ตอบ คนที่ 1
ผมสนใจ LPG ลองค้นหาในอินเตอร์เน็ต เห็นเขาติดกัน หมื่นสอง กับ สองหมื่น ตอนนี้เชียร์ให้คนที่มีตังส์เยอะๆ ไปติดก่อน เผื่อคนติดมากราคามันจะได้ลงบมากันอีก ส่วนที่นี่ก็จะได้เป็นแหล่งบอกเล่าปัญหาและทางแก้
ลองดูกระทู้ รายงานผลการติดตั้งแก๊สคัดจาก http://www.weekendhobby.com/offroad/jeep/question.asp?id=3109
====
รายงานผลการใช้ LPG ถังแรก และอัตราสิ้นเปลือง
จาก lek(JUC)247
203.144.143.250
จันทร์ที่ , 5/7/2547
เวลา : 11:28
อ่านแล้ว = 4722 ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
วันที่ 1 เติม 55 ลิตร เต็มถัง(ขนาดถัง 58ลิตร)
ขับออกจากร้านเฮียพรศักดิ์ ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้ามหาชัย ขับแบบซิ่งๆเลยครับ เพราะอยากรู้สมรรถนะของรถที่ใช้ LPG การขับขี่ เร่งแซงไม่แตกต่างจากน้ำมันมากนัก หลังจากอัดจนพอใจแล้ว ก็เปลี่ยนมาขับไปเรื่อยๆโดยใช้ความเร็วประมาณ 110-120 กม/ชม ซึ่งเป็นความเร็วปกติในการเดินทางของผม ทุกอย่างราบรื่นดี ลองสลับไปมาระหว่างแก๊สกับน้ำมัน ก็ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งใกล้ถึงบ้านอีกประมาณ 1 กม ก็สลับเป็นน้ำมันเพื่อเตรียมจอดรถ บังเอิญเป็นจังหวะรถติด ผลปรากฏว่ารถวิ่งสะดุด เครื่องเดินไม่เรียบ จึงค่อยๆขับประคองไปจนถึงบ้าน สาเหตุเกิดจากน้ำมันยังจากไม่ทั่วระบบ จึงขับเข้าที่จนแล้วเร่งเครื่องซักพักแล้วดับเครื่อง
แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่
คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1 2
คำตอบที่ 1
วันที่ 2 เช้าสตาร์ทรถด้วยน้ำมันชึ่งเดียวติด ขับรถออกมาได้ประมาณ 1กม สลับเป็นแก๊สวิ่งจากมหาชัยไปแจ้งวัฒนะ อัตราเร่งปกติดี พอถึงสะพานพระราม 5 รถติด มากและติดไปเรื่อยๆจนถึงแจ้งวัฒนะ สังเกตุว่าเวลารถติด เครื่องเดินเรียบกว่าใช้น้ำมันนิดหน่อย ถึงที่ทำงานจอดรถดับเครื่องโดยไม่ได้สลับเป็นน้ำมัน
เย็นเลิกงานขึ้นรถสตาร์มเครื่องด้วยแก๊ส ปรากฏว่าสตาร์ทไม่ติด สตาร์ทอยู่นาน จึงลองสตาร์ทด้วยน้ำมันครั้งแรกไม่ติด จึงลงจากรถแล้วรอ 5 นาที ลองสตาร์ทใหม่ด้วยน้ำมันก็ติด แล้วก็ขับกลับมหาชัยโดยใช้แก๊ส วันนี้กลับทางเพชรเกษมรถติดสุดๆ พอถึงบ้านจอดรถก่อนดับเครื่องก็ใส่เกียร์ว่างเร่งเครื่องประมาณ 3000 รอบ แล้วสับสวิทซ์เป็นน้ำมัน รอบเครื่องวูบลงทันที่ประมาณ 3 วินาที ก็เดินเรียบเป็นปกติ เลยเร่งเครื่องนิดหน่อยแล้วดับเครื่องเพื่อสตาร์ทน้ำมันพรุ่งนี้เช้า
จาก lek(JUC)247 203.144.143.250 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 11:42
คำตอบที่ 2
คุณเล็ก ติดตั้ง LPG - Gasoline optimized controller (LGOC) ที่ช่วยปรับอัตราส่วนความต้องการของอากาศให้เหมาะสม โดยมีรู ขนาด 1 นิ้ว ที่ valve หรือไม่ เท่าที่ฟังข้อมูลมา เจ้าตัวนี้น่าจะช่วยไม่ให้สดุดเมื่อกลับมาใช้น้ำมัน ถูกต้องหรือไม่ครับ
