เดี๋ยวนี้เห็นมีบริการเติมลมยางด้วยไนโตรเจน แต่เสียกะตังค์ครั้งละ 50/ล้อ มอง ๆ ดูก็ให้สงสัยว่ามันให้อะไรคุ้มค่าสำหรับการลงทุนแบบนี้หรือเปล่า แล้วเจ้าไนโตรทาว์เวอร์เนี้ยมันสามารถผลิตก๊าซไนโตรเจนได้จริง ๆ หรือมันก็แค่ลมธรรมดา ๆ แต่แหกตาเอาตังค์...หรือเติมแล้วสมรรถนะรถมันดีขึ้นแค่ไหนครับ....

ICQ :

ได้คุยกับ ช่างของ บ. ลิควิด ที่ทำเครื่องผลิตไนโตร เครื่องที่ใช้ตามปั้ม ผลิตไนโตส ได้จริง ครับ แต่ค่าความบริสุทธิ์ จะน้อยกว่า ของ ที่ใช้ในโรงงานหรือที่เติมในเครื่องบิน

ถามเค้าต่อว่า เติมแล้วดีเหรอ?? ได้ความดี ตรงที่ ยางไม่ขยายตัวเวลาร้อน น้ำหนักเบาลง แล้ว อะไร อีกไม่รู้เหมือนกัน

แต่ผมไม่เติมอ่ะ แพงเกิน ปู่ย่า ตายาย ขับรถมา ก็ เห็นเติมลม ธรรมดา ไม่เห็น จาเป็นไร (ถ้าไม่ซิ่งมาก) เนาะ

ถ้าอยู่ในกรุงเทพนะ เติมฟรีได้ที่ ศูนย์เปอร์โยต์ยนตกิจทุกศูนย์ ถ้าไม่ฟรีมาที่สุริวงศ์ก็ได้ฟรีแน่นอน

ถามว่าดีไหม ดีกว่าแน่นอน ที่เห็นชัดๆคือเต็มลมแล้วไม่ต้องเช็คเลยเป้นเดือนมันรั่วซึมน้อยมาก ถ้ายางและล้อยังดีอยู่นะ

เวลาเติมต้องใจเย็นๆ เครื่องผลิตไตรเจนที่มีทั่วไปมันขนาดเล็กผลิตได้ช้า แต่ได้บริสุทธิแน่นอน ถ้าใจร้อนก็จะมีแต่ลมเข้าไปเท่านั้นเอง แนะนำไปตอนค่ำๆเพราะคนไม่เยอะและเครื่องมันทิ้งไว้นานแล้วก๊าซน่าจะออกมาเยอะ ปกติผมก็เติมตอนเย็นๆนี่แหละ

(ดีกว่าแน่นอน ที่เห็นชัดๆคือเต็มลมแล้วไม่ต้องเช็คเลยเป้นเดือนมันรั่วซึมน้อยมาก) ของผม ลมธรรมดา สามเดือนกว่า ยังเท่าเดิมอยู่เลย

ลมยางไนโตรเจนสำหรับเติมใส่ยางรถยนต์นั้น ไม่ใช่ของแปลกใหม่แต่อย่างใด เพราะมีใช้กันมานานแล้ว ในวงการอากาศยานตั้งแต่เครื่องบินขนาดเล็ก ไปจนถึงเครื่องบินเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ก็ใช้ลมยางไนโตรเจนเติมใส่ยาง รวมไปถึงในวงการรถแข่ง ทั้งแข่งทางเรียบและทางวิบากในระดับนานาชาติ
ก็ใช้ไนโตรเจนเติมใส่ยางเช่นกัน ทั้งนี้เพราะแกสชนิดนี้ มีมวลหรือน้ำหนักที่น้อยกว่าลมยางทั่วไป แต่มีราคาแพงกว่า

ลมที่ใช้เติมใส่ยางที่หาได้จากสถานีบริการน้ำมันนั้นเป็นแกสออกซิเจน
ซึ่งนอกจากจะมีออกซิเจนแล้วยังมีส่วนผสมของน้ำผสมอยู่อีก น้ำที่ผสมอยู่กับแกสออกซิเจนนี้จะไม่มีผลเสียต่อยาง
ตราบเท่าที่โครงสร้างภายในของยางยังไม่เกิดความเสียหาย แต่เมื่อใดที่โครงสร้างภายในของยางเกิดการเสียหาย
เนื่องจากการถูกของแหลมแทง โครงสร้างใยเหล็กในยางเรเดียลก็จะโผล่ออกมาจากส่วนของยาง
ทำปฏิกิริยากับน้ำในลมยาง จนเกิดเป็นสนิมเสียหาย นอกจากนี้น้ำที่แทรกตัวอยู่ในยางยังอาจทำให้ขอบของกระทะล้อเสียหายจากการเกิดสนิมได้อีกด้วย

