www.VlovePeugeot.com - Please Ctrl+D Bookmark Now!

VlovePeugeot.com Webboard


ควรเพิ่มแรงดันลมยางเมื่อขับทางไกลหรือบรรทุกหนัก
ขับทางไกล / บรรทุกหนัก / เพิ่มแรงดันลม
การขับทางไกลด้วยความเร็วและต่อเนื่อง ยางจะเกิดความร้อนมากกว่าปกติ จากการเคลื่อนไหวของยางในทุกส่วน ลมยางที่ร้อนจะขยายตัวเพิ่มแรงดัน จนลดการเกาะถนน และการทรงตัว ถ้าแรงดันเพิ่มขึ้นมาก ๆ และร้อนจัด ยางก็อาจระเบิดได้

บางคนก็เลยคิดและทำแบบผิด ๆ โดยเติมลมยางอ่อนกว่าปกติ เพราะคิดว่าจะเป็นการเผื่อล่วงหน้า เวลายางร้อน แรงดันจะได้ไม่เพิ่มขึ้นเกิน แต่ในการใช้งานจริง แรงดันกลับเพิ่มขึ้นมาก เพราะยางร้อนจากการบิดตัวง่าย และเป็นทั้งแรงดันที่สูง และเป็นลมร้อน ยางจึงเสี่ยงต่อการระเบิด

ในความเป็นจริง ยางที่จะใช้ในการขับทางไกลหรือความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง ควรเติมไว้ให้มีแรงดันลมสูงกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อเป็นการลดการบิดตัวของยาง จึงทำให้ความร้อนน้อยกว่ายางที่ลมอ่อน แม้จะเริ่มต้นด้วยแรงดันที่สูงกว่า แต่เมื่อร้อนแล้วมีการขยายตัวของลมยางน้อยกว่า การเพิ่มแรงดันจึงมีไม่มาก และไม่ร้อนจัด

หากบรรทุกน้ำหนักเพิ่มขึ้นก็ควรเพิ่มแรงดันลมยาง ไม่เฉพาะแต่ปิกอัพ แต่รวมถึงรถเก๋งด้วย เพราะถ้าใช้แรงดันลมยางเท่าเดิม หน้ายางสัมผัสจะมากขึ้น ยางจะแบนลง บริเวณที่แบนลงจึงหมุนยากขึ้น ตามหลักการง่าย ๆ คือ ลมยางมีขอบเขตการรับน้ำหนักตามแรงดันที่ไส่ไว้ เช่น หน่วยแรงดันเป็นปอนด์/ตารางนิ้ว ถ้ายางล้อนั้นมีน้ำหนักกดลง 300 ปอนด์ เติมลมไว้ 30 ปอนด์/ตารางนิ้ว ยางก็จะถูกกดลงจนมีหน้าสัมผัส 10 ตารางนิ้ว

ถ้ามีน้ำหนักกดลงมาเพิ่มเป็น 420 ปอนด์ หน้าสัมผัสก็ต้องเพิ่มเป็น 14 ตารางนิ้ว นั่นคือ ยางต้องแบนลง ลดความกลม หมุนยาก อัตราเร่งอืด และยางต้องถูกบิดตัวมาจนร้อนมาก เพราะเมื่อรถยนต์แล่น ก็จะพยายามทำให้ยางกลม ในขณะที่หน้าสัมผัสของยางแบนกว่าปกติ

ข้อมูลจาก THAIDRIVERS
โดยคุณ : leo - leo ICQ : - [ 16 มิ.ย. 2546 , 22:59:54 น. ]

ตอบ
เพราะเหตุใดจึงต้องใส่ยางใหม่ หรือยางที่สภาพค่อนข้างดีไว้ล้อหลัง

ไม่ว่ารถของคุณจะเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือขับเคลื่อนล้อหลัง ข้อแนะนำคือให้ใส่ยางใหม่หรือยางที่มีสภาพดีไว้ที่ล้อหลัง เพื่อช่วยให้รถของคุณมีความมั่นคงในทุกสภาพการขับขี่ อาทิ เช่น การเบรก หรือการเข้าโค้งด้วยความเร็ว แม้แต่ในสภาพพื้นถนนที่ไม่อำนวย เปียกลื่น

ผลการทดสอบสามารถเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า การเกิดอาการลื่นปัดที่ล้อหน้าควบคุมได้ง่ายกว่าล้อหลัง

ในกรณีที่ล้อหน้าเกิดอาการลื่นหรือปัด ผู้ขับขี่จะยกเท้าออกจากคันเร่งพร้อมๆ กับหมุนพวงมาลัยทิศทางที่ต้องการเพื่อรักษาการทรงตัวของรถ

ตรงกันข้าม การควบคุมล้อหลังเมื่อเกิดอาการล้อปัดหรือลื่น ทำได้ยากกว่ามากนัก เนื่องจากอาจทำให้รถอยู่ในภาวะที่เสียการควบคุม การรักษาการทรงตัวสามารถทำได้ โดยหักพวงมาลัยไปในทิศทางตรงข้ามกับทิศทางที่จะไป ผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์จะทราบว่าการลดความเร็วลงช้าๆ เท่านั้น จะช่วยให้สามารถควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งหมดเป็นเหตุผลว่า เพราะเหตุใดจึงแนะนำให้คุณใส่ยางใหม่ หรือยางที่สภาพค่อนข้างดีไว้ล้อหลัง นอกจากนี้คุณยังได้รับประโยชน์เพิ่มเติมดังนี้

- การควบคุมรถทำได้ด้วยความมั่นใจยิ่งขึ้น
- รถของคุณจะทรงตัวได้อย่างมั่นคง ขณะเข้าโค้ง
- เพิ่มความปลอดภัย ขณะขับขี่

ข้อมูลจาก บริษัท สยาม มิชลินกรุ๊ป จำกัด
โดยคุณ : - - my306SR [ 17 มิ.ย. 2546 , 11:25:29 น.]

ตอบ
แล้วถ้าเติมลม30 ตลอดกาล จะดีมั๊ยครับ
โดยคุณ : ton1 - ton1 [ 17 มิ.ย. 2546 , 11:29:03 น.]

ตอบ
การที่รถจะทรงตัวได้ดี มีประสิทธิภาพก็สมควรดีทั้ง 4 ล้อ แต่บังเอิญในกรณีที่จำเป็นถ้าหากจะให้ปลอดภัยผมมีความคิดว่าล้อหน้าสมควรจะต้องใส่ยางที่ดีไว้ก่อนนะครับ เพราะระบบควบคุมจะอยู่ที่ล้อหน้าเป็นหลัก คนส่วนใหญ่พอยางหน้าระเบิดรถจะเสียการทรงตัว ยิ่งตกใจเพราะพวงมาลัยจะปัดหมุน เซไปมาทำให้ยากต่อการควบคุมทิศทางในความเห็นผมนะว่าควรดีที่ล้อหน้า ผมสังเกตุจากการพบเห็น บอกเล่า และดูจากภาพยนต์ เมื่อยางหน้าแตกรถจะเสียหลักทุกคัน เวลาตำรวจไล่ยิงยางรถคนร้ายจะยิงที่หลังครับ เพื่อต้องการหยุดรถและจับเป็น ถ้ายิงหน้ารถจะเสียหลักควบคุมทิศทางไม่ได้อาจพลิกค่ำ แต่ในกรณีคุณ my306น่าคิดเหมือนกันยิ่งเป็นข้อมูลจากบริษัทยางด้วย ทำให้ต้องมานั่งคิดใหม่ ดีครับพวกเราได้ความรู้จากทั้ง 2 ท่านเพื่อประโยชน์กับผู้ใช้รถ ช่วยกันหาข้อมูลครับ
โดยคุณ : เฮง - เฮง [ 17 มิ.ย. 2546 , 11:41:05 น.]

