รถเพิ่งออกจากอู่ทำสีได้ประมาณ 3 อาทิตย์ ใฃ้งานประมาณ 1,000 กม.วันนี้ไปทำธุระหลายที่ ประมาณ 150 กม.การใช้งานปกติ ความร้อนปกติ 80 องศา ตอนเย็นแวะไปจ่ายค่าโทรศัพท์ที่ เยาฮัน ประมาณครึ่งชั่วโมง ลงมาหารถไม่เจอ พบแต่รถขาวโพลนไปทั้งคันมีร.ป.ภ.เต็มไปหมดสงสัยเลยเข้าไปดู อ้าวรถ....เรานี่เอง สอบถามได้ความว่ารถจอดอยู่มีควันขึ้นเต็มไปหมด เจ้าหน้าที่เลยเอาถังดับเพลิงมาฉีด พอเปิดฝากระโปรงออกแบตเตอรี่ยุบไปครึ่งลูก เลยให้เจ้าหน้าที่ถอดแบตฯออกไปทิ้ง บังเอิญมืดแล้วเลยไม่เห็นว่าอะไรเสียหายมาก เห็นแต่กรองอากาศย่น เพราะความร้อนเช้าค่อยไปดูใหม่
อาจารย์เฮง อาจารย์ทอม และท่านอื่นช่วยวิเคราะห์ วิจารณ์ด้วยครับ แบตฯใช้งาน 2 ปีพอดี

ICQ :

.....ส่วนอื่นๆเป็นอะไรบ้างเป่าคับ ถ้ามันไหม้หนักที่แบตก็น่าจะเป็นต้นเหตุจากแบต ไม่อยากคิดเลยว่าตอนไปทำสีมาเค้าคงไปยุ่งกับสายไฟแล้วมีการช๊อตแล้วรั่วของไฟในระบบแล้วคงรั่วมาก การรั่วทำให้เกิดความร้อนสะสมในแบต จนเป็นเหตุให้ไฟไหม้ได้ ตอนนี้รถผมก็มีไฟรั่วในระบบอยู่แต่ไม่มากนัก ไล่เช็คยากด้วยว่ามันรั่วตรงไหน....

อาจจะเกิดจากการเป็นสายไฟ ไม่เรียบร้อยทำให้เกิดประกายไป แล้วไปโดนเชื้อเพลิง .. เป็นไปได้หรือเปล่า

แต่ขออย่างให้เสียหายเยอะเลย

เสียใจด้วยครับที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ คงต้องไปดูตอนเช้าให้แน่ชัดก่อนว่าจุดเกิดเหตุมากจากตรงไหน ต้องเห็นสภาพครับจึงจะบอกได้ว่าเพราะเหตุใด แต่จากที่เล่ามารถไม่ได้ไหม้เป็นแปลวไฟ อาจจะเกิดจากการซ๊อตของสายไฟ หรือขั้วแบตฯ ลัดวงจร ไม่ทราบว่าฝากระโปรงรถมีฉนวนกันความร้อนติดอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่มีโอกาส ลัดวงจรสูง เอาเป็นว่าเช้าไปดูรถก่อนดีกว่านะครับ ดูสภาพแล้วค่อยมาวิเคราะห์กันอีกที พรุ่งนี้ไปที่รถกี่โมงครับ ผมจะไปที่อู่ดำริห์ช่วงสายๆ ถ้าหากผ่านไปทางด่วนพระราม 9 ก็จะใกล้กันเผื่อมีโอกาสไปดูด้วย

เท่าที่ดูคร่าว ๆ เสียหายบริเวณใกล้กับแบตฯใต้ฝากระโปรงมีฉนวนโลหะบาง ๆแต่คงไม่ช็อต รถผมจอดอยู่ชั้น 5 ใกล้กับร้านทำกุญแจ และทางลงบันใดเลื่อนผมนัดรถลากไว้ประมาณ 8.00 น.
ลักษณะไม่ใช่ใหม้เพราะเชื้อเพลิงเพราะเสียหายแต่ตรงแบตฯ เครื่องยนต์ไม่มีรอยใหม้ครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ

หากเป็นที่ไฟรั่ว ควรจะหาสาเหตุว่ารั่วตรงจุดไหนครับ ส่วนตัวผมก็เคยเป็นจอดรถทิ้งไว้ 2-3 วันไม่ได้สตาร์ท พอจะใช้รถสตาร์ทไม่ติด นึกว่าเป็นที่ไดชาร์ต แต่พอเข้าร้านไดนาโม เขาตรวจสอบว่ามีไฟรั่ว ก็เลยเช็คกันใหญ่ หากันตั้งนานจนกว่าจะเจอ ทางร้านบอกว่าส่วนใหญ่จะมาจากตัวกันขโมย แต่ของผมมาจากวิทยุต่อตรงไว้ครับ แล้วจะทำให้ไดชาร์ตทำงานหนักขึ้น แต่กรณีของคุณผมคิดว่ามาจากอู่ครับ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดใช่มั๊ยครับ แล้วการทำสีบางครั้ง ขับออกมารถกระตุกก็มีหรือเกิดอาการอื่นตามมาเพราะรถจอดหลายวัน หรือบางทีช่างอาจไปโดนสายไฟโดยไม่เจตนาก็เป็นได้ ขอให้รถไม่เป็นอะไรมากเลยครับ

.....เข้ามาเสริมคุณแสนดีครับ ส่วนใหญ่ไฟรั่วในระบบเกิดที่ระบบกันขโมย แล้วอีกจุดคือแอมป์ที่ติดๆกันครับ วิธีเช็คง่ายๆด้วยมือเราเอง คือขณะจอดรถ(ไม่ต้องสตารท์)ลองถอดสายไฟขั่วลบ(-)ออกจากขั่วแบต แล้วให้เอาขั้วลบนั้นแตะๆที่ขั้วลบจากแบตดู แล้วสังเกตุว่ามีประกายไฟหรือไม่อย่างไร ? ถ้าไม่มีประกายไฟก็เป็นปกติ แต่ถ้าแตะๆกับแล้วมีประกายไฟเกิดขึ้นแสดงว่ารถคุณมีไฟรั่วอยู่ในระบบแล้วคับ จะรั่วมากรั่วน้อยก็ลองสังเกตประกายไฟที่เกิดขึ้นได้ครับถ้ามีน้อยก็รั้วน้อยแต่ถ้าแตะนิดเดียวประกายไฟแลบเยอะมาก ผมว่าเอารถเข้าเช็คดีกว่าครับ .....

ได้อ่านบทความของท่านทางเวป เรย์โนลต์ บางครั้งเกิดจาก ความไม่ได้ตั้งใจของช่างหรือจากความชุ่ยของช่าง ซึ่งแต่ละท่านรับผิดชอบงานไม่เหมือนกัน กรณีไฟรั่ว ก็เจอมา 2 - 3 ครั้ง ที่เกิดจากไดสตาร์ท ที่ช่างต่อไว้แล้วขั้วมาแตะกัน จอดติดไฟแดงออกเกียร์ 1 ยังไม่สุดเกียร์เลย รถดับวูบ กดแตรก็ไม่ดัง สวิสท์ไฟฉุกเฉิน ก็เปิดไม่ได้ เรียกช่างมาดูปรากฏว่า ไม่เหลือไฟไว้ในแบตเตอรี่เลย คือโวลท์ เป็นศูนย์ นี่ถ้าหากขับออกต่างจังหวัด จะทำอย่างไร บทเรียน ครั้งนี้ราคาแพงมาก

สงสัยจะเป็นไฟฟ้าลัดสงจรแน่นอน(สันนิษฐานแบบ ตร.)
...ด้วยภูมิปัญญาอันน้อยนิด..ผมว่าขั้วแบตเตอรี่ขั้วบวกคงสัมผัสผับฝากระโปรง
ลัดวงจรแน่นอน...ชัวร์หรือมั่วนิ่ม