ในที่สุดวันนี้ก็ได้เช็คกำลังอัดเครื่องยนต์จนได้ หลังจากผลักผ่อนไปหลายครั้ง เนื่องจากกลัวมันกำลังตก แล้วก็เป็นดังที่คาดหมายไว้ เพิ่งรู้มาตลอดว่า ตั้งแต่ได้รถมา ขับรถเครื่องเริ่มหลวมมาโดยตลอด........อาดำริห์เคยพูดไว้ตั้งแต่ได้รถวันแรก แล้วไปให้อาแกเช็ค แกบอกว่า ยังไงน่าจะเปิดฝาสูบ ไอ้เราไม่เชื่อเพราะคิดว่ารถใหม่ ไม่น่าจะเครื่องเริ่มหลวม ( แต่วิ่งมา 180,000 แล้วนะ )

วันนี้ได้โอกาสวัดกำลังอัด เห็นอาแกบอกว่า ขนาด Gri ตัวเลขกำลังอัดอยู่ที่ 175 และรถที่ทำการโอเวอร์ฮอลน์เครื่องไป กำลังอัดจะอยู่ที่ 180 ตามค่าจากเกจท์วัด......รถผมเหลือ 155....บางสูบ 160 ไม่เท่ากันซักสูบเลย....

วันนี้เลยตัดสินใจให้อาโอเวอร์ฮอลน์เครื่องให้ใหม่ ทำไส้ในใหม่ทั้งตัวเลยทีเดียว ดีใจได้แคมองศาสูง (ของจริง) อีก 1 อัน หวังว่า GTR พอออกจากอู่มาคงจะแรดได้มากกว่าเดิม รอบนี้คุมงบไว้ ประมาณ 20,000 เฮ่ออออ เดือนนี้ใช้เงินเปลืองจริงๆ

เครื่องเริ่มหลวม แต่ไม่มีควันขาวเลย..........
สงสัยวันงานรวมพล คงไม่ได้เห็น GTR ใส่ชุดแต่ง Extream ของทาง Carcept แน่ๆ เลย งบหมดซะก่อน......

ICQ :

.....ก๊ากก ของแสดงความยินดีกับช่างที่อู่ดาด้วย ได้ฟังเครื่องเสียงใหม่ 555 ติดมาไม่ทันไรเอาไปให้ช่างฟังซะและ คริ๊กๆๆ คืนนี้แว๊บไปแงะดีกว่าเฟ้ย 55555 ...

สงสัยมันหลวมตอนที่วิ่งได้200กว่านั่นแหละ อิอิ

เดี๋ยวผมก็จะเอารถไปเข้าอู่อาเหมือนกัน ของผมก็น่าจะหลวมแล้วเหมือนกัน เพราะตอนนี้ไม่ค่อยมีกำลังแถมกินน้ำมันเครื่องมากด้วย คุณอาร์ตทำเสร็จแล้วไปลองกันใหม่ไหมครับ เผื่อฟิตเครื่องใหม่อาจได้มากกว่า 200 นะครับ คราวนี้จะได้ลองว่าธรรมดากับออโต้ไปได้เท่าไร

เข้ามาอ่าน......ซะงั้นนะคุณอั้น

คิดว่าคงประมาณ 7 วันเสร็จ แล้วก็ค่อยรันอินอีก 3 เดือน หรือประมาณ 3,000 กิโลเมตร ถึงจะเริ่มอัดได้ แต่คิดว่าคงไม่แล้วหล่ะ เก็บไว้ใช้นานๆ ดีกว่า ตอนที่ลองนั่นแทบจะคลั่งแล้ว......แต่ที่แปลกใจคือ ขนาดเครื่องว่าไม่ฟิตแล้ว ยังวิ่งดีเลย วิ่งดีกว่ารถหลายคันที่สมบูรณ์กว่ารถอาร์ตอีก ตรงนี้น่าคิดว่ามันดีได้เพราะอะไร ในเมื่อปัจจัยหลายๆ อย่างก็ไม่ได้ต่างกัน หรืออยู๋ที่เท้า....