จาก AM03 203.146.226.148 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 11:44
คำตอบที่ 3
วันที่ 3 สตาร์ทรถได้ตามปกติ ขับไปบางแค รถติดสุดๆ แต่เราใช้แก๊สเลยไม่เครียด ขับไปตามปกติ พอใกล้ถึงที่หมายก็สับไปน้ำมันตอนออกตัวจากแยกไฟแดงเพื่อกะว่าเวลาสตาร์ทใหม่จะได้ติดง่ายๆ ปรากฏว่าสับปุ๊บรถเริ่มติด เครื่องสะดุดและดับครับ เลยสตาร์ใหม่ เร่งเครื่องแรงๆ 2-3 ครั้ง กดคันเร่งแช่ไว้หน่อย พอเครื่องเดิบเรียบก็เข้าเกียร์ขับต่อไปได้ปกติ ใจหายหมดเลยครับนึกว่าเอาแล้ววว วันนี้ใช้รถทั้งวัน พอเริ่มรู้เทคนิคเล็กๆน้อยๆแล้ว ก็โอเคครับ
จาก lek(JUC)247 203.144.143.250 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 11:48
คำตอบที่ 4
คต. 2 ตัว LGOC ผมไม่ได้ใช้ครับพี่วัฒนาเนื่องจากสู้ค่าติดตั้งร้านนั้นไม่ไหว เจ้าตัวนี้ไม่น่ามีผลกับอาการสะดุดแต่อย่างใด อาการสะดุดเข้าใจว่าเกิดจากปริมาณแก๊สที่ค้างในเครื่องยนต์ตอนเราสับสวิทซ์ไปน้ำมันมากกว่าครับ ส่วนเจ้า LGOG เป็นตัวปรับปริมาณอากาศ เพื่อให้ปริมาณไอดีมากขึ้นในขณะใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงและขับด้วยรอบเครื่องยนต์ที่สูงๆ ครับ ปัจจุบันผมใช้เทิคนิคในการขับขี่แก้ปัญหาอาการสะดุดได้แล้วครับ
จาก lek(JUC)247 203.144.143.250 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 11:57
คำตอบที่ 5
วันที่ 4 เช้าขับรถจากมหาชัย ตามปกติ มองดูเกจ์วัดระดับแก๊สปรากฎว่าไฟดวงสุดท้ายดับพอดีเกือบถึงปั้มแก๊สเลยจัดการเลี้ยวเข้าไปเติมซะ เติมเต็มถังเต็มที่ได้ 44.3 ลิตร จ่ายตังค์ไป 400 บาท ย้ำ 400 บาทเท่านั้น รถวิ่งมาทั้งหมดจากวันแรก 285 กม. หักระยะทางที่วิ่งด้วยน้ำมันไม่เกิน 20 กม. จริงแล้วไม่น่าถึงด้วยซ้ำไป เท่ากับ 285-20=265 กม. สรุปใช้แก๊ส 44.3 ลิตร วิ่งได้ 265 กม. เฉลี่ย 6กม/ลิตร
คิดเป็นเงิน ประมาณ 1.60 บาท/กม. ลักษณะการใช้งานในเมือง 40% นอกเมือง 60% ประหยัดกว่าน้ำมันไม่ต่ำกว่า 1 บาท/กม. นี่เป็นถังแรกนะครับ ถังต่อไปใช้หมดแล้วจะมารายงานใหม่ครับ
จาก lek(JUC)247 203.144.143.250 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 12:10
คำตอบที่ 6
ผมคงไปติด 1-2 อาทิตย์นี้ครับ เพราะเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นแล้ว ผมใช้ประมาณ 7000-10000 บาท/เดือน มีคำถามถาม คุณ lek หน่อยครับ
- ถังที่ติดในตัวรถ ทนได้กี่ Bar ครับ
- ถังติดนอกรถ จะมีไหมอันใกล้นี้
- มีหลายคนบอกว่า น่าจะมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์สึกเร็วเพราะแห้ง
ขอคุณล่วงหน้าจ้าพี่
จาก Joke UTCC (JUC) 203.172.33.137 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 12:48
คำตอบที่ 7
