เพิ่งได้ 505 ปี 91 มาครับ จะทำยังไงให้กินน้ำมันที่ 14 กิโลฯ/ลิตรน่ะครับ ต้องเปลี่ยนคาร์บิวใหม่ หรือเปลี่ยนเครื่องใหม่ดีครับ ถ้าเปลี่ยนคาร์บิวแนะนำด้วยครับของอะไร จากรถรุ่นไหน แต่ใจมองเครื่องดีเซลบล๊อกเล็กไว้ฮะเครื่องขนาด 2000 ซีซี เทอร์โบ เป็น LD-20T ของนิสสัน จะชนกับเกียร์เดิมเปลี่ยนหัวหมูใหม่ไม่ทราบว่าผมจะต้องเปลี่ยนเฟืองท้ายหรือไม่...

ICQ :

ของผม 405 จีอาร์ แต่เปลี่ยนเครื่องของซีตรอง 2000 เกียร์ออโต้เดิม สภาพเครื่องมองดูภายนอกจัดว่าสวยไม่มีรั่วมีเยิ้ม มองดูดี (แต่ภายในไม่รู้) ท่อไอเสียไม่ดำ อุปกรณ์ที่ควรมีครบ แถมติดแคตตาไลติกของเก่าอีกอันนึงด้วย เมื่อสองวันก่อนไปสงกรานเมืองกาญจนบุรี ไปกลับ 330 กม ใช้น้ำมัน 31.5 ลิตร เป็นเงิน 720 บาท ตก 10.5 กม ต่อลิตร วิ่งความเร็ว 80-100 มีเกินร้อยบ้างช่วงแซง ได้แค่นี้เอง มันกินมากไหมครับ

น่าคิดเหมือนกัน...เพราะรถใหม่ๆ ยังทำไม่ได้เลย หรือถ้าทำได้อัตราการเร่งก็ไม่เหมือนเดิมแน่ๆ เอาง่ายๆ ไปติด lpg ถูกสุด

เครื่องเดิมๆถ้าจูนดีๆ เครื่องค่อนข้างสมบูรณ์ยังทำได้แค่ 12 km/L เท่านั้นเอง รถผมเคยทำได้ครับ ตอนขับออกต่างจังหวัด ขับที่ความเร็ว 120 โดยประมาณ นั้ง 4 คน พร้อมสัมภาระเต็มคันด้วย แค่ถ้าให้ได้ 14 คงยากครับ คงต้องพึ่งเครื่องใหม่ ดดยเฉพาะดีฌซลบลอกใหม่ๆคงได้แน่ แต่ราคาเครื่องดีเซลมันราคาไม่ถูก นอกจากนี้การแปลงรถแบบมหาศาล ผมว่ามันไม่ คุ้มกันเลยนะผมว่านะ

ดิอิมพอส

ผมว่า10-12 km/L น่าจะเป็นเรื่องปกติน่ะ

Corsa ผมเครื่อง 1.4i ยัง 10Km/L เลยครับ

เริ่มตรงไหนดีล่ะคับ มันเป็นไปได้จริงๆนะ 14 โลลิตรน่ะ แต่ต้องอดทนพยายาม ซักหน่อยนะครับ

พัดลมเครื่อง เสียงดังน่ารำคาญ ยกแผงหม้อน้ำญี่ปุ่น พร้อมพัดลมไฟฟ้าซักชุด แล้วเอาพัดลมเครื่องออก หมดปัญหาเรื่องตัวร้อนเวลารถติดได้ด้วยครับ เสียงก็เงียบลง แล้วก็ สายพานเครื่อง ไม่ต้องไปฉุดพัดลมให้เปลืองแรง

ระบบไฟฟ้า เก่าแล้วมั๊งครับ ลองเปลี่ยนพวกสายหัวเทียน + คอย์ล ให้เวลาที่เราเร่งเครื่องแล้วไม่ต้องมีอาการสะดุด เพราะจ่ายไฟไม่พอ เล่นสายความต้านทาน กับคอย์ล แรงดันสูง สักชุด

ตั้งวาวล์ 505 เป็นรถที่ไม่มีระบบตั้งวาวล์อัตโนมัติ เพราะฉะนั้น 6 เดือนตั้งทีนึงก็โอเคครับ เสียเงินไม่เท่าไหร่ แต่เครื่องเงียบขึ้น เรียบขึ้น โอเคมะ

