www.VlovePeugeot.com - Please Ctrl+D Bookmark Now!

VlovePeugeot.com Webboard


อยู่ๆก็เกเรอีกแล้วเหอออ......กระทู้บ่น อิอิ
.......แสนเซ็งเลยครับวันนี้ อยู่ๆก็เจออาการแปลกๆเดี๊ยวสายๆคงต้องโทรตามช่างแน่ๆครับ เหนื่อยใจ เหนื่อยจายย เนื่องจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเอารถไปซ่อมไดสตาร์ตมา เนื่องจากช่างคนเดิมซ่อมเอาไว้ยังไม่หาย (อาการต้องเคาะแล้วถึงจะสตาร์ทติด)หลังเอาออกมาก็สตาร์ทติดดีไม่ต้องใช้ไม้เคาะแล้ว แต่ว่าวันนี้ผมใช้รถปกติแต่เช้า แต่แปลกใจว่าทำไมมันติดง่ายกกว่าปกติจัง แต่ก็ไม่ได้เฉลียวใจพอติดก็ขับรถลงมาจากชั้นสาม พอมาถึงชั้นล่างกำลังจะเลี้ยวออกจากลานจอดรถเพื่อไปส่งแฟนแต่เช้า ปรากฏว่า"น้องโยต์"มีอาการกระตุกดับไปเสียเฉยๆ ก็เลยทำการสตาร์ตให้ติดแต่ปรากฏว่า สตาร์ทเท่าไรก็ไม่ติด แถมด้วยเสียงสตาร์ทมันหวานๆยังไงชอบกล เหนื่อยใจเลยครับผม เป็นอะไรไปอีกหว่านี่ ทำการสตาร์ทอยู่หลายทีก็ดูไม่มีกำลังเอาเสียเลย เสียงก็หวานอยู่อย่างนั้น สุดท้ายต้องทำการเข็ดจากท้ายคอนโดมาจอดเอาไว้หน้าร้าน ลองเข็นสตาร์ทดูแล้วก็ไม่ติดอีก .......เซ็งจิงๆ เลยมาบ่นในกระทู้ แต่เช้าเลย แหะๆ บ่ายๆคงได้เจอช่างอีกแล้วเป็นแน่แท้ เหออออ
โดยคุณ : กันย์ - gun'n ICQ : - [ 11 พ.ย. 2004 , 06:17:05 น. ]

ตอบ คนที่ 1
ของผมก็เจอเช่นเดียวกัน น่าจะหาช่างเช็คตัวเฟืองสตาร์ทที่มีสปริงอยู่ข้างในอาจจะแตกก็เป็นได้ อาการคือสตาร์แล้วมอเตอร์หมุนแต่เครื่องไม่หมุนใช่รึเปล่า สวัสดีทุกท่านขอแจมกับเวปนี้หน่อย
โดยคุณ : สามารถ R-19 [ 11 พ.ย. 2004 , 10:08:04 น.]

ตอบ คนที่ 2
....ใช่ครับมอเตอร์หมุนแต่เครื่องไม่ติด ไม่หมุนติด โทรไปหาหลายช่างมาแล้ว สุดท้ายไม่มีใครมาเอารถได้เลย เลยต้องตามช่างแถวๆบ้านเค้ามาแล้วบอกว่า น่าจะเป็นที่สายพานราวลิ้นขาด (เหมือนกันกับช่างเปอร์โยต์บอกทางโทรศัพท์)เลยต้องลากไปซ่อม นี่ก็นั่งๆห่วงรถอยู่แต่ติดงานตามไปดูยังไม่ได้เลย เซ็งจิงๆ.......
โดยคุณ : กันย์ - gun'n [ 11 พ.ย. 2004 , 10:14:51 น.]

ตอบ คนที่ 3
เช็คดูว่าสายพานราวลิ้นขาดหรือเปล่า เปิดฝาเติมน้ำมันเครื่อง แล้วลองสตาร์ดู ถ้า ไม่กระดุกกระดิก ชัวร์ แต่อาการที่ผมบอกข้างต้นก็คือ เฟืองขับที่ต่อจากมอเตอร์สตาร์ไม่หมุนครับหมุนแต่มอเตอร์
โดยคุณ : สามารถ R-19 [ 11 พ.ย. 2004 , 10:38:15 น.]

