เรื่องมีอยู่ว่า ผมเอารถเข้าไปที่อู่ โดยมีอาการเครื่องสั่น ก็เลยเปลี่ยนแท่นเครื่องทั้งหมดเลย ไหน ๆ รื้อแล้ว เลยให้เปลี่ยนสายพานราวลิ้น และลูกลอก รวมทั้งปั้มน้ำด้วยเลย เพราะไม่อยากมาให้มันเสียจุกจิกทีหลังครับ โดยผมเป็นคนวิ่งซื้อะไหล่เอง เพราะผมรู้ที่ซื้อประจำ ราคาถูกกว่าศูนย์หลายเท่าเลยครับ ก็ร้านแถว ๆ สะพานควาย มีอยู่ที่เดียวแหละมัง เพราะผมซื้อมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ใช้ BMW แล้ว ที่นี่เค้าขายอะไหล่ยุโรปอย่างเดียวเลย

พอวันไปรับรถ ก็ไปดู ๆ เค้าทำก่อนเสร็จ พอตอนที่สตาร์ทปุ๊บ มันมีเสียงหอน ๆ ดังมาก ๆ เลย ผมลองก้ม ๆ ดู เสียงมันดังมาจากสายพานราวลิ้นที่เปลี่ยนครับ ผมก็ถามช่างบอกว่า อันนี้ปกติหรือ เพราะว่าผมเคยเอาเจ้า BMW ของผมไปเปลี่ยนที่ร้านอื่น มันไม่เห็นดังแบบนี้ ช่างคนที่ทำบอกว่า อย่างนี้แหละ สายพานมันยังไม่เข้ารูป เดี๋ยวก็หาย พอสตาร์ทไปซักพัก มันก็เงียบลงนิดนึง แต่ก็ยังดังอยู่ ทางช่างคนที่ทำบอกว่า ขับไปซักพัก เดี๋ยวจะหายเอง

เอารถกลับบ้านค่ำ ๆ พออีกวัน เสียงยังดังอยู่ เลยให้พ่อเอารถเข้าไปที่อู่อีกที ทางอู่บอกว่าพรุ่งนี้เข้ามาแล้วกัน รู้แล้วว่าเป็นอะไร พอระหว่างทางขับรถกลับบ้าน ซึ่งใกล้มาก ๆ ไม่ถึง 5 กิโลเลย เครื่องดับไปเลย พอรื้อปุ๊บ สายพานราวลิ้นขาดครับ

พ่อก็เอารถไปเข้าที่อู่ แล้วให้เค้าทำ เค้าบอกเปลี่ยนสายพานใหม่ดูแล้วกัน แล้วมาบอกว่า ที่ผมซื้อสายพานมาน่ะ ซื้อผิดรุ่น ผมชักงง ๆ ว่ามาโบ้ยใส่ผมอย่างนี้ แสดงถึงว่าจะไม่รับผิดชอบเท่าที่ควรแล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ปล่อยให้เค้าเปลี่ยน โดยยินดีจะจ่ายค่าสายพานใหม่

พอใส่เสร็จปุ๊บ สตาร์ทมา ประกฏว่ากำลังอัดรั่วครับผม ซึ่งผมกะไว้แล้ว ถ้าสายพานขาดเนี่ย มีวาล์วคดแน่นอนเลย ทีนี้ชักคุยไม่รุ้เรื่องแล้ว

ผมถามว่า ถ้าผมซื้อมาผิด แล้วทำไมช่างไม่บอก ดันทุรังใส่ไปได้อย่างไร เค้าบอกว่า ช่างไม่ได้ดู ว่ามันต่างกันหรือเปล่า ผมเลยงง ๆ ว่าเปิดอู่ทำแต่เปอร์โยมาได้อย่างไร ถึงไม่รู้