สำหรับคำตอบที่ 6 คุณ JOKE
- ถังที่ติดในตัวรถ ทนได้กี่ Bar ครับ
ทนแรงดันได้ 420 ปอนด์ต่อตารางนิ้วครับ
- ถังติดนอกรถ จะมีไหมอันใกล้นี้
ตอนนี้ของอยู่ที่ร้านเฮียพรศักดิ์ 1 ใบครับ เฮียกำลังหารถไปเทียบเพื่อหาวิธีติดตั้งครับ
จาก lek(JUC)247 203.144.143.250 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 13:16
คำตอบที่ 8
เรื่องความสึกหรอผมตอบไม่ได้จริงๆครับ ข้อมูลยังไม่เพียงพอ แต่เท่าที่ทราบรถพี่โสภณใช้มา 60000 กม ยังไม่เป็นอะไรครับ
ส่วนเรื่องประหยัดชัวร์แน่ๆครับประหยัดกว่าน้ำมัน กิโลละ 1 บาทเป็นอย่างต่ำ สำหรับคุณ JOKE ก็จะประหยัดได้ 3000-4000 บาทต่อเดือนครับ เพราะคุณ JOKE ใช้รถพอๆกับผมครับ ขนาดรถพี่ TOH JUNGLE ยาง 31 นิ้ว แก๊ส 1 ถัง วิ่งได้เกือบ 300 โล สรุปว่าปัจจุบันใช้แก๊สจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 40% ครับ
จาก lek(JUC)247 203.144.143.250 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 13:25
คำตอบที่ 9
ค.ต.ที่ 2 ไอ้เจ้าตัวเนี๊ยะมันไม่เกี่ยวกับการสะดุดของเครื่องยนต์หรือการทำงานของแก๊สหรอกครับ เขาคิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาการกินน้ำมันหลังจากสับสวิทช์ไปใช้น้ำมัน เพราะถ้าไม่มีลิ้นตัวนี้อากาศก็จะเข้าทางรูอย่างเดียวซึ่งไม่พอเหมือนกับกรองอากาศตันอ่ะครับ เขาคิดให้ลิ้นเปิดได้ขณะใช้น้ำมันเพื่อการนี้โดยเฉพาะผมใช้แล้วได้ผล ก่อนจะทำก็คิดว่าแพงมาก แต่เชื่อในหลักการ,เทคนิค และถือว่าเป็นภูมิปัญญา ก็ตัดใจได้เพราะไม่รู้จะให้ที่ไหนทำ แต่ตอนนี้คืนทุนมาแล้วและขับแบบใช้น้ำมันอย่างสบายในอัตราการกินน้ำมันปกติ ขณะที่เราไปเที่ยวไกลๆ และไม่มีปั๊มแก๊ส
ค.ต.ที่ 5 ถือว่าเป็นอัตราที่ถูกต้องแล้วครับ ขับแบบสบายๆ ไม่ต้องคอยยกคันเร่งครับ ถ้าเราจูนให้ปลายๆวิ่งน้อยกว่านี้ก็จะประหยัดกว่านี้อีกครับ
ค.ต.ที่ 8 จริงแล้วต้องบวกส่วนต่างของเบอร์ยางอีก ๑๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ ด้วยครับ จึงได้ระยะทางที่ถูกต้องแล้วค่อยนำมาคำนวนอัตรากินแก๊ส ส่วนในเรื่องความสึกหรอนั้น ผมมั่นใจเป็นส่วนตัวหลังจากที่ใช้มันมาพอสมควรว่าถ้าเราใช้ในรอบที่ไม่เกิน 2500 รอบ ในท๊อปสปีด ขณะใช้แก๊ส เครื่องไม่สึกหรอเกินปกติครับ หมดความกังวลไปได้ สำหรับเครื่องขนาด 4000 นะครับ ส่วนเครื่องขนาด 2500 คุณหมูน้อยน่าจะให้ความเห็นได้น่ะครับ
จาก โสภณ จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 14:03
คำตอบที่ 10
คต 8. คุณ lek พอมี่รูปของถังนอกตัวรถไหมครับ
แล้ว แนะนำร้านไหนดีครับพี่ ผมอยู่แถว พุทธมณฑลสาย 2
จาก Joke 203.172.33.208 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 18:02
คำตอบที่ 11
ตอนนี้ไม่อยากบอกหรอก.....แต่แอบอมยิ้มอยู่ในใจแล้ว.....ขอบคุณ GAS LPG.......
