน ก็จะต้องมี limit กว้างสุดที่มันจะเปิดได้ <- ถูกต้องไหมครับ ?

สมมุติว่าในกรณีของคุณ ถ้ารถคุณปิดลิ้นผีเสื้อจนสุด แล้ว idle motor ของคุณทำงานกว้างจนสุดแล้ว แต่อากาศมันยังเข้าไม่พอ มันก็ทำให้เครื่องยังคงเบาดับอยู่ดี ถูกต้องไหมครับ ?

วิธีที่ควรจะเป็นก็คือ ให้เครื่องยนต์ได้รับอากาศจนพอเพียง ที่จะเดินเบาได้ ( ในระดับหนึ่ง ) แล้วที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ idle motor น่าจะสมเหตุสมผลกว่า

ในกรณีนี้คุณต้องไปหาให้ได้ ว่าเจ้า bypass valve ( bleeder ) ที่ว่านี้ มันอยู่ที่ไหน และทำอย่างไรให้อากาศเข้าเครื่องได้เพียงพอ และทำให้ idle motor ไม่ต้องเปิดกว้างมากจนเกินไป รถคุณถึงจะสตาร์ทและเดินเบาได้ด้วยตัวเอง

คุณหาตรงนี้ได้เจอเมื่อไหร่ ปัญหานี้ก็จบครับ

โชคดีครับ ผมต้องกลับไปกัมพูชาแล้ว ไม่ชอบเขียนกระทู้หน้าสอง

** อย่าเพิ่งกลับไปไหนเลย มาช่วยแก้ปัญหากันก่อน ตอนนี้กัมพูชาเปิดด่านแล้วก็จริง แต่ยังไม่ให้คนไทยข้ามไปนะ เพื่อความปลอดภัย 5 5 5 **

ขออธิบายลักษณะของ Stepper Motor ตัวนี้ก่อน การทำงานของมันจะเปิด-ปิด อากาศ โดยการ ยืดเข้า-ออก เพี่อปรับอากาศให้เข้ามาก-น้อย ฉะนั้นถ้ามันหดสุด ก็คือ ให้อากาศเข้ามาก และถ้ายืดสุด ก็คือปิดอากาศ
- เวลาประกอบ Stepper Motor เข้ากับ thorttle Housing ถ้ามันยืดสุด คุณคงรู้นะครับ ว่า ยังไงมันก็ใส่ไม่ได้ เพราะมันยันอยู่ เวลาใส่จะต้องกดให้มันหดสั้นลงไป ตรงนี้คิดว่าคงเข้าใจนะครับ -

และตัว Stopper ในคู่มือของ haynes จะบอกวาควรจะตั้งโดยใช้ฟิลเลอร์วัดค่า ซึ่งจะเป็นการตั้งองศาปีกผีเสื้อด้วย ( คิดว่าคุณ คงเข้าใจนะครับอีกเช่นกัน )

รวมกันการ set ก่อนใช้งาน ( คุณ คงรู้อีกเหมือนกัน ว่าทำยังไง และทำเพื่ออะไร )

****แล้ว bypass valve ที่คุณว่า จะมีอยู่ที่ไหนอีก ???? ****

เมื่อมีการตั้ง + set ทุกอย่างแล้ว จะมี bypass valve ที่ไหนได้อีก ล่ะครับ ก็ในเมื่อ Stepper Motor มันทำหน้าที่นี้อยู่ จริง หรือเปล่า
จะมีก็รู Vaccumm ตรงนี้ตัดไป ไม่ใช้แน่นอน

สรุป มันคงไม่มี Bypass Valve ที่ไหนอีก นอกจาก ที่ Stepper Motor มันทำหน้าที่เปิด-ปิดอยู่ นะครับ

และจากที่ผมว่า มาว่า Stepper Motor มันจะเป็นแพะ เพราะมันทำงานเองไม่ได้ ต้องได้รับคำสั่งจาก Sensor ( เอาสั่น ๆ เลย นะ ) และอย่างที่บอก sensor บางตัวมันปรับไม่ได้ เลยเกิดการสงสัยว่า 406 คันที่คุณ แก้ แก้อย่างไร ตรงไหน เพราะ อาการ เบาดับใน Gri + Sri มันวิเคราะห์ แบบรถญี่ปุ่น ไม่ได้หรอกครับ

