นำมันเครื่องทั้ง 2 เกรด มีความต่างกันอย่างไรบ้างครับนอกจากราคา

ICQ :

ขอถามนอกประเด็น(ใช้306เหมือนกัน) ของผมเมื่อเปิดAirมีตวามรู้สึกว่าComp-Airจะปั้มน้ำยาแอร์ตลอด(เสียงฟีดค่อนข้างดัง)และเมื่อสัมผัสตัวCompreesorรู้สึกว่าจะค่อนข้างร้อน ไม่ทราบว่าเป็นเหมือนกันไหม

อันนี้ถือเป็นเกรดเดียวกันคือ สังเคราะห์ 100% ส่วนเบอร์ที่ต่างกันคือคุณสมบัติของความข้นใสที่มีผลกับการคงสภาพจากอณุหภูมิความร้อน ความเย็น และสภาพเครื่องยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานาน การที่ความข้นใสต่างกันการไหลเวียนก็มีผลต่างกัน ผมก็อยากให้ผู้มีความรู้เรื่องนี้อธิบายอีกทีครับ ส่วนของคุณ ภฉ 1928 น้ำยาแอร์ในระบบของคุณน้อยไปครับ ตรวจหารอยรั่วซึมและเติมน้ำยาแอร์ให้พอเหมาะและ wax น้ำยาคอมแอร์ด้วย

ถ้านำยาแอไม่พร่องเหมือนที่คุณเฮงว่าก็น่าจะเป็นเพราะคอมแอร์ของ 306 เป็นแบบปรับแรงดันนำยาแอร์ซึ่งจะไม่มีการตัดต่อเหมือนในรถญี่ปุ่น คือเพียงแต่ลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ลงครับ โดยจะมีเพียงการตัดของพัดลมว่าจะทำงานจังหวะ 1 หรือ 2 เท่านั้นครับ

การvaccum ในระบบปรับอากาศรถยนต์ต้องพิถิพัถันมากหน่อยนะครับซึ่งมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
1.ใช้เครื่องVaccum ที่ใช้สำหรับทำสูญญากาศโดยตรงไม่ใช้คอมฯรถยนต์มาvacเพราะประสิทธิภาพในการทำสูญญากาศแย่มาก
2. เปลี่ยนDryerทุกครั้งที่เปิดระบบ
3. ใช้เวลาในการVac นานพอสมควรไม่ควรน้อยกว่า 30 นาที
4. ทำการVacsub อีกครั้งโดยการปล่อยน้ำยาแอร์เข้าระบบประมาณ 15 ปอนด์ ติดเครื่อง เปิดแอร์ ประมาณ 3 นาที
5. ดับเครื่องแล้ว Vac อีกครั้ง 15 นาที
6. เติมน้ำยาเข้าสู่ระบบ
7. เร่งรอบเครื่องประมาณ 1500 รอบ/นาที
8. เปิดสวิทช์พัดลมจังหวะแรงสุด
9. ควรวัดแรงดันทั้งด้าน Hi - LOWและปรับปริมาณน้ำยาให้เหมาะสมกับ สภาพของคอมฯแอร์ รวทั้งประสิทธิภาพการระบายความร้อนของคอยล์ร้อนด้วย
การเติมน้ำยาเข้าระบบไม่ควรทำอย่างรีบเร่งด้วยการยกถังน้ำยาคว่ำและอยู่สูงกว่าคอมฯมากๆ(ทำแบบนี้เติมน้ำยาได้เร็วดี)เพราะน้ำยาแอร์ที่เป็นLiquidจะไหลเข้าสู่คอมฯอย่างรวดเร็วทำให้ลิ้นคอมฯแตกได้

ผมจะพยายามใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดน้อยที่สุดเท่าที่เครื่องไม่มีปัญหาครับ เช่น กินน้ำมันเครื่อง เพราะความหนืดทำให้เกิดความเหนียว และตอนสตาร์ทเครื่องตอนเช้าน้ำมันเครื่องเหลวจะไหลผ่านได้ดีกว่า และประหยัดน้ำมันเบนซิลครับ ตอนนี้ผมเติม 0 - 40 วิ่งมา 1 - 2 พันกว่าโล น้ำมันเครื่องยังไม่หายไปไหนเลยครับ คราวหน้ากะจะลองหา เกรด 30 มาใส่ดูครับ

คุณแสนดี ผมขอแนะนำหน่อยนะครับ ตามความคิดของคุณก็ถูกต้องอยู่ เมื่อน้ำมันเครื่องใสก็ย่อมไม่มีความหนืด มันเหมือนช่วงหนึ่งที่ คาลเท็กซ์นำน้ำมันเครื่องประหยัดพลังงานออกมาใช้ ปัญหาของเครื่องยนต์ไม่ใช่อยู่ที่กินน้ำมันเครื่องอย่างเดียวนะครับ คุณแสนดีลองเปิดคู่มือที่ติดรถมาดูครับ จะมีเบอร์แสดงไว้ว่าควรใช้เบอร์อะไร จากประสพการณ์ที่พบมา และพบบ่อยด้วยคือ แคมชาร์ฟจะสึกหรอจะมีผลกับเครื่องยนต์ เมื่อมันใสมันก็หมุนเวียนเร็ว ลงเร็วเกินไปยังไม่ทันเคลือบพวกบ่าบาวล์ แคมชาร์ฟ อื่นๆ ก็ถูกหมุนลงไปแล้ว ผมเสนอแนะนะครับลองพิจารณาดู เบอร์น้ำมันเครื่องมีผลกับเครื่องยนต์และสำคัญด้วยครับ ยิ่งเมืองไทยเมืองร้อนต้องพิจารณามากๆ ไม่เห็นผลทันทีแต่สักระยะหนึ่งจะออกอาการให้เห็น