จาก TOH JUNGLE^^.. 203.118.82.102 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 18:05
คำตอบที่ 12
คุณ Toh Jungle ไปติดมาเท่าไรครับ, ที่ไหน, ฝีมือไหม
จาก Joke 203.172.33.208 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 18:14
คำตอบที่ 13
คุณTOH JUNGLEครับ ขนาดว่าตอนยังไม่ติดGAS ผมยังเจอคุณไปทั่วเลย นี่ถ้าติดgas แล้วคงเห็นรถคุณโตทั่วประเทศไทยแน่ เดี๋ยวจะขอเลียนแบบดาราบ้างครับ ( รถสีเหมือนกันด้วย)
จาก โต๋302 203.107.208.196 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 21:06
คำตอบที่ 14
ตอนนี้พี่โต จังเกิ้ล มีความสุขกับการใช้ jeep LPG ไปพร้อมๆกับผมแล้ว แหมม ติดช้าไปหน่อยเนอะพี่โตเนอะ
คุณ Joke ผมยังไม่เห็นถังนั้นเหมือนกันครับ
ส่วนสถานที่ติดตั้งก็มีที่ปทุมธานี กับ ปทุมวันครับ ลองค้นกระทู้เก่าดูครับ ข้อมูลเพียบ หรือปรึกษากับพี่โตก็ไตอนนี้ข้อมูลแน่นตึ้บ
จาก lek(JUC)247 203.151.122.245 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 23:07
คำตอบที่ 15
ต่อจากคต.5 หลังจากเติมเต็มถังวันนี้วิ่งไปกลับ แจ้งวัฒนะมหาชัย ใช้แก๊สล้วนๆ ใช้แก๊สหมดไป 30% วิ่งไป 110 กม. อัตราเร่งด้วยกว่าน้ำมันเล็กน้อยแทบไม่รู้สึก ถ้าจูนให้เบากว่านี้อีกนิดคงประหยัดกว่า แต่คงไม่จูนแล้วเพราะยังรักความแรงอยู่ครับ วันนี้สามารถใช้แก๊สได้ราบรื่นมากเนื่องจากเข้าใจเทคนิคต่างๆดีขึ้นมาก เพราะได้คำแนะนำดีๆจากเพื่อนๆพี่ๆชาว JUC นี่แหละครับ เดี๋ยวนี้ขับรถไม่ต้องกังวลกับเกจ์น้ำมันอีกแล้ว เพาะดูแต่เกจ์ LPGแทน 555 (วันนี้พี่โตโทรมาคุยด้วยตอนกลางวัน น้ำเสียงพี่โตดูมีความสุขกับ JEEP LPG จริงๆๆ...).ขอนินทาหน่อยนะครับพี่โต
จาก lek(JUC)247 203.151.122.245 จันทร์, 5/7/2547 เวลา : 23:26
คำตอบที่ 16
ฮา...ฮา...ฮา...บอกแล้วไม่เชื่อผมให้ไปติด...ให้ไปติด...ลังเลตั้งนานใช่มั้ยหล่ะคุณ lek ถ้ายังจำได้เจอกันตอนเดือน ก.พ. หลังจากงานครบรอบ 2 ปี ชมรม ตอนนั้นผ่านมาตั้ง 4 เดือนแล้ว ถ้าติดตั้งแต่ตอนนั้นที่ได้คุยกับผมป่านนี้คืนค่าติดมาแล้ว แต่ไม่เป็นไรติดตอนนี้ก็ยังประหยัดได้เห็นๆ บอกแล้วว่า 4.0L นี่ถ้าใช้ LPG ในเมืองนี่ประหยัดกว่าน้ำมันเห็นๆ 1.2 - 1.5 บาท/กม. ถ้าเทียบกับน้ำมัน
กระแส LPG ตอนนี้แรงจริงๆๆๆๆๆ ต่อไปนี้ให้คุณ lek ช่วยตอบปัญหาเพื่อนที่สนใจกันด้วยนะครับ แบบว่าผมให้ความเห็นมาตลอด บางท่านก็หาว่าผมเชียร์เกินเหตุ โอเว่อร์ บอกแล้วใครไม่มาใช้ไม่รู้หรอกว่า ขับแบบสบายอารมณ์นะเป็นอย่างไร ไม่ต้องมากังวลกับเข็มน้ำมันอีกต่อไป แถมตอนจ่ายตังค์เติมแก๊สก็รู้สึกว่าทำไมเหลือเงินในกระเป๋า คล้ายๆ โฆษณาห้างฯ LOTUS เลยใช่ไหมหล่ะ ขอให้มีความสุขยิ่งขึ้นทุกๆ ท่านนะครับในการใช้ Jeep
ป.ล. ของผมคืนทุนมานานแล้ว เรื่องค่าติดตั้งแก๊ส แต่ตอนนี้ขอตามทุน มัลติมีเดียร์บนรถก่อนนะ แบบว่าเอาเงินก้อนที่จะเป็นเงินทดแทนน้ำมันมาติดก่อนนะ ขอตามสัก 2-3 ปีนะ
จาก หมูน้อย JUC 121 203.144.143.250 อังคาร, 6/7/2547 เวลา : 00:18
คำตอบที่ 17
ตอบ ค.ต ที่ 12 คุณ joke ราคา 12,000 บาท ถ้วน จุฬาซอย 26 อยู่ด้าน ม.จุฬา ร้าน เฮียพรศักดิ์ 02 214 0341
ลองโทรสอบถามก่อนไปติดตั้งน่ะครับ จะได้ไม่เสียเวลา
การรอคิวนาน
ตอบ ค.ต ที่ 13 คุณ โต๋ 302 แหม...ไม่ถึงอย่างนั้นหรอกครับ
ขอขอบคุณ คุณหมูน้อยสุดหล่อ และพี่โสภณ ที่ช่วยแชร์
ข้อมูลให้กับสมาชิก หมูน้อยสุดหล่อ รบกวนขอทราบสถานที่ๆหมูน้อย ตีตู้และเบอร์โทรหน่อยครับ
จาก TOH JUNGLE^^ 61.91.41.3 อังคาร, 6/7/2547 เวลา : 06:40
คำตอบที่ 18
ขอรายงานการใช้gas lpgชองผม
jeep cheroke 4.0l ปี 1999 214km .ใช้ gas45.7 litคิดได้ 4.7km/lit ต้องไป tune ใหม่ให้กิน gas น้อยๆหน่อย.
