ผมขอเปิดประเด็นเรื่อง code reader เห็นทาง EA นำเครื่องมือตัวใหม่มาแสดง คือขอท้าวความเรื่องระบบการตรวจสอบเครื่องยนต์ในสมัยปัจจุบันว่าเขาได้มีการคิดค้น
วิธีการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ขึ้นมา เวลาระบบการทำงานมีปัญหาก็จะมีการเก็บรหัสปัญหานั้นๆ ไว้ใน ECU ของรถและมีไฟเตือนแสดงที่หน้าปัด
ให้เจ้าของรถทราบว่ารถมีปัญหา เจ้าของก็ต้องนำรถไปยังศูนย์บริการเพื่อใช้เครื่องอ่าน code อ่านให้ว่าปัญหาน่าจะเป็นที่ใด แก้ไขแล้ว clear code ให้
ปัญหาคือเครื่องมือที่ว่ามันอยู่แต่ที่ศูนย์ ถ้าเราสามารถหาเครื่องมือดังกล่าวอาจเป็นแค่อ่านพอทราบว่าปัญหาอยู่ที่ไหนและ clear code ได้ น่าจะทำให้ผู้ใช้รถ
ที่ชอบดูแลรถเองมีความสุขมากขึ้น ผมก็มีปัญหาเรื่องไฟเตือนครับ ระหว่างนั้นก็ไปค้นข้อมูลดูก็พบคำว่า onboard diagnostics ย่อว่า ODB เริ่มต้นจากทางฝั่งอเมริกา ต่อมาทางยุโรปก็เอาบ้าง เรียกว่า Europian onboard diagnotics (EODB) คือรถที่ออกหลังปี 1996 ทุกคันที่เข้าไปขายในอเมริกาและยุโรปต้องมีระบบที่ว่านี้ ถ้ามีระบบดังกล่าวก็จะมี socket ให้ใช้เครื่องมือเสียบเข้าไปเพื่อนำไปต่อกับเครื่องอ่าน code ช่องเสียบเรียกว่า OBD socket เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูมี 16 pin
แต่ละยี่ห้อมี protocal ต่างกันเท่าที่หาข้อมูลได้ มี 3 protocol ใหญ่ๆ
J1850 PWM The connector must have pins 2, 4, 5, 10, and 16. May or may not have additional pins.
J1850 VPW The connector must have pins 2, 4, 5, and 16, but not 10. May or may not have additional pins.
ISO 9141-2 The connector must have pins 4, 5, 7, and 16. Pin 15 may or may not be present
แต่ใน peugeot ไม่เข้าลักษณะทั้ง 3 แบบ ในรถผม peugeot 406 (ขออนุญาติกล่าวถึงแต่ 406 เนื่องจากใช้อยู่) มี pin 2,4,5,6, 10 ,11, 15,16 (ผมไม่แน่ใจนัก ทำกระดาษที่จดไว้หาย) ถ้าใครมี 406 ea9 ลองไปเปิดดูได้ครับ
ถ้าไป search google จะพบว่ามีเครื่องมือแบบที่ว่าคือใช้เพื่อหา code และ clear code ในราคาประมาณ 1000 บาท บวก ลบ แต่ปัญหาคือ connector peugeot เข้าไม่ได้
กับที่มีขาย ดังนั้นผมคิดว่า ถ้ามีเพื่อนๆ ท่านใดมีความรู้ทางนี้ ก็น่าจะสามารถสร้างเจ้าเครื่องแบบที่ว่านี้เพื่อเชื่อมต่อกับ ECU ของรถได้ สำหรับเรื่องนี้เพื่อนๆ มีความเห็นว่าอย่างไรครับ

ICQ :

ผมทำไว้ใช้เองแบบง่ายๆ พร้อมทั้งได้เอกสารประกอบมาจาก คุณปอ205 นานๆ ก็ใช้ตรวจสอบ sensor ต่างๆ ที่ ecu เก็บค่าไว้แล้วก็ clear code สักครั้ง

ไม่ทราบว่าคุณเฮงพอจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ไหมครับ
ขอบคุณครับ

วิธีของป๋าเฮง ผมยังเก็บเอกสารของมันอยู่ครับ ( ให้ป๋าเฮงมาอธิบาย ผมจะได้ไม่ต้องพิมพ์ให้เมื่อยมือ .. อิอิ )

แต่ขอเล่า เกี่ยวกับ เอกสารอีกชุดที่คุณปอ นำมาให้ คือ ในนั้นจะอธิบายเกี่ยวกับ หลักการทั่ว ๆ ไปของ ECU แล้วก็ sensor ต่าง ๆ และจะอธิบายต่อไปว่า sensor แต่ละตัวจะสามารถเช็คค่า ( ด้วยมิเตอร์วัดไฟ ) ได้อย่างไร
ผมว่าตรงนี้ น่าจะดีสำหรับ user เพราะ ใช้แค่ มิเตอร์ตัวเดียว เอง แต่อาจจะวุ่นวายบ้าง

EODB ที่คุณเหน่งบอก ถ้าผมจำไม่ผิด ใต้คอพวงมาลัยของเปอร์โยต์จะมี Socket อยู่อันสีแดงๆ ไม่รู้ว่าจะใช้หรือเปล่าครับ ? มันมีหลายๆ พินเลย ( 405Sri/Gri น่ะครับ )

ขอเพิ่มอีกนิด คือ เอกสารชุดที่ผมอธิบายไป ใครอยากจะมาช่วยศึกษาก็บอกนะครับ เพราะ ผมอยากจะรื้อออกมาลองไล่ที่ละตัว เหมือนกัน ( workshop )

