VlovePeugeot.com Webboard |
เรื่องของความร้อนและปั๊มน้ำ
ใช้ 405gri ตอนนี้มีปัญหาเข้ามาเพียบเลย เอาเรื่องเกี่ยวกับน้ำและความร้อนก่อนนะครับ คือรถผม เปิดแอร์ไม่ได้เลย ความร้อนขึ้นสูง และขึ้นเร็วด้วย ก็ได้ไปทำแอร์ เติมน้ำยาแอร์ใหม่ และเช็ครอยรั่วหม้อน้ำ หลังจากขับมาซักพัก น้ำรั่วหายไปหมดหม้อน้ำเลย ลองเติมน้ำใหม่ดู ก็เห็นน้ำรั่วออกมาบริเวณหลังเครื่องใกล้ๆ ซุ้มล้อด้านซ้ายมือ(หันหน้าเข้าหารถ) ให้ช่างแถวนั้นดูก็พบว่าท่อน้ำเล็กด้านล่าง(ท่อน้ำที่หัวโดด้านนึง) ขาด ซื้อมาเปลี่ยนใหม่ของแท้ 914.- บาท เรื่องความร้อนก็ยังไม่หาย พัดลมยังทำงานปกติ เมื่อความร้อนขึ้นไปเกือบถึงร้อย ลงมาดูดก็ยังเจอน้ำรั่วแต่ไม่เยอะ ตรงบริเวณเดียวกัน แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นตรงท่อหรือปล่าว ผมมีคำถามดังนี้ครับโดยคุณ : แดง - ICQ : |
ตอบ คนที่ 1
ผมว่าไม่เกี่ยวกับแอร์นะครับที่เปิดแล้วความร้อนขึ้นสูง น่าจะมาจากการระบายความร้อนของน้ำ ที่หลังเครื่องด้านซ้ายจะมีท่อน้ำเข้าออก 2 เส้นสังเกตุดูถ้าหากขาดน้ำจะไหลออกมาทางด้านหลังเครื่องด้านใน ถ้าเป็นปั้มน้ำจะออกมาทางข้างเครื่องด้านซ้ายใกล้ๆ สายพานไทม์มิ่ง ถ้าปั้มน้ำเสียซึ่งส่วนใหญ่จะรั่วมากกว่า น้ำยังไหล วนได้ครับแต่จะเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ แล้วความร้อนก็จะเริ่มสูงขึ้นเนื่องจากปริมาณน้ำที่หมุนเวียนขาดหายไปเป็นอันตรายต่อเครื่องครับ โอกาสที่ช่างใส่ผิดจะว่าไปก็มีโอกาสแต่ผมว่ามีโอกาสน้อยครับ ช่างก็คงถอดใส่ที่ละตัวถอดตัวไหนก่อนก็ใส่แทนที่ตัวนั้นไม่น่าสลับ เอาอย่างนี้นะครับให้ช่างตรวจดูรายละเอียดให้หมดก่อนว่าไม่มีรูรั่วแล้ว เติมน้ำเข้าหม้อน้ำไล่ลมให้หมดตรงนี้สำคัญนะครับ ถ้าไล่ลมไม่ดีก็จะมีความร้อนสูงขึ้นมาได้อีก เมื่อติดเครื่องสักพักก้มดูใต้เครื่องเลยว่ามีน้ำหยดไหม ตรงไหน ถ้ายังมีหยดที่ข้างเครื่องตรงสายพานไทมมิ่งก็เป็นที่ปั้มน้ำรั่ว ถ้าหยดที่หลังเครื่องด้านในจะเป็นแถวแร๊คพวงมาลัยพาวเวอร์ก็เป็นที่ท่อน้ำหลังเครื่อง พยายามอย่าให้เครื่องฮีทนานๆ นะครับถ้าคิดว่าไม่สามารถทำเองได้ควรหาช่างจัดการให้ดีกว่า ถ้าหากฉุกเฉินจริงๆ ก็อย่าขับหารถยกหรือลากเข้าอู่ดีกว่าโดยคุณ : เฮง - ![]() |
ตอบ คนที่ 2
