จากสิงห์กทม.กลายเป็นสิงห์อุดรเรียบร้อยแล้วครับเนื่องจากต้องย้ายมาทำงานที่อุดรเลยต้องเอาสิงห์คู่ใจไปด้วย เดินทางจากกทม.มาอุดรด้วยระยะทาง 570 ก.ม. ด้วยอัตราการกินน้ำมัน 16.5 ก.ม./ลิตร โดยเปิดแอร์ตามปกติ พอเข้าเขต อ. เมืองอุดรปุ๊บแอร์ก็เจ๊งบ๊งทันที โดยมีเสียงเอี๊ยดๆจากคอมฯแอร์ลักษณะเหมือนหน้าครัชไม่จับ นอนพักพอหายเหนื่อยสักครู่แล้วก็เอารถไปเช็คที่ร้านแอร์(ถามคนแถวนั้นเอาว่าร้านไหนฝีมือดีบ้าง) ทางร้านดูอาการและก้มดูคอมฯจากฝากระโปรงก็บอกว่าหน้าครัชแอร์มันแปลงมาแล้วเป็นคนละรุ่นกันเลยเกิดการจับตัวไม่สนิท (เจ้าของเก่าเค้าก็เคยบอกว่าเค้าเปลี่ยนเอาคอมบลิ๊วท์มาใส่ก่อนที่จะตกมาอยู่ในมือผม) เลยเปลี่ยนหน้าครัชใหม่ 1400 บาท ใช้ไปสักพักพบว่าแอร์ยังเกิดอาการเหมือนครัชไม่ค่อยจับในบางครั้งและรถเหมือนมีอาการไฟไม่พอโดยสังเกตจากรอบการหมุนของพัดลม ไฟหน้าปัทม์ที่กระพริบตามจังหวะของไฟเลี้ยวและที่สำคัญไฟสัญญาณแบตเตอรี่โชว์สีจางๆ เลยคิดว่าเป็นเพราะไฟอ่อนเลยทำให้ครัชแม่เหล็กมีแรงไม่พอที่จะจับตัว พอไปเช็คที่ร้านแบตเตอรี่(ยังไม่กล้าไปร้านไดโดยตรงกลัวโดนฟัน) ก็พบว่ากระแสไฟที่ชาร์จมันต่ำไดชาร์จไฟไม่พอ ไปร้านไดวัดกระแสไฟอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าไฟอ่อนจริงๆจากนั้นก็ถอดไดมาเช็คพบว่าขดลวดมันช๊อตรอบ ตอนนั้นที่ร้านหาอะหลั่ยตัวนี้ไม่ได้ เลยต้องหาตัวอื่นมาใส่แทน ไปได้ยี่ห้อ Borch (สะกดถูกป่าวไม่รู้) มือ 2 ของเบนซ์ (มีตราเบนซ์ติดอยู่)ใ่ส่แทน คิดราคาหลังเทิร์นไดตัวเก่าไปเบ็ดเสร็จ 3500 บาท ตอนแรกคิดว่าปัญหาทั้งหลายจะจบลงพร้อมๆกับตังค์จำนวนหนึ่งที่หายไปจากกระเป๋า แต่ไม่ครับ! โปรดติดตามอ่านต่อภาค 2

ICQ :