วันเสาร์ที่ผ่านมา ได้โอกาส เลยเปิดกระโปรล้างห้องเคริ่องซะหน่อย เริ่มจาก น้ำยาล้างห้องเครื่องที่เป็นแบบสเปรย์ ฉีดล้างก่อนตามจุดต่างๆที่เห็นว่าสกปรก ทิ้งไว้ 5 นาที จากานั้น ใช้น้ำฉีด ตามด้วยใช้ลมฉีดตามอีกครั้ง เห็นว่าเครื่องสะอาดดีก็ดีใจ จากนั้นก็ทิ้งให้แห้งแล้วก็ลง แวกซี่ ตาม เครื่อเงาวับตั่งใจคิด

ICQ :

มีต่อ ภาค 2 ครับ
เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ....
..........พอสตาทร์เครื่องเท่านั้นแหละ เครื่องกระตุกๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่เคยเป็นมาก่อนตกใจมากๆๆ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ หกโมงเย็น จะค่อยๆไปที่อู่ก็ไม่ทันเพราะปิดแงล้ว ทำไงดีหว่า.....ตายแล้ว.. ก.. ทำอะไรไม่ถูก นั้งฟังเสียเครื่องยนต์อยู่นาน ฟังไปฟังมา ก็คิดได้ ...หัวเทียน...บิงโก ดับเครื่องทันที ลองถอดสายหัวเยนมาดู โอ้โห..น้ำหลุดมาเต็มเลย จากนั้นเลย ถอดสายหัวเทียนมาพ่นลมทันที..พ่นอยู่นานจนแน่ใจ แล้วใส่กลับ ลองสตารทดู เครื่องเดิมเรียบเหมือนเดิม โอ้พระเจ้าช่วย หลังจากนี้จึงมีเรื่องอยากถามพี่ๆ ว่า จะมีอะไรต้างเช็คอีกมั้ยครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ

505 ผมก็ประมาณนั้นล่ะครับ ก่อนล้างเอาถุงดำมาตัดเป็นชิ้นๆ ครอบจานจ่าย หัวเทียน กล่อง ECU กล่องฟิวส์ อย่าให้น้ำเข้า นอกนั้น โดนน้ำได้หมดล่ะครับ แนะนำ เอาน้ำยาล้างเครื่องสีแดงๆ น่ะครับ เทใส่ถาด เอาแปรงจุ่มแล้ว ป้ายๆ ทั่วทุกซอก ทิ้งไว้ 5 - 10 นาที แล้วเอาน้ำฉีด ออกเหมือนกันครับ รู้สึกจะแกลลอนละ 350 มั๊งครับ ไม่แน่ใจ (ผมขออู่มาใช้)

ของผมใช้น้ำยาล้างล้อ(ยาง)ที่เป็นโฟมล้างแบบไม่ต้องล้างออก มันล้างคราบน้ำมันต่างๆสะอาดดีและไม่มีปัญหากับหัวเทียนและผวกสายยางต่างๆเป็นมันสวยงามดีเท่าที่ล้างมาไม่เคยพบปัญหาใดๆเลยห้องเครื่องสะอาดดีด้วยครับ

ต่อ ไปได้สูตรมาจากเพื่อนที่เป็นเต็นรถเคยถามว่าทำไมรถที่มันขายห้อเครื่องสะอาดจังเลย มันบอกใช้วิธีนี้มันสะดวกดีตามช่องเล็กๆในห้องเครื่องสะอาดหมดมีข้อเสียอยางเดียวคือ มันแพงกระป๋องละ100กว่าๆใช้ได้2ครั้ง แต่ถ้าสกปรกมากๆก็ได้ครั้งเดียว

ตอนนี้ใช้ถุงก๊อบแก็บคลุมจานจ่ายไว้ก่อนส่วนแถวๆหัวเทียนจะไม่ค่อยไปยุ่งกับมันครับ เสร็จแล้วก็เอาเครื่องเป่าลมเป่าครับ (ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีด)

