มีใครเคยถ่วงล้อแบบจี้โดยยกล้อหน้าขึ้นแล้วปั่นเครื่องให้ล้อหมุนที่ความเร็วประมาณ 120 บ้างไหม? และสามารถถ่วงทีเดียว 2 ล้อได้เลยหรือไม่? จากการวิเคราะห์ของผม ผมว่าการถ่วงล้อแบบนี้ของ 406 หรือ รถที่ขับเคลื่อนล้อหน้า และมีระบบ ABS
ไม่สามารถทำได้พร้อมกัน เพราะเมื่อปั่นล้อๆทั้ง 2 ข้างจะหมุนไม่เท่ากัน เนื่องจากล้อทั้ง 2 มี load ไม่เท่ากัน เพราะระบบ limited slip ในเฟืองท้าย ดังนั้นต้องทำทีละข้าง หรือ ท่านว่ามันเป็นอย่างไร รบกวนท่านผู้รู้ด้วยครับ

ICQ :

ยังไม่เคยเห็นเครื่องถ่วงจี้ทีละสองล้อครับ แต่น่าจะต้องถ่วงทีละข้างมากกว่า เหตุผลไม่ได้เกี่ยวกับ LSD หรอกครับ แต่เป็นเรื่องการหาค่าunbalanceของล้อรวมชุดส่งกำลังแต่ละข้างที่ไม่ควรให้อีกข้างมารบกวนค่าที่อ่านได้จากเครื่อง (ถ้าทำพร้อมกันค่าความหย่วงจากอีกข้างน่าจะไปรบกวนล้อที่กำลังวัด Unbalance อยู่ครับ

บี มันก็เครื่องถ่วงจี้ธรรมดานี่แหละ แต่เขายกหน้าลอย 2 ล้อ แล้วเอาขาตั้งรองใต้ปีกนกล่าง แล้วเอาตัวรับสัญญาณตัวเล็กอีก 1 ตัวไปวางที่ล้ออีกข้าง แล้วติดเครื่องเร่งความเร็วไปที่ประมาณ 120 (ไม่ได้ใช้ตัว balancer เป็นตัวปั่นล้อ) พอความเร็วได้ที่ก็กดเครื่อง balancer อ่านค่า และอ่านได้ทั้ง 2 ล้อ (ขวาทีและซ้ายที) แต่ผมสังเกตุเห็นเวลาเร่งเครื่องขึ้นไปล้อทั้ง 2 หมุนไม่เท่ากัน และเวลาจะให้หยุดเขาก็เหยียบเบรค ผมเข้าใจว่าล้อที่หมุนช้ากว่า ABS จะทำงาน และยิ่งทำให้ล้อนี้มีแรงฝืดมากขึ้นไปอีก สรุปก็เลยถ่วงได้แค่ล้อเดียว ก็เลยยกเลิกต้องถอดล้อออกไปถ่วง ซึ่งมันไม่หายสั่น
(ศูนย์ citroen ใช้วิธีนี้ แล้วก็ทำไม่ได้ โทษว่าเป็นที่เบรคข้างที่ล้อหมุนช้ากว่ามีปัญหา) ผมเลยเอารถกลับ ขับดูก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร และเท่าที่จำได้เวลาเปลี่ยนยาง 406 ผมก็ให้ถ่วงแบบจี้ เขาทำทีละข้างก็เพราะเกิดปัญหาเดียวกันนี่แหละ
ผมสงสัยว่าทำไมล้อถึงหมุนไม่เท่ากัน และ
ปั่น-เบรค ไปสักพัก ข้างที่หมุนช้าจะยิ่งฝืดเข้าไปใหญ่ ผมเลยสันนิฐานตามที่ได้ตั้งกระทู้นี้ ไม่รู้ใช่หรือเปล่า??