โดยที่สายพานต่างกันตรงที่ว่า ของที่ผมซื้อมา มันจะไม่มีช่องระบายอากาศตรงร่อง ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว ความกว้างอะไร เท่ากันหมด ร่องเท่ากันหมด ต่างกันตรงนั้นนิดเดียว แต่สายพานมันขาดอีกด้านครับ คือด้านที่ไม่มีร่อง คือด้านฝั่งที่รูดกับลูกรอก ผมเลยบอกว่า แบบนี้เนี่ย ไม่ใช่ตั้งสายพานตึงไปหรอ เพราะผมโทรถามช่างที่ผมรู้จัก 3 คน รวมทั้งที่ศูนย์เปอร์โย หัวหมากด้วย เค้าก็บอกว่า อาการนี้ มีเสียงหอนจากสายพาน แสดงว่าตั้งสายพานตึงเกินไปแน่นอนเลย

วันนี้เข้าไปที่อู่ ทางอู่บอก ผมผิด เค้าก็ผิด จะให้ผมออกค่าอะไหล่ทั้งหมด ทางอู่จะไม่คิดค่าแรง แต่ต้องให้ทางอู่ซื้อของให้ ผมบอกว่าจะไม่ยอม แต่คุณพ่อผมบอก ผีถึงป่าช้า ไม่เผาไม่ได้หรอก เลยให้เค้าทำไป โดยผมได้คุยกับทางทนายเอาไว้ โดยกะไว้ว่าจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอา

พวกพี่ ๆ คิดว่าอย่างไรกับ case นี้ครับ

ปล. ผมเคยสมัครเวปนี้ไว้นานแล้วครับ แต่ลืม password ไปแล้ว แต่มาเห็นรถที่จอดในอู่นี้แปะสติ๊กเกอร์ vloveoeugeot หลายคัน เลยลองเข้ามาโพสต์ถามความคิดเห็นดูครับ

ICQ :

ลองพิจารณาดูแล้ว สาเหตุคงมาจากสายพานไม่ตรงรุ่น เลยทำให้มีปัญหาการขับเคลื่อน เรื่องเช่นนี้ก็คงเป็นความผิดทั้งช่างเองด้วยที่ไม่สังเกตุก่อนใส่เข้าไป คงเป็นเพราะคิดว่าลูกค้าไปซื้อมาให้เองคงถูกต้องแล้ว ถ้าอู่ยอมรับผิดชอบตรวจซ่อมให้ใหม่ก็คงจบได้มิต้องให้ถึงกับฟ้องร้องเลยครับ เรื่องมันยาวเป็นความผิดพลาดที่คงยอมให้อภัยกันได้คงเป็นช่างมือใหม่ ถ้ารถออกมาแล้วหมดปัญหาแจ้งข่าวให้สมาชิกทราบด้วยนะครับ

อู่อยู่แถวไหนเนี่ย ชื่ออะไร

เมื่อก่อนผมก็ชอบซื้ออะหลั่ยเอง เพราะคิดว่าได้ถูก แต่หลังจากเกิดปัญหาคล้าย ๆ กันแบบนี้ ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ให้อู่ซื้อให้ดีกว่า เขาจะได้รับผิดชอบไปเต็ม ๆ

เห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายครับ

ช่วงนี้อะไหล่เก่าเก็บ จะเสื่อมสภาพ
กันแล้วหลายๆร้าน ระวังกันหน่อยนะครับ
ล่าสุด ไปซื้อเอง ก็เจอพวกที่ปัดน้ำฝนและ
ยางแท่นเครื่อง ใช้ได้ไม่นาน

อืม... น่าเห็นใจ
อู่ไหนครับเนี่ย
จะได้ไม่ไป..