จาก dan xj 4144 203.149.16.201 อังคาร, 6/7/2547 เวลา : 07:10
คำตอบที่ 19
คุณหมูน้อย ตอนนั้นลังเลจริงๆเพราะว่าพึ่งได้รถมา แล้วเข้าใจว่าสำหรับ xj 4.0 ต้องติดตั้งแบบราคาสองหมื่นกว่าถึงจะประหยัด ก็เลยลองบวกลบคูณหารค่าติดตั้ง ค่าแก๊ส ต่าน้ำมันแล้ว มันไม่ประหยัดเท่าไหร่ ก็เลยเลิกคิด ตอนหลังมีราคาน้ำมันสูงขึ้น ก็ได้คุยกัยคุณ nOng ซึ่งติดแก๊สที่ร้านเฮียพรศักดิ์ ราคาหมื่นต้นๆ แถมอัตราสิ้นเปลืองแก๊สก็ไม่มากเท่าไหร่ คิดแล้วสุดคุ้มจึงไม่ลังเลอีกต่อไป แหมถ้าติดตอนนั้น ป่านนี้คืนทุนไปแล้ว ถ้าถึงปีใหม่สงสัยได้ค่ายางใหม่ทั้งชุดเลยนะเนี่ย
จาก lek(JUC)247 203.144.143.250 อังคาร, 6/7/2547 เวลา : 11:12
คำตอบที่ 20
ต่อจากคต.ที่15 วันนี้เป็นวันที่ 5 ของการใช้แก๊ส เรียกว่าใช้แก๊สเกือบจะล้วนเลยครับ เช้าสตาร์ทน้ำมันแล้วอุ่นเครื่องซักพัก ออกตัวไปได้นิอหนอยก็สับแก๊สวิ่งเลยครับ เดี๋ยวนี้เวลาจอดผมใช้วิธีเร่งเครื่องแล้วสับมาน้ำมัน เพื่อจะสตาร์ทโดยใช้แก๊ส จริงๆวิธีนี้ไม่ค่อยเวิร์คในกรณีจอดแวะซื้อของหรือทำธุระแป๊บเดียว เหมาะกับการจอดนานๆมากกว่า แต่ใจก็ยังไม่ค่อยกล้าดับเครื่องแล้วสตาร์ทด้วยแก๊ส กลัวไม่ติด เนื่องจากผมอยู่นอกเมืองถ้ามีปัญหาเกรงว่าจะแย่ แต่คุณปานแนะนำว่าต้องลองใช้ทุกวิธีเพื่อจะได้รู้ปัญหาและวิธีแก้ปัญหา ตกลงว่าเดี๋ยวครั้งต่อไปจะลองดูละกัน วันนี้วิ่งไปกลับมหาชัยแจ้งวัฒนะ รวมแล้วตั้งแต่เติมแก๊สเมื่อวันก่อนใช้รถไป 240 กม. ใช้แก๊สไปประมาณ 65% พรุ่งนี้เช้า จะลองเติมเพื่อวัดอัตราสิ้นเปลืองดูอีกทีว่าเท่าไหร่ เพราะแอบลองคลายสกรูแก๊สออกหน่อยเพิ่มอัตราเร่ง เพิ่มความสะใจ ข้อเสียอีกอย่างที่สังเกตุพบคือเกจ์บอกระดับแก๊สแบบเป็นไฟแถบๆนี่ตอนกลางวันดูยากชะมัดแดดส่องแล้วมองไม่เห็นคงต้องหาวิธีแก้ไข
จาก lek(JUC)247 169.210.176.78 อังคาร, 6/7/2547 เวลา : 21:31
คำตอบที่ 21
คุณโสภณ, คุณโต และคุณ เล็ก ขอยกนิ้วโป้ง ให้เลย ว่าเป็น LGP - Jeep แฟนพันธุ์แท้ บวกกับ LEGACY ตัวจริงที่มุ่งมั่นทำการแชร์ข้อมูลให้กับเพื่อนสมาชิกเกี่ยวกันช่วยกันทำโปรเจคช่วยชาติ และตั้งใจช่วยสมาชิกโดยตรงๆด้วยครับ
และ last but not least คุณ หมูน้อยสุดหล่อสุดๆ ของ พี่ๆ นั่นเอง อาจารย์ สอนจักรยานของผมด้วยนะ ปกป้องเต็มที่ ใครอย่าแตะนะ ++!!!!