อีกประการหนึ่งของลมยางทั่วไปที่เป็นแกส
ออกซิเจนก็คือ เมื่อเติมลมยางออกซิเจนใส่ยางในขณะที่รถวิ่งไปบนทางที่มีพื้นผิวที่ร้อน ภายในยางจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน
เป็นเหตุให้ความดันของลมยางเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ซึ่งการขยายตัวของแกสออกซิเจนในยางนี้ จะทำให้ความดันภายในยางเพิ่มมากขึ้นจนเกินกว่าที่ยางจะรับได้ เป็นเหตุให้ยางระเบิด แต่จากการที่ร้านยางนำเอาไนโตรเจนมาเติมใส่ยางแนะนำให้ลูกค้าใช้ในยางที่เปลี่ยนใหม่จะช่วยให้ผู้ใช้รถได้รับข้อดีหลายประการ เริ่มจากแกสไนโตรเจนที่เติมใส่ยางจะปราศจากน้ำแทรกตัว
ทำให้โครงสร้างภายในของยาง และขอบของกระทะล้อ ลดความเสี่ยงจากการกัดกร่อนของสนิมอันเนื่องมาจากการทำปฏิกิริยากับน้ำในยาง แกสไนโตรเจนมีการขยายตัวอันเนื่องมาจากความร้อนน้อยกว่าลมยางออกซิเจน ทำให้ลดความเสี่ยงจากยางระเบิดได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้
แกสไนโตรเจนยังมีความดันลมยางที่คงที่ยาวนานกว่า ช่วยให้ลดความเสียเวลาจากการตรวจเชคแรงดันลมยางได้นานถึง 3 เท่า

ปัญหาตามมาว่า ถ้าระหว่างการใช้งานเกิดของมีคมทิ่มแทงยางจนลมภายในรั่วออกมาจะทำอย่างไร
ทางแก้ไขชั่วคราวอาจต้องเติมลมยางออกซิเจนปกติเข้าไปก่อน แล้วจึงค่อยนำยางไปเปลี่ยนเติมไนโตรเจนใหม่
ในภายหลัง หากพบว่าแรงดันลมยางน้อยกว่าปกติไป อาจใช้ลมยางออกซิเจนเติมใส่แทนได้บ้าง
หลายคนสนใจ เพราะความเชื่อหรือโฆษณาว่า เติมไนโตรเจน 100% แทนลม (อากาศปกติ) แล้วแรงดันลมยางจะเปลี่ยนแปลงน้อยเมื่อยางร้อน

ในความเป็นจริง อากาศก็มีไนโตรเจนผสมอยู่กว่า 75% อยู่แล้ว มีออกซิเจนกว่า 20% การขยายตัวของอากาศปกติกับไนโตรเจนล้วน ๆ เมื่อเกิดความร้อนขึ้น จึงไม่ต่างกันมาก

ปัญหาที่สำคัญกว่าและถูกมองข้าม เป็นเรื่องของความชื้นหรือไอน้ำที่ผสมอยู่ในลมที่ถูกเติม เพราะปั๊มลมส่วนใหญ่มีการกรองเอาไอน้ำออกไม่หมด หรือไม่กรองเลย ซึ่งในการเติมลมยางตามสถานที่ทั่วไป จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงลมผสมไอน้ำได้ เพราะไม่สะดวกที่เราจะตรวจสอบเมื่อความชื้นกัลบกลายเป็นน้ำ แรงดันรวมของยางจะลดลง แต่เมื่อยางร้อน น้ำจะกลายเป็นก๊าซ แรงดันจะเพิ่มขึ้น

ดังนั้น การเติมลมด้วยไนโตรเจนล้วน ๆ จึงอาจจะดีในแง่ที่มีความชื้นปนอยู่น้อยมาก หากอยากเติม ก็ควรสะดวกทั้งในการเติมครั้งแรก และการเติมครั้งต่อ ๆ ไป ถ้าเติมได้แค่ครั้งแรกแล้วครั้งต่อไปเติมด้วยลมธรรมดา (ที่มีไอน้ำปน) ประโยชน์ของไนโตรเจนก็จะลดลงไป

ข้อมูลจาก THAIDRIVERS ครับ

ร้านยางจะคิดราคา 50 บาท/ล้อ ครั้งต่อๆไปเติมฟรีตลอดครับ
แต่ตามที่ผมได้พิสูจน์มาวิ่งจากกรุงเทพไปหาดใหญ่ เมื่อถึงจุดหมายแล้ววัดแรงดันลมยาง แรงดันยังเท่าเดิมครับ ไม่เพิ่มขึ้น
ไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆที่เติมลมธรรมดามักจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2 ปอนด์

ถึง "คนแถวนี้"

