ตอนเช้า หรือเย็นตอนกลับบ้าน เวลาสตาร์ทรถ1-2 นาทีก่อนเคลื่อนรถไม่มีเสียงอะไรเกิดขึ้น แต่พอหลังจากเคลื่อนรถไปได้สัก 1 - 2 นาทีก็มีเสียงดังแหลม ๆ ระงมเลยครับ วิ่งไปสักพักก็หาย ไม่ทราบเป็นที่สายพาน หรือคอมแอร์ หรือไดชาร์ตครับ (สายพานแอร์เปลี่ยนใหม่เมื่อ3 อาทิตย์ที่แล้วครับ สายพานไม่หย่อนครับ) ทำไมถึงเกิดอาการแบบนี้ได้ และจะแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้างครับ

ICQ :

เป็นไปได้ทั้งหมดครับ วิธีตรวจสอบหาจุดเสียทำได้โดยการถอดสายพานไดชาร์ท+คอมแอร์ออกก่อนแล้วลองวิ่งดูว่ายังมีเสียงอยู่หรือไม่ (แต่อย่าวิ่งเพลินจนแบตหมดนะครับ) ถ้ายังดังอยู่เหมือนเดิม ตัวการก็มี
1. ลูกรอกกดสายพานราวลิ้น (Tensioner) อย่างน้อย 1 ใน 2 ตัวกำลังกลับบ้านเก่าครับ ควรรีบเปลี่ยน
2. สภาพสายพานราวลิ้นอาจตั้งไว้ตึงเกินไป
แต่ถ้าหากเสียงหายไปก็อาจเกิดขึ้นได้จาก
1. ตั้งสายพานแอร์ตึงเกินไป ตึงมากก็ไม่ดีนะครับ ควรมีระยะให้สายพานสวิง(โดยใช้นิ้วกดช่วงกึ่งกลางของสายพานส่วนที่ยาวที่สุด)ประมาณ 5 ม.ม. ครับ
2. ลูกปืนคอมแอร์เสื่อม
3. ลูกปืนไดชาร์ทเสื่อม
4. ลูกปืนรอกตั้งสายพานไดชาร์ทเสื่อม
5. Harmonic Balancer ที่พุลเลย์เริ่มเสื่อมสภาพ อันนี้ Mi16 ใช้มานานๆเป็นทุกคันครับ เป็นหนักๆเข้าจะหมุนฟรีเฉพาะพุลเลย์เลย แต่แอร์กับไดชารท์ไม่ทำงานครับ
ลองไล่ตรวจสอบดู ขอให้โชคดีครับ

เสียงที่เกิดเป็นช่วงเร่งเครื่องหรือเปล่า ลองปิดแอร์ก่อนครับ เพราะถ้าเป็นแค่ช่วงระยะเวลาน่าจะเกิดจากสายพาน slip

เป้นช่วงเร่งเครื่องครับ เพิ่งจะเป็นได้ไม่กี่วันนี้ครับ ตอนเดินเบาไม่เครื่องรถ เปิดแอร์ด้วย ไม่เป็นครับ พอออกตัวเร่งเครื่องก็จะดังสัก ไม่เกิน 5 วินาที แล้วเงียบไป บางครั้งก็ดังอีกครับ แล้วสายพาน Slip หมายถึงอะไรครับ

สายพาน Slip คือสายพานมันลื่นครับ เสียงจะดังประมาณ เอี๊ยดหรืออี๊ดแต่จะดังยาว(ถ้าผ่อนคันเร่งจะเงียบ)ครับ โดยมากจะเป็นเฉพาะตอนติดเครื่องใหม่ๆแต่ถ้าสายพานหย่อนมากก็จะเป็นทุกครั้งครับ ลองติดเครื่องแล้วไม่เปิดแอร์ ดูว่ายังเป็นไหม หรือไม่ก็ปรับให้สายพานตึงขึ้นอีกแล้วลองแบบไม่ต้องปิดแอร์ครับ