ผมมอง 2 แบบ

1. หลายครั้งที่เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นมา ส่วนหนึ่งคือความผิดคุณ อันนี้ต้องรับผิดแล้วปรับใจนิดๆ ก่อนครับ เพราะคุณไปซื้อคุณก็ควรจะดูเหมือนกันครับ ว่ามันเหมือนกันหรือเปล่า ดันทุรังไปซื้อเพราะคิดว่าถูกหรือเปล่า หรือดูแล้วอาจแยกความแตกต่างไม่ออกรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อันนี้ต้องยอมรับกันก่อนนะ เพราะเดียวจะหาว่าผมเข้าข้างอู่นะครับส่วนความผิดอู่นั้นผมว่าก็ผิดเหมือนคุณครับที่ไม่ดูจับใส่เข้าไป ผมมองว่า ถ้าเค้ารู้ว่าใส่แล้วพังเค้าจะใส่ไหมครับ ช่างและอู่คงไม่ได้ตั้งใจว่าจะทำให้รถคุณพังหรอก ส่วนการดันทุรรังใส่นั้นผมว่าถ้ามันผิดกันแบบสุดๆ ก็ควรจะใช้คำว่าดันทุรัง แต่ถ้าไม่รู้เค้าเรียกรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แล้วถ้าทำพังจริง เค้าก็คงไม่อยากเสียชื่อจริงๆไหมครับ ดังนั้นประเด็นนี้ผิดด้วยกันทั้งคู่ เสมอๆ กัน แต่ถ้าตามเหตุผลคุณผิดมากกว่านิดๆๆครับ

2. กรณีสายพานตึงไป ผมคิดว่าโอกาสขาดยากครับ สายพานอื่นตั้งตึงกว่านี้ ราคาถูกกว่านี้ยังไม่ขาดเลย แต่ผมคิดว่าที่เสียงดัง หอน มาจากการที่สายพานไม่เข้าร่องมากกว่าครับ และขาดเพราะการเสียดสี คิดง่ายๆ ครับว่าถ้าสายพานช่างตั้งตึงขนาดขาดแล้วผมว่าช่างเมา หรือไม่ก็มัวนิ่มแล้วละครับ ที่ช่างตอบมัวๆ ว่ามันเป็นแบบนี้เอง ช่างผิดแน่นอนครับ อันนี้คงต้องให้ช่างทำให้ใหม่ ส่วนเรื่องอะไหล่นั้นผมว่าถ้าแฟร์ๆ กันก็ให้อู่ช่วยออกบ้างแต่ไม่ถึงครึ่ง หากเค้าคิดค่าแรงตอนแรงแพง หรือไม่คิดค่าอะไหล่เลย เพราะเค้าคิดค่าแรงถูกๆๆ สรุปอู่ผิดนิดๆ มากกว่าคุณครับ

รวมความสรุป อู่ผิดกว่านิดๆๆ อย่าโกรธนะ เหตุผลอื่นๆ ที่คุณกล่าวมาเข้าข้างด้วยเองไปหน่อย

ผมเข้าใจครับว่าคุณรู้สึกอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งคือการคิดในมุมกลับบ้างก็ดีครับ ผมเคยเจอปัญหาคล้ายๆ กัน แต่เมื่อมองต่างมุมแล้ว และค่อยๆ พูดคุยกัน ก็ไม่เกิดปัญหาอะไรครับ

สุดท้ายซ่อมแล้วเป็นไงก็บอกด้วยแล้วกันครับ ส่วนทนายผมว่ามันรุ่นแรงเกินไปหรือเปล่าครับ แต่ถึงคุณฟ้องผมว่าก็แค่คดีเพ่ง แค่เสียทรัพย์ครับ งั้นๆ ละครับ

ผมว่าน่าจะประณีประนอมกันดีกว่าครับ (แต่ผมว่า อย่างน้อยทางอู่น่าจะรับผิดชอบบ้างนะ) อีกอย่างค่าทนายมันแพง เผลอๆค่าทนาย+ค่าใช้จ่าย+เสียเวลา+เสียอารมณ์=ไม่คุ้มครับ

ผิดคนละครึ่ง

ผมว่าอู่น่าจะต้องรับผิดชอบเต็ม ๆ นะครับ เพราะหากรู้ว่าคุณซื้อผิดรุ่น ๆ จริงแล้ว จะตะบี้ตะบันใส่ไปทำไม่ น่าจะบอกคุณให้ไปเปลี่ยนมาใหม่ และน่าจะรู้ว่าสายพานราวลิ้นนั้นมันมีผลต่อการทำงานของเครื่องมาก การใส่ต้องรอบคอบดูจุดมาร์ค ความตึงหย่อน ฯลฯ และที่สำคัญช่างจะต้องรู้ทันทีว่าเครื่องมีปัญหาหรือเปล่าเมื่อทดลองติดเครื่องยนต์ดู ไม่ใช่เมื่อพบอาการผิดปกติจากการเปลี่ยนสายพานฯ แล้วจะปล่อยและบอกว่าเดี๋ยวก็หาย ไม่ได้! ต้องรีบแก้ไขทันทีครับ