จาก AM03 203.146.226.148 อังคาร, 6/7/2547 เวลา : 22:08
คำตอบที่ 22
ต่ดจาก คต.ที่ 20 เช้าขับรถจากมหาชัย ไปแจ้งวัฒนะ พอเกือบจะถึงแยกสามัคคีไฟบอกระดับแก๊สดับทุกดวงเลยแวะเข้าเติมแก๊สที่ปั้ม ปตท ทันที หัวเติมที่นี่ใส่ได้ไม่สนิทต้องใช้แหวนยางกลมๆรองก่อนจึงเติมได้ เติมเต็มถังเต็มที่ได้ 42.3 ลิตร เป็นเงิน 388 บาท วิ่งไปทั้งหมด 293 กม.วิ่งแก๊สล้วนๆ อัตราสิ้นเปลือง = 6.92 กม/ลิตร เป็นเงิน 1.35 บาท/กม. อัตรานี่เป็นข้อมูลจริงๆจากรถผม สภาพเดิมๆยาง 225/75/15 ไม่มีการบิดเบือน ขับที่ความเร็วเดินทางเฉลี่ย 100-110 กม/ชม ตอนวิ่งนอกเมือง ในเมืองรถติดบ้างตามสภาพถนนติวานนท์ แจ้งวัฒนะ และไม่ซิ่ง ปกติใช้น้ำมันจะประมาณ 7-7.5 กม/ลิตร คิดเป็นเงินเฉลี่ย 2.60 บาท/กม. ประหยัดไปบาทกว่าๆ เดือนนึงวิ่ง 3000 กม. ประหยัดไป 3-4000 บาท/เดือน
จาก lek(JUC)247 169.210.176.20 พุธ, 7/7/2547 เวลา : 22:22
คำตอบที่ 23
สรุปผลการรายงานการใช้และติดตั้ง LPG ดังนี้ครับ
1 ใช้ LPG จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 40% เทียบกับน้ำมัน 91 ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ และการปรับจูนแก๊ส
2 ยุ่งยากมากขึ้นเนื่องจากรถของท่านมีสองระบบ ต้องสับสวิทซ์ไปมา แรกๆจะยุ่งหน่อย แต่ซักพักจะชินไปเอง ทั้งนี้ในการใช้งานแรกๆให้ระมัดระวังวามปลอดภัยเป็นหลัก เนื่องจาก รถอาจดับได้ในบางจังหวะที่สับสวิทซ์จากแก๊สไปเป็นน้ำมันขณะที่ท่านขับรถที่มีการจราจรหนาแน่น
3 อัตราเร่ง LPG ยังเป็นรองน้ำมัน แต่ขับลื่นกว่าน้ำมัน
4 ต้องคอยตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นที่ถังพักบ่อยๆ
5 การใช้ LPG ไม่ค่อยมีผลกับความร้อนของเครื่องยนต์ ยังไงก็ร้อนเหมือนเดิม
6 ทุกครั้งที่เติมแก๊สควรลงไปตรวจสอบขั้นตอนการเติมแก๊สด้วยตนเองเนื่องจากบางครั้งเด็กปั้มอาจไส่หัวเติมไม่สนิท ท่านต้องสังเกตุเองนะครับ เด็กปั้มก็คือเด็กปั้มบางครั้งก็เผลอเรอ
5เป็นไปได้ควรมีอะไหล่สวิทซ์สำรองไว้ในรถ 1 อัน เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ถูกใช้งานบ่อย
6.สตาร์ทรถด้วย LPG จะสตาร์ทติดยากกว่าน้ำมัน แต่สะดวกกว่าเพราะไม่ต้องคอยสับสวิทซ์ไปๆมาๆ ควรศึกษาเทคนิคการสตาร์ทด้วย LPG ไว้ด้วยก็จะดี
7 หลังติดตั้งแก๊สแบบ 12000 บาท แล้ว จำเป็นต้องใช้น้ำมันเป็นระยะทางไกล โดยรถของท่านไม่มีลิ้นอากาศแบบปรับอัตโนมัติ(พวกนิยมของถูก) รถท่านจะกินน้ำมันมากขึ้นหรือไม่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอครับ เนื่องจากสมาชิกที่ติดตั้งแก๊สส่วนใหญ่ยังมีความสุขกับการใช้แก๊สอยู่เลยยังไม่ได้ลองทดสอบกัน
จาก lek(JUC)247 169.210.176.20 พุธ, 7/7/2547 เวลา : 23:22
คำตอบที่ 24
ขอให้มีความสุขกับJeep ใช้แก็ส นะครับ...ตรงนี้ผมอยากรู้..ตัวเซ้นเซอร์อ็อกซิเจน จะอ่านค่าและทำงานเป็นปกติหรือเปล่า..ช่วยทดสอบด้วยครับ.
จาก kuk 203.150.209.232 พฤหัสบดี, 8/7/2547 เวลา : 02:00
คำตอบที่ 25
มาเล่าสู่กันฟังหน่อยน๊ะครับ....