ตอนนี้ขาวนวลจอดอยู่ที่ริมชายหาดกะรนครับ มาภูเก็ตได้อาทิตย์กว่าๆแล้ว สงสารรถมากโดนไอทะเลทั้งวันเลย อีก 2 อาทิตย์จะเอากลับกรุงเทพแล้ว คงต้องล้างห้องเครื่องอีกครั้งเพราะแวะไปเกาะลันตามาด้วย ฝุ่นเยอะมาก

ที่ภูเก็ตเจอ 405 เยอะมากครับส่วนใหญ่เป็น GR ครับ

ห้องเครื่องไม่จำเป็นอย่าให้น้ำเข้าไปเกี่ยวข้องเลย ผมเห็นรถที่เข้าไปล้างอัดฉีด วิ่งมาเครื่องร้อนๆด้วยแล้วฉีดไปโอ้โห..อุปกรณ์โลหะโดยเฉพาะสายไฟหรือท่อยางกำลังร้อน เจอน้ำเข้าไปหดตัวยิ่งกว่าเต่าอีก แถมน้ำเข้าไปที่อับชื้นทำให้เป็นสนิมได้ง่ายด้วยครับ ของผมรักษาประจำโดยใช้แปรงปัดฝุ่นก่อนแล้วก็เอา WAX ที่เช็ดเบาะเช็ดให้เงา สลับกับ SONEX ฉีดให้ทั่วห้องเครื่องในบางครั้ง หรือถ้าประหยัดใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดก็ได้ ของผมห้องเครื่องสะอากดีถ้านอนได้ผมคงเข้าไปนอนทุกๆคืนเลยแหละ

แค่อยากจะบอกว่า ควรจะต้องถอดขั่วแบตฯ ออกด้วยนะครับ

คุณ joker 306 ครับ ไม่ทราบว่าใช้ brand อะไรครับ เพื่อผมจะได้ไปซื้อใช้บ้าง ขอบคุณครับ

.....ยังดีนะคับ ของผมล้างห้องเครื่องทีไรสตาร์ทไม่ติดทุกทีครับ ไม่น้ำเข้าจานจ่าย ก็เข้าตรงหัวเทียน หลังๆเอาพลาสติกคลุมค่อยดีหน่อย แต่ก็ไม่ได้ล้างห้องเครื่องมานานแล้ว แหะๆ เปิดกระโปรงดูทีไรเขร่อไปหมดอะคับ อิอิ ส่วนของผมผมล้างโดยใช้สเปร์ล้างห้องเครื่องกระป๋องละ ร้อยกว่าบาท ของ SONAX ครับเป็น Engine Cleaner โดยตรงเลย ฉีดแล้วทิ้งไว้สักพักค่อยเอาน้ำฉีดออกก็สะอาดเลยครับ กระป๋องสีเขียวๆโลตัสก็มีขายครับผม .....

ของผมล้าง 50 บาท แต่ต้องเสียเพิ่ม 2000 กว่าบาท คือ ไดชาร์ตเสียตามมาอีกหนึ่งสัปดาห์ รีเลย์คอมแอร์ 100 กว่าบาท ช่างมันยังมาโทษว่าของเราเก่าแล้ว เซ็งเลย

ได้ทุก brand ครับเน้นราคาไม่แพง

 

โทษทีครับเขียนจากโทรศัพท์มือถือ
มีช่าง PG บอกผมว่ารถฝรั่งเศส (PG) ก็เหมือนคนฝรั่งเศส คือไม่ชอบอาบน้ำแต่ใช้น้ำหอมเยอะๆแทน เห็นท่าจะจริง

เห็นด้วยกับคำตอบที่ 6 ของคุณบอย 13 ไม่อยากนึกถึงภาพที่เครื่องยนต์กำลังร้อนแล้วฉีดด้วยนำเย็น ความเสื่อมของเครื่องยนต์และอุปกรณ์อื่นๆ ย่อมมีไม่น้อยทีมองไม่เห็น มีบางคนถึงกับเสียเงินไปเปลี่ยนมอเตอร์เดินเบา อาการเครื่องเดินไม่เรียบก็ยังไม่หาย เพราะยังมีนำขังอยู่ที่หัวเทียน โปรดระวังนะครับ