ไม่ทราบว่าอู่ไหนหรือครับ

โดยทั่วไป จะต้องถามก่อนว่าซื้ออะไหล่มาเองได้หรือไม่ หรืออู่จะบอกก่อนว่าถ้าซื้ออะไหล่มาเองจะไม่รับประกัน

ช่วยบอกว่าอู่ไหนได้มั้ยครับ..big thanks

ผมว่าอู่ผิดเต็มๆครับ อะไหล่มาจากไหนก็ช่างก่อนที่จะใส่เข้าไป ช่างต้องดูต้องวัด ต้องเทียบกับของเก่าว่าใช้ได้ไหม ถึงใส่เข้าไปไม่ใช่จับใส่แบบมั่วๆ

ก่อนที่ช่างจะใส่เข้าไปนั้นเขาต้องดูก่อนว่าเป็นของรุ่นนี้หรือเปล่า เพราะบางที่ก็มีลักษณะคล้ายกัน แต่คนละรุ่น แต่คิดว่าช่างคงคิดว่าเจ้าของรถชื้อมาแล้วก็คง OK จับใส่ลูกเดียว หรืออาจจะคิดไปว่าของที่เจ้าของรถซื้อมานั้นอาจจะเจ๋งมากๆก็ได้ เลยไม่ทันดูหรือคิด... ก๋ ดีแล้วที่ทางอู้รับผิดชอบ อย่างไรก็หันหน้าคุยกันดีกว่าครับ เพราะต่อไปเราอาจจะซ่อมอู่นี้ตลอดไปก็ได้นะครับ... ขนาดศูนย์ใหญ๋ยังผิดพลาด ผมโดนมาแล้ว เพียวแต่ว่ารถไม่พังไม่งั้น...ก็ฟ้องกันแล้ว.... แต่ก็รับผิดชอบไปลากรถมา แล้วซ่อมให้เราทุกอย่างใหม่ เรา ก็ OK แต่ที่เราไๆด้ระบายอารมณ์คือ ด่ากราดไปทั้งศูนย์ มันสะใจจริงๆ แต่ตอนนี้ผมก็ยังซ่อมที่นี่ที่เดิมครับ...

ไม่ยักบอกว่า อู่ที่ว่าอู่ไหนกัน

ผมขอเสนอความคิด เกี่ยวกับ การเอาอะไหล่ ไปให้ อู่ซ่อม สักนิดนะครับ ( ขออาศัยพื้นทีล่ะกัน )
คือ เวลาซ่อมรถ ผมจะให้ทางอู่เป็นผู้จัด อะไหล่เครื่อง + ช่วงล่าง ให้ทั้งหมด ส่วนพวกอุปกรณ์ตกแต่ง จะซื้อเอง ด้วยเหตุผลว่า
1. ทางอู่จะต้องรับผิดชอบ ถ้าเกิดความผิดพลาด จากอะไหล่ที่เปลี่ยน
2. ทางอู่มีความชำนาญ ในการดูอะไหล่แท้-เทียบ มากกว่าผม ( บางครั้งคงจะเคยได้ยินนะครับ ว่า ไปซื้ออะไหล่แท้ เวลาจ่ายเงิน เป็นราคาอะไหล่แท้ แต่ได้อะไหล่เป็นของเทียบ )
3. ถ้าเกิดไปซื้ออะไหล่มาผิืด จะต้องกลับไปเปลียนเอง ทางอู่คงไม่สามารถไปเปลี่ยนให้ ซึ่งผมว่า มันจะเป็นการเสียเวลา โดยใช่เหตุ