ตอบ
เคยไปเห็นในปั้มคาลเท็กซ์ริมถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ช่วงระหว่าง ถ.กาญจนาำภิเษก กับ ถ.พุทธมณฑลสาย 2 (ก่้อนถึง รพ.ธนบุรี 2) มีบริการเติมก๊าซไนโตรเจน (ไม่มั่นใจชื่อก๊าซ) ใส่ยางรถยนต์ เห็นโฆษณาว่า เป็นก๊าซเฉื่อยที่แรงดันจะไม่เปลี่ยนแปลงแม้อุณหภูมิของยางจะเปลียน ให้ความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น ใครมีความเห็นอย่างไรในเรื่องนี้บ้าง........
โดยคุณ : Tik - baron [ 17 มิ.ย. 2546 , 13:35:32 น.]

ตอบ
ตำรวจขับไล่หลังนี่พี่เฮง จึงต้องยิงยางของล้อหลัง ไม่เคยเห็นยิงยางล้อหน้า
สรุปว่าถ้าเปลี่ยนยางทั้งทีก็เปลี่ยนมันทั้งสี่ล้อเลยพี่
โดยคุณ : leo - leo [ 18 มิ.ย. 2546 , 07:09:21 น.]

ตอบ


เจอหลงๆอยู่ที่แฟ้ม
เลยเอามาให้ดู
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เด็กและสตรีมีเปอร์โยต์ ห้ามซิ่งเกินขีด
โดยคุณ : ... - vut [ 18 มิ.ย. 2546 , 18:19:06 น.]

ตอบ
การเติมไนโตรเจน(เพิ่มเติมครับ)
หลายคนสนใจ เพราะความเชื่อหรือโฆษณาว่า เติมไนโตรเจน 100% แทนลม (อากาศปกติ) แล้วแรงดันลมยางจะเปลี่ยนแปลงน้อยเมื่อยางร้อน

ในความเป็นจริง อากาศก็มีไนโตรเจนผสมอยู่กว่า 75% อยู่แล้ว มีออกซิเจนกว่า 20% การขยายตัวของอากาศปกติกับไนโตรเจนล้วน ๆ เมื่อเกิดความร้อนขึ้น จึงไม่ต่างกันมาก

ปัญหาที่สำคัญกว่าและถูกมองข้าม เป็นเรื่องของความชื้นหรือไอน้ำที่ผสมอยู่ในลมที่ถูกเติม เพราะปั๊มลมส่วนใหญ่มีการกรองเอาไอน้ำออกไม่หมด หรือไม่กรองเลย ซึ่งในการเติมลมยางตามสถานที่ทั่วไป จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงลมผสมไอน้ำได้ เพราะไม่สะดวกที่เราจะตรวจสอบเมื่อความชื้นกัลบกลายเป็นน้ำ แรงดันรวมของยางจะลดลง แต่เมื่อยางร้อน น้ำจะกลายเป็นก๊าซ แรงดันจะเพิ่มขึ้น

ดังนั้น การเติมลมด้วยไนโตรเจนล้วน ๆ จึงอาจจะดีในแง่ที่มีความชื้นปนอยู่น้อยมาก หากอยากเติม ก็ควรสะดวกทั้งในการเติมครั้งแรก และการเติมครั้งต่อ ๆ ไป ถ้าเติมได้แค่ครั้งแรกแล้วครั้งต่อไปเติมด้วยลมธรรมดา (ที่มีไอน้ำปน) ประโยชน์ของไนโตรเจนก็จะลดลงไป

ข้อมูลจาก THAIDRIVERS อีกแล้วครับท่าน!
โดยคุณ : leo - leo [ 18 มิ.ย. 2546 , 20:40:38 น.]

