webmasterและท่านอื่นๆ ครับ ขอความช่วยเหลือด้วยครับ ผมสงสัยการให้บริการของศูนย์สุรวงค์ว่าฟันค่าอะไหล่กับรถของคุณแม่ (406 ปี 02 มกรา v1 )ผมหรือเปล่า เพราะว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่ามมานี้ รถคันนี้ต้องเปลี่ยนหัวฉีด 4 หัวเพราะมีเสียงดังตรงเครื่องยนต์ และ เปลี่ยนกล่อง BSI เพราะว่าแอร์ไม่เย็น ผมรู้สึกว่าอะไหล่ที่เปลี่ยนมันไม่ค่อยจะเกี่ยวกับอาการที่เสียกันซักเท่าไร ทางศูนย์มั่วอาการแล้วให้แม่ผมจ่ายแพงๆหรือเปล่าครับ ผมจะติดต่อกับใครได้บ้างที่เชื่อถือได้ เพื่อทำความเข้าใจว่า รถ 3 ปีกว่า ทำไม อะไหล่ที่ไม่ควรจะเสียถึงเสียเยอะเหลือเกิน ที่สำคัญเมื่อเปลี่ยนกล่อง BSI ไปแล้วนั้น ทำให้ใช้ รีโมทเปิดประตูไม่ได้ ช่างบอกว่ากล่อง lot นี้ไม่ดี ต้องรอรุ่นใหม่จะทำการเปลี่ยนให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อไร และ ไม่มีเอกสารใดๆบ่งบอกไว้ว่าจะเปลี่ยนให้ในภายหลัง เหตุการทั้งหมดเกิดระหว่างช่างแม่ของผม ผมเสียความรู้สึกกับ peugeot มาก ไม่คิดว่าจะจุกจิกขนาดนี้ รบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ICQ :

ควรมีการพิจารณาครับ
เพื่อชื่อเสียงPGว่าเหตุและผลคืออะไร

คุณ au ผมได้ส่ง mail เพื่อสอบถามรายละเอียดต่างๆ ของรถ เผื่อจะนำปัญหาไปแจ้งให้ศูนย์ทราบ เพื่อให้ทางศูนย์ฯ ชี้แจงให้ทราบนะครับ

เห็นทาง EA เค้าโทรติดตามอยู่นะครับ
ล่าสุด คงน่าจะได้คุยกับคุณแล้วนะครับ

ขอบคุณทุกๆคนนะครับ ผมได้รับการติดต่อจากผู้จัดการฝ่ายซ่อมของศูนย์สุรวงค์เรียบร้อยแล้วครับ และได้รับคำอธิบายจนเป็นที่พอใจ

ลักษณะการทำงานของศุนย์มักเป็นแบบนี้ครับ คือตรวจเช็คแล้วสงสัยว่าเป็นตรงจุดไหน เขาเปลี่ยนอะไหล่ที่เกี่ยวข้องเลย มันอาจจะเสียที่อะไหล่ หรือระหว่างทางก่อนมาอะไหล่ ก็ได้ แต่เขาเปลี่ยนหมดซึ่งโดยมากอาการมันจะหาย แต่เปลืองเงินครับ บางครั้งแค่ฟิวส์ขาดหรือปลั๊กหลวมทำให้ระบบมันรวนหรือทำงานผิดปกติแต่ก็ต้องโดยเปลี่ยนอะไหล่ออกไปครับ หลังจากนั้นกระแสข่าวลือทางลบต่างๆ ก็ตามมาเช่นช่างเน้นการเปลี่ยนอะไหล่เนื่องจากได้เปอร์เซ็นต์ มีใบสั่งจากอู่ให้หาอะไหล่มือสองให้ก็เปลี่ยนเอาจากรถในศูนย์นั่นแหละออกมา ได้ทั้งช่าง ทั้งศุนย์ ทั้งอู่ เรื่องข่าวลบ ทั้งหลายผมก็ไม่รู้ว่าจริงไหม แต่บางครั้งเจ้าของรถที่โดยแบบเจ้าของกระทู้ก็อดคิดไปไม่ได้เหมือนกัน สรุปว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนครับ ต่อไปใครไม่ค่อยมีเวลา หรืองานเขายุ่งมากๆ แม้รถจะดีแค่ไหนก็อาจไม่ใช้ครับ ยอมจ่ายแพงกว่าได้สมถนะเท่ากันไปขับเบนซ์ แต่ถ้าจุกจิกก็ขายต่อไป ไม่ขาดทุนมากนัก ดีกว่าขับเปอร์โย ขายไม่ออกหรือขายไม่ลงครับ

ตอนนี้แและแต่นี้ต่อไปเปอร์โยต์จะเป็นรถที่ซื้อง่ายขายคล่อง(ยกตัวอย่างจะมีการจัดงานผู้ซื้อพบผู้ขายเปอร์โยต์) แฮปปี้ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องขายถูกกดราคาผู้ซื้อก็พอใจในราคาได้รถดีรถถูก แถมตรวจสภาพรถและลดราคาอะไหล่ให้อย่างประทับใจ สำหรับผมใช้เปอร์โยต์มืองสองคันละไม่ถึงสองแสน(แต่ออฟชั่นเพีบสมรรถนะตรึมขับอร่อย) ดีกว่าใช้รถป้ายแดงไอ้ที่ว่าซื้อง่ายขายคล่องห่วยๆคันละห้าหกแสนแต่หาอะไรดีไม่ได้ เข้าโค้งทีหลุดไปกินกล้วยป่าประจำ ชนเบาๆก็เล่นเปลี่ยนทั้งหัว...พูดถึงเรื่องใบสั่งจากอู่ลองคิดดูสิว่ารถเปอร์โยต์กับรถญี่ปุ่นที่มีเกลื่อนเต็มเมืองประเภทไหนที่ต้องการสั่งอะไหล่พวกนี้ ถ้ากลัว..เวลาเขาเปลี่ยนอะไหล่ก็ขอของเดิมที่เปลี่ยนกลับไปก็ได้

ผมว่ามันไม่แฟร์กับทางศูนย์ฯเลยนะ

คุณ au+ น่าจะอธิบายหน่อยว่าคุณไปเข้าใจอะไรเขาผิดไป?

