พอดีไปเปิดดูเจอบทความที่คิดว่าพอจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเราเลยเก็บมาให้ดูกันครับ อย่างน้อยก็อาจจะเป็นทางเลือกในการตัดสินใจของใครสักคนก็ได้
ข้อดี – ข้อด้อย จากการใช้ก๊าซธรรมชาติ ระบบเชื้อเพลิงทวิ (Bi – Fuel)

ข้อดีรถใช้ก๊าซธรรมชาติ ระบบเชื้อเพลิงทวิ
- ประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับน้ำมันเบนซิน 91 และ 95 ประมาณ 55 – 60%
- สามารถเลือกใช้น้ำมันเบนซินหรือก๊าซ เป็นเชื้อเพลิงได้ตามความต้องการ (สามารถปรับสวิทซ์เลือกใช้เชื้อเพลิงได้ในขณะที่รถวิ่งอยู่ )
- เครื่องยนต์ (ยกเว้นบ่าวาล์วไอเสีย) สึกหรอน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ การใช้น้ำมันเบนซิน ทั้งนี้เนื่องจาก
- ไม่มีการเจือจางของน้ำมันเชื้อเพลิงในน้ำมันหล่อลื่น
- ไม่มีสารกำมะถันเป็นส่วนประกอบจึงทำให้ความเป็นกรดในน้ำมันหล่อลื่นต่ำกว่าการใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลซึ่งมีสารกำมะถันเจือปนอยู่ด้วย
- การเผาไหม้เกิดเขม่าซึ่งเป็นมวลสารของแข็งไปเจือปนในน้ำมันหล่อลื่นต่ำกว่าการใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลจึงทำให้อายุการใช้งานของน้ำมันหล่อลื่นสูงขึ้น
ข้อด้อยรถใช้ก๊าซธรรมชาติ ระบบเชื้อเพลิงทวิ
- ต้องติดถังบรรจุก๊าซ และเนื้อก๊าซ น้ำหนักรถเพิ่มขึ้น
- เสียพื้นที่บรรจุสัมภาระ (เนื่องจากต้องติดตั้งถังบรรจุก๊าซในพื้นที่หลังรถ)
- กำลังเครื่องยนต์และอัตราเร่งด้อยกว่าการใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง (เนื่องจากเครื่องยนต์มีอากาศเข้าไปเผาไหม้น้อยลง รวมถึงน้ำหนักเพิ่มขึ้น จากถังก๊าซที่ติดตั้งเพิ่มเติม )
- ทำการตรวจเช็คและตั้งวาล์วไอเสียทุกระยะการใช้งานประมาณ40,000 – 60,000 กม.
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของ LPG ระบบหัวฉีด V.S ระบบดูด
ระบบหัวฉีด
• ไม่ต้องเปลี่ยนท่อไอดี
• ไม่ระเบิดย้อนกลับ (Backfire)
• ไม่มีผลต่อชุดกรองอากาศ
• ไม่มีผลต่อชุดก้านสูบ
• ใช้กล่องสมองกล (ECU) ควบคุมการทำงาน
• ค่าเฉลี่ยสิ้นเปลือง 0.80 บาท ต่อกิโลเมตร • ระบบดูด
ต้องเปลี่ยนท่อไอดี
• ระเบิดย้อนกลับ (Backfire)
• มีผลต่อชุดกรองอากาศ
• มีผลต่อชุดก้านสูบ
• ไม่ใช้กล่องสมองกล (ECU)
• ค่าเฉลี่ยสิ้นเปลือง 0.80 บาท ต่อกิโลเมตร

ICQ :