ขอถามพี่วันชัยครับว่า ทำไมเขาไม่ใช้ตัวปั่นล้อของเครื่องถ่วงจี้ครับ

อ่านกระทู้นี้ช้าไป
เมื่อวาน พอดีไปทำธุระที่ บริษัท จันทร์เกษม ( เป็นตัวแทนจำหน่าย พวกอุปกรณ์ถ่วงล้อ ) ถ้าได้ไปอีกผมจะลองถามเจ้าหน้าที่ที่นั่น ครับ

ที่สองล้อมันหมุนไม่เท่ากันเพราะความฝืดที่ต่างกันทั้งภายในเกียร์ และที่ระบบเบรก รวมทั้งเกิดจากเพลาสองข้างที่ยาวไม่เท่ากันทำให้แรงเฉื่อย (inertia)ของล้อทั้งสองไม่เท่ากัน รถที่ไม่มี LSD ล้อที่ฝืดหรือมีinertiaน้อยกว่าจะหมุนเร็วกว่า ส่วนรถที่มี LSD จะตรงข้ามกัน (อันนี้พี่วันชัยก็คงทราบอยู่แล้วล่ะครับ) แต่ผมสงสัยว่าไอ้เจ้า 406 มันมี LSD ด้วยหรือครับ เพราะถ้าเป็นรถไม่มี LSD เราจะสามารถยกปั่นทีละล้อโดยอีกล้อยังติดพื้นได้ซึ่งน่าจะลดeffectหลายๆอย่างลงไปครับ

ผมไม่รู้เหมือนกันว่า 406 และ C5 มี LSD หรือเปล่า แต่ที่ผมสังเกตุเห็นก็อย่างที่คุณสิงห์เฒ่าบอกมา ดังนั้นการถ่วงแบบยกทีเดียว 2 ล้อ แล้วใช้เครื่องรถปั่นล้อ(แบบที่ศูนย์ citroen ทำ) ทำไม่ได้ ตามเหตุผลที่ว่าไว้

และเมื่อวานผมเอาเจ้า C5 ไปถ่วงล้อแบบจี้ที่ร้านยางเจ้าประจำ เขาเอาขึ้นทีเดียว 2 ล้อเหมือนกัน และใช้เครื่องรถปั่นเหมือนกัน (ช่างเขาบอกว่า ใช้เครื่องปั่นเพื่อช่วยไม่ให้ขอบยางไหม้ ถ้าเอา balancer ปั่นอย่างเดียว กว่าจะให้ล้อหมุนได้ ขอบยางสึกหมด เพราะรอบ balancer เร็วมากๆ) แต่เขาเอา balancer เข้าไปจี้ด้วย ทีละล้อ
ในขณะที่ทำล้อขวา ล้อซ้ายก็หมุน แต่จะหมุนที่ความเร็วต่างกัน (ด้วยเหตุผลที่คุณสิงห์เฒ่าว่าไว้) และจะยิ่งฝืดมากขึ้นอีก
เนื่องจาก ABS มันทำงาน พอมาทำล้อซ้าย
ล้อขวาก็เกิดอาการเดียวกัน พอเสร็จช่างที่เขาไปนั่งเร่งเครื่องและเบรคก็ลงไปและไม่ได้พูดอะไร และผมก็รับรถกลับเลย (ช่างไม่ได้เอาไปลอง) ที่หน้าจอโชว์ ABS FAULT
และที่หน้าปัดไฟ ABS ก็ขึ้นเตือน ทีแรกผมนึกว่าซวยล่ะหว้า ต้องเอาไป clear fault อีกหรือนี่ แต่พอขับรถออกมาได้นิดเดียว
ไฟเตือน ABS ก็ดับไป เพราะฉนั้นข้อสรุปของผมก็เป็นจริง แต่ทำไม ศูนย์ citroen ถึงไม่รู้ หรือ คนขายเครื่อง balancer ให้ศูนย์ citroen ไม่บอก

ที่เล่ามานี้ไม่ได้มีเจตนาเอาศูนย์ citroen มาประจาน แต่การบริการบางอย่าง ผมว่าไม่มีเหตุผล ผมจึงมาหาเหตุผลตามประสาคนอยากรู้กับพรรคพวกเราในนี้ไงครับ ขอบคุณมากครับ

ถ่วงจี้ ไม่มีผลกับเกียร์หรือครับ หรือสตาร์ทเครื่องด้วยครับ