ส่วนถ้าบอกว่า อู่คิดราคาแพงกว่าเราไปซื้อเอง ตรงนี้สำหรับตัวผม ผมคิดว่า มันก็เหมือนกันการที่เราซื้อประกันคุณภาพอะไหล่ ซื้อความสะดวกสบาย และที่สำคัญทางอู่ก็จะต้องมีกำไรบ้าง ไม่งั้น อู่ก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ** แต่ถ้าบวกไปเยอะ ก็น่าด่าเหมือนกัน ครับ **
และก่อนซ่อมผมจะให้อู่ประเมินราคาค่าซ่อมก่อน ทำให้เราตัดสินใจมากขึ้น

สำหรับกรณีของคุณ BlueMonster ผมว่า ต้นเหตุ เกิดมาจาก สายพานฯ ลองดูว่า สายพานฯที่ขาด มันเกิดจากอะไร
1. เกิดจากการประกอบไม่ดีของทางอู่ - อย่างนี้ อู่ต้องรับผิดชอบเต็ม ๆ
2. เกิดจากคุณภาพของสายพานหรือเปล่า - ตรงนี้ ต้องไปด่าร้านอะไหล่ ด้วยนะครับ
3. เกิดจากใช้สายพานไม่ตรงรุ่นหรือเปล่า - ตรงนี้สงสัย คุณต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยแล้วล่ะ

4. ฯลฯ

ส่วนจะไปโทษอู่เรื่องไม่ดู ว่าสายพานตรงรุ่นหรือเปล่า คงลำบาก เพราะว่า อู่มีหน้าประกอบเครื่อง จากอะไหล่ที่คุณเป็นคงนำไปให้เอง
แล้วตอนเอารถออกจากอู่ ถ้ารถไม่สมบูรณ์ ก็ไม่น่าจะเอารถออกจากอู่ ควรจะให้อู่แก้ไข ให้เรียบร้อย แต่ถ้าไม่สมบูรณ์ แล้วอู่บังคับให้ออก ต้องด่าอู่ ตรงนี้แก้ไม่ยาก *** ก็ไม่ต้องไปจ่ายเงินค่าซ่อม คงไม่มีอู่ไหน ยอมให้เอารถกลับ โดยไม่จ่ายเงินค่าซ่อม หรอกครับ ***

สำหรับ การฟ้องเรียกค่าเสียหาย นั้น ก่อนอื่น คุณควรจะต้องแจ้งความฯ เป็นหลักฐานก่อนนะครับ

นี่แหละคนทั่วไปจึงชอบถามกันว่าอู่ไหนเชื่อใจได้ เพราะเวลาเกิดปัญหาพูดกันลำบากขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณในการประกอบอาชีพเลยว่าเขารับผิดชอบแค่ไหน

กรณีของคุณคงต้องคุยว่าเขารับผิดแค่ไหน ดีที่สุดผมว่าคนละครึ่งแน่แต่เงินคงไม่น้อยเลย สายพานเส้นหนึ่งประมาณ 2 พันผิดพลาดนิดเดียว ยาวเลยคราวนี้ ผมเคยเจอมาเหมือนกันแต่คราวนั้นเป็นการเปลี่ยนผ้าเบรคของซีตรอง ของ 0 ราคา2พันกว่าสำหรับคู่หน้า แต่ลองซ่อมนอก 0ครั้งแรกโดยใช้ของ โฟโด้ หรืออะไรทำนองเนี้ยราคาพันกว่าขับออกมาได้สักพักผมเลี้ยวกับไปหาเขาเลยเพราะรู้สึกว่าระยะเบรคยาวกว่าที่เคยเป็นเขาก็บอกว่าขับไปก่อนสักพักมันก็เข้าที่ไม่รู้ทำไงก็ลองได้สักอาทิตย์ไม่ดีขึ้นพอวันศุกร์คิดอยู่ว่าวันเสาร์จะไปเปลี่ยนออก ได้เรื่องเช้าวันนั้นแหละตูมเข้ากับตูดแท๊กซี่ยังดีมีประกันแต่ไม่คุ้มเลยบอกตรงๆ ยิ่งคนรู้เรื่องรถน้อยหรือคิดว่ารู้แบบนี้หวานอู่เสมอ แต่ผมก็ไม่ได้กลับไปเอาเรื่องเขาเพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องบอกว่าเราขับไม่ระวังเองแต่เช้าวันศุกร์แถวพระราม 4รถแน่นมากก็เลยคิดว่าเป็นประสบการณ์เรื่องนี้ผมเคยโพสต์มาครั้งหนึ่งแล้วตอนรายงานการใช้ 406ของผมครั้งแรกๆ ซ่อมนอก 0 ทำได้แต่อย่างที่คนทั่วไปบอกกันว่าอู่ไหนเชื่อใจได้และรับผิดชอบสูง
สุดท้ายเห็นใจครับ ยังไงก็แจ้งชื่ออู่ไปเลยเพื่อนๆจะได้ระวังในการใช้บริการ