ตอนเติมน้ำจะต้องทำการไล่ลมด้วยนะครับ ส่วนปั้มน้ำเสีย เท่าที่ผมเจอมานั้น จะมีอาการรั่วหยดใต้ท้อง หรือถ้าพยายามดูใกล้ๆสายพานด้านในก็เห็นมีน้ำกระเซ็นเหมือนกัน แต่ยังทำงานได้ปกติครับ ส่วนท่อน้ำผมไม่เคยไปก้มดูซะที แต่คุ้นๆว่ามี2ท่อนะตรงแถวๆนั้น แต่ไม่คิดว่าช่างเขาจะใส่สลับกันนะ เพราะรถผมก็เคยท่อน้ำรั่วตรงนั้นเหมือนกัน ตอนนั้นเพื่อนเปลี่ยนให้ ตอนเปลี่ยนก็ถอดท่อที่เสียเพียงท่อเดียวโดยคุณ : 777 [ 8 พ.ย. 2004 , 23:04:43 น.] |
ตอบ คนที่ 3
คงเหมือนความเห็นของพี่ๆข้างบนคับ ไปไล่ลมออกให้หมดจากระบบก่อนดีกว่าครับโดยคุณ : กันย์ - ![]() |
ตอบ คนที่ 4
ลองตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำว่าลดหายไปหรือไม่ ถ้าหายไปลองเติมน้ำให้เต็มและสตาร์ทเครื่องไว้ (ตอนเครื่องเย็น) จากนั้นสักประมาณ 5 นาทีลองเช็คว่ามีน้ำซึมออกมาตามเสื้อเครื่องด้านหน้า/หลังหรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าเสื้อสูบร้าวแล้ว การเช็คต้องใช้ความสามารถและไฟฉายช่วย มองให้ละเอียด ของผม GRI ปี 95 มีอาการน้ำหาย ความร้อนขึ้น หาสาเหตุไม่เจอระยะหนึ่ง ตอนหลังลองทำอย่างที่บอก จุดที่น้ำซึมออกมาเราจะไม่พบเมื่อเครื่องร้อน น้ำจะระเหยไปหมด ต้องดูตอนเครื่องเริ่มจะร้อนเท่านั้น ทั้งนี้ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าระบบท่อน้ำและหม้อน้ำต่างๆ สมบูรณ์ไม่มีจุดรั่ว ลองตรวจสอบดูก่อนครับ.โดยคุณ : 99x9 [ 10 พ.ย. 2004 , 08:32:16 น.] |
ตอบ คนที่ 5
อย่าลืมดูตาน้ำด้วยนะครับ แถวๆท่อรวมไอดีนี่ก็ตัวดี (รูปร่างขนาดประมาณเหรียญ10ได้)โดยคุณ : ขอเสริม [ 10 พ.ย. 2004 , 19:10:05 น.] |
ตอบ คนที่ 6
ผมจะลองไล่ลมดูก่อนดีกว่า แต่ปกติเวลาเติมน้ำก็ไล่ลมก่อนแต่ไม่รู้ว่าถูกวิธีหรือปล่าว ผมสังเกตุดูว่าตรงเหล็กที่ใช้รัดท่อยางด้านหลังเครื่องเป็นแบบยืดหยุ่นได้ เขาอาจจะทำเผื่อเวลาที่น้ำมีแรงดันสูงก็ได้ไม่แน่ใจ ผมลองบีบท่อยางใหญ่ด้านล่างดูรู้สึกว่าเหมือนจะมีน้ำเข้าไปน้อยไม่เหมือนท่อนบนที่จะแข็งเหมือนมีน้ำเต็ม จะลองตามที่แนะนำนะครับ เวลาความร้อนขึ้นคนก็ร้อนตามไปด้วยเครียดจริงๆ ไม่เจอกับตัวคงไม่รู้โดยคุณ : แดง [ 10 พ.ย. 2004 , 19:56:25 น.] |
ตอบ คนที่ 7
วาวล์น้ำด้วยนะครับ ถ้าเสื่อมหรือเสียไม่ยอมเปิดก็ทำให้เครื่องร้อนเหมือนกันโดยคุณ : เฮง - ![]() |