ผมเพิ่งถอย 405 มาใหม่ใช้ได้ไม่ถึง 2 วัน เกียร์ออโต้พังซะแล้ว เปาะกว่ากาแลนท์คันเก่าซักอีก วาลว์ก็ต้องตั้งทุก 30,000 กม. สายพานไทมมิ่งก็ทุก 30,ออ กม. สู้กาแลนท์คันเก่าไม่ได้เลยวาลว์ก็ไม่ต้องตั้งเพราะเป็นวาลว์ไฮดรอลิก สายพานไทมมิ่งก็ทุก 80,000 กม. ช่วงล่างก็นุ่มกว่า เบรคก็ดีกว่า เป็นรอง 405 แค่การเกาะโค้ง กับความแข็งแรงตัวถังเท่านั้น ยังสงสัยอยู่ว่าคงคิดผิดที่เปลี่ยนเอา 405 มาแทนกาแลนท์ ราคากอะไหล่ก็แพงกว่า แต่ตัวรถซื้อมาราคาพอๆ กัน ถ้าใครจะซื้อ 405 ก็เตรียมใจรับความผิดหวังแบบผมได้ ใครสนใจจะรับความน่าเบื่อก็ติดต่อมาได้ ที่เบอร์ 01-578-7xxx

ICQ :

แปลกจังถ้าจะขายแล้วว่ารถตัวเองแบบนี้เป็นการกดราคารถตัวเองนะเนี่ย ผิดวิสัยปกตินะครับเนี่ย เค้ามีแต่ชมจะได้ขายได้ราคาแฮะ

อย่าเข้ามาป่วนโดยใช้วิธีนี้เลยครับ ถ้าคุณเคยใช้จริงๆ หาข้อมูลให้ถูกต้องก่อนแล้วค่อยเข้ามาป่วน ถ้าใช้อยู่แล้วจะขายตอนนี้บอกราคามาตอนเกียร์พังๆ นี่แหละ ลงเบอร์ให้ครบด้วยจะติดต่อกลับไป

เวลาที่จะคิดเปลี่ยนทำไมไม่ศึกษาให้ดีก่อนสมควรที่จะต้องขับรถญี่ปุ่นต่อไปมีอีกหลายคนที่ไม่มีปัญหาหรือคุณไม่เอาใจใส่มันมากกว่าเรื่องราคาอะไหล่ผมว่ามันไม่แพงอย่างที่คุณกล่าวคงโดนฟันแน่ๆโง่จริงๆ

ใจเย็นๆ ใช้รุ่นใหนอะ ที่จริงรถทุกรุ่น ถ้าศึกษาดูใจกันก่อนคงไม่เป็นแบบนี้นะครับ ถ้าเกียร์กาแลนท์พังพี่"คนพึ่งใช้"คงจะชมกาแลนท์อยู่หรือปล่าว ในฐานะที่เคยใช้รถญี่ปุ่นมาอย่างน้อย 2 คัน มิตซูฯ คันนึง ฮอนฯ คันนึง ขอยืนยันว่ารถยุโรปไม่เฉพาะแต่เกียร์ ทั้งตัวถัง ช่วงล่าง โช๊ค เครื่องยนต์ ฯลฯ ทนทานสุดๆ (แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีไปเสียหมดมันก็มีข้อเสียเหมือนกันไม่มีอะไรครบในหนึ่ง) แต่มีข้อแม้ว่า เจ้าของเดิมบำรุงรักษาดี เน้นอะไหล่ที่มีคุณภาพ ไม่ปล่อยปละละเลย แบบเอาไว้ก่อน เพระยังใช้งานได้อยู่(นี่คือความดีของมัน) ตรงนี้แหละที่เหมือนไฟลามทุ่ง เมื่อเอาไม่อยู่ก็ใช้วิธีขายทิ้ง ให้เจ้าของใหม่รับกรรมไป ยกตัวอย่างช่วงล่างหลังของ PG ทนมากจนเจ้าของเก่าไม่ยอมทำอะไรกับมันเลยเป็นสิบปี คนที่ซื้อต่อจึงต้องรับกรรมเมื่อวันนึงมันเกิดเสียขึ้นมา เราเองก็ต้องเข้าใจเทคโนโลยีของรถแต่ละรุ่นด้วยว่ามันไม่เหมือนกัน ฉะนั้นการดูแลจึงต่างกันบ้าง
1."วาล์วต้องตั้งทุก 30,000 โล" อันนี้ถ้ามันไม่ดัง อัตราเร่งดี ก็ไม่ต้องตั้ง ของผม เป็นแสนโลกว่าจะได้ตั้ง และตั้งทีนึงก็ไม่ถึงพัน ที่แพงก็แค่ค่าปะเก็นฝาวาล์ว
2.สายพานทามมิ่ง ครบ 30,000 กิโล แกะที่ครอบดูสภาพถ้ายังดีอยู่ ก็ค่อยเปลี่ยนซัก 60,000-100,000 กิโล ก็ได้
3.ช่วงล่างนี่ขอเถียงหลังชนฝา เรื่องความนิ่ม เข้าโค้ง เป็นรองแต่ซีตรองเท่านั้น เบรคก็เหมือนกัน ของ PG จะไม่มีอาการหัวทิ่มเหมือนญี่ปุ่นเลย ที่กล่าวมานี้ต้องอยู่ในเงื่อนไขว่า อะไหล่ต้องได้มาตรฐาน คันของพี่คงใช้อะไหล่เทียม หรือ ปลอม เป็นหลัก(ไม่ได้ดูถูกนะ) ไม่งั้นจะไม่เจออาการแบบนี้หรอก
พี่คิดผิดแล้วครับที่ใช้ peugeot เพาะพี่ไม่เข้าใจมันเลย ขอแนะนำให้ไปใช้ TOYOTA สามห่วงนะครับ จะได้หายห่วง

