ผมมีปัญหา กับ แอร์ มาตั่งแต่ปลายปีที่แล้ว เรียกว่า ก่อนทำก็เย็น ทำไปทำมา ไม่จบไม่ว่า แล้วก็ไม่เย็น


เมื่อสัก 2 สัปดาห์ก่อน ได้เจอพี่โต้ง ( infantry ) ทางพี่โต้ง ก็เลยเปิดห้องเรียนเรื่องระบบแอร์ พร้อมทั้งเอามิเตอร์ ( ผมเรียกถูกหรือเปล่า ) มาวัดพร้อมทั้งอธิบาย

จากจุดนี้ เข็มที่หน้าปัดของมิเตอร์ สามารถบอกได้ว่า อะไรเสีย อะไรดี ได้เลย ( รบกวนพี่โต้ง ช่วยมาอธิบายต่อ ถ้ามีรูปประกอบ จะดีมาก ๆ เลยครับ )

ICQ :

วันนั้นไม่ได้อยู่จนพี่มาเพราะต้องกลับไปทำการบ้านต่อ แอร์เย็นยังอ่ะพี่

รู้ไว้ใช่ว่า ตายห่าก็ลืม(สูญ)หมด...คนสมัยโบราณมีอะไรที่รู้และเป็นประโยชน์ มักไม่ถ่ายทอดให้คนอื่นทราบ เก็บเอาไว้คนเดียว จนทุกวันนี้บางสิ่งที่ดีๆ สาบสูญตายไปพร้อมกับเจ้าตัวเอง น่าเสียดายครับ......ถึงผมจะรู้ไม่แบบรู้แจ้งแทงตลอด แต่อยากให้ผู้ที่ยังไม่รู้ในเรื่องที่ผมรู้เหมือนผมและเอาไปต่อยอดได้ ได้เท่าที่ผมรู้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนใช้รถยนต์บ้างซักนิดก็ยังดี ไม่อยากให้ถูกร้านแอร์เอาเปรียบก็พอ...
เดี๋ยวผมจะรวบรวมให้ครับ...อ.ทอม

คุณโต้งครับ คุณเยี่ยมมากเลยครับ

จากรูปจะเป็นวงจรน้ำยาครับ และอุปกรณ์ต่างๆ มีหน้าที่ดังนี้
-compressor(มีแบบลูกสูบ.สวอชเพลท,โรตารี) ทำหน้าที่ดูดน้ำยาทางด้านSuction(น้ำยามีสถานะเป็นแก็ส)แล้วใช้แรงจากเครื่องยนต์ให้ลูกสูบอัดน้ำยาให้มีแรงดันสูงแต่ยังเป็นแก๊สมีอุณภูมิสูงอยู่ส่งต่อไปยังคอยส์ร้อน
-คอยส์ร้อน มีหน้าที่ระบายความร้อนออก พร้อมกับทำการควบแน่นน้ำยาให้เป็นของเหลว แล้วส่งไปดรายเออร์
-ดรายเออร์ ก็จะกรองน้ำยาที่เป็นของเหลวพร้อมทั้งดักน้ำยาที่เป็นสถานะแก็สเอาไว้ที่ดรายเออร์นี้ น้ำยาก็จะไหลไปที่ T.E.V
-T.E.V. ซึ่งมีกระเบาะบรรจุสารเคมีที่มีการขยายและหดตัวตามอุณหภูมิ โดยกระเบาะที่ว่าจะแตะกับคอยส์เย็น เพื่อเปิด-ปิด ทางเดินน้ำยา พร้อมก็จะลดแรงดันของน้ำยาที่สูงให้ต่ำลง เข้าคอยส์เย็นต่อไป
-คอยส์เย็น ทำหน้าที่ดูดความร้อนภายในห้องโดยสารส่งมากับน้ำยา เข้าคอมฯ
เป็นวงรอบ..

สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าแอร์ของคุณทอมมีอาการอย่างไรครับ เพราะสาเหตุหลักๆก็คือแรงดันในระบบมันผิดปกติครับ แล้วสิ่งที่ทำให้แรงดันมันไม่ปกติแบ่งได้ 2 กรณีด้งนี้ 1.อุปกรณ์ทุกอย่างปกติไม่มีอะไรเสียก็มักเกิดจาก ปริมาณนำยา(R134 หรือ R12) ถ้ามากเกินไป การที่เอกซ์แพนชั่นวาล์วฉีด นำยามันจะไม่กลายเป็นไอ มันจะกลายเป็นของเหลวทำให้ตู้คอล์ยเย็นมีนำยาท่วมครับและนำยามันจะไม่กลายเป็นไอ มันจึงไม่ดูดความร้อนออกจากตู้ แต่ถ้าน้อยเกินไปการฉีดก็จะเป็นไอแต่ปริมาณน้อยทำให้เย็นไม่พอ การสังเกตก็ให้ดูจากไซท์กลาสที่ดรายเออร์ครับ ต้องให้มีฟองเล็กน้อยและนำยาฉีดวิ่งเป็นสาย
กรณีที่ 2. อุปกรณ์บางชิ้นผิดปกติก็ต้องดูเป็นจุดๆไปครับ การสังเกตุก็เริ่มต้นดูทีคอมเพรสเซอร์ว่าคลัชจับกับพูลเลย์หมุนทำงานไหม ถ้าหมุนก็ให้สัมผัสที่ท่อด้านอัด(แรงดันสูง)ระวังด้วยเพราะมันจะร้อนครับ ถ้ามันไม่ร้อนก็ดูนำยาหรือคอมมีปัญหา ถ้าร้อนก็ให้ไปจะสัมผัสที่ท่อออกของรังผี้งคอล์ยร้อนไปจนถึงท่อออกของดรายเออร์ ถ้าจุดไหนตันทางออกของมันก็จะไม่ร้อนครับ จากนั้นก็ไปสัมผัส เอกซ์แพนชั่นวาล์วถ้าร้อนก็ไม่ตัน แต่ถ้าเย็นเจี๊ยบก็ตันครับ
ส่วนการตรวจจุดรั่วของผมจะใช้นำมันคอมที่มีสีแดง(ขวดละ 80 บาท)ใส่เวลาจุดไหนรั่วก็จะมองเห็นครับ ต่างจากบางที่ที่ใช้นำยาสะท้อนแสงสีเขียวที่ต้องใช้แบลคไลท์ส่อง(แพงกว่านำมันคอมแดงครับ) เครื่องผมไม่สามารถพิมพ์คำว่านำแล้วเติมไม้โทครับ

สุดยอดโต้ง....ทอมเอ๊ยรถทอมไม่ค่อยเย็น แต่รถพี่สิเปิดนอกจากไม่เย็นแล้วมันยังร้อนอีก วันเสาร์เจอกัน..กลัวฉิบกับการถอดตู้แอร์ก็ภาวนาอย่าเป็นที่ตู้เลย...อย่าเยาะนะเว๊ยทอม..

ของพี่โต้ง จะวิเคราะห์ จากมิเตอร์ ซึ่ง มันบอกได้หลายอย่างเช่น วาล์วตัน หรือไม่ กำลังอัดคอม ฯลฯ รอดู ของพี่โต้งอีกทางล่ะกันครับ ผมว่า ง่ายดี เพราะ ร้านแอร์ก็ใช้มิเตอร์ เราจะได้ไม่โดยร้านหลอก

คุณทอมครับ มิเตอร์ที่ว่า น่าจะเรียกว่า เกจวัดแรงดันน้ำยาแอร์ครับ

ต่อแล้วกันนะครับ...
-การตรวจรั่ว (เปิดระบบแล้วยังไม่เติมน้ำยา) มี 2 แบบ แบบในออกนอก และนอกเข้าในชัวส์ ทั้ง 2 แบบ แต่แบบที่ไม่ต้องลงทุนเอาแบบนอกเข้าใน
-ติดตั้งเรียบร้อย ต่อสายดังในภาพยกเว้นสายเหลืองต่อเข้าเครื่องทำสุญญากาศ(VACUUM) เปิดวาวล์วทั้ง 2 ด้าน เดินเครื่อง จนเข็มที่เกจวัดลดลงจนสุด เดินเครื่องต่ออีก 3-5 นาที ปิดวาล์วทั้ง 2 ด้าน ปิดเครื่องVAC ทิ้งไว้ซัก 30 นาที ถ้าที่ครูสอนผมมาต้องทิ้งไว้ 24 ชม.(คงไม่มีเวลา)สังเกตเข็มด้านสีน้ำเงิน(LP) ต้องไม่มีการเพิ่มขึ้นเด๊ดขาด..เข็มไม่ขึ้นไม่รั่ว เข็มขึ้นรั่วแน่นอน....
-คราวนี้มาตรวจว่ามั่นรั่วตรงไหนล่ะ
คราวนี้ต้องเอาแบบในออกนอกแล้วครับ โดยการอัดไนโตรเจนหรือน้ำยาแอร์(ที่ใช้ไนโตรเจนก็เพราะไนโตรเจนไม่มีความชื้นแต่น้ำยาแอร์มีแน่)เข้าไปให้ภายในมีแรงดันบรรยากาศมากกว่าภายนอก(ภายนอกความดันบรรยากาศ 14.7) พอเข้าใจนะว่าแรงดันที่มากกว่าจะดันออกมาหาที่มีแรงดันน้อยกว่า....คราวนี้ก็ตรวจสอบโดยใช้ฟองแชมพู(ดีที่สุด) ทาถูๆ ๆ ตามข้อต่อต่างๆ ถ้ามีฟองอากาศปูดออกมาก็มารค์ไว้ตรวจจุดอื่นต่อไปจนครบ แล้วก็จัดการซะให้เรียบร้อย
-เริ่มทำย้อนมาตั้งแต่ขั้นตอนแรก(ไม่รั่วแล้วนะ) เพื่อเช็คตันต่อ....เกจต่อแบบในภาพเปิดวาล์ว LP ปล่อยน้ำยาเข้าให้มีแรงดันซักนิดหน่อยเหมือนปิดวาล์วถังและเกจ เดินเครื่องให้น้ำยาถูดอัดเข้าด้าน HP วิธีที่ 1 ดูเกจด้าน HP ขึ้นแล้วไม่ลงเกิน 400 (อันตราย)ให้ดับเครื่องทันที่ TEV ตันแน่
วิธีที่ 2 เดินเครื่องเปิดแอร์ให้น้ำยาถูกดูดด้าน HP เข็มขึ้นถึง 250-300 ปิดแอร์ดับเครื่อง รอดูเกจทั้งสองด้านถ้าแรงดันประบลงมาเท่ากัน TEV ไม่ตัน ถ้าด้าน HP เข็มค้างไม่ยอมลง TEV ตันเหมือนกันครับ...ตาชักลาย
(สมมุติว่าระบบสมบูรณ์แล้ว VAC-เติมน้ำยาแล้ว น้ำมันคอมปกติ)
-และบทสรุปที่หลายๆ เกจิได้ทดลองและทดสอบมาแล้วและเห็นว่าดีที่สุด มีดังนี้
-ระดับน้ำยา(ที่ป้ายข้างคอมระบุน้ำหนักไว้แล้ว) แต่...เกจิว่าไว้ดังนี้
*ติดเครื่องเปิดแอร์เร่งสุด เร่งเครื่องยนต์ให้ได้ที่ 1,500 RPM เกจด้าน LP ควรจะอยู่ในช่วง 25 - 30 ด้าน HP(แดง)ควรจะอยู่ที่ 250-300,ถ้าด้าน LP ต่ำกว่า 25 น้ำยาขาด เติมเพิ่ม,เกิน 30 น้ำยาเกิน ปล่อยทิ้ง,ด้าน HP ขึ้นไม่ถึง 250 แสดงว่าคอมแรงอัดไม่ดีอันเนื่องสภาพลูกสูบ ลิ้นดูด-อัด และที่สำคัญถ้าเข็มด้าน HP สั่งระริกระรี้ดิ๊กๆๆๆ ก็ฟังธงไปเลยครับว่าคอมสภาพแย่แล้ว ...