ส่วนสำคัญที่เป็นหัวใจเลย คาบู
ไอ้ครั้นที่จะไปเปลี่ยนเป็นของ Toyota 2Y อย่างที่ชาวอู่เค้าหาทางออกในการประหยัดน้ำมัน อันนี้ก็เห็นกันเยอะครับ แต่ไม่รู้เป็นไง เห็นว่าวิ่งกันไม่ค่อยจะออก แถมสะอึกอีกซะงั้นซิน่า ก็เครื่อง toyota มันห้องจุดระเบิดมันเล็กนี่ แต่ 505 ของเราออกจะโอ่โถง มันก็จุดระเบิดได้ไม่เต็มที่ เวลาอยากจะปล่อยม้า ออกมาวิ่ง ม้าเรามันม้าเทศ ดันเอาอาหารของม้าแกลบให้กิน มันก็วิ่งอย่างกับม้าแกลบซิครับ
มีเพื่อนผมท่านนึง หันไปคบกับ WEBBER ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอัตราการจ่ายน้ำมันให้ห้องเผาไหม้อย่างรุนแรง ทำให้ม้าเทศ ออกแรงเต็มพิกัด แต่ก็ขึ้นชื่อว่า มันซดน้ำมันมากกกกกก แต่เท่าที่ได้คุย เห็นว่าอัตราการซดน้ำมัน ไม่ได้มากตามอย่างที่คิด แต่เนื่องจากค่าตัวของ Webber ของใหม่ อยู่ราวๆ 25 - 30 พัน ก็เลยยังไม่ใช่หนทางในการประหยัดซะทีเดียว
ลองกับ Solex ของเรากันดีกว่าครับ ถอดออกมาล้าง สำรวจความเสียหายตามอายุกันมั่งดีกว่า ฐานโก่งมั๊ย ภายในมีคราบสกปรกมั่งมั๊ย เอามาล้างทำความสะอาด ถ้าฐานโก่ง ก็ไสออกซัก 2 มิล แล้วรองปะเก็น เปลี่ยนนมหนูลงได้ อีก 2 เบอร์ ก็ประหยัด + แรงไม่ตก แต่จะมีสะอึกบ้างเวลาลากรอบสูงๆ (ที่รู้เพราะเพิ่งไปทำมาอ่ะครับ)
อีกอย่างนึง พยายามปรับไฟ + อากาศ ให้รับน้ำมัน 91 ไปเลยครับ ถ้าปรับเป็นตรงนี้ รับรองเลยว่า วาวล์ไม่เขก แน่นอนครับ
ตรงนี้ทำที่อยู่อาดำริห์ครับ

ท่อไอเสีย ของเดิม 1.8 นิ้ว บวกกับหม้อพักกลางแบบใส้สลับ และ หม้อพักท้ายแบบ ใส้สลับ 2 ตอน บอกเลยว่า ตื้อสุดๆ ครับผม แต่เงียบ
เดินใหม่เลย จากปลายเฮดเดอร์ ( ตัว Y ) เป็น 2.2 นิ้ว แล้วใส่หม้อพักกลางแบบใส้สลับแบบเดิมแหละครับ แต่บอกช่างว่า เอาของที่ร้านทำเอง ใส้จะทนทานกว่าพวกของมียี่ห้อ แล้วก็เดิน 2.2 นิ้วมาปลาย แล้วเอาหม้อพักแบบใส้สลับ ยาว 1 ฟุต ถ้าจำไม่ผิดของ 504 ครับ ใส่ตรงปลาย เสียงเงียบเหมือนเดิม แต่ไอเสียที่ออก แรงกว่า แล้วลองขับ รู้สึกเลยว่า รถไม่ตื้อแล้ว ที่สำคัญ ไอ้หม้อพักใส้สลับ 2 ตอน อย่างน้อยก็ 15-20 โลเลยล่ะครับ ในขณะที่ หม้อพักใส้สลับ 504 อยู่ที่ราวๆ 5 โลเอง ผิดกันเยอะ

กรองอากาศ มันตันมั๊ย เอ... หรือว่าเราหาวิธีให้มันรับอากาศเย็นๆ ไปเผาไหม้ดีล่ะ บางท่านใช้วิธี เดินท่อ ต่อกรองเปลือย บางท่านเป็นแบบบาซูก้า ก็ต่อท่อให้มารับลมเย็น
ตอนนี้ของผมใช้วิธี ไม่ใส่กรองครับ เชื่อว่าไม่ได้ขับลุยฝุ่นซะขนาดนั้น ก็เพราะมี Project ในการตีกล่อง Air Duct แล้วเดินท่อเข้าปากคาบู แล้วใส่กรองเปลือย เพื่อให้ Air Duct รับลมเย็นเข้าสู่ห้องเผาไหม้ อันนี้น่าจะวิ่งลื่นขึ้นนะครับ