1. ที่ต้องคอยตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นที่ถังพักบ่อย ๆ ...ขอแนะนำว่าช่วงแรกของการติดตั้ง ให้คอยตรวจสอบข้อต่อทางเข้าท่อน้ำร้อนที่จะวิ่งเข้า-ออก หม้อต้มด้วยครับ...ถ้าเจ้าของรถเติมน้ำยาหล่อเย็นสีเขียว ๆ แดง ๆ เข้าไป ถ้าเกิดการรั่ว-ซึม ตามข้อต่อก็จะเห็นได้โดยง่ายเลยครับ....ทางแก้ ก็คือ เอาไขควงคอยเช็คสายรัดท่อยาง เท่านั้นก็ O.K. แล้วล่ะครับ
2. สตาร์ทรถด้วย LPG จะสตาร์ทติดยากกว่าน้ำมัน ...รถผมเป็นรถ 4.0L ปี97 น๊ะครับ ปกติถ้าเราใช้รถแบบน้ำมัน เวลาเปิดสวิทช์กุญแจเราจะได้ยินเหมือนปั๊มติ๊กไฟฟ้ามันร้อง จี๊ดจ๊าดน่ะครับ เรื่องของเรื่องก็คือน้ำมันมันอาศัยแรงดันของปั๊มติ๊กในการเดินทางจากถังไปยังหัวฉีด....ซึ่ง..มันช้ากว่าแก๊สครับ เมื่อเราบิดสิทช์กุญแจปั๊บให้สตาร์ทเลยไม่ต้องรอ "ชึ่งเดียวติด" ครับ ...เพราะแรงดันของแก๊สสูงมาก เปิดกุญแจแปล๊บเดียวมันมารอพร้อมที่จะให้สตาร์ทเลยล่ะครับ ถ้าเปิดแล้วรอจังหวะนิดหน่อย จะทำให้สตาร์ทยากเพิ่มขึ้นไปอีกน่ะครับ เพราะปริมาณแก๊สมันมากเกินไป พอติดแล้วช่วงแรกจะออกอาการ "บึ่บ ๆ บั่บ ๆ " ล่ะครับ...........ลองดูน๊ะครับ เพราะของผมไม่มีปัญหาเรื่องสตาร์ทเป็นแก๊สเลย....
จาก นาย MOP JUC ( Original) 202.133.131.217 พฤหัสบดี, 8/7/2547 เวลา : 07:18
คำตอบที่ 26
ท่านใด ติดตั้ง ระบบ แก้ส โดยไม่มี LGOC (ลิ้น ปิด-เปิด อากาศเข้า) ช่วยทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมัน โดยใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียวสัก 1 ถัง ได้ไม๊ครับ เพื่อเป็นข้อมูลตัดสินใจว่าจะติดแบบไหนดี
จาก JEEP4206 203.151.60.16 พฤหัสบดี, 8/7/2547 เวลา : 08:22
คำตอบที่ 27
อย่างที่ผมบอกล่ะครับพี่ Jeep 4206 ถ้า ท่านใด ติดตั้ง ระบบ แก๊ส โดยไม่มี LGOC (ลิ้น ปิด-เปิด อากาศเข้า) แล้วสามารถขับใน Mode น้ำมันในช่วงความเร็ว Top Speed ได้ตามปกติที่ก่อนจะติดตั้งแก๊สล่ะก็ ผมถือว่า O.K. เลยครับ...อากาศเข้าเพียงพอแน่นอน รู้สึกจะจำได้ว่า 4.0L แสตนดาร์ด Top Speed จะอยู่ที่ประมาณ 180 ก.ม./ช.ม. น๊ะครับ...ถ้าเป็นพวกที่เปลี่ยนยาง 31" แบบผมล่ะก็ น่าจะประมาณ 150-155 น่าจะได้ประมาณนี้น่ะครับ
เข้าใจเอาเองว่า ติดตั้ง ระบบ แก๊ส โดยไม่มี LGOC (ลิ้น ปิด-เปิด อากาศเข้า) ส่วนใหญ่น่าจะเป็นพวกรถ Taxi หรือพวกเครื่องยนต์เล็ก ๆ มากกว่า ....เพราะ Taxi เค้าไม่สนใจที่จะขับรถใน Mode น้ำมันหรอกครับ ขับอยู่แต่ในเมือง ขับวนไปวนมา ความเร็วก็ไม่สูง เดี๋ยวก็หาปั๊มแก๊สเติมได้ไม่ยาก......น่าจะเป็นไปได้น่ะครับ...แต่ถ้าเพื่อน ๆ เน้นใช้ในเมืองเป็นส่วนใหญ่ และโอกาสขับรถด้วยความเร็วสูง ๆ เรียกม้า ออกมาใช้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยบ่อยไม่ค่อยมี เพื่อความประหยัดค่าติดตั้งก็ ติดตั้ง ระบบ แก๊ส โดยไม่มี LGOC (ลิ้น ปิด-เปิด อากาศเข้า) ไม่น่าเป็นปัญหาครับ ประหยัดตังค์ดีด้วย
เอ้อ!!!...พี่ Jeep 4206 เคยขับรถผมบนทางด่วน ใน Mode น้ำมันแล้วนี่นา เป็นไงล่ะรู้สึกได้ว่าแรงปกติเลยใช่มั๊ยครับพี่.......