ตอบ คนที่ 4
สงสัยต้องหลายเงินแล้วหละถ้าหากสายพานราวลิ้นขาดจริง อาจจะ วาลว์คด อย่างเดียว ซึ่ง เป็นกรณีที่เมตตาที่สุดแล้ว จนถึงลูกสูบทะลุ เอาใจช่วย
โดยคุณ : สามารถ R-19 [ 11 พ.ย. 2004 , 10:40:28 น.]

ตอบ คนที่ 5
เหออออ
โดยคุณ : กันย์ - gun'n [ 11 พ.ย. 2004 , 11:00:03 น.]

ตอบ คนที่ 6
สายพานรูดหรือขาดครับ ขออย่าให้กระทบอะไรมากนักเอาใจช่วย
โดยคุณ : เฮง - เฮง [ 11 พ.ย. 2004 , 11:01:25 น.]

ตอบ คนที่ 7
เวลาสตาร์ทดังวิ้วเลยใช่ไหมครับ รถซ่อมไดสตาร์ทมาก่อน ปัญหาก็คงจะอยู่แค่ไดสตาร์ทนั่นแหละ สาเหตุก็คงจะเป็นที่กระเดื่องไม่ดันเฟืองเข้าไปขบฟลายวีล หาช่างซ่อมได ใหม่ครับ
โดยคุณ : rd [ 11 พ.ย. 2004 , 11:14:19 น.]

ตอบ คนที่ 8
ลืมบอกไปอีกนิดครับพอดีนึกขึ้นมาได้ ถ้าสายพานขาดรถต้องสตาร์ทได้ครับ เพียงแต่เฟืองแคมท์ไม่หมุนครับ แต่ถ้าหาก สตาร์ทแล้วได้ยินแต่เสียงมอเตอร์ทำงาน ก็ไม่ต้องคิดมาก ซ่อมระดับหลักร้อยหรือพันนิดหน่อยครับ
โดยคุณ : สามารถ R-19 [ 11 พ.ย. 2004 , 14:18:38 น.]

ตอบ คนที่ 9
....เอารถกลับมาเรียบร้อยแล้วครับ เล่นเอากังวลไปพอสมควรเลย เพราะว่าเอาเข้าอู่แถวบ้านที่นานๆเข้าที ครั้งจะเอาไปเข้าอู่อื่นก็ไม่มีช่างมาดูให้ ครั้งอู่ที่มีช่างออกมาข้างนอกได้ก็ไกลเสียเหลือเกินถ้าลากไปเป็นห่วงรถ เลยลองตามช่างแถวบ้านเอา

...ตอนแรกก็ไม่คิดว่าแค่คงเป็นที่ไดท์ หรือไม่ก็หัวเทียนมั๊ง แต่พอช่างมา ช่างบอกว่าสายพานราวลิ้นไปแล้ว ก็จำเป็นต้องลากรถไปอู่เค้า พอลากรถไปตัวผมก็เลยกลับมาหากระทู้อ่านยิ่งกังวลหนักเข้าไปใหญ่ เพราะอู่นี้เป็นช่างทั่วๆไป ไม่ใช่ช่างเฉพาะทาง 555 กลัวว่าใส่สายพานมาไม่ถูกจะพาลให้เครื่องพัง (เพราะประสบการณ์เจอช่างห่วยแก้จากเล็กกลายเป็นใหญ่มาหนแล้วเลยเข็ด คราวนั้นหมดไปเกือบสามหมื่นได้) ดีหน่อยโทรไปหาพี่เฮง ได้กำลังใจมาอีกนิด แหะๆ เลยรีบเคลียงานแล้วตามไปอู่ตอนบ่าย

....ผลปรากฏว่า สายพานไปแล้วจริงๆ เลยได้ทำการเปลี่ยนสายพานใหม่ ลูกรอกใหม่ และผมก็เลยถือโอกาศเปลี่ยนหัวเทียนไปด้วยเลย ตอนนี้เอารถกลับมาแล้ว เป็นปกติดีครับ(หวังให้มันเป็นเช่นนั้นนะ อิอิ )