กำลังหา มิเตอร์ที่เป็นดิจิตอล อยู่ครับ

ไม่มี Code Scanner ที่ใช้ได้กับรถทุกรุ่นครับ เพราะจะแตกต่างกันไปตามบริษัทที่ผลิต Engine Management System (EMS) เช่น Bosch, Magnetti Marelli, Sagem เป็นต้น ต่อให้บริษัทเดียวกัน ก็จะแตกต่างกันไปอีกตามเวอร์ชันครับ เช่น Bosch Jetronic, Motronic ครับ
ดังนั้นเราควรทราบเบื้องต้นก่อนว่ารถเราใช้ EMS ยี่ห้ออะไรและรุ่นไหนครับ

สำหรับคอนเน็คเตอร์ ODB-II ของ 406 นั้นเป็นมาตรฐาน ISO ครับ (ea9 นี่ชัวร์ครับ เมืองนอกยืนยัน แต่ D8 ของผมเนี่ยยังไม่มีใครยืนยันเลย ท่าทางต้องลองเอง ^-^) ผมลองเอาคอนเน็คเตอร์ไปลองเสียบดูก็สามารถต่อได้สนิทครับ แต่เรื่องสายสัญญาณนั้นที่คุณเหน่งบอกว่าไม่ตรงกันอาจจะความผิดพลาดจากกระดาษที่คุณเหน่งทำหายครับ

สำหรับการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์นั้นจะต้องมีอุปกรณ์อีกตัวหนึ่งมาคั่นกลางระหว่าง ODB-II กับคอม เพื่อแปลงระดับและรูปแบบของสัญญาณให้เข้าสู่คอมได้ครับ และเมื่อรับข้อมูลไปยังคอมได้ก็จะเป็นเรื่องอย่างที่คุณฤทธิ์ว่าครับ คือต้องหาเอกสารที่จะตีความสิ่งที่ได้รับออกมา หรือเอกสารที่ระบุคำสั่งที่จะสั่งงานเข้าไป

ช่วงนี้กำลังยุ่งๆ อยู่ สั่งคอนเน็คเตอร์เข้ามาแล้วยังไม่มีเวลาลองเล่นกับมันเลย ถ้าพี่ๆ คนไหนมีเอกสารเกี่ยวกับชุดคำสั่งตรงนี้ช่วยส่ง URL ให้จะเป็นพระคุณอย่างสูง จะได้ลดเวลาในการหาข้อมูลลง ต่อไปจะได้ทำตัวมอนิเตอร์ค่าเซ็นเซอร์ทุกอย่างโชว์ตลอดเวลาเอาไว้ดูเล่นครับ ^-^

ดีเลย ช่วยกันแสดงความเห็น

http://peugeot.mainspot.net/tips/obd_ii_simply.shtml

อธิบายชัดเจน ดีครับ

อีกรูปจากในเวป

You looked and found the DLC connector and it looks exactly like the illustration so the vehicle is OBD II right? Well, maybe... If your vehicle is pre-'96 there is a chance that the connector is the OBD II style and yet the system is still an OBD I. Ok, so how can I find out for sure if I have an OBD II system? Again, a simple task..if you look under the hood in the engine compartment you should be able to find the Vehicle Emission Control Information (VECI) Label. Depending on the application, the VECI Label may be located on the bottom side of the hood, the radiator fan shroud, the core support or like on this '01 Olds Alero, on the strut tower:

ตรงนี้ก็น่าจะสรุปเบื้องต้นได้ว่า
OBD II connector มีแค่แบบเดียว
ส่วนรถแต่ละคัน จะใช้ OBD I หรือ OBD II สามารถดูได้ ที่ "Vehicle Emission Control Information (VECI) Label" ตามรูป

http://www.intrepidcs.com/obdiiCables.htm

เอาอีกภาพมาดูกัน

คราวนี้มาต่อ เรื่อง ของคุณเหน่ง
ใน OBD II จะแบ่งเป็น 3 interfaces คือ
1. PWM
2. VPW
3. ISO

++ ข้อมูลได้ มี 3 protocol ใหญ่ๆ ( รายละเอียด และภาพประกอบ ของคุณเหน่ง )
J1850 PWM The connector must have pins 2, 4, 5, 10, and 16. May or may not have additional pins.

J1850 VPW The connector must have pins 2, 4, 5, and 16, but not 10. May or may not have additional pins.

ISO 9141-2 The connector must have pins 4, 5, 7, and 16. Pin 15 may or may not be present

ส่วนใน PG เป็นแบบไหนนั้น ผมดูจากเวป
http://www.scantool.net/scanned_list.shtml บอกว่า เป็นแบบ "ISO"

ตาราง นี้น่าจะอธิบายได้ว่า OBD แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร

In addition to pins 2, 7, 10, and 15, the connector should have pins 4 (Chassis Ground), 5 (Signal Ground), and 16 (Battery Positive). This means that:
PWM The connector must have pins 2, 4, 5, 10, and 16
VPW The connector must have pins 2, 4, 5, and 16, but not 10.
ISO The connector must have pins 4, 5, 7, and 16. Pin 15 may or may not be present.
CAN The connector must have pins 4, 5, 6, 14, and 16.

พออ่านไปเรื่อย ๆ ผมมาเจอว่า OBD II มันจะมี ตัว socket 2 แบบ คือ A กับ B ความแตกต่างหลัก ๆ ที่เห็นชัด คือ ตรงที่ผมทำสีแดงไว้ ( แต่ก็มีความแตกต่างในหลักการอื่น ๆ อีก ครับ )

มีข้อผิดพลาดขอแก้ไข คือ ผมใช้คำว่า OBD II ที่ถูกต้องผมต้องใช้คำว่า OBD II connector ครับ