จาก นาย MOP JUC ( Original) 202.133.131.217 พฤหัสบดี, 8/7/2547 เวลา : 08:41
คำตอบที่ 28
พี่มานพยังไม่ติดอีกเหรอครับ ผมเห็นด้วยกับพี่ป้อมนะ ถ้าเอาแบบไม่ต้องกังวลเลยก็ตัดใจใช้ของ อ.เรื่องเดชไปเลยดีกว่า ที่ผมติดกับเฮียพรศักดิ์เพราะคิดว่าถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ผมจะไม่ใช้น้ำมัน แล้วก็คิดว่าปั้มแก๊สมีทั่วประเทศอยู่แล้ว สังเกตุง่ายๆที่ไหนมีตุ๊กๆที่นั่นย่อมมีปั้มแก๊ส ที่สำคัญผมต้องการความประหยัดและคืนทุนค่าติดตั้งให้ไวที่สุด ต่อไปคือกำไรล้วนๆ วันนึงถ้าราคาน้ำมันลดลงมามากๆ หรือแก็สขึ้นราคาจนรู้สึกว่าไม่ได้คุ้มค่ามากมายอะไร ผมก็จะถอดอุปกรณ์ออกแล้วกลับไปใช้น้ำมันตามปกติ จะไม่เก็บถังให้หนักรถ เปลืองพื้นที่ด้านหลังเปล่าๆ แต่ถ้าอยากให้รถมีสองระบบตลอดไปไม่กะถอดออกผมว่าของ อ.เรืองเดช เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากครับ
จาก lek(JUC)247 203.172.62.27 พฤหัสบดี, 8/7/2547 เวลา : 22:57
คำตอบที่ 29
งั้น ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว ผมว่าจะเลือกติดตั้งที่สำนักไหนต้องเปรียบเทียบความเหมาะสมกับลักษณะการใช้รถของแต่ละคนเป็นหลักดังนี้
-เฮียพรศักดิ์ 12000 ไม่มีลิ้นอากาศเปิดปิด
-อ.เรืองเดช 27000 (มีลิ้นอากาศอัตโนมัติ)
1 การใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง ทั้งสองสำนักสามารถประหยัดได้ใกล้เคียงกัน คือ 40% ของค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมัน
2 สมรรถนะของรถตอนใช้แก๊สใกล้เคียงกันทั้งสองสำนัก
3 ถ้ากังวลเรื่องรถจะซดน้ำมันมากกว่าเดิมในโหมดน้ำมันและถ้าต้องการขับรถด้วยความเร็วสูงๆ ในโหมดน้ำมัน (ถ้าใช้แก๊สสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดแค่ 140 กม/ชม) ถ้ากังวลเรื่องนี้เลือก อ.เรืองเดช
4 ถ้าคิดว่าจะใช้แต่แก๊สอย่างเดียว และอยู่ในกทม หรือจังหวัดที่หาแก๊สเติมได้ง่ายเป็นส่วนใหญ่ โดยจะใช้น้ำมันเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ เลือก เฮียพรศักดิ์
5 ถ้าไม่ต้องการขับรถที่ความเร็วสูงๆ เลือก เฮียพรศักดิ์ โดยไม่ต้องสนใจเรื่องอัตราการกินน้ำมันจะมากกว่าเดิมหรือไม่อีกต่อไป เพราะคุณขับไม่เร็ว
6 ถ้าคิดจะถอดอุปกรณ์และถังแก๊สนี้ออก ถ้าแก๊สแพงขึ้น หรือ น้ำมันถูกลง จนถึงจุดที่ท่านคิดว่าไม่คุ้มค่าแล้วที่จะใช้ LPG กลับไปใช้น้ำมันเหมือนเดิมดีกว่า เลือก เฮียพรศักดิ์
7 ถ้าไม่คิดถอดอุปกรณ์และถังแก๊สออก อยากให้รถมีสองระบบตลอดไป เลือก อ.เรืองเดช เพราะสามารถใช้ระบบไหนก็ได้
แค่นี้น่าจะเป็นข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจสำหรับหลายๆท่านที่สนใจได้แล้วนะครับ สุดท้ายขอให้มีความสุขกับการใช้ Jeep ครับ ขอจบรายงานครับ
โดยคุณ : Pet405GR
[ 17 ก.ย. 2005 , 22:27:13 น.]
|
405สีหมอก ICQ :