ที่ผมกล่าวแบบนั้น เพราะมันเป้นข้อดีอย่างเดียว อ้ออีกข้อตามที่คุณ ธนวัฒน์ว่ามา คือแรงดันลมยางไม่เปลี่ยนหรือเปลี่ยนน้อยมากเมือ่ยางเกิดความร้อนสูงขึ้นมา (ถ้าคุณเติมไนโตนเจนบริสุทธ์จริงๆ แต่โอกาสมันน้อย ตามข้อจำกัดของเครื่องที่สร้างก๊าซ) โอกาสยางแตกจึงน้อย

คุณสมบัติข้ออื่นๆเกินกว่าคนที่ใช้รถระดับชาวบ้านอย่างคุณและผมจะเห็นได้ ถึงมันดีกว่าคุณก็ไม่เห็นประโยชน์หรือมีโอกาสสัมผัสมันอยู่ดีนั่นแหละ

ถ้าจะเอาข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียดก็ต้องดูในความเห็นที่สี่ครับ

อีกอย่างปกติผมตรวจลมยางทุกอาทิตย์ครับ ตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นรายเดือนซึ่งส่วนตัวผมถือว่านานแล้ว แค่ป้องกันไว้ก่อนเท่านั้นเอง

ส่วนตัวคุณสามเดือนลมยังไม่อ่อนก็ถือว่าดีแล้ว ที่โชคดีได้ทั้งยางและล้อที่ดีที่สุดในสายการผลิตลมจึงไม่ซึมออกง่าย

ไม่มีหลักวิชาการใดๆทั้งสิ้น อาศัยความรู้สึกล้วนๆนะคะ แต่เติมไนโตรเจนแล้ววิ่งนิ่มขึ้น แล้วก็เหมาะสำหรับคนขี้เกียจเช็คลมยาง นานๆไปศูนย์ทีก็เช็คทีนึง (เพราะฟรีอยู่แล้ว) ถ้าแวะไปร้านยางที่มีบริการ ถ้าเราไม่ๆด้เติมตั้งแต่แรกกับเขาก็เสียยี่สิบบาทค่าตรวจเติม (ให้ทิปเด็กเติมลมยสงที่ปั๊มก็10-20 บาทอยู่แล้ว)

Clear แล้วครับ...แต่ยังคิดเล่น ๆ ต่อไปว่าตอนจะเติมหากจะให้ได้ผลจริง ๆ คงต้อง Vacc เอาลมเก่าออกให้หมดซะก่อนถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด....ของผมตอนนี้ยังใช้ลมธรรมดาอยู่แต่จะเช็คทุก 2 อาทิตย์ หรือเมื่อเติมน้ำมันที่ Jet แล้วเติม 29 ปอนด์เผื่อยางร้อนมันจะเพิ่มอีก ปอนด์-2 ปอนด์จะได้ไม่อันตราย....

ก่อนเติมจะต้องปล่อย+ดูดลมยางออกให้หมดก่อน จากนั้นก็เติมไนโตรเจนแทนเข้าไป ของอย่างนี้สรุปว่า ลองใช้ด้วยตนเองดีกว่าครับ ดีก็ใช้ ไม่ดีก็เลิกใช้ เงิน 200 บาทไม่มากครับ

เพิ่มเติม ผมเติมที่ 4 ล้อ ร้อยบาทครับ อยู่แถว ถ. นวมินทร์ใกล้ถึง แยกที่เลี้ยวขึ้น ถ. เกษตร์ตัดใหม่ ข้อดีที่ต้องยอมรับว่าคือ การขยายตัวจะต่ำ ทำให้ยางมีแรงดันคงที่ โอกาสยางระเบิดมีเปอร์เซ็นน้อยเพราะว่าไนโตรเจนจะบรรจุอยู่ในหลอดไฟ ถ้าไม่มีคุณสมบัติดังว่าหลอดก็ระเบิดไปแล้ว ผมจึงเชื่ออีกคน

ลองไปดูในโต๊ะรัชดามีหลายกระทู้เหมือนกันครับเช่นhttp://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V3274170/V3274170.html
อ่านแล้วคิดตามก็มึนดี

จากการได้รู้ ได้เห็น และได้ทดสอบ พบว่ามันได้ผลจริงๆ ครับ คือว่าผมทำงานเกี่ยวกับด้านนี้อยู่ครับ ที่บริษัท..ใช้N2 เติมหัวลาก Volvo ทุกคัน พบว่า ไม่มีเหตุการณ์หรือรายงาน ว่า ยางระเบิด ระหว่างทางที่ไปส่งของให้ลูกค้าเลย แต่การเติมN2 ครั้งแรกในนั้น ต้องเติมอย่างถูกวิธีนะครับ
คือ 1. ปล่อยลมเดิมออกให้หมด
2. เติม N2 เข้าไป และปล่อยออกให้หมด
ทำอย่างนี้ ซัก 3-5 รอบ
เพื่อ Purge เอาความชื้นออกให้หมด
3.เติม N2 เข้าไป พร้อมใช้งาน