รถผม 505gr ปี88 เครื่อง2000อยากปรับแต่งรถสภาพเดิมๆ มีปัญหากินน้ำมัน7กิโล/ลิตร รอบเครื่องชอบค้างตอนติดไฟแดง เวลาสตาร์ทต้อง3ครั้งถึงจะติดเครื่องได้ ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนอะไรบ้าง เห็นพี่ๆบางคันไปเปล็่ยนท่อเพิ่มขนาดท่อไดดี-ไอเสีย หัวเทียน สายหัวเทียน ช่วยได้ไหม หรือมีอู่จูนเครื่องเก่งไหมครับขอแรงพี่ๆช่วยทีอยากใช้นานๆและประหยัดน้ำมัน ด้วย

ICQ :

ที่ว่า ( คาร์บิวของเดิมติดรถ นะ )
ติดแล้วดับ หมาบถึงตอนเช้า ใช่หรือเปล่า

ส่วนรอบเครื่องค้าง อาจจะเกิดจากสปริง ที่เป็นขด มันอาจจะล้า ตามอายุ เฉพาะสปริงตัวนี้มีขายแยกครับ เมื่อ 2 ปีก่อน รู้สึกว่าประมาณ 400 กว่าบาท ครับ

แต่อยากให้ดูที่ โช๊คช่วยสตาร์ทก่อน บางทีมีการถูกรื้อแล้วประกอบผิด ก็มีผลให้รอบเครื่องค้างเหมือนกัน

ขอบคุณพี่ทอมที่ชี้แนะครับ สตาร์ทแล้วดับเป็นทุกครั้งที่สตาร์ทครับ ไม่ทราบจะปรับแต่งยังไงดีถึงไม่กินน้ำมันมากเกินไปด้วย

ไม่รู้จะอาการเดียวกับผมรึเปล่านะ
ตอนเช้าสตาร์ท แล้วเบาดับ ลองเช็คหัวเทียนครับ บางทีมันชื้น

อีกอันคือ ลองขยับตรงสปริงที่เวลาเราเร่งเครื่องที่คาบิวน่ะครับ ลองโยกๆดูว่าหลวมมั๊ย ช่างบอกว่า ถ้าตัวนี้หลวม ตั้งคาบิวไปก็เท่านั้น เพราะเวลาเราเร่งเครื่อง มันจะหลวม และ ไอ้ที่ตั้งไว้ก็เปลี่ยน ของผมเป็นอย่างนี้ครับ ขับรถ เวลาจอดติดไฟแดง เครื่องจะเร่งนิดๆ ต้องค่อยๆเบิ้ล ซักทีสองที มันจะนิ่งเองครับ

ตอนนี้ใจนึงเปลี่ยนเอาคาบิวญี่ปุ่นลง อีกใจคือไปหาคาบิวมือสองสภาพดี เคยถามอาดำริไว้ แกคิด 2500 (ไม่รวมติดตั้ง) ก็กำลังตัดสินใจน่ะครับ

ถ้าดับตอนเครื่องเย็น ลองเข้าไปดูที่กระทู้ 03055 นะครับ

ส่วนถ้าดับทุกครั้ง คงต้องไปดูที่ลูกลอบ ( และอาจจะเกี่ยวกับ needle valve ด้วย )

ส่วนการที่กินน้ำมัน อาจจะต้องดูที่เบอร์นมหนู

ถ้าจะลองแก้ไขเบื้องต้น ลองตั้งโช๊คช่วย start ก่อนเลย ( ตามกระทู้ 03055 )

ความคิดของคุณSHAMP หากคิดจะเอาคาร์บูรถญี่ปุ่นลง คิดดี ๆ นะครับ ให้ฟังไว้นะครับที่กล้าพูดอย่างงี้ก็เพราะเคยทำมาสมัยที่ใช้ 505 ที่เปลี่ยนเป็นคาร์บูญี่ปุ่นก็เพราะว่าคาร์บูโซเล็กซ์ มันทั้งกินน้ำมัน ควันดำ เดินสั่น สตาร์ทยาก ลงทุนทำฐานใหม่ประมาณ พันกว่าบาท คาร์บูของโตโยต้า รู้สึกว่าจะเป็นของ 5 K หรืออะไรปานนั้นก็ว่า ได้ ผลเป็นไงรู้ไหมครับ เยี่ยมครับ สตาร์ทชึ่งเดียวติด รอบนิ่งมาก ในใจคิดโอพระเจ้า รู้งี้เปลี่ยนมาตั้งนานแล้ว ไม่น่าเสียเวลากับโซเล็กซ์ตัวเก่า ๆ เลย หมดตังค์ไปแค่ไม่ถึง 5,000 บาท เลย เยี่ยมจริง ๆ ถูกกว่าของเดิมตั้งครึ่งหนึ่งแหนะ แถมมีตังค์ใส่กรองเปลืองด้วยนะ ยิ้มแก้มแทบแตก ยิ่งตอนที่ช่างเบิ้ลเครื่องอยู่กับที่ คุณเอ๋ยยิ้มไม่หุบเลยแหละคิดในใจอีกครั้ง เรามาถูกทางแล้ว ช่างเอาไปทดลองขับกลับมาบอกเยี่ยมช่วงปลายไม่ต่างจากของเดิม เมื่อรถวิ่งลอยตัวแล้วขึ้นดีเหมือนกัน ช่างเขาว่านะ เราก็ยิ้มแก้มแทบแตกอีก นับถือว่าช่างเป็นพระเจ้ามาโปรดเราเลยทีเดียว จ่ายกะตังค์เสร็จ ด้วยความเห่อของใหม่ เอาไปทดลองขับดู ขับในเมืองก็ยิ้มออกครับ แหมมันนิ่มจริง ๆ แต่โทษทีครับเมื่ออกนอกเมือง ลองกดแบบลาก ๆ ดู ปลงอนิจจังทันที แล้วก็คิดในใจ โทษนะครับ (ถุยของเก่าเน่า ๆ ยังดีกว่าเลย) เมื่อไหร่รถมันจะลอยตัวเหมือนช่างบอกซักทีวะ ความเร็วสูงสุดได้แค่ 130 กม/ชม ปล่อยให้ไหลแบบลอยตัวเป็นหลาย ๆ กิโลเมตรแล้วหนะครับ นี่ถ้าเป็นของที่เราคิดว่าเน่า ๆ หนะ ได้ตั้งนานแล้วไอ้ 130 หนะ(เดี๋ยวต่อภาค2 รู้สึกว่ามันจะยาวไปแล้ว)