สุดท้าย ที่เชื่อว่า สามารถลดอัตราการบริโภคน้ำมันได้มากกว่า 30 %
เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถ
ออกตัวให้รอบเครื่องพอดีกับอัตราเร่ง อย่าออกแบบกระชาก หรือแบบลากรอบเครื่อง
ขับแบบสบายๆ อย่างเร่ง ช้าเร็ว ต่างกันไม่ถึง 15 นาทีหรอกครับ
วางแผนการเดินทางก่อนออกจากบ้าน เพื่อจะได้ไม่ต้อง วนแล้ววนอีก

ผมเองตั้งเป้าไว้ที่ 12 โล/ลิตร ตอนนี้เดินทางมาที่ 10โลลิตรแล้วครับ

ลดสัมภาระที่ไม่จำเป็นก็ดีนะครับ ปีนึงออกต่างจังหวัด 5 ครั้ง เอาล้ออะไหล่เก็บไว้บ้านซะเลยดีกว่า

ลองดูครับ แล้วมาดูว่า จะได้เกิน 12 โล/ลิตร ตามมาตรฐานมันมั๊ย

เป็นกำลังใจให้สู้ ก่อนที่จะเปลี่ยนเครื่อง หรือ ระบบเชื้อเพลิง เป็น ก๊าซ ครับ

ปล. เชื่อผมเถอะ ก๊าซโซฮอลล์ มันไม่ได้ประหยัดกว่า 91 หรอกครับ ราคาต่างกันลิตรละ 1 บาท แต่ผลเสียอื่นจะตามมาอีกเยอะ

ลืมบอกไปครับ LD20T II มันใส่ได้ครับ แต่ บายปลายน่าดู ไม่ต้องเปลี่ยนเพลาครับ แต่เครื่องออกแนวเปราะนะครับ ถ้าจะยัดดีเซล แนะนำ 2L ถ้าเบนซินอยากประหยัด ลองเดินไปถามร้านเครื่องดูครับ 4S ขับหลัง 1800 CC ดูครับ น่าคบกว่า 6 สูบ เยอะครับ เครื่องรุ่นราวคราวเดียวกับ 1G VVTi ความสดใหม่ อยู่ในขั้นน่าคบหาครับ

ไม่ต้องบอกเรื่องเกียร์นะ เพราะคงเป็น 5 เกียร์อยู่แล้ว

คุณ 405 เก่าๆ ที่เปลี่ยนเป็นเครื่องซีตรอง 2000 คงเป็นเครื่องตัวเดียวกับ 405 SRI เพราะใช้เครื่องตัวเดียวกัน ขับที่ 80 - 100 กม./ชม. กินน้ำมัน 10.5 กม./ลิตร ผมว่ากินน้ำมันไปนะครับ ของผม 405 SRI ความเร็วที่ 110-120 กม./ชม. ได้ 13 กม./ล. เลย เคยขับที่ความเร็ว 60-80 กม./ชม. (ถนนรถเยอะทำความเร็วไม่ได้) ได้ถึง 16.8 กม./ล.จริงๆนะครับ ปกติผมขับทางไกลจะเช็คตลอด แต่ขับในกรุงเทพฯ 8 กม./ล. ครับ (เกียร์ธรรมดานะครับ) 505 14 กม./ล. ผมว่าเหนื่อยมากนะรถก็หนักเครื่องก็ใหญ่ แต่ถ้าระบบสมบูรณ์ขับไม่เกินร้อย 12-13 กม./ล.น่าจะได้

คันของผมปี 86 โอเวอฮอลคาร์บิวใหม่แล้ว ขับเนียนที่สุดไปราชบุรี รักษาความเร็ว 100 กม/ชม ยังได้ 11 กม กว่า ๆ นิดหน่อย ถ้าต้องการ 14 ผมว่าคงต้องใช้ความเร็วสัก 80 กม เปลี่ยนเกียร์น้อยครั้ง ขับนุ่มมากๆ คงเป็นไปได้มั้ง

ผมชอบเครื่อง LD-20T เพราะเห็นว่าเป็นดีเซล คิดว่าจะประหยัด หรือจะเป็น 2C-T หรือ 3C-T จากโตโยต้าดีกว่าครับ ถ้าจะเล่น 2 L ผมวางเบนซินดีกว่า ทีนี้เครื่อง 4S ออกมาราวปีไหนครับ ใช้เบนซิน 91 ได้หรือไม่..รถเก๋งมิตซู แลนเซอร์ อีคาร์ของน้องชายผมวาง 4G-93T แปลงจากขับสี่เป็นขับหน้า ก็ยังกินน้ำมันอยู่ที่ 11 กิโลฯ/ลิตร ความคิดผมว่าประหยัดมากเลย ความแรงก็วิ่งกับเครื่อง B18 C ใน EG 4 กับ SR 20 DET ในตัวถัง E 30 ได้อ่ะ...