พิมพ์มากตาลาย เดี๋ยวอ่านเลยเข้าใจผิด
"ไนโตรเจนไม่มีความชื้นแต่น้ำยาแอร์มีแน่"
น้ำยาแอร์มีแน่ หมายถึงเรามีต้องมีแน่ๆ
แต่ไนโตรเจนอาจจะยุ่งยากไปหน่อย...และอย่าได้คิดเอาอากาศจากถังลมอัดเข้าไปล่ะสารดูดความชื้นที่ดรายเออร์จะรับเอาไว้เต็มๆ แล้วเวลาใช้งานไปความชื้นที่ค้างอยู่จะเป็นน้ำแข็งทำให้ TEV ตัน

ขอแสดงความเห็นหน่อยครับ
ถ้าเราทราบปริมาณน้ำยาแล้ว pressure ที่ได้จะสามารถนำไปวิเคราะห์อาการอุปกรณ์ต่างๆได้ครับ เช่น Isuzu ปริมาณน้ำยาประมาณ 0.7 กก. ถ้าเติมเข้าไปจนได้ปริมาณแล้ว แต่ยังไม่ค่อยเย็น และความดันด้น hi สูงกว่าปรกติ และ ที่ dryer ยังเห็นเป็นฟองเยอะ แสดงว่า condenser มีปัญหาเรื่องการระบายความร้อน ประมาณนี้ ตอนนี้ลืมหมดแล้วต้องกลับไปเปิดตำราใหม่ครับ ซ่อมทีเปิดที

วันนั้นผมก็ไปยืนฟังคุณโต้งอธิบายเรื่องมิเตอร์นี้ด้วย มาได้ความรู้ก็วันนั้นนั่นแหละเห็นแต่ร้านแอร์เอามิเตอร์มาวัดๆ แล้วก็สรุปอาการผิดปกติของแอร์รถเรา ซึ่งเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันเสียตรงไหน ถามช่างก็อมกูมิไม่ค่อยยอมบอกเพราะมันเป็นวิชาหากินของเค้า อันนี้ไม่ว่ากัน.. สรุปของคุณทอม แอร์เย็นฉ่ำตามที่ควรจะเป็นแล้วหรือยัง...

ครั้งสุดท้ายที่พี่โต้ง วิเคราะห์ว่า คอมฯมีปัญหา รื้อออกมาดูก็มีปัญหาจริง ๆ ข้างในเละ
ตอนนี้ก็ได้จัดการ กับคอมไปแล้ว ความเย็น เริ่มกลับมาดังเดิม แต่ยังไม่เป็นที่พอใจที่สุด ( กะจะเอาแบบที่ว่า จอดกลางแดด แล้วหนาว เลย ) เพราะร้านที่ไปเติม น้ำยาแอร์ พยายามจะบอกว่า ครายเออร์ตัน เติมน้ำยาไม่เข้า ( รอพี่โต้งมาวิเคราะห์อีกรอบดีกว่าครับ )