ภาค 2 ต่อครับ ทนใช้คาร์บูญี่ปุ่นได้ประมาณ 3 เดือน ไม่หวายครับ รอบเครื่องนิ่มก็จริง แต่กินน้ำมันเกือบกับคาร์บูเน่า ๆ ตัวเดิมเลยครับ ดีกว่าเล็ก น้อย แต่เหมาะสำหรับให้แม่บ้านใช้ขับจับจ่ายซื้อกับข้าว ส่งลูกไปโรงเรียน แค่นี้จริง ๆ เลยต้องซื้อคาร์บูใหม่ราคาตอนนั้นประมาณ 6 - 7 ปีแล้วหละ ประมาณ หนึ่งหมื่นหนึ่งพันบาท หรือประมาณนี้แหละจำไม่ค่อยได้ แต่ติดหลักหมื่นบาท จากร้านมณียนต์ (คงจะใช่นะไม่รู้จำชื่อผิดรึเปล่า) หลังจากที่เปลี่ยนเสร็จ ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 165 กม/ชม นึกถึงว่าลงจากรถโอนด้าเวฟ แล้วลงไปขี่ ฮอนด้าโนวาแดช ยังไงยังงั้นเลย และที่ว่าได้ 165 กม/ชม หนะหากระยะทางยาวกว่านี้อาจจะไหลได้อีกคงจะกว่า 170 กม/ชม น่าจะได้นะ ลืมไปครับ ก่อนหน้านั้นเปลี่ยนแหวนลูกสูบใหม่ปลอกใหม่ด้วย สรุปแล้ว คาร์บูญี่ปุ่นกับคาร์บูโซเล็กซ์เดิม เป็นคนละเบอร์กันกระดูกคนละเบอร์กัน เครื่องเท่ากันแต่ม้าต่างกัน ระบบภายในก็ต่างกัน โดยเฉพาะรายละเอียดปลีก
ย่อยโดยเฉพาะฐานคาร์บูก็ต่างกัน หากคุณคิดว่าจะเอาไว้เฉพาะที่ผมบอกก็ได้เลยหรือคิดว่าตัวเองไปเรื่อย ๆ ก็ได้ ไม่เห็นแปลกอย่างเก่งก็ขับไม่เกิน 90 กม/ชมอยู่แล้วตามกฎหมายกำหนด ก็เอาเลยสนับสนุน แต่ถ้าหากว่ายอมไม่ได้ ยังไงก็ต้องมีติดไม้ติดมือมากหน่อย ก็ทน ๆ กัดฟันหาสภาพมือสองดี ๆ หน่อย หรือใหม่ไปเลยหากคิดว่าสภาพเครื่องอย่างอื่นยังแจ๋ว แล้วไม่ต้องคิดต่อนะว่าหากเปลี่ยนเครื่องแล้วเป็นไง ยิ่งไม่แนะนำเลย ฟิลลิ่งมันผิดกันครับ ปัญหาเยอะ จุกจิกหยุมหยิม ถ้าหากทำมาไม่ดี คิดผิดคิดจนรถพัง ยังไง ก็คิดเอาเองก็แล้วกัน จิ้งจกทักคนไทยยังต้องฟังเลยครับ

ส่วนที่ว่าสายคันเร่งมันค้าง ๆ หนะ ที่ผมเคยทำนะ คาร์บูใหม่ก็จริง แต่สายคันเร่งมันเก่า ตรงหัวข้อต่อ เลยต้องใช้วิธี ก่อนใส่คาร์บู ถอดตัวฝาครอบที่มีคำว่า SOLEX ที่เป็นสีดำ ๆ อยู่มีน๊อต 2 ตัว แกะออกมา แล้วเอาสปริง หมุนไปดีกสักรอบ แรงดีด่จะดีขึ้นมาก แต่คันเร่งจะหนัก ๆ นิดนึง หากไม่ชอบก็ คงต้องดูรายละเอียดตรงสายคันเร่งให้ดี สำหรับ 505 คันที่ผมใช้อยู่มีข้อติอยู่นิดนึง วันไหนถ้ารถติดเยอะ ๆ แล้วหละก็ กลับถึงบ้านขาข้างซ้ายจะต้องนวดด้วยเคาน์เตอร์เพนบาล์ม ทุกครั้ง หรือต้องเอาเท้าแช่น้ำอุ่น เพื่อคลายกล้ามเนื้อ หนักฉิบเลย นึกถึงเกียร์ออโต้ขึ้นมาทันที อยากจะจ้างเด็กที่ขายพวงมาลัยตามสีแยก ให้ช่วยเข็นรถหน่อย แล้วเราก็คอยเหยียบเบรคอย่างเดียว เค็งโซดเลยสำหรับคลัทซ์เนี่ย