บอกรุ่น ปี มา

ถ้าคันเก่ามันดีกว่า แล้วไปเอา 405 คันนี้มาทำไม ???? เชื่อว่า น้อยคนมาก ๆ ที่ซื้อรถ แล้วค่อยมาศึกษาทีหลัง

จะขายก็ติดต่อผม 0-1640-4510 กล้าขายหรือเปล่า

ผมว่าคุณโชคร้ายที่ไปซื้อรถย้อมแมวมาครับเกียร์มันคงจะเสียอยู่แล้ว ปกติเกียร์ออโต้วิ่งกันกว่า2แสนกม.กว่าจะเสียครับ

20,000.-ขายไหม

ใช้แค่ 2 วันรู้ไปหมดผมใช้มา 5 ปียังต้องอาศัยvlovepeugeot เพื่อช่วยในการแก้ปัญหาให้ตรงประเด็น

ปล่อยเค้าเถอะครับ เราก็ใช้ของเราต่อไป คนอย่างนี้เข้ามาอยู่ในอินเตอร์เน็ตก็เปลืองเนื้อที่ พอออกไปอยู่ข้างนอกก็คงจะรกโลก

อันนี้ขอค้านครับ 405 ถ้ารู้จักนิสัยมันจะรู้ว่าอึดมากๆ ไม่จุกจิก ส่วนช่วงล่างช่างที่ซ่อมประจำยังบอกเลยว่าความนิ่ม+ความหนึบที่ความเร็วต่ำจนถึงทอ็ปสปีดหารถคันใหนที่กินมันยาก แฟนนั่งเมื่อก่อนยังบอกว่านิ่มจนจะอว้ก..แต่ตอนนี้ดีขึ้น (หารู้ไม่ว่าแอบลงโคนี่ไป)...
กรณีคุณผมว่าได้รถที่สภาพแย่ๆครับ อาจโดนย้อมแมวเหมือนที่ท่านอื่นว่าครับ

ทำไมต้องต่อต้านความคิดเห็นด้านลบที่มีต่อ PG ด้วยครับ ผมอ่านดูแล้วเหมือนกับว่าพวกคุณไม่ค่อยจะรับคำติติงกันซักเท่าไหร่ เค้าอยากว่าก็ให้เค้าว่าไป มันไม่ได้ลดคุณค่าอะไรลงเลย แต่ถ้าท่านไหนเห็นว่าควรแนะทางสว่างให้กับเจ้าของกระทู้ที่เค้ายังไม่เข้าใจ PG ก็แนะนำกันได้ นี่ยังดีที่เค้าเข้ามา Poast ใน web นี้ ถ้าเค้าอยากไปด่าข้างนอกบ้าง.......

