รถผม 405GR ยางล้อ 15 นิ้ว195 กินนำมันในเมือง 5-6 กม/ลิตร นอกเมือง 8.5 มันมากกว่าที่ควรอยากจะติดอุปกรณ์ประหยัดนำมันมันลดได่10-30% หรือเปล่า ถ้าท่านเคยใช้หรือคิดว่าจะใช้ช่วยออกความเห็นด้วยว่าสมควรไหม..ผมกำลังจะไปติด ensave ที่วิภาวดี ราคา 3900 บาท เลยมาโพส์ตถามก่อน เพื่อท่านมีข้อแนะนำอื่นใดกว่านี้จะได้มั่นใจได้ว่าประหยัดหรือไม่..ขอคำแนะนำและขอบคุณด้วยครับ

ICQ :

มันไม่ได้ผลอย่างที่คุณคาดคิดไว้....10 - 30% หรอกครับ
เครื่องไม่สมบูรณ์มากกว่า ควรปรับแต่งที่คาร์บูร์ฯ ตรวจสอบการตั้งองศาการจุดระเบิดและ Vacuum ที่ข้างจานจ่ายก่อนว่าปกติดีหรือไม่ น่าจะช่วยลดการกินน้ำมันแน่ๆ และมากกว่าอุปกรณ์ที่คิดจะติดตั้งอีก

ผมเคยสอบถามแล้ว เข้าใจว่าเป็นเพียงการนำไฟจากขั้วลบไปลงตามจุดต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ ทำให้ไฟเดินสะดวกขึ้น การจุดระเบิดดีขึ้น ทำให้ (ดูเหมือนว่า) จะประหยัดน้ำมันขึ้น ราคา 2-3000 บาท แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผมไปเดินห้างโลตัสที่พัทยา แผนกประดับยนต์ ไปเจออุปกรณ์ซึ่งมีหลักการทำงานคล้าย ๆ กันนี้ คือนำไฟจากขั้วลบไปกระจายลงตามจุดต่าง ๆ ของรถประมาณ 4-5 จุด เห็นขายแค่ 900 บาทเอง อันนี้แล้วแต่จะพิจารณากันเอง ผมไม่อยากออกความเห็นว่าดีหรือไม่ดี

ต้องดูระบบครับว่าเป็นตัวที่เพิ่งสัญญาณเซ็นเซฮร์ หรือเป็นเพียงแค่กราววายด์ธรรมดา ถ้าเป็นแบบพี่ baron บอกก็ทำเองดีกว่าครับ งบ 300 คุณภาพคือๆ กันอ่ะครับ แต่ถ้าเป็นตัวที่เร่งสัญญาณได้ก็ค่อยว่ากัน ผมว่าทำเล่นเองไม่ยากนะ เจอแว๊บๆ ราคา 700 เอง .....ใน RCW อ่ะ

ลองให้ช่างจูนเครื่องให้ดีก่อน ของผมก็เคยเป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่ช่างทำ 2-3ครั้งก็ดีขึ้น เคยไปขอนแก่นคนเดียว ได้13 กม./ลิตรยางขอบ15"ความเร็วไม่เกิน 120