ตัวผมเอง ก็ยอมรับว่าผมผิดตรงที่ผมซื้ออะไหล่มาผิด แต่ผมก็คิดว่าผมสมควรจะตำหนิช่างได้ไหม ว่าทำไม ถึงใส่ไป แล้วพอใส่เสร็จ สตาร์ทเครื่องแล้ว เสียงเครื่องหอนดังมาก ๆ ทำไมช่างถึงปล่อยรถออกมาได้ บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย

สรุปแล้ว ผมไปแจ้งความเอาไว้ก่อนแล้ว เผื่อมีปัญหาอื่น ๆ ตามมา ซึ่งตามประมวลกฏหมายแล้ว ทางอู่ซึ่งเป็นผู้ถูกจ้างวาน จะต้องรับผิดชอบ อายุความเป็นเวลา 1 ปี อันนี้ผมถามมาจากทนายที่สนิทกัน แต่ทางคุณพ่อผมก็ไม่อยากเรื่องมาก คนไทยเหมือนกัน ก็บอกว่า ไม่เป็นไร ปล่อย ๆ ไปเถอะ ทางอู่จากทีแรก ที่จะไม่รับผิดชอบอะไรเลย จนผมต้องไปโวยวายเอง เพราะคุณพ่อผมก็ไม่ค่อยณุ้เรื่องเครื่องยนต์ ก็พูดอะไรไม่ได้ พอผมไปโวยวาย ทางอู่เลยรับผิดชอบแค่ตรงที่ว่า เค้าไม่ได้ดูก่อน ( แต่ผมไม่เข้าใจ ว่าถ้ารถผิดปกติ ทำไมถึงปล่อยให้รถออกมาจากอู่ ) ก็เลยบอกว่า จะรื้อเครื่องให้ฟรี ผล้วให้ผมออกค่าอะไหล่ที่เหลือ เช่นวาล์ว สายพานเส้นใหม่ อะไรแบบนี้

ส่วนเรื่องชื่ออู่ ผมไม่รู้ว่าผมสมควรจะบอกดีไหม มันก็มีทั้งดี และไม่ดีแหละ ผมบอกแค่ว่า อู่อู่แถว ๆ ระหว่างวัดลาดพร้าว กับโรงพยาบาลสยาม แล้วกันครับ ถ้าใครจะเข้าอู่แถว ๆ นี้ก็ควรเช็คดี ๆ หน่อยแล้วกัน

ปล. ผมรู้สึกไม่ดีกับอู่นี้ ตั้งแต่เอาไปซ่อมตอนแรกแล้ว เพราะมีทีนึง ผมโทรไปถามตอนกลางวัน ว่ารถของผมเป็นอย่างไรบ้าง ได้คำตอบมาจากภรรยาของเจ้าของว่า " คุณมากถามฉั้น แล้วฉั้นจะไปถามใครหละ ช่างไปกินข้าวกันหมด " แล้วก็วางหูไปเลย จากนั้นผมก็ไม่โทรไปอีกเลย ไม่เข้าไปดูรถเลย ปล่อยให้คุณพ่อเค้าจัดการเอง เซ็งกับอู่แบบนี้เหมือนกัน