เข้ามาไว้อาลัย

โถ...พี่อาร์ต ก็พี่เล่นออกตัวรอบตัดเงี๊ย จอดอยู่กะที่เบิ้ลเครื่องเล่นซะงั้น สูบไม่ทะลุก็ดีนักหนาแล้ว วันหลังก็เบิร์นยางเล่นซะบ้างซิพี่ มีไรอีกน้า....นึกไม่ออกแล้ว ที่พูดมาพี่ก็ทำไปหมดแล้ว อิอิ แซวเล่นนะน้อง ได้ข่าวว่าเปลี่ยนแคม ใช้ของไรอะคับ HKSรึป่าว เปลี่ยนทั้งทีเล่น 264ไปเลยตัวนึงก็ประมาณ2หมื่น ไว้มีโอกาสแล้วขอลองหน่อยนะคับพี่ อยากรู้เหมือนกันว่าเปลี่ยนแคมแล้วเป็นยังไง

ยืมรถไปวิ่ง กทม - เชียงใหม่ สักรอบ ไม่ต้องรอสามเดือน สามวัน ก็เรียบร้อย

...รถค่าย SignifeR ละเอียดจริงๆ เล๊ย

ยืมไปภูเก็ตสักเที่ยวก็พ้นรันอินเลยอาร์ต (ซ่า) อยากแรงแบบที่ต้นยักษ์บอกเป็นไงไม่ได้ซ้ำเติมแต่เป็นบทเรียนอัดเบิ้ลรอบไปขนาดนั้นรถที่ไหนมันจะทนได้เพราะไม่ใช่รถแข่งที่ทำมาเฉพาะ 20,000.- ท่องให้ขึ้นใจ กว่าจะขายของได้ เอ้า..ใครอยากได้อะไรก็ช่วยอุดหนุนน้องอาร์ตหน่อยเร๊วววววว...........เอ้ยต้นยักษ์วันหลังผ่านไปชุมพรแล้วจะโทรไป

เปลี่ยนแหวน+บดวาล์วก็น่าจะ OK. แล้วละเสี่ย...หากให้ดีไหน ๆ ก็ถอดเสื้อแล้วก็ขัดพอร์ทไปเลยจะได้เหยียบเต็ม ๆ เท้าหน่อยไง.......

ผมว่ามันมาหลวมตอนมาอยู่กับพี่อาร์ตนี่แล้ะ

พี่ก็ว่าอย่างงั้นแหละตุลย์ 5 5 5
อ่ะเอารูปถ่ายมาให้ดูกัน แต่ก่อนเคยมีคนไม่เชื่อ หาว่าผมทำรถแล้วหมกเม็ด มาดูกันจะจะครับว่า หมกอะไรมาบ้างนอกจากความสกปรก 5 5 5 ท่อนล่างเดิมหมด ไม่มีการปรับแต่งใดๆ ทั้งสิ้น

ท่อนบนเดิมหมด ไม่มีการปรับแต่งเช่นกัน พอร์ททุกอย่าง เน่าจริงๆ มีแคมชาร์ฟแหละที่นำมาแต่งเพราะดันเป็นตามดเพียบเลย ก็ต้องแต่งเพื่อให้ไม่ให้เครื่องมันกราวน่ะครับ ส่วนการปาดฝา ขัดพอร์ทไม่มีอ่ะ เพราะเพิ่งเคยเปิดก็ครั้งนี้แหละ

ลูกสูบเดิมสนิท หลวมอีกตะหาก รอบนี้คงไม่ทำอะไรเพิ่ม นอกจากบดวาล์วเปลี่ยนแหวนพอ ทำมาเปลืองตังค์......บอกแล้วว่าขอหล่อ ไม่ขอแรงแล้วครับ ไว้หลังพ้นรันอิน มีโครงการจะนำรถไปขึ้นไดโนเทสที่ GT-one Shop เพราะมีสปอร์นเซอร์ดีอย่างพี่ต้น 406& 505man ที่อาจจะใช้เส้นสายให้ขึ้นไดโนได้ไม่แพง อิอิอิ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ เอ่อออออ วันรวมพล ถ้าห้องเครื่องผมสะอาดกริ๊กไม่ต้องแปลกใจนะ จะเอาผงซักฟอก ซักห้องเครื่องอยู่แล้วเนี่ย...

อีกมุมของความเน่าครับ ตอนนี้สิ่งที่ต้องเปลี่ยน..
1. แหวนลูกสูบ
2. ปลอกวาล์ว+วาล์ว 8 ตัวเลย ดันสึกหมด..... ( อันนี้เกินจากที่ตั้งงบไว้อีก )
3. พวกปะเก็นต่างๆ รวมกันเป็นพันเหมือนกัน
4. ได้แคมใหม่แล้ว อิอิอิ ดีที่ไม่มีตามด องศายังไม่ทราบครับ ( คิดว่าไม่น่าจะหนีของ HKS ครับพี่ต้นยักษ์ ล้อเล่นนะ มันสูงกว่าของเดิมประมาณ 2 มิลอ่ะครับ )
5. เปลี่ยนนิสัยคนขับครับ อันนี้ยากสุดเลย...

5. เปลี่ยนนิสัยคนขับครับ อันนี้ยากสุดเลย...
เหมือนผมเลยครับ