ขอบคุณครับที่ช่วยออกความเห็น..แต่รถผมซื้อต่อจากเจ้าของเก่ามือสองแท้ วิ่งมา 1.2 แสนโลนิดๆ เครื่องเดินดีมากเจ้าของเดิมอายุมากแล้ว.งและผมวิ่งต่างจังหวัดไปตาคลี ไปกลับ 388 กมที่วิ่งไป ค่านำมัน 1,000 บาทที่ผมเติมไปไฟเหลืองถึงไฟเหลือง บ้านผมอยู่บางใหญ่ครับ ผมใช้ช่างอำนวยที่วงแหวนตลิ่งชันดู และช่างสวัสดิ์ประชาชื่นดูก็ว่าปกติดี เครื่องดีมาก วิ่งและออกตัวก็ดี เครื่องเดินก็เรียบมาก เอ้อ .เป้นเกียร์ออโต้ครับ..คันเก่าผมก็เคยใช้มาเมือปี 92 แต่ให้เพื่อนยืมไปขับชนกับเขาเมื่อปี 37 พังยับไปหมด คันนั้นเกียร์ออโต้เช่นกันวิ่งไปเมื่อพังที่ 1.8 แสนโล กินนำมันต่างจังหวัด 14 โลลิตร และในเมื่อง 9 โลลิตรผมยังจดประวัติการใช้รถทุกคันไว้เลย เพราะที่ถามมา ท่านอื่นจะ วิ่งได้ 8-10 โล/ลิตรในเมือง และนอกเมือง 12-14 โล วันนี้ผมเพิ่งกลับจากตาคลี ก็ได้เท่าที่บอกนี้มันทำไมกินมาก ยางรถก็ใหม่เอี่ยมเลย ดอกยางขนยังอยู่เลย เป็นวิวาซี่ครับ ท่านอื่นใดมีข้อแนะนำอู่ที่ท่านคิดว่าดีช่วยแนะนำด้วยนะครับ..ศูยน์ไหนไม่ไปนะครับ..แต่ใจผมก็อยากจะลองติดครับท่านใดกำลังใช้ช่วยโพส์คลงหน่อยครับ...คงมีหลายท่านคิดอย่างผม เวลานี้ เห็นมีคัทเอาท์ใหญ่ๆขี้นพวกอุปกรณ์ประหยัดนำมันนี่ยิ่งแถวปิ่นเกล้าใกล้ๆกับเซ็นทรัลยิ่งเร่งเร้าให้ผมอยากจะติดยิ่งขึ้น แต่มีหลายยี่ห้อที่ราคา เกิน 3000 บาท ยี่ห้อถูกลง ประมาณ 900 และ 790 ที่เป็นระบบวนอาการ 1-2 รอบนั้น เลยงงครับติดไม่ถูก และท่านที่แนะนำในนี้ก็แนะนำดีครับ ....ขอบคุณมากๆที่แสดงความคิดเห็น...ช่วยแสดงความคิดอื่นๆเข้ามาอีกนะครับ ผมจะรอดูทุกวัน...และท่านที่ใช้อยู่ช่วยโพส์ตเข้ามาหน่อยนะครับ...ขอบคุณครับ

อีกนิดนะครับ คันนี้ผมวิ่งทางไกลที่ประมาณ 100/กม/ขม ครับ ส่วนคันเก่าผมใส่สารเสริม สลิกใส่ลงไปเคลือบในห้องเครื่องตามที่แผนกอุปกรณ์รถตามห้างชอบแนะนำตัวนั้นตัวนี้ครับเติมเมื่อ 50000 โลแรกและใช้ตลอดมาที่ 20000 โลเติมครั้งคันนี้ก็ว่าเปลี่ยนนำมันเครื่องใหม่จะใช้..และอนนี้มี นำมันออโต้รันถ้าจำไม่ผิดลดราคามาขายที่ 890 บาทเติม 1ครั้งวิ่งได้ 1.2 แสนโลจาก1790 บาท และคันเก่าก็ใช้นำมันเครื่องสังเคราห็โมบิล 1 คันนั้รอเปลี่ยนก่อนครับ.....ที่ถามนี่จะได้มีตัวเลือกอย่างอื่นในการประหยัดและรักษาเครื่องนะครับ คันที่กินนำมันนี้เติมเชลล์เฮลิกมาครับ เพิ่มเติมตอนที่ซื้อมาละครับ..และวิ่งไปยังไม่ถึง 2000 โลเลย...แนะนำด้วยนะครับ

ผมคงต้องดูก่อนครับว่าหลักการของอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆทำงานอย่างไรแล้วถึงจะบอกได้ว่าจะติดหรือไม่ติด

Short Version :ผมคิดเหมือนคุณชาญชัย

Long version : อย่างเมื่อก่อนที่เป็นข่าวเกรียวกราวกันกับE-Plus ที่ไม่มีอะไรมากกว่าสายไฟจิ้มเข้ามาทำลายฮวงจุ้ยของท่อไอดี อุปกรณ์อะไรก็ตามที่แค่แหย่ๆไฟฟ้าเข้าไปหรือเอาแม่เหล็กมาประกบท่อส่งน้ำมัน พวกนี้ผมคงไม่อุดหนุนครับ

ถ้าพูดกันโดยความคิดแบบบ้องตื้นอย่างผมก็คืออุปกรณ์ประหยัดน้ำมันสำหรับเครื่องยนต์เบนซินตอนนี้ไม่มีอะไรที่น่าเชื่อถือเลย