++ และช่วงที่ไปกัมพูชา จะยืมคู่มือของ haynes ผมไปอ่านแก้เหงาก็ได้นะครับ ยินดี เพราะตอนนี้ผมอยากรู้สาเหตุที่แก้จริงของมัน มากกว่า 5 5 5 ++

คุณนี่สมเป็นสุดยอดเทคโนโลยีจริงๆ สมกับที่เขาเล่าลือกัน

งั้นลองไปหานี่ดู
รูแวคคั่มที่คุณว่านี่แหละ
ไปหาดู มันจะมีอยู่คู่หนึ่ง ที่รูหน้าลิ้น จะผ่านมาถึงรูหลังลิ้น โดยมีสกรูปรับอยู่ เรียกว่าเป็น bleeder valve

ปรับไอ้ตัวนี้แหละครับ แล้วก็จบ
"คุณคงรู้แล้วนะครับ ว่ามันอยู่ที่ไหน"

คุณคงรู้อีกนะครับ ว่าคุณอาจจะหาไม่เจอ ถ้าคุณไม่ถอดเรือนลิ้นผีเสื้อมันออกมาทั้งอัน

** ตอบช้าไปนิด พอดีผมไม่ได้เป็นช่างซ่อมรถ ต้องทำงานประจำครับ อิอิ **

เรื่อง Vaccuam ที่คุณว่า ( ขอแซวอีกนิดล่ะกัน ว่า มันไม่ต้องถอดอะไร ออกมาหรอกครับ ไปยืนดูก็เห็นได้เลย ถอดสายได้เลยเหมือนกัน ) จะมี ทั้งหมดรวม 4 จุด คือ
1. ต่อไปที่ Regulator
2. ต่อไปที่ ฝาครอบวาล์ว
ทั้ง 1-2 ตัดไป
3. กับ 4. ต่อไป soleniod valve ทั้ง 2 ตัว
และทั้ง 2 ตัว ก็ไม่มีตัวปรับที่ thorttle ้housing อีกเช่นกัน ผมว่าเราคงไม่สามารถ ปรับมันได้ เพราะ มันคุมด้วย soleniod
ฉะนั้น คงต้องมามองกันแล้ว ว่า soleniod ทั้ง 2 ตัว มันทำงาน หรือเปล่า ???
ตอบเลย ว่ามันทำงานหรือ รวน ไฟเตือน Check Engine จะโชว์ จริงหรือเปล่า ครับ
** ตัดประเด็นนี้ออกไปได้เลย เพราะถ้า Stepper Motor ทำงานเพี้ยน เพราะ การทำงานผิดพลาดของ soleniod ทั้ง 2 ตัว มันน่าจะโชว์ ไฟ K นะครับ **

ตอนนี้ผมอยากรู้มาก ๆ เลยว่า คุณแก้ปัญหาของ 406 คันที่คุณว่า อย่างไร หรือครับ ?

** ต้องขออนุญาต ท่านเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ ( มีแต่เค้าเอากระทู้เก่า ๆ มาอ้างถึง แต่ผมดันเอา กระทู้ใหม่กว่า มาอ้างถึง ) **

จากที่ผมบอกไปว่า Vaccumm ที่ต่อไป ที่ soleniod ซึ่ง 1 ใน 2 ตัว นั้นก็จะต่อไปที่ระบบดักจับไอเสีย และอย่างที่บอก ถ้ามันผิดปกติมันก็จะมี ไฟเตือน
** ลองอ่านกระทู้นี้ประกอบนะครับ http://www.vlovepeugeot.com/webboard/05334.html **

++ ยังไงเพื่อน ๆ ที่มีปัญหาเบาดับ ช่วยกันวิเคราห์ กันหน่อยนะครับ ++

ถึงคุณที่ไม่มีชื่ออะนะครับ จากที่อ่านมาได้ทราบว่าคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ซ่อมรถเปอโยต์เจ้าปัญหาได้ ยังไงผมขอเบอร์ติดต่อคุณได้มั๊ยครับ ตอนนี้ผมเดือดร้อนมากครับ นะครับ ถ้าหากสงสารผมก็ขอเบอร์ติดต่อหน่อยครับ จะตอบในนี้หรือที่[email protected]ก็ได้ครับ ผมรอความช่วยเหลืออยู่นะครับ ไม่รู้ว่ายังรับซ่อมรถอยู่รึป่าวครับ ถ้าไม่รับแล้วก็เอาไว้ปรึกษาก็ได้ครับ ขอบคุณครับ