สรุปว่า เราต้องค้นคว้าหาความรู้กันเองแหล่ะครับ อย่าเพิ่งใจร้อนเข้าศูนย์ สังเกตุว่าอาการที่เกิดเป็นตอนไหนช่วงไหน หากมันยังใช้งานได้ ก็สอบถามอาการและสาเหตุของรถเราจากผู้รู้ ในเว็ปนี้ก็ได้ หรือเว็ปที่เกี่ยวกับรถยนต์ จะได้เป็นข้อมูลไว้คุยกับช่าง หากช่างอธิบายไม่เข้าใจก็ขอคุยกับหัวหน้าช่างเลย สุรวงศ์ คุณสมคิด เพราะผมก็เกือบต้องเปลี่ยน BSI เหมือนกัน เพราะแอร์ไม่เย็นนี่แหล่ะ แต่เผอิญ โชคดีที่ผมซักไซ้แล้ว เหตุผลที่ได้ไม่สมเหตุสมผล สุดท้ายก็เปลี่ย ขดลวดพัดลมให้ก็หาย เรื่องรถเปอร์โยต์ซื้อแล้วต้องทำใจ ผมเคยต้อง
เปลี่ยน สมองเกียร์ 406 ซึ่งใช้มาประมาณ 80ม000 โล (2 ปีกว่า) ซึ่งผมว่า 406 รุ่นที่ทำในไทยมีปัญหาเยอะนะเลย mail ถามไปที่ peugeot support ที่ฝรั่งเศสก็ได้คำตอบว่า เค้าให้ authorize กับ ea ในการจัดการทั้งหมดให้ไปถามเอาเอง นี่แหล่ะดังนั้นต้องช่วยเหลือตัวเองครับ

ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะ.. ปัญหาที่พบใน 406 ส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับระบบอิเล็คทรอนิคของรถเสียเป็นส่วนมาก ซึ่งระบบไฟฟ้าพวกนี้เวลาเสียมันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเหมือนระบบเครื่องยนต์หรือช่วงล่าง จนบางครั้งทำให้ช่างวิเคราะห์อาการของรถผิดพลาดไปบ้างในบางครั้ง ความเห็นของผมเป็นไปได้หรือไม่ว่ากรณีที่หากวิเคราะห์อาการผิดแล้วเปลี่ยนอะหลั่ยให้ลูกค้าไปแล้วยังไม่หายควรนำอะหลั่ยเก่าที่เปลี่ยนออกไปใส่กลับคืนให้ลูกค้าแล้วคิดค่าอะหลั่ยเฉพาะส่วนที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เสียจริงๆ ส่วนค่าแรง+ภาษี ก็คิดไปตามปกติในแต่ละครั้ง แบบนี้น่าจะเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ลูกค้าก็สบายใจและเต็มใจที่จะจ่ายเงิน ตลอดจนมีความเชื่อมั่นในภาพพจน์ของศูนย์บริการด้วย.....

ตอบคุณ A นะครับ ที่ต้องเปลี่ยนหัวฉีดได้รับคำตอบจากผู้จัดการฝ่ายซ่อมของศูนย์สุรวงค์ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของศูนย์ตรวจเช็คเจอว่าหัวฉีดทำงานผิดปรกติจึงได้ทำการเปลี่ยน (สงสัยรถแม่ผมคงไปเติมน้ำมันที่ไม่ดีมา) ส่วนตัวBSI ที่ต้องเปลี่ยนเพราะว่าตัวรีเลย์บน BSI board เสีย จึงต้องเปลี่ยน แต่point ของผมคือ อะไหล่จำพวกนี้ ไม่น่าที่จะเสียในเวลาอันสั้นและลูกค้าต้องจ่ายค่าอะไหล่ในราคาเต็ม เทียบกับรถญี่ปุ่นบ้างคันแล้วหัวฉีดกับพวกกล่องelectronicsนี้ ไม่เคยที่จะต้องเปลี่ยนเลยตลอดอายุการใช้งานนะครับ
ส่วนที่ว่าผมได้รับคำอธิบายจนเป็นที่พอใจนั้น เนื่องจากผู้จัดการฝ่ายซ่อมของศูนย์สุรวงค์รับปากว่าจะดูแลและรับผิดชอบ case ของผมด้วยตัวเอง ส่วนอะไหล่ BSI ทางศูนย์จะทำการต่อรองลดราคาค่าอะไหล่กับทางเมืองนอกให้ ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้เท่าไร ส่วนที่รถคันนี้เสียในจุดที่ไม่ควรจะเสียนั้น ผมถือว่าซวย(1 ใน100)ครับ

ผมเคยอ่านในweb ของชมรมซีตรองซึ่งตอบโดยคนใช้ peugeot ว่าหัวฉีดสามารถนำไปล้างได้ครับ เขาบอกว่าถอดไปล้างที่ ไทยนิยมดีเซล 4 ห้วราคา 2,000 บาท ครับ ในกรณีของคุณถ้ามันเป็นเพราะนำมันสกปรกก็น่าจะล้างได้ครับ