....ค่าซ่อมอาการเกเร คราวนี้แพงกว่าราคาที่เพื่อนๆในนี้ซ่อมไว้พอสมควร แต่เอาเถอะคับ ไม่รู้จะตามช่างจากไหนแล้วตอนนั้น
- ค่าสายพาน 680 .-
- ค่าลูกรอก 530.-
- ค่าหัวเทียน(แบบเปเปอร์) 4 หัว 340.-
- ค่าเติมน้ำมันเครื่องที่พร่องไป 1 ลิตร 100.-
- สุดท้าย ค่าแรง 650.-

รวมทั้งหมด 2,200.- ลดแล้ว ดีหน่อยที่วาวล์ไม่คดครับ จริงๆเป็นความสะเพร่าของผมมากกว่าที่อายุสายพานมันเกิน 50,000 โลมานานแล้วก็ผลัดวันประกันพรุ่งไม่ยอมเปลี่ยนซะที
โดยคุณ : กันย์ - gun'n [ 11 พ.ย. 2004 , 17:04:41 น.]

ตอบ คนที่ 10
เพิ่งเจอคนโชคดีที่วาวล์ไม่คด ราคาที่บอกมาก็ไม่สูงมากพอดีๆ ค่าแรงก็คงบวกที่ไปลากมาด้วยนั้นแหล่ะ
โดยคุณ : เฮง - เฮง [ 11 พ.ย. 2004 , 22:28:37 น.]

ตอบ คนที่ 11
คุณกันย์ครับเกิน 50,000 kmไปเยอะใหมครับ
โดยคุณ : somk [ 12 พ.ย. 2004 , 01:00:07 น.]

ตอบ คนที่ 12
....เยอะเหมือนกันครับ แต่เห็นช่างบอกว่าที่มันรูดเพราะลูกรอกมานไปแล้วเลยทำให้สายพารรูดไปด้วย แต่จริงๆอย่าเอาอย่างผมเลยครับ เปลี่ยนๆซะเถอะไม่เท่าไรเลย แต่ถ้าทนเหนียวหนืดแล้วเกิดวาวล์คนมาละก่อน จากที่เหยียบพันกว่าบาทจะกลายเป็นเหยียบหมื่นได้ แหะๆ ...
โดยคุณ : กันย์ - gun'n [ 12 พ.ย. 2004 , 01:27:00 น.]

ตอบ คนที่ 13
ยินดีด้วยครับที่เครื่องยนต์ไม่เสียหาย...
คนใช้รถยนต์อย่างเราๆ บางครั้งก็ลืมบางครั้งก็ขอทนใช้ไปอีกนิดน่า...เดี๋ยวค่อยเปลี่ยน
โชคดีก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าโชคไม่ดีก็ต้องเสียเงินซ่อมโดยใช่เหตุ....ผมก็เคยมีบทเรียนจากคันก่อนมาแล้วท่อน้ำหมดอายุ-สายน้ำมันพาวเวอร์แข็ง
แต่ก็ยังไม่ยอมเปลี่ยน...จนท่อแตกน้ำแห้งเครื่องโอเวอร์ฮีทฝาสูบโก่ง...เสียเงินเปลี่ยนแค่ท่อน้ำไม่กี่สิบบาทไม่ยอมเสีย เลยมาเสียค่าฟิตเครื่องใหม่เป็นเงินหลักหมื่น...ผมเข็ดแล้วกับการทนใช้ของที่มันหมดอายุการใช้งาน..เข็ดจริงๆๆ
โดยคุณ : INFANTRY125 - INFANTRY125 [ 12 พ.ย. 2004 , 07:48:03 น.]

ร่วมเสนอแนะความคิดเห็น....
กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ 
จาก : *
email :
icq :
Username :
Password : สมัครสมาชิก
รูปภาพ :
ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นครับ(ไม่เกิน 50K)

รายละเอียด
Icon new Icon old
*
*

กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว
อย่ากดยกเลิกกลางคัน อันจะเป็นเหตุให้ตัวเลขกระทู้ไม่ตรงได้ครับ