.....ถือว่าเป็นอีกความเห็นครับ มีสร้างสรรดี(หรือไม่) จะเรียกว่าถอยมาคงไม่ได้เพราะ 405 ตอนนี้อายุอานามเหนาะๆก็ป่าเข้าไปสิบปีกว่าโดยประมาณแล้ว ดังนั้นคุณซื้อรถมือสองมาอย่างแรกถ้าไม่เก่งจริง ไม่ศึกษาจริง แล้วเที่ยวซื้อรถมั่วๆ ยี่ห้อไหนก็เจ๊งทั้งนั้นแหล่ะครับไม่ว่าจะเป็นเบ๊นซ์ บีเอ็ม หรือยี่ห้อใดๆก็ตามถ้าเกิดคุณเลือกซื้อไม่ดีไปเจอรถเจ้าของขายทิ้งเข้า(ถือว่าโชคไม่ดีไปหรือเรียกอย่างชาวบ้านชาวบ้านหน่อยก็คือ "ซวย" ครับ) ดังนั้นตรงนี้ผมไม่ได้มองเลยว่า เป็นข้อเสียของรถยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง ประเด็นแรกของกระทู้คุณเลยตัดไป
.....ส่วนเรื่องใช้สองวันเกียรออโตพังนี่ คุณเคยศึกษาไหมครับว่าเกียร์ออโตมันมีอายุการใช้งานของมัน ยังไงก็พังก่อนซื้อรถได้ศึกษาหรือเปล่า เตรียมใจไว้ไหม ถ้าเลือกรถได้ไม่ดี เตรียมงบไว้หรือเปล่า อย่างผมตอนนี้มองหาวอลโว่ให้แฟนใช้อยู่แต่ผมก็ได้ศึกษาก่อนแล้วทราบว่าถ้าเป็นเกียร์ออโตวอลโว่นั้นพังขึ้นมาซ่อมศูนย์เฉียดๆแสน ถ้าซ่อมอู่นอกก็หลักห้าหมื่นอัพแน่ๆ ตรงนี้ก็เลยทำให้ผมยังชลอการตัดสินใจซื้อไปก่อนหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ซึ่งผมว่าตรงนี้คุณก็ทำได้ ถามว่ารถมือสองจุกจิกไหม?? รถขนาดอายุ 10 กว่าปีนี่ ถ้าไม่ได้รับการดูแลและรักมันจิงๆย่อมมีจุดเสียอยู่ไม่มากก็น้อยแน่ๆ ดังนั้นคุณจะไป"ถอย"ออกมาตรงนี้ก่อน"ถอย"คุณทำอะไรกับตัวคุณบ้าง "เงิน"ไม่ได้ซื้อได้ทุกอย่าง บางทีเงินก็ไม่สามารถซื้อความรู้ ความฉลาดได้นะคับ สิ่งนี่ควรเสาะแสวงหาเอา ไม่ใช่พอ"โ_" ไปแล้วก็มาเอะอะโวยวาย


ปล..อ้อ อีกอย่างจะใจถึงก็ให้เบอร์มาให้ครบไม่ให้ก็ไม่ให้ไปเลย ไม่ใช่จะมาทำเป็นใจถึงให้เบอร์แต่ก็กั๊กไว้ มันแสดงอะไรได้อีกหลายๆอย่าง

รถทุกยี่ห้อต่างก็มีข้อดีข้อเสียครับ แต่ถ้าคุณคิดจะมาทางเปอโยต์หรือยี่ห้ออื่นที่ไม่ใช่รถตลาด สิ่งที่คุณควรจะมีคือ

1) มีความรู้พื้นฐานเรื่องรถยี่ห้อนั้นๆ พอสมควร (สำหรับของเปอโยต์หาได้ที่นี่ เพราะผมก็หาจากที่นี่เหมือนกัน)
2) ต้องดูแลเอาใจใส่รถ คอยหมั่นดูเป็นประจำ เพื่อดูว่าเริ่มมีอะไรผิดสังเกตบ้างหรือยัง เช่นน้ำมันพาวเวอร์เริ่มพร่องไป ฯลฯ
3) ต้องทำการบำรุงรักษาเป็นระยะๆ พวกอะไหล่สิ้นเปลืองต้องเปลี่ยนตามระยะเวลา และเอารถไปให้ช่างตรวจสอบดูบ้างว่ามีอะไรที่เสียหรือเริ่มจะเสีย อาการพวกนี้บางทีเราก็ไม่รู้สึก
4) สุดท้าย ต้องทำใจเรื่องราคาอะไหล่บ้างในบางชิ้น มันมีทั้งถูกและก็แพง และก็อู่อาจจะไม่มากนักโดยเฉพาะต่างจังหวัด

ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถ และไม่เอาใจใส่ด้วย คือขับอย่างเดียว ผมว่าคุณคงไม่เหมาะกับรถแนวนี้หรอกครับ

ขอมองในแง่ดีของคุณคนเพิ่งใช้ ผมใช้ 405 เป็นรถคันที่ 5 ที่ซื้อเอง โดยปรกติก็ใช้รถหลายคันทั้งญี่ปุ่นและยุโรป 405 ที่ผมซื้อก็เป็นรถเก่าเหมือนกัน ใช้มา 4 ปี ตอนซื้อไม่ค่อยหวังอะไรมาก แต่จะเลือกรถที่ตัวถังดี อุปกรณ์ครับและไม่ถูกยำมาก ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังไงก็ต้องซ่อม คันที่ผมซื้อมาเมื่อ 4 ปีที่แล้วก็แค่แสนถ้วน ช่วงแรกจะไม่ทำอะไร ใช้ไปแล้วจับอาการจะต้องทำอะไรบ้าง จากนั้นซ่อมชุดใหญ่ ผมหมดค่าซ่อมไปประมาณ 5 หมื่น ซ่อมคานหลัง ซ่อมช่วงล่างด้านหน้าทั้งหมด ที่ดำริห์ (พอดีตอนนั้นไม่รู้จะไปที่ไหนเลยเลือกอู่ที่ชำนาญหน่อยดีกว่า) ส่วนเครื่องผมยกทิ้งไปใช้ 3S ซื้อมาประมาณ 15k พอซ่อมเสร็จคราวนั้นใช้จนเดี๋ยวนี้ ยังไม่ต้องซ่อมอะไรเลย แสนกว่าโลแล้ว ล่าสุดผมไปซื้อ E34 มาอีกคัน ก็ใช้วิธีเดียวกันครับ ทำใจครับเวลาซื้อมือสอง แต่ที่สำคัญต้องรู้จักรถเราให้ดี

คิดว่าป่วนงั้น ถ้าจริง และรถมีปัญหาเมื่อมาเจอเว็บที่รวมคนใช้เปอร์โยต์อย่างนี้แล้วก็คงจะปรึกษาปัญหามากกว่า หรือถ้าเบื่อจะขายจริงก็คงจะลงเบอร์โทรจริงๆ

ผมว่าอย่าไปว่าเขาเลย คนในชมรมควรใจกว้าง และมีนำใจแนะนำดีๆ รถคันนั้นคงมีปัญหาจริงๆ คงจะเสียความรู้สึกกับยี่ห้อนี้ไปเลย อีกอย่างอู่เฉพาะเปอร์โยมีไม่มาก ประสพการณ์ไม่เท่ากัน

เค้าเรียก "กระทู้ล่อเป้าครับ" เป็นการตีหัวเข้าบ้านใครที่อ่านแล้วรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คุณกำลังตามเกมส์เค้าอยู่ครับ เค้ากำลังมีความสุขกับการที่มีคนให้ความสนใจกระทู้ของเค้าครับ ผมว่ายังมีอีกหลายกระทู้ที่รอคำตอบอยู่นะครับ

ผมเจอกระทู้อย่างนี้มาหลายครั้งแล้วครับ คุณประชัน ประเภทเข้ามายก อีกยี่ห้อหนึ่งเปรียบเทียบ แล้วจะว่ายี่ห้อที่เข้ามาเพื่อให้โต้ตอบจากนั้น ก็จะเข้ามากวนอีกหน่อยสุดท้ายก็ท้าทายกัน ว่ากันไปว่ากันมา

คุณหนุ่มpg ความจริงสมาชิกใน web ของเราก็เปิดใจรับฟังความเห็นคนอื่นอยู่แล้ว แต่จากการตั้งกระทู้ไม่ได้มีเจตนาเพื่อเข้ามาขอคำแนะนำหรือขอคำปรึกษา ใช้คำพูดเหมือนเยาะเย้ยมากกว่า

เพื่อให้มันจบๆ ผมปิดกระทู้เลยนะครับ เพราะอย่างไงคนตั้งกระทู้ไม่ต้องการคำแนะนำอยู่แล้ว