ปล.2 อีกอย่าง ผมไปถามช่างมาก 4 คน รวมทั้งที่ศูนย์บริการเปอร์โยที่ผมเคยเข้าอู่ประจำ บอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่า ตั้งสายพานตึง มันถึงดังแบบนั้น ไม่เชื่อลองตั้งสายพานคอมแอร์ตึงมาก ๆ เลยก็ได้ เสียงจะดัง แล้วไม่นานก็จะขาด หากตังมาก ๆ แถมตบท้ายด้วย ผมเอาสายพานทั้งเส้นเดิม กับเส้นที่ขาดไปให้ช่างทั้ง 4 นี้ดู เค้าบอกเลยว่า มันไม่ได้ขาดจากด้านร่องของสายพาน แต่มันขาดจากฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นฝั่งที่สีกับลูกรอก ซึ่งจะเกิดได้จากความตึงของสายพาน เพราะถ้ามันเป็นเพราะร่องสายพานมันไม่เหมือนกัน มันก็ต้องขาดด้านที่เป็นร่อง ไม่ใช่ฝั่งเรียบ ๆ

ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
ไว้ไป join กันวัน meeting ครับ

ผมเคยนะที่คิดนะน่าจะพลาดตรงใส่ผิดร่องฟันแน่เลย

ถ้าจะพิสูจน์ความจริง ก็ต้องซ่อมรถก่อน แล้วไปซื้อสายพานที่ว่าเป็นต้นเหตุใส่อีกครั้งหนึ่ง แต่มันคงไม่คุ้ม แต่มันแก้อาการคาใจได้

เรื่องซื้อสายพานที่ร้านบางร้าน ผมเคยเจอประเภทเอาตัวอย่างไปให้ดูแล้วมันยังเอาคนละแบบ หน้าตัดคนละแบบมาให้เลย แล้วมาบอกว่า ตัวเองเคยใช้มาแล้วทุกรุ่นใช้กันได้หมด ดูที่หน้ากว้าง ไม่ใช่ร่องสายพาน ตกลงแล้วที่ซื้อมาก็ใส่ไม่ได้สายพานล่องตื่นไป ใส่แล้วบิดเลย คนขายพวกนี้ (เฉพาะบางร้านนะครับ) แย่จริงๆ

ผมอ่านแล้วผมก็เศร้าใจแทน
ในกรณีคุณ BlueMonster ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณครับ หากผมเจอแบบนี้ผมเองก็คงอึดอัดใจเหมือนกัน

ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอะไรก็ตาม ก็ขอให้คิดว่าเป็นบทเรียนของทั้งฝ่ายอู่ และคุณ
โดยอู่ก็หาทางประกาศไปเลยว่าไม่รับผิดชอบกรณีนำอะไหล่มาเอง และรับประกันอะไหล่บางออกมาเป็นเอกสารก่อนการซ่อมไปเลย จะได้ไม่ต้องมาถูกลูกค้าฟ้องร้องกัน
ส่วนคุณก็หาร้านอะไหล่ที่มันไม่มัวอะไหล่ที่คล้ายๆ แต่คนละรุ่นให้คุณ (แนะนำเอกชัยคลองเตย) และหัดดูอะไหล่ให้เป็นบางก็ดี โดยเฉพาะ Part Number อันนี้ควรดู อีกอย่างถ้าดูอะไหล่ก็ดูศูนย์บริการก่อนครับว่าราคาเท่าไร แล้วค่อยไปดูนอกศูนย์ครับ ไหนๆ ก็ขับ Peugeot เหมือนกันจะได้ใช้ได้นานๆๆๆๆๆๆ
(เค้าว่าคนที่ขับ Peugeot มีนิสัยเป็นตัวของตัวเองและประหยัด รู้จักใช้เงิน (เพราะเงินน้อยในบางคน เช่นผมเป็นต้น) และเคารพผู้อื่น)

หลังเรื่องจบก็ขอให้รถสุขภาพแข็งแรงไม่ป่วยไม่เจ็บ หาอู่ดีๆ ได้นะเจ้าพระคุณฯ

เรียนท่านสมาชิก...โปรดอย่าด่วนสรุปจากการรับข้อมูลเพียงด้านเดียว มันจะไม่ยุติธรรมกับอู่