ตอบ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไนโตรเจนครับ

ลมยางไนโตรเจนสำหรับเติมใส่ยางรถยนต์นั้น ไม่ใช่ของแปลกใหม่แต่อย่างใด เพราะมีใช้กันมานานแล้ว ในวงการอากาศยานตั้งแต่เครื่องบินขนาดเล็ก ไปจนถึงเครื่องบินเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ก็ใช้ลมยางไนโตรเจนเติมใส่ยาง รวมไปถึงในวงการรถแข่ง ทั้งแข่งทางเรียบและทางวิบากในระดับนานาชาติ
ก็ใช้ไนโตรเจนเติมใส่ยางเช่นกัน ทั้งนี้เพราะแกสชนิดนี้ มีมวลหรือน้ำหนักที่น้อยกว่าลมยางทั่วไป แต่มีราคาแพงกว่า

ลมที่ใช้เติมใส่ยางที่หาได้จากสถานีบริการน้ำมันนั้นเป็นแกสออกซิเจน
ซึ่งนอกจากจะมีออกซิเจนแล้วยังมีส่วนผสมของน้ำผสมอยู่อีก น้ำที่ผสมอยู่กับแกสออกซิเจนนี้จะไม่มีผลเสียต่อยาง
ตราบเท่าที่โครงสร้างภายในของยางยังไม่เกิดความเสียหาย แต่เมื่อใดที่โครงสร้างภายในของยางเกิดการเสียหาย
เนื่องจากการถูกของแหลมแทง โครงสร้างใยเหล็กในยางเรเดียลก็จะโผล่ออกมาจากส่วนของยาง
ทำปฏิกิริยากับน้ำในลมยาง จนเกิดเป็นสนิมเสียหาย นอกจากนี้น้ำที่แทรกตัวอยู่ในยางยังอาจทำให้ขอบของกระทะล้อเสียหายจากการเกิดสนิมได้อีกด้วย

อีกประการหนึ่งของลมยางทั่วไปที่เป็นแกส
ออกซิเจนก็คือ เมื่อเติมลมยางออกซิเจนใส่ยางในขณะที่รถวิ่งไปบนทางที่มีพื้นผิวที่ร้อน ภายในยางจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน
เป็นเหตุให้ความดันของลมยางเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ซึ่งการขยายตัวของแกสออกซิเจนในยางนี้ จะทำให้ความดันภายในยางเพิ่มมากขึ้นจนเกินกว่าที่ยางจะรับได้ เป็นเหตุให้ยางระเบิด แต่จากการที่ร้านยางนำเอาไนโตรเจนมาเติมใส่ยางแนะนำให้ลูกค้าใช้ในยางที่เปลี่ยนใหม่จะช่วยให้ผู้ใช้รถได้รับข้อดีหลายประการ เริ่มจากแกสไนโตรเจนที่เติมใส่ยางจะปราศจากน้ำแทรกตัว
ทำให้โครงสร้างภายในของยาง และขอบของกระทะล้อ ลดความเสี่ยงจากการกัดกร่อนของสนิมอันเนื่องมาจากการทำปฏิกิริยากับน้ำในยาง แกสไนโตรเจนมีการขยายตัวอันเนื่องมาจากความร้อนน้อยกว่าลมยางออกซิเจน ทำให้ลดความเสี่ยงจากยางระเบิดได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้
แกสไนโตรเจนยังมีความดันลมยางที่คงที่ยาวนานกว่า ช่วยให้ลดความเสียเวลาจากการตรวจเชคแรงดันลมยางได้นานถึง 3 เท่า

ปัญหาตามมาว่า ถ้าระหว่างการใช้งานเกิดของมีคมทิ่มแทงยางจนลมภายในรั่วออกมาจะทำอย่างไร
ทางแก้ไขชั่วคราวอาจต้องเติมลมยางออกซิเจนปกติเข้าไปก่อน แล้วจึงค่อยนำยางไปเปลี่ยนเติมไนโตรเจนใหม่
ในภายหลัง หากพบว่าแรงดันลมยางน้อยกว่าปกติไป อาจใช้ลมยางออกซิเจนเติมใส่แทนได้บ้าง
โดยคุณ : leo - leo [ 18 มิ.ย. 2546 , 23:17:11 น.]

ร่วมเสนอแนะความคิดเห็น....
กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ 
จาก : *
email :
icq :
Username :
Password : สมัครสมาชิก
รูปภาพ :
ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นครับ(ไม่เกิน 50K)

รายละเอียด
*
*

กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