บางยี่ห้อเคลมว่า แรงขึ้น20% ประหยัดขึ้น20% อะไรทำนองนี้ เหมือนมันเป็นตัวเลขที่เพิ่งคิดได้หลังจากกินก๋วยเตี๊ยวเสร็จ ถ้าเป็นอะไรที่มันเป็นวิทยาศาสตร์จริงมันไม่น่าจะลงท้ายด้วยเลข0และเป็นเลขจำนวนเต็มตลอด

ok ถ้าผมประสาทเกินไป ก็ลองคิดแบบนี้ครับถ้าเค้าบอกว่าแรงขึ้น20%และประหยัดขึ้น20% มันก็เท่ากับว่าถ้ารถเรามี100แรงม้าและกินน้ำมัน10กิโลลิตร เมื่อใช้อุปกรณ์เหล่านี้แล้วรถเราก็จะมี120แรงม้าและกินน้ำมัน12กิโลลิตร

ซึ่งในโลกแห่งความจริง 20แรงม้ากว่าจะได้มานี่ต้องเล่นท่อกันครบสูตร หรือบูสท์เทอร์โบกัน3-5ปอนด์ หรือกระทั่งมาจากการจูนกล่องในรถบ้านทั่วไป20แรงม้าไม่ใช่เรื่องหมูๆเลย

ส่วนอัตราการกินน้ำมันให้ประหยัดขึ้นอีก2กิโลลิตรนั้นมันแทบจะเท่ากับความต่างระหว่างเครื่อง2ลิตร4สูบกับ2.5ลิตร6สูบ หรือไม่ก็เครื่อง4สูบฟิตๆกับเครื่อง4สูบที่ใกล้เน่า

เราต้องถามตัวเองก่อนซื้อตลอดเลยว่าคนขายกำลังoverclaimผลงานเค้าหรือเปล่า บริษัทที่ขายนั้นมีตัวตนหรือเปล่า ไม่ใช่บอกว่าไม่พอใจคืนเงินทันที(ที่หาพวกเราเจอ555)

ในโลกที่แม้แต่ผลิตภัณฑ์หนึ่งที่สถาบันระดับชาติให้การรับรอง มีรัฐบาลหนุนหลัง จะกลายมาเป็นของหลอกเด็กชิ้นนึง ผมว่าผู้บริโภคอย่างเราๆท่านๆยิ่งต้องคิดให้หนักและรู้ให้มากๆก่อนจะซื้ออะไรสักอย่าง

ยิ่งพักนี้ของพวกนี้ รวมถึงหัวเชื้อต่างๆมีขายกันเกร่อ หัวเชื้อยี่ห้อนึงในงานมอเตอร์โชว์เค้าบอกว่าเติมแล้วแรงขึ้น80%
ผมถามว่าเขียนผิดหรือเปล่า เค้าบอกไม่ผิด แถมบอกผมอีกว่ารับรองผล ไม่แรงขึ้น80%ยินดีคืนเงิน อันนี้ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณเอาเองนะครับ

ก็ยี่ห้อ e-plus ที่วันนี้กลายเป็นensave ที่ผู้อำนวยการสำนักหนึ่งคิดค้นมา 10 ี ปีจนต่างชาติยอมรับที่เครมไว้ในหนังสือเปิดตัวของยี่ห้อใหม่ในหนังสือพิมพ์ธุรกิจหนึ่งลงไ ว้ผมเลยฝันหวานว่า มันน่าจะประหยัดได้ท่าติดไปนานๆ คุณpunter ให้ข้อคิดดีมากๆครับ..ขอบคุณมากที่แสดงความคิดให้ผมกระจ่างทางหนึ่ง ขอบคุณครับ

อย่าไปหลงเชื่อเลย ถ้าดีจริงดังไปนานแล้วถูกหลอกทั้งเพ ทำเครื่องให้สมบรูณ์และเปลี่ยนวีธีการขับของเราดีกว่าประหยัดแน่

ถูกต้องแล้วครับ หลอกกันทั้งนั้นดีนะที่เรื่อง e-plus ประชาชนไม่เอาเรื่องคิดง่ายๆ บริษัทผลิตรถยนต์ นักวิทยาศาสตร์ กว่าจะผลิตรถออกมารุ่นหนึ่งลงทุนไปกี่ร้อยกี่พันล้าน มุ่งพัฒนาเครื่องยนต์ให้ดี ประหยัด แล้วเจ้าเครื่องที่ว่าราคาไม่กี่ตังค์ เขาศึกษามาหมดแล้วถ้าประหยัดได้จริงรถยนต์ทั้งโลกนี้ติดตั้งกันหมดแล้วจริงไหมครับ